“เอวา - มายเมทเนท” ไหว้ขอโทษ ทำคลิปเล่นกับความรู้สึก เคลียร์ชัดกดไลก์สาวแค่คอนเทนต์ ขอบคุณแฟนคลับที่เป็นห่วง แต่ถึงกดไลก์จริงก็ไม่โกรธ มั่นใจไม่เจ้าชู้ ท้าใครเห็น DM มาได้ เดี๋ยวให้ 1 หมื่น รัก 2 ปีแฮปปี้ เรียนรู้และพัฒนาไปด้วยกัน แต่ปีนี้ยังไม่มีลุ้น เพราะงานยุ่งมาก และยังไม่ผ่านด่านอากง ด้านฝ่ายชายพร้อมพิสูจน์ตัวเอง อีก 10 ปีก็รอได้
หลังหนุ่ม “มายเมทเนท” หรือ “นาธาน เทนเนอร์ บาร์ทลิง” ยูทูปเบอร์ชื่อดัง ได้พูดในคลิปหนึ่งของตนเอง ประมาณว่ากดติดตามและกดไลก์รูปผู้หญิง แต่พอแฟนสาว “เอวา ปวรวรรณ วีระภุชงค์” ขอดูก็อันฟอลฯ ก็ทำเอาแฟนคลับหลายคนเกิดความไม่พอใจ เพราะรู้สึกว่าเป็นการไม่ให้เกียรติฝ่ายหญิง จนเจ้าตัวต้องออกขอโทษและชี้แจง ว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาเพื่อสร้างสีสันเท่านั้น แต่ล่าสุดวันนี้ (4 ก.ย. 67) ในงานเปิดตัวภาพยนตร์สยองขวัญแห่งปี “รถทัวร์วีไอผี” ทั้งสองคนก็ได้ควงคู่กันมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษแฟนๆ อีกครั้ง ที่ทำคอนเทนต์เล่นกับความรู้สึก
มายเมทเนท : “อันนั้นเราทำคลิปให้เพื่อนด่า แต่มันไม่ใช่เรื่องจริงครับ แต่ทำคลิปเล่นเฉยๆ ครับ เราพูดตลกๆ แค่นั้นเอง”
เอวา : “ตอนนั้นหนูก็รู้ว่าเป็นเรื่องแต่งค่ะ แต่พูดจริงๆ ตอนแรกก็มีคิดนิดหนึ่งว่าใช่หรือเปล่า เพราะหนูไม่ได้อยู่ในคลิปตอนนั้นค่ะ แต่ตอนจบก็รู้ว่าไม่ใช่นิสัยพี่เนทอยู่แล้ว แต่ทีนี้มันจะมีแฟนคลับของหนู แฟนคลับคู่เรา ที่เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า พี่เนทก็เลยออกมาชี้แจง เพราะเรารักแฟนคลับเรา แล้วเราก็อยากให้เขารู้สึกสบายใจ ไม่อยากให้เขารู้สึกไม่ดีกับเรา ก็เลยออกมาขอโทษก่อนดีกว่า”
มายเมทเนท : “บางคนอาจจะมองว่าไม่น่าเล่นแบบนั้นเลย เราก็ต้องขอโทษ เพราะแฟนๆ คือเหตุผลที่ทำให้เรามีวันนี้ ถ้าไม่มีพวกเขาก็คงไม่มีวันนี้ เพราะฉะนั้นเราเลยไม่อยากให้ใครรู้สึกไม่ดี เลยออกมาขอโทษเขาไว้ก่อนครับ ถามว่าหลังจากนี้จะกดดันไหมเวลาทำคลิป คือมันไม่ได้กดดัน เพราะมันเป็นชีวิตปัจจุบันอยู่แล้ว เราทำอาชีพนี้มา 10 ปี ใครๆ ก็มีผิดพลาด เราก็ต้องเรียนรู้ ถ้าไม่อยากให้ใครรู้สึกไม่ดี ก็ต้องขอโทษเขาไปก่อนครับ”
ไม่คิดว่าฟีดแบ็กจะออกมาเป็นแบบนี้ จากนี้ก็จะระมัดระวังมากขึ้น
