“ณเดชน์” โอดอยากมีลูกเยอะๆ แต่ถูก “ญาญ่า” ดับฝันไปแล้ว มั่นใจจะเป็นพ่อที่น่ารักและเท่

“ณเดชน์” ถอดเฝือกแล้ว แต่ยังต้องกายภาพ หมอยังสั่งห้ามยกของหนัก ห้ามให้มือไปกระแทกอะไรแรงๆ แต่มั่นใจหายทันเปิดรอบละครเวทีรอบใหม่แน่นอน เผย “ญาญ่า” ดูแลอย่างดี ถ้าดื้อก็โดนดุตามระเบียบ บอกทริปทะเลล่าสุดโรแมนติกมาก เพราะเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง เผยได้คุยกันทั้งเรื่องแต่งงานและเรื่องลูก บอกตนอยากมีลูกเยอะๆ แต่โดนแฟนสาวเบรกแล้ว มั่นใจมีลูกจะเป็นพ่อแม่ที่น่ารักและเท่มาก

กลับมาออกงานแบบไม่ใส่เฝือกที่มือขวาได้แล้ว สำหรับพระเอกหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ซึ่งเจ้าตัวเผยถึงเรื่องนี้ในงาน เบสท์อินเตอร์เนชั่นแนล x ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 71 ณ บริเวณบูธ เบสท์ อินเตอร์เนชั่นแนล ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ บอกว่าตอนนี้ถอดเฝือกแล้ว แต่ยังต้องระวังและยังต้องกายภาพอยู่เรื่อยๆ เพราะมีพังผืดที่ยังไม่หาย และหมอยังห้ามไม่ให้ยกของหนัก หรือใช้มือแบบรุนแรง

“อาการบาดเจ็บที่มือตอนนี้ดีขึ้นครับ เอาเฝือกออกแล้วครับ แต่ก็ต้องทนกับการกายภาพ เพราะว่ามันมีพังผืดที่เกาะนิ้วและกล้ามเนื้อในตำแหน่งที่ต้องผ่าตัด ก็ต้องทำกายภาพค่อนข้างเยอะ และอีกไม่นานก็จะเป็นการฝึกใช้แรง การกำอะไรต่างๆ แต่โดยรวมคือดีขึ้นครับ เอาเฝือกออกตั้งแต่ประมาณวันที่ 10 กว่าๆ ครับ เป็นอิสระจากเฝือกแล้ว แต่ก็ยังต้องระวังอยู่ เพราะมันก็ยังมีความเปราะบางอยู่ครับ คุณหมอก็พยายามให้ใส่ตัวซัปพอร์ตไว้อยู่เป็นประจำ เวลานอน เวลาทำกิจกรรม ถ้าว่างก็ใส่ได้ กระดูกก็เชื่อมกันได้ดีแล้วครับ คุณหมอแฮปปี้ ผมก็แฮปปี้ครับ (หัวเราะ)

จริงๆ ก็เร่งครับ อยากให้ทุกอย่างมันหายได้ก่อนเวลาที่เรากำหนดได้ ก็พยายามที่จะดูแลตัวเองค่อนข้างเยอะครับ แต่รับรองว่ายังไงก็ทันแน่นอนครับ จริงๆ เดือนกันยายนก็น่าจะกลับมาปกติแล้วครับ แต่การใช้แรงในลักษณะของการกระแทก หรือการทำอะไรที่ต้องใช้มือไปฟาด หรือยกของหนักๆ อาจจะยังไม่เหมาะสมในตอนนี้ครับ คุณหมอบอกว่าประมาณปีนึงแหละครับ อย่างเช่นกีฬาพวกชกมวยก็ยังไม่ให้เล่น ส่วนยกเวทก็เล่นได้ตอนที่พังผืดหายแล้ว คือมือขวากำไม่ได้ครับ มันยังเป็นพังผืดอยู่ มันตึง ก็กำได้แค่นิดหน่อย แต่มั่นใจว่าหายทันแน่ๆ เพราะว่าเพิ่งเอาเฝือกออก ก็เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ครับ”

