xs
xsm
sm
md
lg

หมดความอดทน! “ลูกหมี” ฟ้องลูกหนี้คนดังฉ้อโกง บอกรวยมาก ถ้าผ่อนจ่ายเดือนละ 3 พัน แสดงว่าไม่ได้รวยจริง (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ลูกหมี รัศมี” เดินหน้าฟ้องลูกหนี้คดีฉ้อโกง รับบาดใจ และไม่ยุติธรรม ลูกหนี้ใช้ชีวิตหรู อยู่สบาย ลั่นถ้าจ่ายหนี้พร้อมถอนแจ้งความ แต่ถ้าดันทุรังสู้ อยู่ที่ศาลจะสั่งจำคุกหรือไม่ ด้าน “ลิลลี่ เหงียน” ให้กำลังใจลูกหมี ลั่นตนคงไม่ฟ้อง ยอมรับชะตากรรม เอาเวลาไปทำมาหากิน



ยืดเยื้อจนหมดความอดทนแล้ว วันนี้ (2 ก.ย. 2567) “ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี”พร้อมด้วย “ทนายกุ้ง อำนวยพร มณีวรรณ์” เดินทางมาที่ศาลแขวงพระนครใต้ ถนนเจริญกรุง 72/1 เขตบางคอแหลม กรุงเทพ เพื่อยื่นฟ้องดำเนินคดีลูกหนี้คนดัง ในข้อหาฉ้อโกง, พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 หลังเจรจาไกลเกลี่ยขอเงินคืนแล้วไม่เป็นผล สูญเสียเงินไปจำนวน 2 ล้านบาท โดยมี “ลิลลี่ เหงียน”เจ้าหนี้ผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกันมาให้กำลังใจที่ศาลด้วย

โดย ลูกหมี เผยว่า เริ่มแรกตนได้ตัดสินใจดำเนินคดีในส่วนเช็คเด้ง เพราะตั้งใจจะทำให้คดีเรียบง่ายที่สุด แต่พฤติกรรมของลูกหนี้ไม่ได้เรียบง่ายทำให้ปัญหาไม่จบ จึงต้องสู้ด้วยวิธีนี้

ลูกหมี : “วันนี้มาที่ศาลแขวงพระนครใต้ มายื่นฟ้องในคดีฉ้อโกงกับลูกหนูของเรา คือเริ่มแรกเรายื่นคดีเช็คเด้ง เพราะเราจะทำให้มันเรียบง่ายที่สุด แต่พฤติกรรมของลูกหนี้ไม่ได้เรียบง่ายเลย ปัญหาก็ยังไม่จบ สิ่งที่บอกว่ามีเงินแล้วจะใช้หนี้ก็ไม่ใช้ จนเลยมาถึงเดือนกันยายนนี้แล้ว คือความอดทนที่มีอยู่ในใจมันไม่รู้จะอดทนยังไงแล้ว ก็ต้องไปต่อ สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือได้เงินคืนมา แล้วคำพูดกับการกระทำมันไม่ได้สอดคล้องกัน เราก็ต้องให้ศาลดำเนินการ”

ทนายกุ้ง : “ตอนแรกเราแจ้งความเช็คเด้งไว้ที่ สน.ทองหล่อ แต่ตอนนี้เรามาฟ้องเพิ่มคดีฉ้อโกง แล้วก็ พ.ร.บ. เช็คด้วย รวมเป็นคดีเดียวกัน โทษของ พ.ร.บ. เช็คไม่เกิน 1 ปี แต่ฉ้อโกงไม่เกิน 3 ปี ส่วนเรื่องดอกเบี้ย ที่เขาบอกว่าเก็บเกินกฎหมายกำหนด ครั้งแรกที่เอาเงินไป เขาบอกว่ามีธุรกิจเอาไปลงทุน แล้วจะให้ผลตอบแทนตามอัตราที่ผลกำไรสูง อาจจะ 5-20 เปอร์เซ็นต์ก็แล้วแต่ ซึ่งการเสนอผลตอบแทนที่สูงๆ มันอาจจะเกินกว่าดอกเบี้ยตามกฎหมายก็ได้ ตรงนั้นมันเป็นการที่ลูกหนี้เสนอมา เป็นการให้ผลตอบแทนจากการเอาเงินไปลงทุน พอได้กำไรก็มาแบ่งให้ กำไรที่ให้มาแล้วเท่าไหร่ก็ตามแต่ อาจจะมากกว่าที่กฎหมายกำหนด ก็ไม่ผิดกฎหมายค่ะ ก็ไม่ต้องคืนในส่วนนั้น

ตอนนี้พอยื่นฟ้อง ศาลก็ให้เลขคดีมาเรียบร้อยแล้ว ก็มีนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 22 ตุลาคม เวลา 9.00 น. ที่ศาลนี้ ถ้าศาลมองว่าคดีนี้เข้าองค์ประกอบความผิดคดีอาญาที่เราฟ้องมา ศาลก็อาจจะประทับฟ้องเอาไว้ ขบวนการต่อไปก็อาจจะเรียกให้จำเลยมายื่นคำให้การ ถ้าไม่มาก็ออกหมายจับ แต่อะไรจะเกิดขึ้น ก็อยู่ที่กระบวนการของศาล”

ลูกหมี : “เราตัดสินใจฟ้องจากการที่ไม่คืนเงินนั่นแหละค่ะ เกิดจากการไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว แล้วก็เกิดจากคำพูดของลูกหนี้เอง ที่พูดบอกว่าตัวเองมีเงิน แต่ไม่สะดวกที่จะใช้หนี้ซึ่งมันไม่สมควร ลูกหนี้บอกรวยมาก แต่เงิน 2 ล้านกับความเดือดร้อนของเรา มันต่างกันราวฟ้ากับดิน เรารับไม่ได้กับการกระทำคำพูดของเขา ควรใช้หนี้ก็ไม่ใช้ การใช้ชีวิตเราก็ฐานะปานกลาง แต่เขาร่ำรวยมหาศาล ทำไมทำร้ายคนฐานะปานกลางที่ทำมาหากินได้ ตั้งแต่เกิดเรื่องมาเขาไม่เคยที่จะไกล่เกลี่ย ไม่เคยรับผิดชอบ ไม่เคยที่จะขอโทษ เหมือนเป็นการปัดความผิดของตัวเองให้คนอื่น ไม่มีความรู้สึกสำนึกให้เราเห็นได้เลย เราก็คิดว่าการกระทำแบบนี้ เราก็ต้องดำเนินการของเราต่อไป”

ทนายกุ้ง : “ซึ่งลูกหนี้คนอื่นก็มีของคุณอ้อม ที่แจ้งความไว้ที่ สน.ทองหล่อ แต่เห็นว่าเดือนนี้จะฟ้องเหมือนกัน ส่วนคนอื่นๆ ที่ไม่ออกมา เพราะว่าเขาไม่กล้า เขากลัว เขาเกรงใจ เขาอาจจะเป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่มีชื่อเสียง เขาเลยอาจจะเกรงกลัวอะไรบางสิ่งบางอย่างถ้าออกมาแล้ว แต่เขาก็ให้ข้อมูล ให้หลักฐานเรามาทั้งหมด ว่าวิธีการที่จะเอาเงินลูกหนี้ไปเป็นแบบไหนบ้าง เราถึงได้มีข้อมูลว่ามันเข้าข่ายฉ้อโกงจริงๆ ถามว่าเขาจะมาเป็นพยานให้เราได้ไหม ก็คงต้องเรียกเข้ามา เพราะเอกสารเขาให้มาแล้วบางส่วน ที่จะประกอบในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ชั้นสืบพยานได้ แต่ก็มีที่เขาไม่อยากเปิดเผยตัว เพราะกลัว ไม่ทราบว่ากลัวอิทธิพลหรือกลัวอะไร ตอนนี้เท่าที่ทราบยังไม่มีใครได้เงินคืนนะ ได้แต่ทำเอกสารเอาไว้เฉยๆ แต่เงินยังไม่ได้