มายเมทเนท : “ใช่ แต่ฟีดแบ็กมันไม่ได้แย่นะครับ มันแค่บางคนที่ส่งมาส่วนตัว ว่ามันไม่น่าทำ เราก็เลยออกมาขอโทษไว้ก่อน แต่เรารักแฟนคลับทุกคน การแคร์ความรู้สึกพวกเขามันเป็นสิ่งที่สำคัญครับ จากนี้เราจะพยายามเรียนรู้ และระมัดระวังมากขึ้นทุกวันเลยครับ แต่เรื่องนี้มันก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ใหญ่โต เอาจริงๆ นักข่าวเอาไปเล่นโดยที่มันไม่ได้เป็นเรื่อง ผมแค่ลงสตอรี่ธรรมดาทั่วไป แต่เราก็ขอบคุณทุกคนที่ทำข่าวเราเรื่อยๆ ครับ”
เอวา : “ส่วนตัวหนูคบพี่เนทมา 2 ปี ก็รู้ว่าเขาเป็นคนจิตใจยังไง อยากให้ทุกคนเปิดใจให้เขาค่ะ เพราะตอนนี้ที่บ้านหนูก็โอเคกับพี่เนท ก็อยากให้เปิดใจให้เขา ส่วนแฟนคลับอะไรแบบนี้หนูเข้าใจเลย เพราะส่วนตัวสำหรับหนู แฟนคลับก็เหมือนครอบครัว เขาเป็นคนให้เราและตำหนิเราเพื่ออยากให้เราดีขึ้น หลายคนก็เป็นห่วง หนูก็จะมองในด้านดี ว่ามันมาจากพลังงานดี จากเหตุที่เขาอยากให้เราได้ดี ก็เคารพทุกคน หลังจากนี้ก็จะระวังมากขึ้น แล้วก็จะบอกพี่เนทด้วยค่ะ ว่าเราต้องระวังความรู้สึกของแฟนคลับมากกว่านี้นะ”
ไม่หึงเพราะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่ถึงจริงก็ไม่โกรธ เพราะเป็นเรื่องปกติและเป็นเรื่องส่วนตัว
เอวา : “ไม่หึงค่ะ (หัวเราะ) เพราะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริงอยู่แล้ว จริงๆ หนูจะเล่นโทรศัพท์เขาบ้างอยู่แล้ว แล้วในอินสตาแกรมมันก็จะดูได้อยู่แล้ว ว่าเขากดไลก์โพสต์อะไรบ้าง แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้โกรธ ถ้าพี่เนทจะไลก์รูปผู้หญิงคนอื่น เพราะหนูรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ ที่ผู้ชายจะไลก์รูปผู้หญิงคนอื่น ก็เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา (อนุญาตให้กดไลก์ได้?) ใช่ค่ะ แค่ไม่เมนต์จีบ”
มายเมทเนท : “ดูได้เลย หน้าฟีดของผมมีแต่ผู้ชายออกกำลังกายกับมวยอย่างเดียว”
ขอบคุณแฟนคลับที่รักและเป็นห่วง
เอวา : “อย่างแรกรู้สึกขอบคุณมากเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าแฟนคลับเหมือนครอบครัว รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่อเมซิ่งมาก ที่คนแปลกหน้าที่เราไม่เคยเจอกันด้วยซ้ำ หรือบางคนดูเราแค่ออนไลน์ แล้วเขารักและเป็นห่วงเราขนาดนี้ หนูมองว่ามันคือความโชคดีค่ะ แล้วก็ทำความเข้าใจด้วยการมองด้านบวก ว่าเขาทำจากเหตุผลที่เขาเป็นห่วงเรา ไม่ได้มาจากมุมไม่ได้หรือมุมลบ ที่เขาอยากทำลายคู่ของเรา แต่เขาทำเพราะเป็นห่วงภาพลักษณ์ของเราทั้งคู่ ก็รู้สึกดีใจและขอบคุณ จากนี้ก็จะระวังมากขึ้นค่ะ”
ไหว้ขอโทษ ถ้าคอนเทนต์ไหนทำให้ใครไม่สบายใจ
