xs
xsm
sm
md
lg

ข้างบนยังขนาดนี้ แล้วข้างล่าง? “แซม” กระดากปาก ไม่กล้ารับสินค้าเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ ลูกชายโอดไม่มีที่ยืนแล้ว (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แซม ยุรนันท์” ปั้นร่างทองในวัย 61 ปี จนเอวเอส ไม่ได้ทำเพื่อพาณิชย์ บอกมีคนขอจับตลอด ขำลูกชายบอกผมจะไม่มีที่ยืนแล้ว ยันทำเพื่อสุขภาพ อยากเป็นแรงบันดาลใจ บอกมีสินค้าเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศเข้ามา คงเห็นข้างบนยังขนาดนี้ ข้างล่างจะขนาดไหน แต่ไม่รับ เพราะกระดากปาก ไม่รู้ต้องพูดอย่างไร โอดเกือบถ่ายร่างเปลือยส่งให้เทรนเนอร์



ทำพระเอกนักแสดงรุ่นลูกร้องว้าว หลังจากรุ่นใหญ่อย่าง “แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี”โพสต์อวดร่างทอง หุ่นแซบ ซิกแพ็กแน่นๆ ในวัย 61 ปี ล่าสุดได้เจอแซมในงานบวงสรวงละครเรื่อง เกมรักปาฏิหาริย์ ณ ลานหน้าตึก อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส เจ้าตัวก็ยอมรับว่าที่ทำเพราะมีชาเลนจ์กับตัวเอง อยากทำให้เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น

“จริงๆ มันมีเป้าหมาย เพราะมันมีชาเลนจ์ที่เราต้องทำเพื่อสิ่งนึง ตอนแรกเขาบอกว่าใช้เวลาประมาณ 4 เดือน เราก็บอกว่าทำไมตั้ง 4 เดือนล่ะ ทำเร็วกว่านั้นได้ไหม เพราะไม่รู้จะมีอายุถึง 4 เดือนหรือเปล่า (หัวเราะ) เขาก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นวินัยต้องเยอะนะ ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ถือเป็นการดูแลสุขภาพไปด้วย สำหรับผมซิกแพ็กมันเป็นผลพลอยได้ดีกว่า จริงๆ เราอยากดูแลสุขภาพอยู่แล้ว แต่ซิกแพ็กมันอาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนเห็นว่ารุ่นนี้เขายังทำได้ แล้วทำไมคนอื่นๆ จะทำไม่ได้ มันก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์

หลังจากที่มีภาพออกไป คนก็รู้สึกว่านี่เป็นแรงบันดาลใจว่าคนรุ่นนี้เขายังทำได้เลย แค่มีวินัยกับตัวเองเท่านั้น รักตัวเองให้มากขึ้น และพอซิกแพ็กมันได้ สุขภาพมันดีขึ้นแน่นอน เพราะไขมันลดลง โอกาสที่เราจะเป็นเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจต่างๆ มันก็น้อยลงด้วย ก็อยากให้ทุกคนมีแรงกระตุ้นว่าทำเถอะเพื่อตัวเอง มันไม่ได้ใช้เวลาเยอะเลย เดือนกว่าๆ ก็ทำได้แล้ว เงินก็ไม่ได้ใช้ แค่มีใจกับวินัยก็สามารถมีสุขภาพดีได้เช่นกัน”