ลูกหมี : “เขากลัวเรื่องการทำงาน เพราะมันอาจจะมีผลกระทบกับงานค่ะ ก็เข้าใจเจ้าหนี้ทุกๆ ท่านนะคะ ทุกคนก็มีความเครียด อยากได้เงินคืน แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่ละท่านระยะเวลาคือ 1-2 ขึ้นทุกคนเลย (คิดว่าเพราะอะไร คู่กรณีถึงได้เมินเฉยขนาดนี้?) ในความคิดของเรา การที่ทำอะไรซ้ำๆ แบบเดิมๆ มันจะกลายเป็นเรื่องปกติ มันเลยทำให้ความรู้สึกที่เขาไม่ได้คิดถึงใจของเจ้าหนี้ ว่าทุกคนมีความเดือดร้อนแตกต่างกัน เขาอาจจะมองแค่มุมตัวเอง ว่าครอบครัวเขาต้องใช้จ่าย แต่ไม่คิดถึงคนอื่นว่าเขามีครอบครัวเหมือนกัน

(เชื่อว่าเขายังมีเงินจ่ายลูกน้องอยู่?) ยกตัวอย่างนะคะ บ้านคนที่อยู่ถนนสุขุมวิท ทองหล่อ นานา ค่าใช้จ่ายจะสูงในทุกๆ กรณี จะเป็นค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่ากิน ค่าอาหารทุกอย่าง มีค่าใช้จ่าย อย่างบ้านพวกเราอยู่ชานเมือง ค่าใช้จ่ายมันน้อย แต่คนที่อยู่ใจกลางเมือง ฐานะการเงิน การใช้จ่าย ค่าครองชีพมันสูง เขาต้องมีเงินอยู่แล้วค่ะ แต่เหตุผลของแต่ละคน ส่วนใหญ่ก็จะเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในส่วนตัวของตัวเราเอง เราก็เหมือนกัน แต่การที่มีหนี้แบบนี้ มันต้องลดการใช้จ่ายลง ต้องประหยัด ต้องอยู่บ้านทำกับข้าวทานเอง มันก็อาจจะเอาเงินใช้เจ้าหนี้ได้เป็นรายๆ ไปค่อยๆ ใช้เดี๋ยวก็หมดค่ะ แต่ถ้าไม่ได้มีความคิดที่จะตั้งใจใช้ มันก็จะเกิดเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ค่ะ

ทนายกุ้ง : “มองในอีกมุม เขาอาจจะเชื่อมั่นในทนายที่ให้คำแนะนำ ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าสิ่งที่ทนายได้รับข้อมูลจากลูกหนี้ ได้รับครบถ้วนแค่ไหน หรือได้รับแบบไหน ถึงได้เชื่อมั่นมาก และการที่ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ ส่วนหนึ่งก็อาจจะมีส่วนจากทนายความให้คำแนะนำ ว่าไปรอในกระบวนการของศาลเจรจาไกล่เกลี่ย หรือผ่อนชำระก็เป็นไปได้ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ ส่วนหนึ่งคือเรื่องของเงิน สองเรื่องของได้รับคำปรึกษาจากทนายความ ทนายความบางท่านอาจจะให้ความเชื่อมั่นคำลูกความตัวเองมากเกินไปเขาก็เลยไม่จำเป็นต้องรีบใช้เงิน แบบนี้ก็เป็นไปได้

การเป็นหนี้ควรจะมาคุย มาเจรจาไกล่เกลี่ย เป็นหนี้เท่าไหร่ พร้อมไม่พร้อมย้งไว้ต้องมาเคลียร์กัน มันจะได้จบ ถ้าเป็นอย่างนี้มันไม่มีผลดีกับลูกหนี้ ระยะเวลายิ่งนานยิ่งมีแต่เสีย ถ้าเกิดว่าพูดคุยกันแล้ว ไม่ว่าเรื่องยอดหนี้ เรื่องความเข้าใจผิดกัน มันปรับความเข้าใจกันได้ บางสิ่งบางอย่างอย่างสร้างความมั่นใจให้ลูกหนี้หรือลูกความตัวเองมากเกินไป เพราะเราอาจจะรับข้อมูลมาไม่หมด หรือลูกความบอกข้อมูลไม่ครบ เพราะฉะนั้นหลักฐานทุกอย่างมันจะมาโผล่ที่ศาล ถ้าเขามั่นใจว่าสู้ได้ ก็เอาหลักฐานมาสู้กันในศาลได้ เพราะทางนี้ก็ยืนยันหลักฐาน พร้อมที่จะเปิดใจศาลเหมือนกันถ้าเขามีอะไรที่สู้ได้หรือมากกว่า ก็มาเคลียร์กันในศาลได้เลย

