“ใบเตย” ร่ำไห้ หย่า “ดีเจแมน” แล้ว แต่ยังเป็นพ่อแม่ลูก รับทุกอย่างพัง ต้องกินยารักษา เป็นผู้ป่วยจิตเวช พ้อไม่มีใครโชคร้ายเท่านี้อีกแล้ว ยังดูแลในฐานะมนุษยธรรม บอกคนในไม่ท้อ คนรอก็ไม่ทิ้ง โต้แต่ง “ฟิล์ม” ไม่เป็นความจริง
หลังจากที่มีข่าวลือว่า “ใบเตย อาร์สยาม” สุธีวัน กุญชร ได้หย่าขาดจากสามี “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน” แล้ว ล่าสุดวันนี้ (26 ส.ค. 67) สาวใบเตยก็ออกมายอมรับทั้งน้ำตา ว่าได้หย่าขาดกับดีเจแมนแล้วจริงๆ โดยเจ้าตัวได้เปิดใจในกองถ่าย MV เพลงใหม่ ‘เเท่ด เเท่ด (TAD TAD)’ ของตัวเอง พร้อมเคลียร์ข่าวลือแต่งงานใหม่กับ “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ว่าไม่ใช่เรื่องจริง
“วันนี้ออกซิงเกิ้ลใหม่ ก็ดีใจค่ะ เหมือนได้กลับมาทำสิ่งที่ตัวเองรัก ทั้งที่ไม่คิดว่าจะมีสิ่งนี้เกิดขึ้นในชีวิต ดีใจมากๆ ที่ได้กลับมาเป็นใบเตยของทุกคน เป็นศิลปินที่ยังมีผลงานเพลงที่ยังรักมากๆ ให้ทุกคนมีความสุขกัน ซิงเกิ้ลนี้เป็นอีกเพลง ที่คิดว่าทุกคนจะได้เต้นกันทั่วประเทศทุกเทศกาลต่อจากนี้ไป และก็เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ทุกคนจะจดจำเราในพาร์ตของการเป็นใบเตย อาร์สยาม สั้นเสมอหู ก็ชื่อเพลงว่า Tad Tad หรือภาษาไทยก็ แท่ด แท่ด แต่ในเพลงถ้าได้ฟัง ก็จะรู้ว่าทำไมถึง Tad Tad มันคือเมโลดี้หนึ่งเท่านั้นแหละ อย่าคิดมากไปกว่านั้น (หัวเราะ) ถ้าคิดมากไปกว่านั้น ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นความหมายอย่างอื่นได้
จริงๆ เป็นเพลงที่เนื้อหาเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ผิดหวังจากทุกอย่าง แล้วได้มาเจอเพื่อน คือเราอยากให้เอ็นจอยกันทั่วประเทศ ได้ดื่ม ได้ดริ๊งค์ และรู้สึกว่าใครอกหักหรือใครมีปัญหาความรัก อกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน เพื่อนสาวใดๆ ทุกวันนี้มันคือที่พึ่ง เหมือนชวนมาจอยกัน เป็นการมาเต้นมาปลดปล่อย ส่วนท่าเต้นก็แซบมาก คิดว่าทุกคนจะได้เต้นตามกันแน่นอน ก็ฝากเต้นตามในติ๊กต๊อกด้วยนะคะ ม่วนแน่นอน ก็กะให้ทุกร้านทั่วประเทศ เปิดเพลงนี้กันอย่างแน่นอน ไม่แพ้แน่นอก