บอกกลับไปมีเอวเอส 29 นิ้วเหมือนตอนสมัยหนุ่มๆ
“ก็จะมีวินัยในเรื่องของอาหารการกิน ต้องดูแลเรื่องอาหารว่ามื้อนี้ต้องทานอะไร แล้วก็มีเทรนเนอร์คอยดูว่ามันพอหรือยัง ถ้าไม่พอต้องเสริมยังไง ขาดยังไง เกินยังไง ต้องเอาออกยังไง ที่สำคัญต้องอยู่บนลู่วิ่งเยอะมาก อาทิตย์นึงต้องหลายร้อยนาที อยู่บนลู่วิ่งทีก็ต้องมีชั่วโมงกว่า และต้องเบิร์นให้ได้กี่แคลอรี่ต้องชั่งน้ำหนักทุกวัน มันก็เป็นเรื่องของวินัย ส่วนการเข้ายิมปกติก็อยู่ในยิมมา 20 กว่าปีอยู่แล้ว เพราะทำธุรกิจยิมด้วย ก็เข้าใจอยู่แล้วว่าการเล่นเวทเป็นยังไง และตอนนี้เขาฮิตแบบเกาหลี มันต้องบางๆ ลีนๆ ไม่ใช่เหมือนสมัยก่อนที่ต้องล่ำๆ เดี๋ยวนี้ต้องลีนเอวเอส ก็ได้ เดี๋ยวทำให้เด็กๆ ดู

พอทำได้ก็กลับไปมีเอว 29 เหมือนตอนเป็นพระเอกหนุ่มๆ ตอนเป็นนายแบบได้เช่นกัน แต่ตอนนี้ขึ้นแล้วนะ เพราะว่าผอมเกินไป ตอนนี้ขึ้นมา 2 กิโลแล้ว เพราะตอนที่ลงใหม่ๆ เหลือ 60 นิดๆ เอว 29 มันผอมบาง ตอนถ่ายรูปแล้วอาจจะดูเรียวสวย แต่ตัวจริงมันแอบบางเกินไป ก็กำลังจะขึ้นสัก 3-5 กิโลถามว่ามีเอฟเฟกต์อะไรไหม เราก็ต้องประเมินและประมาณตัวเองก่อน ก่อนที่จะเข้าโปรแกรมต้องรู้ว่าจะต้องเจออะไรบ้าง ก็เช็กสุขภาพก่อน ลองเดินสายพานก่อนว่าใน 10 นาทีแรกหัวใจมันขึ้นเร็วเกินไปไหม ถ้ามันเร็วเกินไปแสดงว่าหัวใจเราไม่แข็งแรงมากนัก ก็อย่าประมาท พอหยุดแล้วก็ค่อยๆ เดินเบาลง การเต้นของหัวใจมันเบาลงไหม ถ้ามันเบาลงเรื่อยๆ ก็แสดงว่าหัวใจเรายังแข็งแรง

แต่ทั้งหมดนี่ผมเช็กดูก่อนแล้วว่ายังพอได้ ก็เลยกล้าหาญที่จะลุกขึ้นทำ แล้วก็ดูถึงจุดนึงว่าจะโทรมหรือเปล่า ก็ต้องดูให้เราไม่โทรม เพราะหลายคนที่ลดน้ำหนักมากๆ ให้มีซิกแพ็คมันจะดูโทรม เหี่ยว ซึ่งเราถ้าโทรมเหี่ยวมันจะดูแก่เลยนะ เพราะเราไม่ใช่เด็ก ก็ต้องระวังเรื่องนี้ควบคู่กันไป”

บอกไปไหนมีแต่คนขอดูซิกแพ็ก แม้กระทั่งภรรยายังแซว
มีคนมาขอดูซิกแพ็กตลอดเลย เดินไปไหนคนก็ทักว่าขอดู ขอจับหน่อยได้ไหมแต่มันก็ไม่สามารถจะแขม่วตัวเองได้ตลอดเวลาเนอะ เพราะไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ถอดออกมาแล้วมันจะเป็นเลย เพราะมันก็ต้องมีท่า และห้ามแขม่วด้วยนะ เขาบอกว่ามันเป็นการพ่นลมออก แล้วกล้ามมันก็จะขึ้นมา มันจะมีวิธีปล่อยลม แล้วถึงจะมีกล้ามท้องขึ้นมา ถ้าจะมาขอจับต้องบอกกันก่อน จะได้พ่นลมออก (หัวเราะ)