ถามว่าประวิงเวลาหรือเปล่าแบบนี้ ก็ส่วนหนึ่งนะ เดาว่าเจ้าหนี้เยอะ แล้วเขาอาจจะยังไม่สะดวกผ่อนให้ใครคนไหนก่อน เท่าที่ทราบจากยูซัมมิตที่เขาพูดถึง ว่ามีคนลงทะเบียนไว้เยอะเหมือนกัน ตั้งแต่หลักหมื่นไปถึงหลักล้าน ก็อาจจะเริ่มทยอยหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ก็ลักษณะคล้ายๆ กับประวิงเวลานั้นแหละ จริงๆ ทางเจ้าหนี้พร้อมเสมอที่จะพูดคุย แต่ลูกหนี้เขาไม่คุยกับเรา เราก็เลยไม่มีโอกาสพูดคุยกัน แล้วยังมาฟ้องเรากลับด้วย (หัวเราะ) แต่ในส่วนที่เขาฟ้องเรา ตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีความคืบหน้า ตำรวจยังไม่มีหมายเรียกมาถึงเรา ที่โดนก็คือโดนเจ้าหนี้และทนายความ แต่ยังไม่มีหมายเรียกมาถึง”

ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับศาล แต่ถ้าลูกหนี้คืนเงินเลย พร้อมยกฟ้องและถอนแจ้งความให้
ลูกหมี : “ความกังวลใจตอนนี้ ก็คืออยากให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการศาล อยากให้ศาลได้ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน และดำเนินการให้เร็วที่สุดค่ะ”

ทนายกุ้ง : “ในการที่เขาเป็นหนี้ เขาต้องจ่ายอยู่แล้ว แค่จะได้คืนเมื่อไหร่ก็ตอบไม่ได้ มันอยู่ที่กระบวนการศาลแล้ว มันต้องใช้เวลา”

ลูกหมี : “ถ้ามีปาฏิหาริย์ลูกหนี้คืนเงินเลย เราก็ต้องยกฟ้องค่ะ ถอนแจ้งความให้เลย

ยอมรับรู้สึกบาดใจและไม่ยุติธรรม ลูกหนี้ยังใช้ชีวิตปกติมีความสุข แถมกินดีอยู่ดี
ลูกหมี : “รู้สึกว่าถ้าเป็นเรา เราคงหาเงิน ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ขายของ หรือทำวิธีไหนก็ได้ คงยังไม่ได้ออกสื่อเพื่อจะหาเงินมาใช้ลูกหนี้ แต่ส่วนทางลูกหนี้ของเรา เขาดูชีวิตมีความสุข มันก็บาดใจค่ะ ว่าเขากินดีอยู่ดี แต่ตัวเราต้องนั่นรอเงินของเราคืนมันรู้ว่ามันไม่ยุติธรรมเลยค่ะ”

ผ่อนจ่ายได้อยู่ที่ตกลงกัน แต่กลัวจะได้เดือนละ 3 พันบาท
ลูกหมี : “กลัวจะได้เดือนละ 3 พันน่ะสิคะ ถ้าได้เดือนละ 3 พันแสดงว่าไม่ได้รวยจริง (หัวเราะ) กี่ปีจะหมด แหมแต่ลูกหนี้เป็นเศรษฐี ออกที่ดินเยอะแยะ”

ทนายกุ้ง : “เราฟ้องเป็นคดีทางอาญา มีสองอย่างคือได้เงินกับไม่ได้เงิน ถ้าเขาผิดจริงมีโทษจำคุก ถ้าเขาไม่อยากติดคุกก็เอาเงินมาจ่าย คดีอาญายอมความได้ ถ้าเขาเอาเงินมาคืนมันก็จบ แต่ถ้าเขาผิดแล้วดันทุรังสู้ ศาลก็สั่งจำคุก ก็ขึ้นอยู่กับศาลแล้ว ว่าลูกหนี้มีความสำนึกแค่ไหน หรือถ้าเขาไม่อยากติดคุก ก็เอาเงินมาจ่าย ช่วงไหนก็ได้ยันศาลตัดสิน ยังจ่ายได้อยู่ เพราะคดียอมความได้อยู่แล้ว เจ้าหนี้อยากได้เงิน ไม่อยากให้ติดคุก เงื่อนไขการผ่อนจ่าย ก็อยู่ที่ตกลงกันสมัครทั้งสองฝ่าย ศาลไม่ได้มาบังคับเรานะ เราพอใจจุดไหน”
กรณีที่โดนกล่าวหา ว่ามีอาชีพปล่อยเงินกู้ ก็จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย
ทนายกุ้ง : “ก็จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย เพราะเขาแจ้งความเรามา เราก็จะใช้สิทธิ์อยู่แล้ว ต่างคนต่างมีสิทธิ์ เราก็ใช้าสิทธิ์ของเราอยู่แล้ว”

