“ไมกี้” น้ำตาไหลเรียนจบแล้ว ภูมิใจคนมองค่าตัวแพงครึ่งล้าน แสดงว่าดังจริง!

“ไมกี้” น้ำตาไหลเรียนจบใน 3 ปี เช็กแล้วเกรดเฉลี่ย 3.51 อาจจะได้เกียรตินิยม ตอบปมค่าตัวครึ่งล้าน เป็นหน้าที่ผจก.ดูแล เชื่อคิดตามสโคปงานและความเหมาะสม ส่วนตัวไม่ได้ยุ่งเรื่องนี้ รู้แค่วันนี้ต้องทำงานอะไร แต่ก็รู้สึกภูมิใจ ถ้าคนมองว่าค่าตัวแพง แสดงว่าดังจริง

หลังทุ่มเทกับการทำธีสิส จนแทบไม่มีเวลามาไลฟ์พูดคุยกับแฟนคลับ ล่าสุดหนุ่ม “ไมกี้ ปณิธาน บุตรแก้ว” ก็ปิดจ๊อบเรียนจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าตัวได้เผยในงานเปิดบ้านก้าวเข้าสู่ปีที่ 13 THE TOUCH CLINIC ว่าเพิ่งส่งเล่มจบไปเมื่อวานนี้สดๆ ร้อนๆ ซึ่งโมเมนต์หลังส่งทุกอย่างจบ ก็ถึงกับร้องไห้น้ำตาไหลออกมาเลยทีเดียว

“ผมเรียนจบแล้วครับ เพิ่งส่งธีสิสปิดจ๊อบไปเมื่อวาน อาจารย์ทักไลน์กลุ่มมาบอก ว่ายินดีกับนักศึกษาที่จบและส่งเล่มแล้ว ก็ใช้เวลาเรียนมา 3 ปี เป็นช่วงเวลาที่ต้องบาลานซ์ชีวิตการทำงานเยอะมากๆ เพราะอยากจะทำด้วยตัวเอง ความภูมิใจครั้งหนึ่ง เราก็อยากทำด้วยตัวเองจริงๆ สักครั้ง จริงๆ ตั้งแต่เริ่มเรียนผมก็มาเป็นนักแสดงเลย ก็พยายามหาเวลาไปเรียนให้ได้มากที่สุด จริงๆ ม.รังสิตเขาช่วยเยอะมาก อาจารย์ทุกคนก็น่ารักมากๆ ครับ ทั้งอาจารย์ ทั้งเพื่อนๆ น่ารักหมด

ช่วงที่ยากที่สุดก็ปีสุดท้ายนี้แหละครับ ปี 3 เพราะเป็นช่วงที่ต้องทำเล่มจบ เคยมีความคิดที่อยากจะพักแต่ก็สู้ครับ เราอย่าดูถูกศักยภาพของตัวเองนะครับ ผมเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังเรียนอยู่ ผมเข้าใจว่าความรู้สึกมันเป็นยังไง ก็สู้ๆ นะครับ เรื่องเกรดผมเพิ่งไปเช็กมาได้ 3.51 ครับ อาจจะได้เกียรตินิยม ผมไม่แน่ใจ ต้องเช็กอีกที คุณแม่ยังไม่รู้เลย พี่ๆ นักข่าวรู้ก่อนแม่ผมอีกนะครับเนี่ย (หัวเราะ)

ก็ภูมิใจมากๆ ที่ตัวเองเรียนจบได้แล้ว เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจในชีวิตเลย ส่วนเรื่องฉลองรอวันรับปริญญาแล้วกันครับ น่าจะภายในปีนี้ช่วงปลายปีครับ จริงๆ สัญญากับแม่ กับครอบครัวและตัวเองไว้ ว่าจะไม่ทิ้งการเรียน แม้จะทำงานหนักแค่ไหน ก็จะบาลานซ์ให้ดี ม๊าครับผมเรียนจบแล้วนะ ไมค์เรียนจบแล้วเด้อ เดี๋ยวจะเรียนต่อปริญญาโทอีก 3 ใบครับแม่ (หัวเราะ) จริงๆ ผมไม่ได้อเมซิ่งเกินไปนะที่เรียนจบ 3 ปี คือหลักสูตรผม นิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการตลาดดิจิทัลและแบรนด์ดิ้ง เขาวางไว้ 3 ปีอยู่แล้ว แค่ต้องเรียนซัมเมอร์ให้ครบ

ในสายงานผมจบมาก็จะเป็นแบรนด์ดิ้ง เปรียบเสมือนคุณหมอช่วยตรวจสุขภาพของแบรนด์ ปรึกษาผมได้เลยครับ เรียนมาก็เพื่อที่จะเอามาอะแด๊ปกับชีวิตส่วนตัวด้วย ทุกคนน่าจะเคยมีความคิดอยากเปิดธุรกิจของตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะทำให้หรือเปล่า เอาเป็นเรื่องของอนาคตแล้วกันครับ หลังจากนี้ก็อยากโฟกัสงานครับ อยากจริงจัง อยากหาลองอะไรใหม่ๆ ที่ท้าทายกับชีวิตบ้าง เมื่อวานตอนที่ส่งทุกอย่างจบ ผมร้องไห้เลย น้ำตาไหลเลย เพราะผมเต็มที่มากๆ ผมทำเองจริงๆ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ทัน เพราะเดดไลน์คือวันนี้ แล้วผมส่งเมื่อวาน ตอนนี้ก็รับงานได้เต็มที่แล้วครับ หวังว่าจะรับงานได้เยอะขึ้น เพราะผมก็ชอบทำงานอยู่แล้วด้วย แต่ตอนนี้ก็มีงานเรื่อยๆ สปอยอะไรไม่ได้เลย”

ชื่อด้อมยังไม่สรุป เชื่อแฟนคลับรอได้
“ยังครับ ยังไม่สรุปเลย ผมเชื่อว่าแฟนคลับผมมีความอดทน รอได้ครับ ผมรักแฟนคลับผมทุกๆ คนครับ แต่เรื่องชื่อด้อมแป๊บหนึ่งครับ”

แจงค่าตัวครึ่งล้าน ผู้จัดการเป็นคนดูแล ขึ้นอยู่กับสโคปงาน และความเหมาะสม
“เอาจริงๆ อันนี้ผมเพิ่งมารู้เหมือนกัน ผมไม่เคยรู้ว่ามาก่อนว่ามีข้อความนี้มา แต่พูดถึงเรื่องค่าตัว มันก็ไม่ได้เป็นพาร์ตของผมอยู่แล้ว เป็นผู้จัดการที่เป็นคนดู เวลาผมมาทำงาน ผมเชื่อว่านักแสดงหรือใครหลายๆ คนที่ทำงานตรงนี้ จะคล้ายๆ ผม รู้แค่วันทำงาน รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง แค่นี้ เรื่องค่าตัวต่างๆ ผูู้จัดการจะเป็นคนที่ดูความเหมาะสม ดูรายละเอียด ผมไม่ได้เข้าไปยุ่งในการทำงานของเขาอยู่แล้ว เพราะว่ามันไม่ใช่พาร์ตของผม จริงๆ มันขึ้นอยู่กับสโคปครับ แต่ว่าผมเป็นคนชอบทำงานนะ ไม่อยากให้คิดว่าทำไมมันไปไกลถึงขนาดนั้น ผมก็ตอบได้ไม่เต็มปาก เพราะผมก็ไม่ได้รู้รายละเอียดเยอะขนาดนั้น ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องค่าตัว เรื่องสโคปงาน ผมอาจจะตอบได้ไม่ละเอียดเท่าผู้จัดการครับ”

ก่อนหน้าไม่ค่อยได้ออกอีเวนต์ เพราะยังเรียนไม่จบ และติดโปรโมตละคร
“ก็ออกบ้างนะครับ แต่ตอนนั้นก็มีเรื่องเรียนด้วย เพราะยังเรียนไม่จบ แล้วก็เป็นช่วงโปรโมตละคร อาจจะไม่ได้ออกมาทุกวันหรือทั่วถึง แต่ยังไงก็ตาม ผมชอบทำงานมากๆ เลยนะครับ”

ภูมิใจถ้าบอกว่าค่าตัวแพง แสดงว่าดังจริง
“เอาจริงๆ ถ้าพูดเชิงแบบนี้ผมก็ภูมิใจนะ ในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง ผมเล่นละครเรื่องแรก แล้วมีคนชอบ ถึงแม้จะมีคำวิจารณ์ แต่งานที่เราตั้งใจทำมันก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ผมเชื่อว่าทุกอย่างมันมีสองมุมมองอยู่แล้ว ทั้งด้านดีและไม่ดี เวลาที่คนบอกว่าเราดัง อันดับแรกคือเขินเลย เพราะผมพูดมาตลอด ว่าผมไม่ได้ทำงานเพื่อดัง ผมทำงานเพื่อให้ทุกคนชื่นชอบ และโฟกัสกับผลงานเป็นหลัก อยากให้งานมันออกมาดี ความดังมันเป็นเรื่องที่ตามมามากกว่า ซึ่งเวลามีคำพูดแบบนี้มาก็ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับผมมันหมายถึงว่าผมทำงานสำเร็จแล้ว”

ฝากเปิดใจดูละครเรื่องที่สองในชีวิต “หวานรักต้องห้าม” เตรียมออนแอร์สิ้นปีนี้
“สิ้นปีครับ อยากให้ทุกคนเปิดใจดูละครเรื่องนี้ เพราะบทจะสมัยใหม่มากขึ้น เป็นละครปัจจุบันเรื่องแรกของผม แล้วก็ได้เล่นประกบคู่นักแสดงหลายๆ คนที่มีรางวัลทั้งนั้นเลย อยากให้ดูการแสดง เพราะเป็นเรื่องที่ผมได้พัฒนาการแสดงอย่างก้าวกระโดด ทุ่มสุดตัวเลย แต่จริงๆ ผมก็เต็มที่กับทุกงานที่ได้รับครับ”

ขอบคุณ “แมท ภีรนีย์ คงไทย” ชมเป็นพาร์ตเนอร์ที่ดี
”ขอบคุณมากๆ ครับ ผมก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากพี่แมทเหมือนกัน พี่เขาเป็นนักแสดงที่เก่งมากๆ (เขาฝากบอกแฟนคลับเราอย่าทัวร์ลง?) ไม่เลย ก็อย่างที่บอกว่าอยากให้ทุกคนเปิดใจดู ว่ามันจะมาแนวไหน ทีเซอร์ออกไปมันแรง แต่อยากให้ลองติดตามชมครับ”