แต่การจะทำแบบนี้ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากคนในบ้านด้วย เพราะลำบากมาก อาหารการกินเราเปลี่ยนไป ภรรยาก็ต้องสรรหาอาหารให้แต่เช้า ว่าโปรตีนต้องเท่าไหร่ คาร์โบไฮเดรตต้องเท่าไหร่ ห้ามใส่อะไรบ้าง ก็จะมีลิสต์มาเต็มไปหมดเลย และลูกสาวก็พอดีจบเชฟมาจากฝรั่งเศส นางก็จะเนรมิตอาหารต่างๆ ให้ ซึ่งเวลามันวางพร้อมๆ กัน คุณแม่กับคุณลูก เอาล่ะสิ ฉันต้องกินของใครล่ะเนี่ย (หัวเราะ) มันเป็นปัญหาครอบครัวเหมือนกัน ก็สนุก กลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งบ้านมีวินัยในการกินอาหารดีขึ้น โดยเฉพาะลูกชายบอกว่าพ่อทำอย่างนี้ ลูกก็ไม่มีที่ยืนแล้วนะ เขาก็พยายามจะเทรน เพราะพ่อยังทำได้ ลูกก็ต้องทำได้ถ้าลูกมีวินัยได้เท่าพ่อ

ส่วนภรรยาเขาแซวมานานแล้ว ตั้งแต่เริ่มมีรูปลงไอจี มีลงสระว่ายน้ำ มีรูปไม่ใส่เสื้อ เขาก็บอกว่าเดี๋ยวนี้เอาใหญ่นะ แต่แฟนฉันก็เหมือนกัน เดี๋ยวนี้มีบิกินี่ เราก็บอกว่านี่ บิกินี่เลยเหรอ เขาบอกแหม 60 แล้วเหมือนกัน ทีตัวเองยังถอดเลย ขอถอดบ้างเหอะ ก็เป็นการขิงใส่กัน แต่ไม่เป็นไร ในยุคนี้คนก็ไม่ได้มองว่ามันอนาจารแล้ว แต่เราก็ต้องระวังบางรูปก็แล้วกัน อย่าให้รุ่นลูกเขารู้สึกว่าลุงป้าไม่ใช่เวลาของเธอ ถ้าจะลงอะไรก็ให้เขารู้สึกว่าเรากำลังบอกในเรื่องของสุขภาพดีกว่า ไม่ได้จะมาโชว์สังขารหรอก เพราะเอาจริงๆ เราก็รูปร่างดีสู้เด็กๆ ไม่ได้หรอก เพียงแต่อยากแค่เป็นแรงบันดาลใจ

อย่าเอาอายุเป็นตัวตั้ง อย่ามีข้อแม้ อย่าบอกว่าไม่มีเวลา เพราะผมก็ถ่ายละคร 2 เรื่อง แล้วแต่ละเรื่องบทน้อยก็ไม่รับนะ (หัวเราะ) ถ้าบอกว่าไม่มีเวลาเป็นข้ออ้างของคนที่ไม่มีวินัยครับ และถ้าบอกว่าอายุเยอะแล้วทำไม่ได้ นี่ทำให้เห็นแล้วไงว่าทำได้ แล้วบอกมันต้องใช้เวลานานนี่เดือนครึ่งก็ทำได้ ขอให้คุณมีใจและมีวินัยเถอะ ใครก็ทำได้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าผมเก่งกว่าคนอื่นนะ แต่ผมทำจริงๆ ผมว่าทำเป็นแรงบันดาลใจดีกว่าว่าเราก็ยังทำได้ อายุเท่านี้แล้ว มีเวลาแค่นี้ยังทำได้ ผมว่าทุกคนทำได้หมด เพื่อใครล่ะก็เพื่อตัวเองนี่แหละ ซิกแพ็กเป็นส่วนประกอบนะ สิ่งที่ดีก็คือคุณได้สุขภาพที่ดีกลับไปครับ”