เอวา : “ตอนนี้ก่อนจะลงคอนเทนต์อะไร ก็จะมาปรึกษากันตลอดเลย ก่อนที่ทีมงานจะดู ก็จะให้ครอบครัวดูด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าจะเป็นคอนเทนต์ที่ไม่ได้ทำร้ายความรู้สึกอะไรใคร แต่ถ้ามีอะไรที่เราทำไป แล้วทำร้ายความรู้สึกใคร ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ (ยกมือไหว้ทั้งคู่) ถ้าเราไม่ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน หรือเราอาจจะประมาท แต่เราก็อยากทำคอนเทนต์ให้ออกมาดีที่สุด ให้คนดูมีความสุขที่สุด และเราทำแล้วก็ภูมิใจด้วยค่ะ”
ครอบครัวเข้าใจดรามา และเปิดใจรับ “มายเมทเนท” แล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ เหลือแค่คุณปู่
เอวา : “เขาเข้าใจค่ะ เขารู้ว่าทุกอย่างมีสองด้านอยู่แล้ว แม้แต่พระพุทธเจ้าก็โดนนินทา คุณพ่อก็บอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาให้ยอมรับมัน แต่ไม่จมปลักไปกับมัน ครอบครัวตอนนี้เปิดรับพี่เขาแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ มีแค่คุณปู่ค่ะ ที่อยากเรียกรู้มากขึ้น เพราะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คน
มั่นใจ “มายเมทเนท” ไม่เจ้าชู้ ถ้าใครเห็น DM มาบอกได้
เอวา : “หนูจะบอกว่าพี่เนทไม่เจ้าชู้เลยค่ะ อันนี้จากที่หนูสัมผัส คือหนูเป็นผู้หญิงที่โดนรังแก โดนบูลลี่มาตั้งแต่เด็ก หนูมีปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นในตัวเองมากๆ พี่เนทเขาก็จะทำให้หนูรู้สึกมั่นใจในตรงนั้น ไม่เคยต้องกังวลเรื่องผู้หญิงคนอื่น หรือว่าเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกเลย หนูค่อนข้างมั่นใจมากๆ ว่าเขาไม่เจ้าชูั แต่ถ้าใครเห็นก็ DM มาบอกได้นะคะ (หัวเราะ)”
มายเมทเนท : “สบายๆ ยืนยันได้เต็มปากเลยครับ ล้านเปอร์เซ็นต์ได้เลย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ ถ้าใครเห็น DM ไปบอกน้องเอวาได้เลย แต่เรื่องคอนเทนต์แบบนี้ก็ต้องระวังมากขึ้นครับ”
เอวา : “เดี๋ยวหนูให้ 1 หมื่นเลยถ้าใครเห็น (หัวเราะ) ส่วนตัวไม่เคยเช็กเลย เพราะค่อนข้างไว้ใจเขา เราทำงานด้วยกัน อยู่ออฟฟิศเดียวกัน แล้วจริงๆ พี่เนทแทบไม่ได้เลยอินสตาแกรมเลยค่ะ เพราะงานเยอะมากๆ เขาจะทำงานมากกว่า (ต่อไปต้องระบุเลยไหม ว่าอันไหนคอนเทนต์ อันไหนเรื่องจริง?) เออใช่ วันหลังพูดก็ดี แฟนคลับจะได้เข้าใจ”
มายเมทเนท : “ผมว่าคนที่ดูทั้งคลิปเต็มๆ น่าจะเข้าใจและแยกแยะได้”
เอวา : “แต่เราอาจจะกำกับบอกด้วยค่ะ เพื่อให้เขาสบายใจมากขึ้นในอนาคต”
รัก 2 ปีสนุกและไม่เหงา เรียนรู้และพัฒนาไปด้วยกัน
