“โย่ง เชิญยิ้ม - ครูโจ้” ภูมิใจที่สุดในชีวิต ได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง

ชื่นใจและภูมิใจที่สุดในชีวิต “โย่ง เชิญยิ้ม” และ “ครูโจ้ สุธีศักดิ์” ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ประจำปี 2566

วันนี้ (28 ส.ค. 67) กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประกาศบุคคลที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ จำนวน 12 ราย โดยแบ่งเป็น 3 สาขา ได้แก่ สาขาทัศนศิลป์ สาขาวรรณศิลป์ และ สาขาศิลปะการแสดง ซึ่งงานนี้ก็มีคนบันเทิงที่คุ้นหน้าตากัน อย่าง “โย่ง เชิญยิ้ม” พิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา และ “ครูโจ้ สุธีศักดิ์ ภักดีเทวา” ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติในครั้งนี้ด้วย

โดย “น้าโย่ง” ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2566 ในสาขาศิลปะการแสดง (การแสดงพื้นบ้าน-เพลงฉ่อย) และ “ครูโจ้” ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2566 ในสาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์สากล)

และล่าสุดหลังได้รับข่าวดี ทั้งสองคนก็ได้ให้สัมภาษณ์กับทางไนน์เอ็นเตอร์เทน โดย “น้าโย่ง” เปิดใจว่า “มันไม่ใช่ได้มาง่ายๆ เนอะ มันรู้สึกชื่นใจว่าคณะผู้พิจารณายังเล็งเห็นในสิ่งที่เราทำ เราก็ชื่นใจ เราก็มีโอกาสเผยแพร่ที่เรามีอยู่ในตัว เราดีใจตรงที่ว่าได้ทำประโยชน์ด้วย”

ด้าน “ครูโจ้” ได้เผยว่า “ดีใจและภูมิใจมากที่สุดในชีวิต เพราะ 1. สาขาที่ได้ (ศิลปะการแสดง-นาฏศิลป์สากล) เป็นศิลปินแห่งชาติคนที่ 2 ของประเทศไทย คนแรกที่ได้คือ ท่านผู้หญิงวราพร ปราโมช ณ อยุธยา ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของเราเอง ได้เมื่อปี 2560 เพราะสาขานี้หาคนที่จะเข้าใจอย่างถ่องแท้ได้ยากจริงๆ การที่เราได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติในสาขานี้จึงดีใจมาก

ประการที่ 2 คือ เรารู้สึกว่าได้เชิดชูวงศ์ตระกูล เพราะตระกูลเราเป็นสายเลือดศิลปินนักแสดง คุณย่าคือ สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต หรือ หม่อมหลวงสุลาลีวัลย์ สุริยง ณ อยุธยา ที่แฟนหนังชาวไทยคุ้นเคยในชื่อ ป้าทอง ก็เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง คุณพ่อ ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา ก็เป็นทั้งนักร้องนักแสดงที่คนไทยรู้จัก แต่ทั้ง 2 ท่านไม่ทันได้เป็นศิลปินแห่งชาติ มาสำเร็จในรุ่นเราเอง ซึ่งเป็นรุ่นที่ 3 จึงถือว่าได้เชิดชูวงศ์ตระกูลอย่างมาก เพราะในรุ่นต่อไปเราก็ไม่รู้ว่าลูกหลานเราจะยังรักในศิลปะการแสดงแบบนี้อยู่หรือเปล่า”

สำหรับผู้ที่ได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ จะได้รับสวัสดิการประกอบด้วย ค่าตอบแทนรายเดือนๆ ละ 25,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ ค่ารักษาพยาบาลตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลโดยอนุโลม เว้นแต่มีสิทธิเบิกจากหน่วยงานอื่น ให้เบิกจากหน่วยงานนั้นก่อน ถ้าเบิกจากหน่วยงานนั้นได้ต่ำกว่าสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ให้มีสิทธิเบิกในส่วนที่ยังขาดอยู่ได้อีกภายในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปีงบประมาณ เงินช่วยเหลือเมื่อประสบสาธารณภัยเท่าที่เสียหายจริง รายละไม่เกิน 50,000 บาท ต่อครั้ง ค่าของเยี่ยมในยามเจ็บป่วยหรือในโอกาสสำคัญเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 3,000 บาท ต่อครั้ง และในกรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือบำเพ็ญกุศลศพ รายละ 20,000 บาท เงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 150,000 บาท เป็นต้น

ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จะทำหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสนำศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2566 ทั้ง 12 คน เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานโล่และเข็ม เชิดชูเกียรติ ในวัน เวลา ตามแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ และจัดงานนิทรรศการเพื่อเผยแพร่ประวัติผลงานของศิลปินแห่งชาติ ให้ประจักษ์ต่อสาธารณะต่อไป