บอกสมัยก่อนไม่เคยยอมถอดเสื้อในฉากละครเลย แต่เดี๋ยวนี้สบายมาก
“ถามว่าตอนนี้หุ่นดีสุดในชีวิตไหม ก็อยากจะบอกว่าแต่ก่อนก็ไม่ถึงกับแย่ ตั้งแต่เป็นพระเอกมาทุกคนก็จะรู้ว่าไม่เคยถอดนะ ถ้าฉากไหนที่จะต้องถอดต้องคุยกับผู้กำกับยาวเลย เพราะเราไม่ใช่สายถอด เล่นแม่เบี้ยยังไม่ถอดเลย หนึ่งคือเป็นคนคีฟคาแรกเตอร์มาก โดยเฉพาะถ้าถอดแบบไม่มีเหตุผล เราเชื่อว่าเราเป็นแบบอย่าง เป็นไอดอลของคนในหลายๆ รุ่น การจะมีเลิฟซีนหรือมีอะไรแล้วต้องถอด มันเป็นการระวังมาก โดยเฉพาะดารายุคเก่านะครับ แต่เดี๋ยวนี้เขาถอดกันเป็นเรื่องปกติเนอะ

นี่กลับมาเล่นหลังจากหยุดไป 18 ปี มาเล่นเรื่องใบไม้ที่ปลิดปลิว มันมีฉากถอด เราก็ยังคิดว่าจะคุยกับผู้กำกับยังไงดี แต่คิดไปคิดมาอย่าเรื่องเยอะเลย ถ้าถอดก็ไม่ถึงกับอายใครนะ แต่ระหว่างถ่ายเอาคนอื่นออกไปก่อนได้ไหม (หัวเราะ) เหมือนดาราผู้หญิงเลย มันมีฉากถอดเสื้อแล้วต้องให้ออกไป ก็มานั่งคิดว่าเราอายขนาดนี้เลยเหรอแต่ออกมาแล้วก็ไม่แย่นะ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ลีนแบบนี้ ตอนนั้นเล่นแบบกล้ามใหญ่ เล่นแบบสายฝรั่ง แต่ตอนนี้เอาแบบสายเกาหลี ยืนแล้วต้องเอวเอส แต่วันที่ถ่ายรูปอายมากนะ แรกๆ เขาบอกว่าไม่ได้ถ่ายอะไรมาก เพราะในตัวอย่างที่ถ่ายมันคือใส่เสื้อแล้วก็แค่ปลด แล้วก็ถ่ายไปถ่ายมา ก็เติมไฮไลต์ตรงท้องหน่อย ตรงนั้นตรงนี้หน่อย ไปๆ มาๆ เสื้อถอดไปแล้ว แรกๆ ก็อาย แต่หลังๆ ก็เดินโทงๆ กันไป มันถอดไปแล้วก็ช่างมันเถอะ”

บอกมีสินค้าเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศติดต่อมา
“จริงๆ ไม่ได้ทำเพื่อพาณิชย์อะไรนะ บางคนบอกเดี๋ยวดูนะทำออกมามันต้องขายอะไรสักอย่าง เปล่า จุดประสงค์ของผมไม่ได้ทำเพื่อขายอะไร เพราะถ้าทำเพื่อขาย คนจะรู้สึกว่ามันทำเพื่ออะไรสักอย่าง แต่ผมทำเพื่อให้รู้ว่าเป็นเรื่องของสุขภาพครับ แต่ก็มีสินค้าติดต่อมาอยู่เรื่อยๆ นะ ติดต่อได้นะครับ ไม่ติดนะครับ พร้อมนะครับ ถ้าสินค้านั้นเป็นสินค้าที่ดีและเพื่อสุขภาพ เพราะมีบางอันติดต่อมาเป็นสินค้าแบบสมรรถภาพทางเพศชาย (หัวเราะ) เราอาจจะไม่เหมาะกับแนวนั้นหรือเปล่า จริงๆ จะรับงานก็เป็นคนดูเรื่องภาพลักษณ์อยู่แล้วครับแต่อะไรที่เป็นเรื่องของสุขภาพก็ติดต่อได้ครับ