เรื่องชุดก็เป็นสไตล์เราเหมือนเดิม และสไตลิสต์ก็เหมือนเดิม ตั้งแต่เพลงแรกจนถึงเพลงนี้ ใบเตยก็อยากให้ทีมงานเก่าๆ ได้กลับมาทำให้เรา คือใบเตยรู้สึกว่าใบเตยรักทีมเดิม คนเดิมๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และ ณ วันนี้เรากลับมา เราเติบโตมาด้วยความรัก ความเอ็นดู ความเห็นใจ การดูแลจากทุกๆ คน และค่ายเก่าด้วย ค่ายเดิมด้วย เพราะฉะนั้นใบเตยอยากให้ทีมงาน ที่ร่วมสร้างสรรค์จนเราเป็น ใบเตย อาร์สยาม ได้กลับมาอยู่ในเพลงนี้เหมือนเดิม”
ไม่หวังกลับมาทวงบัลลังก์ แค่อยากทำในสิ่งที่รัก
“ใบเตยเฉยๆ มากกว่ากับบัลลังก์ แต่ ณ วันนี้ทำในสิ่งที่รัก ได้กลับมาร้องเพลงมอบความสุขให้แฟนเพลงทั่วประเทศ คือสิ่งที่เราโฟกัสถึงทุกวันนี้”
เกินฝัน ไม่คิดว่าจะได้กลับมาอีกครั้ง
“จริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมาตรงนี้อีกครั้ง ก็เกินฝันนะ (ต้องผ่านกระบวนการอย่างไร?) โห (หัวเราะ) เอาจริงๆ มันผ่านหลายกระบวนการอยู่นะคะ จนกว่าเราจะได้ออกมา และเราก็ฟื้นฟูสภาพตัวเองทุกๆ อย่าง จนได้กลับมามีงานคอนเสิร์ต จนได้กลับมา รู้แล้วว่าวันนี้เรายังมอบความสุขให้กับแฟนเพลงได้ วันนี้อยากขอบคุณเฮียฮ้อ (สุรชัยเชษฐโชติศักดิ์) มากๆ ที่ทำให้เราได้กลับมายืนตรงนี้ และเฮียก็มีทีมงาน ที่ดูแลทุกอย่างในตรงนี้ ทีมเวิร์กของเราทุกทีม และทุกๆ คนที่เป็นทีมงานใบเตย ที่สร้างและปั้นเรามาจนถึงทุกวันนี้ จนวันนี้มันก็ยังอยู่ด้วยกัน ขอบคุณมาก”
ไม่ต้องปัดฝุ่นใหม่ เพราะยังทำได้เหมือนเดิม
“คือแทบไม่เลย ถ้าเรื่องของเสียงหรือรูปร่างเอา จริงๆ ผอมลงมากๆ นี่คือสิ่งที่เรารู้สึกว่าเป็นข้อดี เพราะทำให้การเต้นมันยังทำได้ ยังแข็งแรง ยังแซบได้อยู่ ยังเต้นไหว ต้องบอกว่าตัวเองเป็นศิลปินยุค 2000 อันนี้ 2024 แล้ว มันมีหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนแปลง และความจริงแล้วเรามองว่า ไม่รู้ตัวเองเอาต์ไปหรือเปล่า แต่ด้วยความเป็นลูกทุ่ง ที่มันยังเป็นใบเตย หนูก็ยังรักความเป็นลูกทุ่งของหนูมากๆ หนูก็ยังรู้สึกว่าโอเค เราก็เป็นใบเตย ที่มันลูกทุ่งอาร์สยามเหมือนเดิม คือทางของเราก็ค่อนข้างที่จะทำให้ทุกคนมีความสุข ในทางของเราก็ฝากเพลง Tad Tad ด้วยนะคะ ซิงเกิ้ลล่าสุดจากใบเตย อาร์สยาม คัมแบ็กรอบนี้ก็กลับมา คิดว่าคงเต้นให้ทุกคนได้ดูแบบแซบที่สุดเหมือนเดิม และก็อยากให้ทุกที่ ทุกร้าน ได้เต้นตาม ต่อให้ท่อนเดียวก็ดีใจแล้ว ฝากด้วยนะคะ”
น้ำตาคลอเผยสภาพจิตใจ รับยังหนัก แต่ต้องมีสติ ในชีวิตที่พังทลาย
“โห ณ วันนี้เหรอคะ…เอาจริงก็ยังหนัก (เสียงสั่น) แต่ ณ วันนี้สิ่งสำคัญเลย ต้องมีสติกับทุกๆ วัน ที่ตื่นมามากๆ จริงๆ อยู่ได้ด้วยกำลังใจจากทุกคน การทำงานช่วยได้เยอะมาก ตื่นมาทุกวันก็ต้องบอกกับตัวเอง ว่าต้องทำงานให้ได้นะ ต้องมีสติ เอาจริงๆ ก็ยอมรับว่าหลายๆอย่างในชีวิต ค่อนข้างพังทลายไปค่อนข้างเยอะพอสมควร โดยเฉพาะสภาพจิตใจค่ะ”
ต้องกินยารักษาซึมเศร้า ถึงจะนอนหลับสนิท
“ไม่ค่ะ ใช้ยาหมด ยังรักษาโรคซึมเศร้าอยู่ตลอด เป็นผู้ป่วยจิตเวช ตั้งแต่อยู่ในนั้น จนถึงวันนี้ค่ะ ก็ได้คุยกับคุณหมอถึงขั้นตอนการรักษา ก็พยายามทานยาอยู่ตลอด ทานยาตามที่หมอสั่ง แต่ ณ วันนี้ก็ดีขึ้นมาก ค่อยๆ เบายาหลายๆ ขนานลงมากขึ้น แต่หลักๆ ต้องหลับให้ได้ เพราะถ้ามันนอนไม่พอ ก็จะทำอะไรไม่ได้ในแต่ละวันเลย (เรื่องไหนที่มันยังคาใจ ที่ยังไม่เคยออกไปไหนจากหัวเรา?) มันคือภาพรวมมากกว่าค่ะ ในวันที่ชีวิตไม่เหมือนเดิม ในวันที่เราค่อนข้างสูญเสียผู้นำครอบครัวไปทั้งหมด (เสียงสั่น) ทั้งแฟนน้องลุกซ์ (ชาญวิทย์ ทวีสิน) ทั้งพี่แมนมันเปลี่ยนแปลงไปหมด”
เจอมาเยอะและหนักหนา จนมองผ่านดรามาหรือคอมเมนต์ลบ
“เอาจริงๆ นะ วันนี้หนูมองผ่านเรื่องนั้นไปนานมาก เหมือนชีวิตเราเจออะไร ที่สุดมากกว่านั้นมาเยอะมากๆ มันก็สร้างความเข้มแข็ง ในเรื่องของอะไรตรงนี้ได้พอสมควร เอาจริงๆ ชีวิตจริงของเราหนักหนาไปเยอะมากๆ ก็เลยไม่ค่อยให้ดีเทลกับคอมเมนต์อะไรอย่างนี้แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเราก็สตรองกับตรงนี้มาตลอด”
มองเป็นเรื่องปกติ เจอคอมเมนต์ดรามาเวลาไลฟ์ขายของ
“ปกติค่ะ มันเป็นสาธารณะ เมื่อเรามีชื่อเสียง เราก็ต้องยอมรับตรงนี้ให้ได้ เราเพียงแค่มองผ่าน”
ทุกวันนี้ต้องมีสติสุดๆ เพื่อเรียบเรียงปัญหาต่างๆ ที่เข้ามา
“โห เรียบเรียงเยอะมากๆ ไม่ใช่แค่ดีเทลปัญหาหรอก แต่ในชีวิตที่เราต้องรับผิดชอบ ทั้งตัวเอง ทั้งลูก ทั้งงาน ทั้งคนในครอบครัว เราแบกรับทุกอย่างอยู่คนเดียว ณ วันนี้เราต้องมีสติในการบริหารชีวิต และทุกๆ อย่างคนเดียวเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องลูก ที่มันค่อนข้างเซนซิทีฟ แล้วค่อนข้างที่จะมีเอฟเฟกต์กับสภาพจิตใจเราพอสมควร เราก็ต้องมีสติสุดๆ”
อธิบายกับลูกสาวน้อยมาก พยายามทำหน้าที่ให้สมบูรณ์แบบที่สุด