ลั่นกลับไปคราวนี้ทุกอย่างเต็มที่เหมือนเดิม ซิกแพ็กแน่นกว่าเดิมแน่นอน
“ละครเวทีตอนนี้เริ่มกลับมาขายบัตรแล้วครับ สำหรับคนที่มีบัตรในรอบที่แล้วที่ยังไม่ได้มาชม ก็ถูกเลื่อนไปเรียบร้อยแล้ว ใครที่ติดขัดอะไรก็ลองโทร.เข้ามาทางคอลเซ็นเตอร์ หรือเดินเข้าไปที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขาได้ครับ รอบนี้เราเปิดรอบเพิ่มด้วยครับสำหรับคนที่อยากที่จะเปลี่ยนวัน หรือคนที่ยังไม่มีโอกาสได้ดูในช่วงแรก ตอนนี้ก็สามารถมาจับจองบัตร จองที่นั่งได้ก่อนใครแล้วตอนนี้ครับ

เดือนหน้าผมก็จะกลับไปซ้อมแล้วครับ ไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรครับ ทุกอย่างเหมือนเดิมหมดครับ แต่ในส่วนของพี่กบ (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) คือพี่กบติดงานสำคัญจริงๆ ที่ไม่สามารถที่จะเลื่อนได้ เป็นงานสำคัญมากๆ ของพี่กบครับ เลยต้องมีการแคสบทของพี่กบ ก็เลยเป็นพี่ชาย (ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ) มาแทนครับ สำหรับผมจริงๆ มั่นใจว่ากลับมารอบนี้จะบอกว่าดีเท่าเดิมก็ได้ แต่จริงๆ อยากทำให้ดีขึ้นในทุกๆ รอบครับ ผมเชื่อว่าตัวบทประพันธ์หรือแคสทั้งหมดในเรื่องนี้ ทำให้ละครเรื่องนี้สนุก และน่าจดจำ ทุกคนจะได้ทั้งเสียงหัวเราะ ความสนุก ความมัน ความซึ้ง ความกินใจแน่นอน ก็อยากเรียนเชิญทุกคนมาชมฟ้าจรดทราย เดอะ มิวสิคัลกันได้นะครับ เราจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.นี้เป็นต้นไปเป็นรอบแรก ใครที่เช็กคิวแล้วว่างก็อยากจะเรียนเชิญมาชมได้เลยครับ

เรื่องซิกแพ็ก ผมไม่ยอมครับ เพราะหลายๆ คนในแคสเราแอบไปซุ่มปั้มหุ่นกันมาแล้ว ผมก็เลยบอกว่ากลับไปคราวนี้ผมจะไม่ยอมใครทั้งสิ้น (หัวเราะ) ยอมไม่ได้ครับ ผมจะทำให้โหดกว่าเดิมแน่นอน แต่ของเดิมก็พยายามคงเสถียรภาพไว้ให้ได้ดีที่สุดครับ เพราะพอออกกำลังกายไม่ได้ก็จะรู้สึกว่าเราต้องระวังการกินแทน แต่ดีครับ มั่นใจว่ากลับมาเต็มที่แน่นอนเต็ม 100% ครับ”

บอก “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” ดูแลดี และทริปทะเลที่ผ่านมาก็โรแมนติกมากๆ
“น้องดูแลตลอดครับ ไม่ให้ทำอย่างโน้น อย่าทำอย่างนี้ บางทีเราก็ลืม ใช้ชีวิตปกติเกินไป ต่างคนก็ต่างดูแลกัน บางทีเราก็อยากดูแลเขา ก็ยังต้องระวัง แต่เขาก็ดูแลตลอดครับ ถ้าผมดื้อเขาก็มีดุครับ เขาเป็นห่วงครับ แต่ไม่ถึงกับว้ากครับ เขาอ่อนโยน ไม่กลัวพยาบาลคนนี้ครับ ไม่มีอะไรให้น่ากลัวเลยครับ

ก็เพิ่งไปทะเลด้วยกันมา พอดีว่างก็เลยไปเที่ยวพัทยากัน ทะเลหวาน แต่อากาศก็ร้อนอยู่ดี (หัวเราะ) แต่ช่วงนั้นเป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงด้วย ก็เป็นวันที่ดี เป็นทริปที่ดีมากๆ ครับ ไปนั่งปิกนิกริมชายหาด แล้วก็เอาอะไรไปกินแค่นั้นเอง ดูพระอาทิตย์ตก แล้วก็รอดูพระจันทร์ เพราะเขาบอกว่าวันนั้นเป็นฟูลมูนด้วย เป็นช่วงเวลาที่ดีมากครับ พระจันทร์สวย น้องก็สวยเสมอกันครับ

