บัตรคอนเสิร์ตทัวร์รียูเนียนของ Oasis ขายหมดภายในวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังแฟนทั้งอังกฤษ และทั่วโลก ตื่นเต้นกับโอกาสได้ชมการแสดงสดของวงครั้งแรกในรอบ 16 ปี แต่ส่วนใหญ่บ่นเป็นเสียงเดียวกัน ถึงปัญหาทางเทคนิค ที่หลายคนเจอ บางคนต้องรอคอยในการจองตั๋วออนไลน์นานเป็นชั่วโง ซึ่งบางคนก็ผิดหวัง และถอดใจ
แฟนๆ ที่พยายามเข้าไปในเว็บไซต์จำหน่ายบัตรทั้งสามแห่ง ได้แก่ Ticketmaster, See Tickets และ Gigsandtours รายงานปัญหาต่างๆ มากมาย เช่น ข้อความแสดงข้อผิดพลาด และการถูกตัดออกจากระบบก่อนที่จะสามารถซื้อบัตรได้
คาดว่าบัตรมากกว่าล้านใบสำหรับการแสดงของวงจะขายหมดภายในไม่กี่นาที แต่กลับกลายเป็นว่าต้องใช้เวลาถึง 10 ชั่วโมงกว่าที่บัตรในสหราชอาณาจักรทั้งหมดจะขายหมด หลังจากที่แฟนๆ หลายคนต้องใช้เวลาทั้งวันในการรอคิวออนไลน์
"มันต้องมีวิธีการขายตั๋วที่ยุติธรรม ง่าย และมีประสิทธิภาพมากกว่านี้" แดน วอล์คเกอร์ ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ชาวอังกฤษกล่าวบนแพลตฟอร์ม X "อยู่ในคิว ออกนอกคิว รีเฟรช / ไม่รีเฟรช รอคิว กลับไปท้ายคิวอีกครั้ง"
Ticketmaster กล่าวก่อนหน้านี้ว่าเว็บไซต์ของตนไม่ได้ล่มและคิวกำลังเคลื่อนที่ไปอย่างต่อเนื่องเมื่อแฟนๆ ซื้อบัตร ส่วน Gigsandtours ขอบคุณผู้คนที่อดทนรอและกล่าวว่ามีความต้องการที่สูงมาก
ในขณะเดียวกัน บัตรบางใบก็ถูกนำไปขายต่อบนเว็บไซต์ขายซ้ำอย่าง Viagogo ด้วยราคาสูงถึง 8,000 ปอนด์ (ประมาณ 367,000 บาท)
Oasis ได้ประกาศการแสดง 17 รอบในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ โดยการแสดงแรกจะมีขึ้นที่คาร์ดิฟฟ์ในเดือนกรกฎาคม 2025 และตามด้วยการแสดงในแมนเชสเตอร์ ซึ่งเป็นเมืองที่วงก่อตั้งขึ้นในปี 1991 รวมถึงที่ลอนดอน เอดินบะระ และดับลิน
Oasis เปิดตัวอัลบั้มแรก "Definitely Maybe" เมื่อ 30 ปีที่แล้ว แต่วงกลับยุติการทำงานร่วมกันในปี 2009 เมื่อโนเอล กัลลาเกอร์ มือกีตาร์และนักแต่งเพลงหลักของวงกล่าวว่าเขาไม่สามารถทำงานร่วมกับเลียม น้องชายคนเล็กที่เป็นนักร้องหลักของวงได้อีกต่อไป
ในช่วงที่วงดังสูงสุดในทศวรรษ 1990 Oasis เป็นตัวแทนของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ Britpop ด้วยเพลงฮิตอย่าง "Wonderwall," "Live Forever" และ "Champagne Supernova"
แต่ความขัดแย้งระหว่างโนเอลและเลียมมักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมาระเบิดในปี 2009 ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมการแสดงในปารีส
ตั้งแต่แยกทางกัน ทั้งสองพี่น้องยังคงทำงานดนตรีต่อไป แต่ก็ยังมีเสียงเรียกร้องจากแฟนๆ ให้วงกลับมารวมตัวอีกครั้ง
การแสดงครั้งนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคการบริการของสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์เป็นอย่างมาก