“เราก็อธิบายให้น้อยที่สุด ณ วันนี้ เอาจริงๆ พอเรากลับมา เขาก็ไม่ได้สอบถามอะไรมากมาย เราก็พยายามทำหน้าที่ให้สมบูรณ์แบบที่สุด เป็นทั้ง 2 คน เป็นทั้ง 2 อย่าง เป็นแทบทุกๆ อย่าง และคนรอบข้างก็ช่วยกันดูแลเวทมนต์อย่างเต็มที่มากๆ นับตั้งแต่ที่อยู่ในนั้น จนถึงวันนี้”
การแบ่งเวลาเป็นเรื่องหนักมากกับชีวิต ไปส่งลูกตอนเช้าและไปเยี่ยมสามีต่อ ทำแบบนี้มาเกือบปีแล้ว
“อันนี้เป็นเรื่องที่หนักมากกับชีวิตก็ตื่นเช้าไปส่งลูก แล้วหลังจากนั้นก็ไปเยี่ยมสามีเป็นอย่างนี้มาเกือบปีแล้ว”
อุบตอบอธิบายลูกว่ายังไงขอเป็นเรื่องภายในครอบครัว
“มีคำตอบค่ะ แต่ขอเป็นเรื่องภายในครอบครัว ซึ่งเวทมนต์เขาก็เข้าใจเขาโอเคเขาสดใสเพราะเขาถูกเลี้ยงมาด้วยความสุขแหละ
ยอมรับข่าวลือเป็นจริง เลิกและหย่ากับ “ดีเจแมน” เรียบร้อยแล้ว
“ก็…ค่ะ ตามนั้น ก็ได้หย่ากันจริงค่ะ ไม่ใช่ในช่วงที่ผ่านมาค่ะ แต่ตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว อันนี้ใบเตยของอนุญาตไม่ลงดีเทลตรงนี้ เพราะมันก็แย่ (เสียงสั่น) มันก็ส่งผลอะไรหลายๆ อย่าง คือที่ผ่านมาเราไม่เคยได้ออกมาพูดอะไร เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเซนซิทีฟหลายๆ อย่างของตัวเราเองด้วย คนในครอบครัว (หย่าโดยนิตินัย?) มันหลายๆ องค์ประกอบค่ะ อันนี้ไม่สามารถลงดีเทลได้”
ในทางกฎหมายไม่ได้เป็นสามีแล้ว แต่ความเป็นพ่อแม่ลูกยังมีอยู่เสมอ
“ถ้าในทางกฎหมายไม่เป็นแล้วค่ะ แต่ถ้าในทางชีวิต ความเป็นพ่อแม่ลูก ยังมีอยู่เสมอค่ะ (แล้วคำว่าสามี?) เอ่อ…(หัวเราะ) อันนี้หนูไม่ขอตอบแล้วกันค่ะ”
จบด้วยดี ตัดสินใจร่วมกันทั้งสองฝ่าย
“ใช่ค่ะ จบลงด้วยดี และเป็นการตกลงกันภายในครอบครัวค่ะ แต่ความรู้สึกยังเหมือนเดิมค่ะ ในความเป็นพ่อแม่ลูก ในความที่เป็นคู่ชีวิตกันมาตลอด ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง คือเรายังพยายาม อย่างตัวใบเตยเอง ก็จะบอกทุกคนว่า เราพยายามรักษาครอบครัวที่สุดแล้ว (เสียงสั่น) ต่อให้หลายๆ เรื่อง ต้องยอมรับว่ามันก็ทำให้เหมือนคนบ้านพัง”
ตัดสินใจจากภาพรวมหลายๆ อย่าง
“เอาจริงๆ แล้วโดยภาพรวมหลายๆ ค่ะ ครอบครัวทั้งสองครอบครัวก็รับทราบตั้งแต่ต้นค่ะ (ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาทางครอบครัวแมนก็ไม่สบายใจได้คุยกันเรื่องนี้หรือยัง?) ไม่ได้คุยค่ะ เอาจริงๆ ใบเตยไม่ขอพูดถึงบุคคลอื่นแล้วกัน ถ้าวันนี้มันเป็นเรื่องของใบเตย อันนี้คือจากปากใบเตย ที่เป็นเรื่องจริงทั้งหมด”