ถามว่าผมโรแมนติกไหม คือผมว่าคนเราโรแมนติกได้ถ้าเรารู้สึกว่าเราอยากที่จะให้อะไรกับคนที่เรารัก หรือคนที่เราดูแล ผมว่าถ้าในฐานะคนรัก การให้หรือการดูแลเอาใจใส่ หรือว่าการทนุถนอม ผมตีความว่ามันเป็นความโรแมนติกแล้วกัน แต่ถ้าสมมติความโรแมนติกจะเป็นการสัมผัสกัน ก็อาจจะผิวเผินเกินไป แต่ผมว่ามันคือการที่เราอยากให้ อยากทำให้”

บอกคุยเรื่องแต่งงานกันเรื่อยๆ แต่ที่คุยจริงจังคือเรื่องลูก บอกอยากมีหลายๆ คน
“ยังไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากครับ ก็มีคุยๆ กันเป็นแพลนไว้อยู่ ก็มีคุยเรื่องบ้านบ้าง คือมันมีหลายอย่าง มีทั้งบ้าน มีทั้งงานแต่ง ถ้าเราเร่งๆ กันหรือเคลียร์ให้จบภายในวันเดียว มันคงเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องค่อยๆ คิด ค่อยๆ วางแผน ค่อยๆ แชร์ไอเดียกัน ก็สนุกดี บ้านตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงของการพิมพ์ภาพไว้ครับ (หัวเราะ) ก็มีวาดเลย์เอาต์ไว้ว่าอยากได้มุมอย่างนี้ อยากได้ห้องตรงนี้ ต้องมีห้องนี้ประมาณนี้ ก็อยู่ในช่วงการวางแผน แต่ยังไม่ถึงขั้นออกแบบโครงสร้างขนาดนั้น

เรื่องลูกก็ยังไม่ใช่ตอนนี้แน่ๆ แต่ถามว่าอยากมีไหม ก็มีอยากกันครับ จริงๆ ก็คุยกันตลอด ชอบแชร์ภาพเด็กกันในโพสต์ จริงๆ เขาเป็นคนเข้ากับเด็กๆ ได้ค่อนข้างดีมากๆ เลย ผมว่าถ้ามีเราคงเป็นพ่อแม่ที่น่ารักและเท่มากๆ แต่เราก็คุยเรื่องนี้กันค่อนข้างซีเรียส เพราะถ้าพอถึงเวลาจริงๆ การที่เราจะดูแลชีวิตอีกชีวิตนึง ความคิดหรือการตัดสินใจมันต้องไปในทิศทางเดียวกัน ไม่งั้นเดี๋ยวจะทะเลาะกัน ลูกอาจจะเกิดความสับสน ความขัดแย้ง อาจจะรักพ่อมากกว่า รักแม่มากกว่า ไม่ได้คุยกับพ่อกับแม่สักเรื่องหรือทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นการที่เราจะตัดสินใจอะไร ณ ช่วงที่เรามีลูก ทุกอย่างจะต้องเดินไปพร้อมๆ กัน ตัดสินใจก่อน คุยให้เคลียร์ก่อน แล้วค่อยไปใช้กับลูก

ถามว่าอยากมีแฝดไหม ผมน่ะอยากมีเยอะๆ (หัวเราะ) เยอะแค่ไหนไม่รู้ แต่รู้สึกว่าอยากมีเยอะๆ แต่คุยกับน้องแล้ว น้องส่ายหน้านะ บอกว่าไม่เอา (หัวเราะ) แต่ก็ดูต้องตัวเองก่อน เพราะเรื่องค่าใช้จ่ายหรืออะไรหลายๆ อย่างก็เป็นเรื่องที่เราเพิกเฉยไม่ได้ จริงๆ ก็มีทีละคนแหละครับ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ไปกันเรื่อยๆ ยังไม่รีบครับ”