“พิม ซอนย่า” พร้อมซัปพอร์ต “ลูกเกด” หลังประกาศเลิกสามี บอกเคารพการตัดสินใจ คงคิดมาดีแล้ว เชื่อเพื่อนเป็นผู้หญิงสตรอง ผ่านไปได้ทุกสถานการณ์ อัปเดตอาการซี่โครงหัก หลังแข่งโปโลแล้วโดนม้าเหนียบ ต้องรอกระดูกสมานเอง ผ่าตัดไม่ได้ เผยสามีดุแต่ไม่ห้าม เจ็บแค่ไหนก็จะไม่ยอมลดความเอ็กซ์ตรีม
ทำเอาหลายคนแอบเป็นห่วง หลัง “ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม” ออกมาเปิดใจว่าได้เลิกรากับสามีชาวอังกฤษ “เอ็ดเวิร์ด ชาร์พเพิร์ล” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดวันนี้ (9 ก.ย. 67) ได้เจอเพื่อนสนิทของสาวลูกเกด อย่าง “พิม ซอนย่า คูลลิ่ง” ในงานบวงสรวงและแถลงข่าวเปิดตัวรายการ “THE SOCIAL WARRIOR” เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ว่าไม่รู้มาก่อน เพราะยังไม่ได้เจอ แต่เชื่อว่าเพื่อนคงคิดอย่างรอบคอบแล้ว
“ไม่รู้เรื่องเลย ยังไม่ได้เจอหน้าเขาเลย เกดเขาโอเคค่ะ เป็นผู้หญิงที่แข็งแรง ถ้าจะทำอะไรเขาจะคิดรอบคอบก่อน เพราะฉะนั้นเขาจะปรึกษาเพื่อนๆ ปรึกษาลูก สิ่งที่สำคัญในชีวิตของเกดคือลูก และลูกโอเคลูกเข้าใจทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเกดเป็นผู้หญิงเข้มแข็ง แข็งแรง ทำงานมุ่งมั่น ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อลูก เป็นสิ่งที่เราเข้าใจและภูมิใจในตัวเพื่อน”
บอกเป็นผู้หญิงสตรองตั้งแต่เด็ก ถึงเลิกกันก็ยังเป็นเพื่อนที่ดี
“พี่เกดเป็นผู้หญิงสตรองตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ตั้งแต่ก่อนแต่งงานด้วยซ้ำ พิมรู้จักเกดมา 20-30 ปีแล้ว เป็นผู้หญิงที่แข็งแรง แล้วก็เวลาทำอะไรทำเต็มร้อย ถ้าสมมติชีวิตการแต่งงานมันอยู่ด้วยกันไม่ได้จริงๆ ทุกอย่างมันผ่านร้อยเปอร์เซ็นต์ไปหมดแล้ว ทุกอย่างเขายังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เพราะลูกจะมีแข็งว่ายน้ำตลอด ไปไหนมาไหนจะอยู่ด้วยกันตลอด เขาใช้ชีวิตแบบฝรั่ง”
จะดาวน์แค่ตอนอยู่กับเพื่อนๆ
“เป็นผู้หญิงสตรอง แต่ถ้าดาวน์จะดาวน์กับเพื่อนๆ ถ้ามีอะไรจะร้องไห้กอดคอกัน เธอปล่อยไปเลยจะร้องเท่าไหร่ก็ร้อง จะเป็นห่วงกัน ช่วงแรกๆ จะคอลวิดีโอคุยกันตลอดเวลา ร้องเลย แต่เขาเป็นผู้หญิงสู้ชีวิตสุดๆ ค่ะ พิมกับเกดจะมีชีวิตที่ใกล้เคียงกัน แต่งงานก็แต่งพร้อมกัน ทำอะไรก็จะใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นเราเห็นอะไรหลายๆ อย่าง รู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นผู้หญิงที่แข็งแรง รับได้ทุกสถานการณ์ และแก้ปัญหาได้เก่งมาก”