คนในไม่ท้อ คนรอไม่ทิ้ง ยังไปเยี่ยม “ดีเจแมน” อยู่ตลอด
“ไปตลอดค่ะ เรายังรักษาความเป็นครอบครัวอย่างที่สุด คนข้างในไม่ท้อ คนรอก็ไม่ทิ้งแน่นอนค่ะ ก็ให้กำลังใจเขาเยอะค่ะ เขารู้ แล้วทุกคนในนั้นจะได้เห็นใบเตยไปเยี่ยมพี่แมนอยู่ตลอด สภาพจิตใจเขาก็เข้มแข็งค่ะ ถามว่าอะไรทำให้อยากจับมือเขาอยู่ มันไม่มีเหตุผลอะไรเลย มันคือความเป็นมนุษย์ มนุษยธรรมมากๆ ที่มันไม่มีทางทิ้งกันแน่นอน”
ยังรักเหมือนเดิม เขียนจดหมายบอกตลอด
“รักค่ะ (เสียงสั่น) อาจจะไม่ได้กับปาก แต่ว่าในนั้นมันมีจดหมายที่ได้เขียนไปตลอด (น้ำตาไหล) ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องยากค่ะ ยากสุดๆ ยากที่แบบว่าหนูว่าคงไม่มีใครโชคร้ายเท่านี้อีกแล้วละ”
ก่อนออกมาพูดวันนี้ก็ไม่ได้บอก พยายามไม่คุยเรื่องโลกภายนอก
“ไม่ได้บอกเลยค่ะ คือจะพยายามไม่คุยกันเรื่องโลกข้างนอก อยู่ในนั้นให้เขารักษาชีวิต (เสียงสั่นน้ำตาไหล) เพื่อให้ได้ออกมาเจอหน้าครอบครัว ส่วนพี่แมนจะยังมีความหวังไหม ไม่รู้อนาคตเลย คือชีวิตทุกวันนี้เราวันต่อวัน ทุกอย่างมันจะเริ่มต้นใหม่หรืออะไรได้ คง ณ วันที่ทุกอย่างตัดสินแล้ว วันนั้นภาพชีวิตเราถึงจะแน่ชัดมากกว่านี้ค่ะ”
ความสุขวันนี้คือลูกและการร้องเพลง ไม่คิดว่าจะได้กลับมาตรงนี้อีกครั้ง
“คือลูกค่ะ กับการได้ร้องเพลง ดีใจมากๆ ที่หลายคนให้โอกาส เพราะไม่ได้คิดเหมือนกัน ว่ายังจะได้กลับมายืนตรงนี้ ได้มีงาน มีคนที่ให้โอกาส วันนี้มันก็เกินฝัน (เสียงสั่น) คือขอแค่ได้มาทำในสิ่งที่รักเหมือนเดิม ได้มารับใช้แฟนเพลง ได้ทำหน้าที่มอบความสุขเหมือนที่เคยทำมาตลอด ก่อนหน้านี้ไม่คิดจะกลับมาด้วยซ้ำ เพราะว่าเรารู้สึกว่ามันไม่ได้อีกแล้ว มันคงเป็นความรู้สึกที่กัดกินเรามาตลอด เรารู้สึกว่าสังคมคงไม่ต้อนรับแล้ว คงไม่มีใครอยากฟังเพลง อยากฟังเสียงเรา คงไม่มีคนคิดถึงศิลปินคนนี้อีกแล้ว”
วันแรกที่กลับมาร้องเพลง ตื่นเวทีและจำเนื้อไม่ได้ แถมยังไม่กล้าสบตาใคร
“จำได้ค่ะ ตอนนั้นเหมือนยังงงๆ ก็ยังจำเนื้อไม่ค่อยได้ ยังแข็งๆ เพราะไม่ได้ขึ้นนานออก แนวตื่นเวที แล้วก็ไม่ค่อยกล้าสบตาใคร (ทุกวันนี้ทุกอย่างดีขึ้นแล้ว?) ค่ะ คือที่ตัดสินใจรับงาน ณ ตอนนั้นเมื่อ 10 เดือนที่แล้ว เพราะเรารู้สึกว่าเราอยากลองดู ว่าการร้องเพลง มันช่วยเยียวยารักษาโรคซึมเศร้าที่เป็นอยู่ได้ด้วยหรือเปล่า ถ้าเราทำตรงนี้แล้วมันดีขึ้น เหมือน ณ วันนี้ใบเตยพูดอะไรไม่ค่อยได้กับหลายๆ อย่างในชีวิต ถ้าได้ระบายออกมาเป็นเพลงคงดีซึ่งมันก็ดีค่ะ”
ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ และยังเชื่อมั่นในผู้หญิงคนนี้
“เอาจริงๆ ขอบคุณมากๆ คือ ณ วันนี้สิ่งที่อยากขอบคุณมากที่สุด ขอบคุณทุกคนที่ยังเชื่อมั่นในตัวผู้หญิงคนนี้ ขอบคุณทุกคนที่ยังคิดถึงทุกเพลงของใบเตย อาร์สยามค่ะ ขอบคุณค่ายอาร์สยาม ขอบคุณเฮีย ขอบคุณอาร์เอสมิวสิกทุกคน ที่ ณ วันนี้ยังอยู่ข้างๆ ศิลปินผู้หญิงคนนี้สั้นเสมอหูคนนี้มาตลอด ณ วันนี้ก็อยากขอโอกาส อยากมีโอกาสได้มอบเสียงเพลงให้กับทุกคนตลอดไปค่ะ”
ยันข่าวปลูกต้นรักและแต่งงานกับ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ไม่ใช่เรื่องจริง
“คืออันนี้หนูก็ไม่รู้เลยค่ะ ข่าวออกมา…ก็อย่างที่บอกว่าไม่ขอพูดถึงกรณีบุคคลอื่น ซึ่งใบเตยว่าทุกคนได้ทำหน้าที่ตอบคำถามตรงนี้ของตัวเองแล้ว ก็ตามนั้นเลยค่ะก็ไม่ได้มีอะไรค่ะ ในข่าวไม่มีเรื่องจริงค่ะ ถามว่าตกใจไหม ตอนแรกก็งงค่ะ แต่พอย้อนไปกับพี่ฟิล์ม ด้วยความอยู่ค่ายเดียวกัน มันก็จะมีข่าวนี้กับแก 10 ปีที่แล้วก็มี 15 ปีที่แล้วก็มี คือเหมือนได้ร่วมกันอะไรด้วยกันก็จะมีตลอด แต่อันนี้ก็งงเหมือนกันค่ะ แต่ว่าก็อย่างที่บอก ว่ามันมีที่มาที่ไป อย่างที่พี่ฟิล์มเล่าให้ทุกคนฟัง หลังมีข่าวก็ได้คุยกันค่ะ พี่ฟิล์มโทร.มาอยู่ ว่าเนี่ยลงคลิปไปแล้ว เราก็บอกว่าเห็นแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไร ก็โอเคเข้าใจ คือสำหรับใบเตย เรารู้สึกว่ามันค่อนข้างไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรา แล้วข่าวมันก็ไม่จริง”
สวยขึ้นเพราะดูแลตัวเอง อยากรักษาชีวิตเพื่อเจอหน้าลูก
“จริงเหรอคะ (หัวเราะ) เอาจริงๆ ณ วันนี้อย่างที่บอกว่าสิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ คือการที่ใบเตยได้อยู่ในนั้น มันทำให้ใบเตยรักษาชีวิต รักษาร่างกาย รักษาทุกอย่าง เพื่อให้ได้ออกมาเจอหน้าลูก เพราะฉะนั้นมันก็เลยค่อนข้าง กิน หลับ ตื่นนอน อย่างมีวินัยทั้งหมดค่ะ ก็เลยสืบเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ แล้วก็คงผอมลงมากๆ ด้วยแต่น้ำหนักเพิ่งขึ้นมาเดือนนี้แหละค่ะตอนนี้ประมาณ 42 จาก 37”