เขาคงดูว่าซิกแพ็กขนาดนี้แล้วข้างล่างล่ะ (หัวเราะ) จริงๆ ก็ขอบคุณด้วยซ้ำที่นึกถึงนะครับ เพราะสุขภาพดีมันก็ไปถึงระบบทุกอย่าง แต่มันนึกภาพไม่ออกว่าไปโฆษณาเรื่องสมรรถภาพมันต้องอะไรยังไง อาจจะต้องเป็นน้องแทค (ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม) นะครับ เขาอาจจะมาสายนั้นอยู่แล้ว แต่ผมกระดากปากที่จะพูด ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ไม่แน่ถ้าสคริปต์ดีๆ ก็อาจจะพูดก็ได้”

เผยเกือบมีภาพสุดสยิวหลุดออกไปแล้ว
“น้ำหนักลงไป 12 กิโลภายใน 1 เดือนครึ่งครับ ชั่งน้ำหนักทุกวัน มีครั้งนึงขำมาก เพราะต้องชั่งน้ำหนักทุกเช้าแล้วก็ถ่ายรูปส่งไปให้เทรนเนอร์ และเขาไม่ให้นุ่งผ้านะ แรกๆ เราก็ใส่กางเกงนอน เขาบอกไม่ได้ เพราะกางเกงนอนมันเป็นตัวแปร มันอาจจะทำให้น้ำหนักขึ้นหรือลงได้ ก็เลยไม่ได้นุ่งผ้า ทุกเช้าเราอยู่ในห้อง ถ่ายรูปเสร็จก็ส่งไป แต่มีวันนึงไปที่รีสอร์ตตัวเองที่เขาใหญ่ เราก็งัวเงียๆ ชั่งน้ำหนัก ถ่ายรูปแล้วก็ส่งไป

ก็ดีนะหลังจากนั้น 1 ชม. ไปอาบน้ำแล้วมาชั่งดูอีกที เครื่องชั่งน้ำหนักเป็นกระจก เราก็เฮ้ย (หัวเราะ) ทุกทีเราจะลงสตอรี่ แต่นี่ถ้าลงไปตายเลย โชคดีที่ส่งไปให้เทรนเนอร์แล้วเขายังไม่ได้อ่าน ก็โชคดี ตายแล้ว มันไม่ใช่ซิกแพ็กแล้ว เพราะมันเป็นกระจกใส อายมาก (หัวเราะ) ถ้ามีภาพหลุดออกไป สินค้าตัวอื่นต้องเข้าแล้วล่ะ (หัวเราะ)”

น้อมรับทุกฉายาที่ตั้งให้
“หลายคนตั้งฉายาให้เป็นอปป้าเมืองไทย จริงๆ ฉายาต่างๆ ถูกตั้งมาสมัยเป็นพระเอกมันก็เยอะแยะเนอะ ก็น้อมรับทุกคำ เพราะกว่าเขาจะคิดออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นอปป้า, แวมไพร์ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องบวกนะ ไม่ได้ดูทำให้เราแย่ลงก็ขอบคุณที่ทุกคนพูดถึง ส่วนใหญ่ชื่นใจนะเวลาที่เข้าไปอ่านคอมเมนต์ 90% ก็บอกว่าขอบคุณที่เป็นแรงบันดาลใจ เรื่องหล่อผมว่าเป็นเรื่องที่เขาให้กำลังใจเรามากกว่า เลยไม่ได้ไปหลงตรงนั้นเท่าไหร่

แต่ที่เขาบอกว่าขอบคุณที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขา เขาจะดูแลตัวเอง จะไปบอกสามีหรือไปบอกพ่อตัวเอง ผมคิดว่ามันตรงวัตถุประสงค์ที่ทำ เพราะไม่ได้กะจะถอดให้คนมาชมว่าเราหล่อหรือรูปร่างดีหรอก เพราะคนอื่นดีกว่าเราเยอะแยะเลย แต่แค่อยากให้เป็นแรงบันดาลใจแค่นั้นเอง”













กำลังโหลดความคิดเห็น