เคารพการตัดสินใจ พร้อมซัปพอร์ตอยู่แล้ว
“เราซัปพอร์ตเพื่อนอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา ต้องเข้าใจในชีวิตของแต่ละคน”
เล่าเหตุการณ์แข่งโปโลแล้วโดนม้าเหยียบ เช็กตอนแรกหมอบอกปลอดภัย สุดท้ายซี่โครงหัก
“อัปเดตอาการนะคะ เมื่อ 5 อาทิตย์ที่แล้ว พิมไปแข่งโปโล ตอนนั้นม้าลื่นด้วยสนามที่เปียก ม้าตีลังกา พิมก็ตีลังกา โดนม้าเหยียบทับ คืนนั้นไปเช็กหมอบอกว่าไม่หัก ทุกอย่างปลอดภัย ดิฉันก็บินกลับไปฝรั่งเศสไปหาลูก พาลูกไปเที่ยวกับลูกเกด ตีลังกาเล่นกับลูก พิมไปเช็กอีกที สรุปหักค่ะ เนื่องจากเราไม่ได้ดูตั้งแต่แรก ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ หมอได้แต่บอกว่าให้อยู่นิ่งๆ แต่เปิดกล้องไปแล้วไงคะ อยู่นิ่งไม่ได้ค่ะ ตอนนี้วิ่งไปไหนมาไหนด้วยอาการซี่โครงหักอยู่ ด้านซ้ายซี่เดียว ตอนนี้อยู่ 5 อาทิตย์ด้วยอาการซี่โครงหัก ยังไม่ได้ทำอะไร เจ็บและปวด ใช้ชีวิตกินยาแก้ปวดอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็ปวดอยู่ ใส่ส้นสูง พิมวิ่งในกองตลอดเนอะ เราดูเบื้องหลังดูทุกอย่างทั้งประชุมทั้งอะไรเอง ด้วยอาการซี่โครงหัก แต่ยังยิ้มสู้ค่ะ”
ไม่โทษคุณหมอวินิจฉัยผิด เพราะตอนนั้นอาจจะแค่ร้าว
“ก็ไม่ได้โทษใคร ตอนนั้นอาจจะร้าวแล้วคุณหมออาจจะไม่เห็น แต่ก็คือหักจริงๆ ถ้าถามความอันตราย มันไม่ได้ทิ่มปอด แต่ด้วยความที่พิมไม่ได้หยุดการทำงานเลย แล้วก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆ เลย แถมบินไปเล่นกับลูกอีก มันก็คงจะหายช้ากว่าปกติ แต่ว่าเสร็จตรงนี้แล้ว มีนัดกับคุณหมอค่ะ”
แนวทางการรักษา คือต้องให้มันสมาน ผ่าตัดไม่ได้
“ต้องให้สมานเองค่ะ ผ่าไม่ได้ จริงๆ มันต้องอยู่นิ่งๆ แล้วใส่อะไรให้ซี่โครงมันคงอยู่ แต่พิมซนแล้วก็ไม่ได้ดูแลตัวเองดีเท่าที่คุณหมอสั่งเท่าไหร่ ไปไหนมาไหนทุกคนถามแน่ใจเหรอซี่โครงหัก พอกินยาแก้ปวดไปแล้วเราก็ไม่รู้สึก แล้วก็ใช้ชีวิตปกติ วันก่อนปีนขึ้นโต๊ะก็ตกโต๊ะ วันนี้ก็น่าจะโดนคุณหมอดุนิดหนึ่ง”
ใช้ชีวิตแบบเอ็กซ์ตรีม กระดูกหักไปทั้งตัวแล้ว ซี่โครงรอบนี้เลยเป็นเรื่องธรรมดา