ชีวิตตอนนี้ดูวันต่อวัน ไม่ได้วางแผนขอแค่มีความสุข
“เอาจริงๆ ชีวิตตอนนี้วันต่อวันเลย ทุกวันนี้เวลาไปสวดมนต์ ขอพรไม่ขออะไรเลย แค่ขอให้ตัวเองมีความสุขในทุกวันแค่นั้นพอ เพราะที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าชีวิตไม่เคยมีความสุขเลยค่ะ ณ วันนี้ขอแค่ให้ทำอะไรก็ได้ และมีความสุขในทุกวัน”
จากวันนั้นถึงวันนี้ เปอร์เซ็นต์ความสุขยังเพิ่มขึ้นน้อยมาก
“มันน้อยมากมันยังอยู่ในจุดที่…เอาจริงๆ ก็ยังรับทุกอย่างไม่ได้ค่ะหมายถึงว่าสภาพจิตใจต่างๆ ยังรับการสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชีวิตไม่ได้ คือหลักๆ เป็นเรื่องการสูญเสียแฟนน้องลุกซ์ด้วย คือครอบครัวเราไม่เคยได้เจอการสูญเสียหนักขนาดนี้ ซึ่งหนูก็รู้สึกว่าทุกคนน่าจะเข้าใจ ว่าใครเจอขนาดนี้ก็หนักค่ะ”
ไปไหว้พญาศรีสัตตนาคราช ขอเรื่องธุรกิจ และเรื่องงานถ้าปังจะไปเล่นคอนเสิร์ตให้
“ไปขอพรค่ะ เพราะเราปีมะโรง ก็สายพญานาคค่ะ เอาจริงๆ ไม่ได้คิดอะไร เพราะมีแฟนคลับอยู่ที่นั้น ก็เลยไปเยี่ยมแฟนคลับด้วย ก็ไปขอพรเยอะขอเรื่องงานหลักๆ กับเรื่องที่ตอนนี้ทำแบรนด์สินค้าคอสเมติกส์ ไม่อยากให้มองว่าเป็นนักร้องหรืออะไร เราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่ทุกวันนี้พยายามทำงานทุกอย่างที่เกิดรายได้ ให้กับชีวิตและครอบครัว ก็เลยเป็นทั้งแม่ค้าและนักร้อง ก็ผลิตกับทางอาร์เอสมอลล์ แล้วก็ขอเรื่องเพลง ขอให้มีงานได้ไปมอบความสุข ให้กับแฟนเพลงทั่วประเทศเหมือนเดิม แค่นี้เลย ถ้าปังก็จะไปเล่นคอนเสิร์ตเพลง แท่ด แท่ด ที่หน้าพญาศรีสัตตนาคราชค่ะ แล้วก็ได้เสี่ยงดวงมาด้วยได้ธูปมางวดสิ้นเดือนนี้เดี๋ยวจะบอกค่ะ (หัวเราะ)”
เผย “น้องเวทมนต์” ได้เลือดแม่มาเต็มๆ 4 ขวบแล้วรู้เรื่องเกือบทุกอย่าง
“เขาก็กำลังอยู่ในช่วงที่รับรู้ เกือบรู้เรื่องทุกอย่างค่ะ แต่ ณ วันนี้เหมือนเขาก็โฟกัสในเรื่องของการไปโรงเรียน เพราะรักเพื่อนมาก มีเพื่อนแล้วเขาสดใส มีความสุข ได้กลับมาเล่าโน่นนี่นั่นให้ครอบครัวได้ฟัง แล้วก็เป็นช่วงที่ช่างพูด ช่างคุย ช่างเจรจาค่ะ อยากไปโน่นนี่ วันนี้ก็อยากมามาก ได้เลือดแม่เต็มๆ ค่ะ แต่ก็รู้สึกว่าเขาไปในทางเต้นมากกว่าร้อง วันเกิดที่ผ่านมาก็ดีค่ะ น่ารักๆ อบอุ่น ได้ทำบุญตื่นมาตักบาตรตอนเช้าตอนเย็นก็ไปกินข้าวกันในครอบครัวเล็กๆ ค่ะตอนนี้เขาก็ 4 ขวบแล้ว กำลังเจื้อยแจ้ว”