หลังจากนี้ถ้าคู่กรณีออกมาโพสต์ตอบโต้ ก็เอาที่สบายใจ จะได้มีหลักฐานเยอะๆ
ทนายกุ้ง : “ไม่เป็นไร เอาที่สบายใจเลย อยากให้เขาออกมาเยอะๆ จะได้มีหลักฐานเยอะๆ ไง มีข้อมูลเยอะๆ มีอะไรก็อยากให้เอามาโชว์ จะได้ง่ายขึ้น”

ลูกหมี : “ก็อยากจะบอกทางคู่กรณีนะคะ ว่าเอาเงินมาคืนเถอะค่ะ จะได้จบๆ เรื่องไป คุณจะได้ใช้ชีวิตใหม่ เพราะว่าถ้าเกิดยังวนเวียนอยู่อย่างนี้ ยังไงเงินก็ต้องจ่ายอยู่ดี หรือไม่อาจจะต้องติดคุกก็ได้นะคะ”

“ลิลลี่” เผยวันนี้มาให้กำลังใจ แต่ไม่ฟ้อง ไม่อยากเสียค่าทนายเพิ่ม ยินดีรับเงินคืน แม้ประกาศยกหนี้ให้
ลิลลี่ : “วันนี้หนูมาให้กำลังใจ หนูยอมรับชะตากรรมตัวเองอยู่แล้ว อยากเอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่า ที่ทนายกิ่ง (ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช) แจ้งความไว้ ก็มีหมายเรียกมาแล้ว 1 ครั้งค่ะ แต่ยังไม่ได้ไป”

ทนายกุ้ง : “ยังไม่ได้ไป แต่เราโทร.หาตำรวจแล้ว ว่าเราไม่ได้หลบหนี เราทำงานอยู่ ขอเคลียร์เวลา ตำรวจก็เข้าใจค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร เราแจ้งเขาไปแล้ว”

ลิลลี่ : “หนูไม่คิดที่จะฟ้องอะไรแล้วค่ะ เพราะคิดพิจารณาอีกที ถ้าฟ้องหนูก็เสียเงินค่าทนายด้วย (หัวเราะ) ฟ้องก็ไม่รู้จะได้คืนเมื่อไหร่ด้วย หนูเอาเวลาตรงนี้ทำให้เอฟซีหนูมีความสุขดีกว่า หาเงินดีกว่าค่ะ เราพูดไปแล้วว่าจะยกหนี้ให้เขา แต่ถ้าเขาไม่เอา ไม่รับ อยากให้เงินเราคืน เราก็พร้อมที่จะรับเงิน เพราะเงินนั้นมันก็เป็นเงินเรา 67,0000 บาทก็ถือว่าเยอะนะ

แล้วก็ขอฝากวันที่ 4 ก.ย. นี้ เวลา 11 โมง ที่อาคาร B ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ หนูจะไปแจ้งความเพจปลอม ที่เอาชื่อและรูปของลี่ รวมเบอร์ของผู้จัดการ ไปโปรโมตเว็บพนัน หวยออนไลน์ ยืนยันว่าลี่ไม่เคยรับงานผิดกฎหมาย และอ้อนวอนพี่ๆ มิจฉาชีพ อย่าเอารูปเอาชื่อลี่ไปหลอกลวงประชาชนเลยนะคะ หนูกลัวโดนจับ กลัวติดคุก สงสารหนูด้วย หนูมีลูกต้องดูแลนะคะ หนูไม่ใช่คนไทยด้วย อย่ารังแกกันนะคะ”







กำลังโหลดความคิดเห็น