เอวา : “พี่เนททำให้หนูเป็นคนที่ดีขึ้น หมายถึงเขาทำให้หนูรู้สึกรักตัวเองมากขึ้น มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และมีความรับผิดชอบมากขึ้นด้วย เพราะว่าก่อนหน้านี้แฟนคลับหลายคนจะรู้ ว่าหนูทำยูทิวบ์คนเดียวตลอด ก็จะมีแค่หนูไปไหนมาไหนกับตากล้อง แต่ตอนนี้ก็มีทีมงานของพี่เขา ที่เป็นเหมือนเพื่อนด้วย ก็รู้สึกสนุกมากขึ้น แล้วก็ไม่เหงาค่ะ”
มายเมทเนท : “ถึงจะลงตัวยังไง มันก็ต้องมีการปรับตัวตลอดครับ เพราะถ้าเราอยู่แบบเดิมๆ ไม่ปรับตัวมันจะไม่ก้าวหน้า ไม่พัฒนาไปไหน เราก็เลยเรียนรู้และพัฒนาไปด้วยกัน ก็เป็นกำลังใจให้ตลอด คือตั้งแต่เราคบกัน ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นงาน อาชีพ หรือชีวิตส่วนตัว ทุกอย่างมันพัฒนาไปเรื่อยๆ ครับ”
ไม่กดดันกับความรักที่ต้องอยู่ในสายตาแฟนๆ ตลอด
มายเมทเนท : “สำหรับผมไม่มีความกดดันครับ มันเป็นอาชีพที่เราเลือกเอง มันเป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับ เราก็พยายามเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดที่เราเป็นได้ (การคบกับคุณหนูหมื่นล้าน ทำให้กดดันไหม?) มันไม่ได้ทำให้ผมกดดันอะไรเพิ่ม เพราะผมไม่ได้มองเรื่องเงิน ผมมองที่ตัวเขาเองครับ มันขึ้นอยู่กับเราสองคน ว่าจะไปด้วยกันได้ไหม แต่พอเราเรียนรู้และพัฒนาไปด้วยกัน ก็แน่นอนครับ ว่าคนนี้น่ารักที่สุดเลย”
ฝ่ายชายพร้อมแต่งงาน แต่รอพิสูจน์ตัวเองต่อไป บอกอีก 10 ปีก็รอได้
มายเมทเนท : “ผมพร้อมครับ แต่ก็ต้องพิสูจน์ต่อไปเรื่อยๆ ต้องรอคุยกับพ่อแม่ของน้อง และก็รอให้งานและอาชีพของเราลงตัวก่อน”
เอวา : “ถ้าพี่เขาคุกเข่าปีนี้ ก็รู้สึกว่ายังไม่พร้อม เพราะหนูรู้สึกว่าอยากทำงานก่อนค่ะ แล้วก็ส่วนตัวรู้สึกว่า 2 ปีเป็นเวลาที่สั้นอยู่ อากงจะสอนตลอดว่ากาลเวลาพิสูจน์คน ก็อยากให้เขาพิสูจน์ตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะหนูมั่นใจ เหมือนคำพูดที่ว่าถ้าคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกัน ก็ต้องพิสูจน์ไปเรื่อยๆ ให้ครอบครัวหนูเห็นค่ะ นั่นเป็นหลักเลย เหมือนเราอยู่ด้วยกันตลอด แต่พี่เนทจะไปบ้านแค่อาทิตย์ละครั้งสองครั้ง แล้วด้วยความที่อากงหนูอายุเยอะแล้ว หนูก็อยากให้เขาแฮปปี้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่เราเลือก ก็อยากให้เขารู้สึกสบายใจและมีความสุข แต่ปีนี้ยังไม่พร้อม ปีนี้ไม่มีลุ้นนะคะทุกคน (หัวเราะ)”
มายเมทเนท : “ถามว่าหมั้นไว้ก่อนไม่ได้เหรอ ปีนี้งานยุ่งเกินไป งานยุ่งมากครับ รอได้สบายมากเลย 10 ปีก็ได้ครับ”
