แพง, แรง และถูกกฎหมาย "คีตามีน" ยาที่คร่าชีวิตดาราดัง "แมทธิว เพอร์รี่"

การเสียชีวิตของแมทธิว เพอร์รี่: ข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้คีตามีนและผลกระทบที่เพิ่มขึ้นในสังคม

ในขณะที่แพทย์นิติเวชของลอสแอนเจลิสเคาน์ตีทำการตรวจสอบการเสียชีวิตของแมทธิว เพอร์รี่ในปีที่ผ่านมา พวกเขาค้นพบสิ่งที่น่าตกใจ ปริมาณคีตามีนในกระแสเลือดของเพอร์รี่มีปริมาณใกล้เคียงกับที่ใช้ในยาสลบทั่วไป จากการชันสูตรศพของเขา

การเสียชีวิตของเพอร์รี่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโดยกรมตำรวจลอสแอนเจลิสและสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (DEA) ได้สร้างความสนใจต่อการใช้คีตามีนที่เพิ่มขึ้นในวงการแพทย์และสังคม ที่ในขณะนี้กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนมีฐานะ

คีตามีนซึ่งเคยเป็นที่รู้จักในชื่อ “Special K” หรือ “Super Acid” ในวงการยาเสพติดตอนนี้ได้กลายเป็นยาใหม่ที่กลุ่มคนรวยและมีชื่อเสียงนิยมใช้ ซึ่งบางส่วนมีการสั่งจ่ายยาผ่านบริการออนไลน์หรือคลินิกที่ให้การรักษาผ่านการฉีดยาเข้ากระแสเลือด


“ยาแบบนี้ที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มคนมีเงิน และฮิตขึ้นมาในวงสังคมบางกลุ่ม” ดร. เดวิด กู๊ดแมน-เมซา ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษายาเสพติดและโรคติดเชื้อจาก UCLA กล่าว

แม้ว่าคีตามีนจะถูกใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้าและปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ แต่บางคนกลับนำยาไปใช้โดยไม่มีการดูแลทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพ

ว่ากันว่า เพอร์รี่ ใช้คีตามีนในการรักษาทุกสองวันในช่วงเวลาหนึ่ง แต่จากรายงานของผู้ตรวจการแพทย์ระบุว่าเขาได้ลดปริมาณการใช้ยาลงและการฉีดยาครั้งสุดท้ายของเขาเกิดขึ้นกว่าหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต แต่ยังพบปริมาณคีตามีนในกระแสเลือดของเขาเมื่อเสียชีวิต

การเสียชีวิตของเพอร์รี่ได้รับความสนใจอย่างมากจากสาธารณะและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้คีตามีนในทางที่ผิดและการใช้ยานี้โดยไม่มีการดูแลจากแพทย์อย่างถูกต้อง

แม้ว่าแพทย์บางคนจะสนับสนุนการใช้คีตามีนในการรักษาอาการป่วยทางจิต แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในระยะยาวของการใช้ยานี้ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่ได้รับการทดสอบอย่างเพียงพอ


ถึงแม้ว่าจะมีกรณีของการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับคีตามีนไม่บ่อยครั้งนัก แต่กรณีของเพอร์รี่ได้เป็นตัวกระตุ้นให้มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้งานยาในลักษณะนี้ โดยเฉพาะเมื่อยาถูกจัดหาและใช้โดยไม่ได้รับการดูแลจากแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาต

การเสียชีวิตของเพอร์รี่ทำให้ผู้คนตั้งคำถามว่า การสั่งจ่ายยานั้นมีความเหมาะสมหรือไม่ และการใช้คีตามีนในทางที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่ผลกระทบที่ร้ายแรงมากขึ้นในอนาคต

ก่อนที่แมทธิว เพอร์รี จะเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดโดยไม่ตั้งใจที่บ้านของเขาในย่านแปซิฟิก พาลิเซดส์ แอลเอ เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา หลายคนใกล้ชิดกับนักแสดงวัย 54 ปีจากซีรีส์ Friends เชื่อว่าเขากำลังไปได้ดี

เมื่อปีที่แล้ว ในบันทึกความทรงจำของเขาเรื่อง Friends, Lovers, and the Big Terrible Thing แมทธิว เพอร์รี ยอมรับว่าเขาพึ่งพาแอลกอฮอล์ และยาแก้ปวดอย่างรุนแรงมาทั้งชีวิต

เขาอธิบายให้ People ฟังว่าทำไมเขาถึงเลือกเล่าเรื่องราวนี้ว่า "ผมต้องการแบ่งปันเมื่อผมปลอดภัยจากการกลับไปสู่ด้านมืดอีกครั้ง"

แต่กลายเป็นว่าเขาไม่สามารถเลิกการ “เสพติด” ได้อย่างเด็ดขาด ประมาณ 8.30 น. ในวันที่เขาเสียชีวิต เพอร์รีขอให้ผู้ช่วยที่อยู่กับเขา เคนเน็ธ อิวามาสะ ฉีดยาเคตามีน ซึ่งเป็นยาชาที่ออกฤทธิ์เร็วและเป็นสารควบคุมตามหมวด III ซึ่งสามารถให้ได้โดยบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น


ประมาณสี่ชั่วโมงต่อมา นักแสดงขอฉีดอีกครั้งในขณะที่ดูภาพยนตร์ จากนั้นเพอร์รีขอให้อิวามาสะเตรียมอ่างน้ำร้อนไว้ให้เขา และขอฉีดครั้งที่สาม: "ฉีดให้ผมเต็มที่เลย" เขากล่าวตามเอกสารในศาลที่ยื่นโดยอัยการ

อิวามาสะทำตามคำขอ และออกจากบ้านมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อไปทำธุระ เมื่อเขากลับมาในบ่ายวันนั้น เพอร์รีก็เสียชีวิตแล้ว นอนคว่ำหน้าอยู่ในอ่างน้ำร้อน

เกือบ 10 เดือนต่อมา เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ทางการประกาศว่าคณะลูกขุนได้ตั้งข้อหาอิวามาสะวัย 59 ปี ร่วมกับผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 4 คน ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเพอร์รี ที่มีส่วนร่วมในการหายาให้เขา

ทั้ง 5 กำลังโดนข้อหาหลายกระทง รวมถึงการแจกจ่ายเคตามีนจนทำให้เสียชีวิต และอาจต้องโทษจำคุก 10 ปีถึงตลอดชีวิตหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง