ควงกันมาออกรายการคู่ครั้งแรกหลังจากเข้าพิธีหมั้นกันไปไม่นาน สำหรับ “แมท ภีรนีย์ คงไทย”และ “เฟม ภีมเดช ศิวพรพิทักษ์” ที่มาเปิดใจที่รายการแฉ เล่าถึงชีวิตรักที่ผ่านมาของทั้งคู่ โดยเล่าว่างานที่ผ่านมาเป็นเพียงงานหมั้น ยังไม่ใช่งานแต่งงาน
แมท : “ที่ผ่านมาเป็นงานหมั้นค่ะ ยังไม่ใช่งานแต่งงาน เดี๋ยวจะมีการจัดงานแต่งอีกทีปีหน้า น่าจะช่วงต้นปีหน้า แต่ยังไม่มีฤกษ์เลย วันนั้นจริงๆ มันคือฟีลงานเล็กๆ ในบ้านจริงๆ แค่แลกแหวนพ่อแม่เธอ พ่อแม่ฉัน แต่สุดท้ายมันก็ขยาย”
เล่าจุดกำเนิดความรัก ต่างคนต่างเพิ่งจะโสด เซกันมาทั้งคู่
แมท : “ตอนนั้นแมทก็ยังเซๆ เหงาๆ เพื่อนก็เอ็นดู บางวันเพื่อนกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ก็จะชอบมาชวนไปกินข้าว ลากไปโน่นไปนี้ เพราะกลัวเราจะเหงา แล้วบังเอิญว่าได้ไปร้านของเขา ร้านโฮม เอกมัย ก็เลยได้เจอกัน ด้วยความที่เราไม่เที่ยว เพื่อนก็เอาเราไปฝากไว้ที่โต๊ะเขา เราก็ยืนอยู่อย่างนั้น”
เฟม : “มาคุยกันตอนร้านปิดแล้ว กำลังจะแยกย้ายกันกลับ เพื่อนแมทก็มาถามว่าเดี๋ยวขอนั่งต่อได้ไหม ผมก็บอกว่าได้ จริงๆ ตอนนั้นผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ไม่ได้คิดอะไรกันเลย วันนั้นเพื่อนแมทเขาก็แกล้ง บอกแลกไลน์หน่อย แกล้งจริงๆ ครับ”
แมท : “เขาก็ชงให้ ว่าเธอโสดหรือเปล่า เพื่อนเราโสด แลกไลน์กันสิ เหมือนเล่นตลกกัน แล้วบังคับให้เฟมมาแลกไลน์แมท ซึ่งตอนนั้นเขาไม่รู้จักแมท”
เฟม : “ผมรู้จักดาราบางคน แต่ก็ไม่ได้ติดตามว่าคนนี้คือดารา ตอนแรกก็ไม่รู้ สักพักเพื่อนถึงมาบอก”
ตอนนั้น “แมท” ตั้งปณิธานจะอยู่เป็นโสด บอกภายนอกดูเข้มแข็งแต่ข้างในอ่อนแอ
เฟม : “เพิ่งโสดมาได้ประมาณ 4 เดือน (เพิ่งเป๋หนักมาเหมือนกัน?) ครับ ตอนแลกไลน์ไปก็ยังไม่ได้คุยกัน ผ่านไป 4-5 วัน ผมคุยเล่นกับเพื่อนว่าคนนี้ฟอลโลเวอร์เป็นล้านเลย เพื่อนเลยบอกลองทักไปคุย ก็ลองทักไป ว่าสวัสดีครับ ก็แนะนำตัว แล้วก็ชวนเขามากินข้าว ชวนออกมาเจอกัน เขาก็มา”
แมท : “ตอนนั้นไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมถึงไป คือเราในตอนนั้นไม่ได้อยากคุยกับใครเลย เราอยู่ในอารมณ์ไม่อยากจะทำอะไรทั้งสิ้นด้วยซ้ำ เราตั้งปณิธานกับตัวเองไว้แล้วด้วยว่าเราจะโสด จะไปมุ่งเอาดีทางเทนนิส แต่ในตอนนั้นเรารู้สึกว่าเขาไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร แล้วครอบครัวเขาฟีลหมู่บ้านนักกีฬา ทุกคนในบ้านเขาเป็นทีมชาติเก่ากันหมดเลย ที่รู้คือเพื่อนสืบข้อมูลมาเสิร์ฟให้หมด แล้วเพื่อนก็เสิร์ฟข้อมูลของเราไปให้เขาด้วย ตอนนั้นเฟมยังเข้าใจว่าแมทคบกับแฟนเก่าอยู่เลย เพื่อนก็ไปเคลียร์ให้”
เฟม : “เพื่อนมาบอกว่าคนนี้เขามีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ”
แมท : “คือตอนนั้นยังไม่มีใครรู้ จนเพื่อนไปให้ข้อมูลว่าเลิกแล้วนะ ก็เคลียร์ให้ทุกสิ่งอย่าง”
เฟม : “วันแรกที่ได้เจอกันเกร็งครับ เพราะรู้ว่าเขาเป็นใครเลยทำตัวไม่ถูก”
แมท : “วันนั้นแมทก็เต็มที่ กินเต็มที่ทำอะไรเต็มที่”
เฟม : “ก็พยายามละลายพฤติกรรม คุยเรื่องกีฬา เริ่มจากไปตีแบด ตีเทนนิส ก็มีกิจกรรมทำด้วยกันถึงค่อยๆพัฒนา”
แมท : “ในตอนนั้นเราอยากจะใช้ชีวิตโสดยาวๆ เลย ไม่เอาแล้วความรัก ช่วงนั้นภายนอกแมทเหมือนเข้มแข็ง เรารับรู้ในทุกอย่างและยอมรับตามสภาพที่มันจะเกิดขึ้น มันเลยจุดที่พีกที่สุดไปแล้ว ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเรารับได้หมด คือเราพยายามหลอก พยายามให้กำลังใจตัวเอง ว่าเราคือคนที่โอเคนะ ไม่ได้เป็นคนเลว ไม่ได้เป็นคนแย่ เรามีคุณค่านะ ลึกๆ แล้วคือเราอ่อนแอ แต่เขาเห็นคุณค่าในตัวแมทมากๆ และให้เกียรติแมทมากๆ”
เฟม : “ช่วงนั้นก็พยายามดึงตัวเองครับ ค่อยๆ เรียนรู้ไป ตอนแรกก็ตกใจเพราะเขาเป็นคนที่ตรงมาก แต่เขาตรงแบบไม่มีอะไรแอบแฝง เขาพูดตรงจนผมช็อกนิดนึง โห…เป็นคนตรงมาก แต่ว่าในสิ่งที่เขาพูดออกมากลับทำให้เราคิดในอีกมุมนึง มันก็ดีเหมือนกันนะ เขาก็คอยซัปพอร์ตในหลายๆ เรื่อง เขาเป็นคนที่มาเปลี่ยนผมในหลายๆ อย่าง เปลี่ยนให้มันดีขึ้น อย่างเช่น เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ให้ออกจากคอนฟอร์ทโซนลุกขึ้นมาทำอะไรด้วยตัวเอง เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันจากที่ชอบไปแฮงก์เอาต์ ก็ดื่มน้อยลง นอนเร็วขึ้น”
ดีใจมากชีวิตมีผู้ชายมาขอแต่งงานแล้ว
เฟม : “คบกันมาประมาณปีครึ่ง ตัวเขาเป็นคนจิตใจดี เขาไม่ได้ทำให้เราต้องคิดอะไรมาก เขาทำให้เราดีขึ้น ทุกอย่างมันสมูท งั้นก็แต่งเลย เราเรียนรู้กันมาระดับนึงแล้ว ก็ไม่น่ามีอะไรต้องรอ (แพลนมีลูก?) มีครับ”
แมท : “(กลัวที่สุดคือจะไม่มีใครมาขอแต่งงาน?) ก็ยอมรับว่ากลัว พอถึงเวลานั้นจริงๆ มันสุดยอดไปเลย มันดีใจมาก ความรู้สึกไม่เหมือนกับที่เราเคยเล่นละครมาเลย ที่ผ่านมาเคยซ้อมในห้องน้ำทุกวัน ถ้ามีผู้ชายมาขอเราจริงๆ สักวันนึงในชาตินี้ เราจะต้องยิ้มอย่างนี้นะ แต่เวลาจริงมันไม่ได้เลย ทุกอย่างมันพลั่งพรู พูดอะไรไม่ออก หูดับ จำอะไรไม่ได้ มันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก”
ถ้าไม่เจอ “เฟม” จะไปบวชชีแล้ว
แมท : “จะไปบวชชีจริงๆ ส่วนตัวเราลึกๆ เป็นคนที่ชอบพระพุทธศาสนา เราศึกษามาตลอด เราชอบอะไรแนวนั้นแล้วรู้สึกว่าตัวเองไปได้ดี เราสวดมนต์ นั่งสมาธิได้ เลยรู้สึกว่าหรือนั่นจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราหลุดพ้นรึเปล่า หรือนี่มันจะเป็นทางของเรารึเปล่า เลยอยากจะไปอยู่วัดเพื่อขัดเกลาจิตใจ แต่ถึงไม่ได้ไปขนาดนั้นแต่ทุกวันนี้ก็ยังคงปฏิบัติอยู่”
เฟม : “เราก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ค่อยๆ เรียนรู้ ค่อยๆ รู้จักกันไปเรื่อยๆ พอถึงจุดที่เขาเปิดหมด ผมเองก็เปิดหมด เราคุยเรื่องความคิดกัน แชร์กันในแต่ละเรื่อง ก็ต้องปรับกันเยอะเหมือนกันทั้งคู่ แต่พอปรับแล้วก็เป็นไปในทางที่ดีขึ้น เลยรู้สึกโอเคที่จะปรับ”
ชึวิตเปลี่ยน มีแฟนเป็นดารา
เฟม : “แมทบอกไว้แล้วครับว่าจะเป็นแบบนี้นะ เดี๋ยวจะมีข่าวเธอนะ”
แมท : “คือเฟมเขาไม่ได้เลยจริงๆ เขาไม่รู้จักแมท ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจสภาพในวงการบันเทิง เขาไม่ได้ติดตามวงการบันเทิงไทยด้วย เขาจะมีคำถามเยอะมาก คำถามละเอียดมาก เขาไม่รู้แบบศูนย์เลย เขาก็จะช็อก ไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ที่เห็นคือดีขึ้นมากแล้ว”