“ใช้ชีวิตจริงเป็นคนเอ็กซ์ตรีมอยู่แล้ว เป็นคนชอบขับรถเร็ว ขี่ม้า เล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม เล่นสโนว์บอร์ด กระดูกหักเต็มตัวเลย คอเทียมก็ใส่แล้ว กระดูกที่แขนก็ใส่แล้ว กระดูกซี่โครงก็หักแล้ว ก้นกบก็หักมาแล้ว มันก็เลยเป็นเรื่องปกติของฉันแล้วล่ะ ซี่โครงเลยเรื่องธรรมดา ไม่ต้องผ่าตัด”
เชื่อไม่มีผลระยะยาวในบั้นปลายชีวิต เพราะทานวิตามิน และออกกำลังกาย
“ไม่ค่ะ เพราะเราเป็นคนทานวิตามินทุกวัน แล้วเราเป็นคนออกกำลังกายสม่ำเสมอ แหม ฉัน 50 แล้ว ฉันยังวิ่งได้นะ (หัวเราะ) ใครที่ไม่เคยซี่โครงหักอาจจะไม่เก็ต มันเสียวๆ มาก จะรู้สึกครืกๆ ตลอดเวลา”
รอซี่โครงสมานใช้เวลา 6 อาทิตย์
“หมอบอกว่า 6 อาทิตย์ขึ้นไป แต่เราใช้ชีวิตเหมือนไม่หักมา 5 อาทิตย์แล้ว เดี๋ยววันนี้รู้กันค่ะ”
ภาพดูรุนแรง แต่ไม่ได้น่ากลัวถึงขั้นเสียชีวิต
“ไม่ค่ะ พิมเป็นคนที่ตกม้าบ่อยอยู่แล้ว แต่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่โดนม้าเหยียบนะคะ ความรู้สึกเหมือนโดนรถเมล์ชนนิดหนึ่งนะคะ มันปั้งเลย (หัวเราะ) เหมือนรถเมล์ชนแล้วฉันลุกขึ้นยืนได้ งงๆ เบลอๆ เพราะหน้าฟาดพื้นด้วยอาการแรงมากเนอะ ปั้งไปเลยแล้วกระโดดทับอีกที ตอนนั้นมันโดนไปที่หลังก็เลยอยู่นิ่งๆ ไปก่อน รถพยาบาลมารับกลางสนามเลย ไปเช็กอาการว่าหักไหม ขยับตัวได้ไหม ตอนนั้นช้ำ ดำ ทั้งตัวเลยค่ะ ถือว่าโชคดี ตอนนี้ก็คงต้องระวัง ลูกชิลมากนะ โทร.ไปบอกหม่ามี้ตกม้า ลูกบอก อือฮึ แม่เกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก”
สามีมีดุ แต่ไม่สั่งห้าม
“สามีก็ดุนิดหนึ่งนะ ถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมาแล้วลูกต้องเข็นรถเข็น ฉันจะโกรธเธอมากนะ โอเคลูกไม่ต้องเข็นรถเข็น ฉันเดินกระเผลกไปเอง ไม่มีใบสั่งห้ามค่ะ แค่เอาใบรับรองแพทย์ให้เขาดูว่าจริงโว้ย แต่ลูกน่ารักมาก ตอนที่พิมไปลูกบอกว่าไม่เป็นไรๆ หม่ามี้ ไอเทคแคร์เอง เขาเพิ่งจะ 8 ขวบ ลูกจะช่วยถือกระเป๋า แม่ลุกไม่ขึ้นก็จะช่วยดึง อยากเป็นสุภาพบุรุษแหละ ทุกคนดูแลดีค่ะ แต่ตัวเองไม่ดูแลตัวเองแค่นั้นเอง”
เจ็บแค่ไหนก็ไม่ลดความเอ็กซ์ตรีม
“ไม่ลดค่ะ วันที่พิมตกยังเล่นไม่เสร็จนะ ยังแข่งไม่เสร็จทีมก็ถามว่าแล้วพรุ่งนี้แข่งต่อไหม พิมบอก ได้ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้แข่งต่อ แต่พอหลับไปแล้ววันรุ่งขึ้นตื่นมาลุกไม่ขึ้น ไม่รู้จะลุกยังไง ด้วยความที่ช้ำไปหมดทั้งตัว อาทิตย์หลังจากนั้นโทร.หาเพื่อน เธอๆ ไปเวคเซิร์ฟกันนะ ทุกคนบอกแม่ ไม่ต้องไป นั่นแหละ เป็นโรคชอบอะไรเอ็กซ์ตรีมรุนแรงนิดหนึ่ง”
