เวลา 17.00 น. วันนี้ (21 ส.ค. 2567) พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พร้อมเครื่องเกียรติยศประกอบศพ หีบลายก้านแย่ง “ชรินทร์ นันทนาคร” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงไทยสากล) พุทธศักราช 2541 ที่เสียชีวิตด้วยโรคชรา ในวัย 91 ปี เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2567 ณ ศาลา 9 วัดธาตุทอง กรุงเทพมหานคร ยังความซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัว และผู้ร่วมวงการเพลง
ในการนี้ผู้แทนพระองค์เชิญพวงมาลาพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พชรสุธาพิมลลัษณ พระบรมราชินี และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปวางหน้าหีบศพ
บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยระหว่างพิธีรดน้ำศพ “ชรินทร์ นันทนาคร” ได้มีภาพบีบหัวใจที่ทำเอาคนในงานหัวใจสลายไปด้วย เมื่อภรรยาคู่ชีวิต “เพชรา เชาวราษฎร์” ได้เอาหน้าซบไปที่หลังมือของสามีผู้เป็นที่รัก พร้อมกับหลั่งน้ำตาออกมาอย่างสุดจะกลั้น จากนั้นมีพิธีสวดอภิธรรมต่อ ในเวลา 18.00 น. ซึ่งจะสวดทั้งหมด 7 วัน ไปจนถึงวันที่ 27 ส.ค. 2567 ก่อนจะเก็บร่างไว้ 100 วัน เพื่อรอพระราชทานเพลิงศพต่อไป
นอกจากครอบครัว และญาติสนิทแล้ว ยังมีคนบันเทิงที่รักและเคารพครูเพลงผู้ล่วงลับเดินทางมาร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก อาทิ วินัย พันธุรักษ์, อรวี สัจจานนท์, ดํารง พุฒตาล, ยอดชาย เมฆสุวรรณ, แดง นันทวัน เมฆใหญ่, ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย มาพร้อมลูกสาว เพลง ชนม์ทิดา อัศวเหม, จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว, นาตาชา เปลี่ยนวิถี,ไพโรจน์ สังวริบุตร, ดาวใจ ไพจิตร, อมรา อัศวนนท์, ถั่วแระ เชิญยิ้ม, ศรีไศล สุชาตวุฒิ, นคร วีระประวัติ, สุดา ชื่นบาน, เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร, สุทธิพงษ์ วัฒนจัง, เท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์, สปาย The Golden Song ฯลฯ
โดยตัวแทนครอบครัว นางปัญญ์ชลี เพ็ญชาติ, แหวนแหวน ปวริศา เพ็ญชาติ, นางปัญญชนิตย์ เธียรประสิทธิ์และ หวาย ปัญญ์ธิษา เธียรประสิทธิ์ ได้ออกมาเผยถึงการสูญเสียในครั้งนี้ว่า...
ปัญญ์ชลี : “พวกเราก็ทำใจมาระยะหนึ่งแล้วค่ะ คุณพ่อก็ป่วยมานานแล้วแต่มาทรุดจริงๆ เอาปีนี้ เราก็ยังได้ไปเยี่ยมไปพบเจอเหมือนปกติ คุยให้ท่านฟัง ยังใกล้ชิดกันตลอดเวลา คุณพ่อไม่ได้มีแสดงสีหน้าความเจ็บปวด เราก็ดีใจว่าคุณพ่อท่านไปแบบสบายค่ะ ไม่ได้ฉีดมอร์ฟีนอะไรเลย ไปแบบสงบ หน้ายังดีอยู่เลยถึงเวลาที่ท่านต้องเดินทางไกลพวกเราก็ไปกราบลาครั้งสุดท้าย แล้วก็ให้ท่านไปสบายไม่ต้องห่วงอะไร ก็คิดว่าถึงเวลาของท่านแล้ว และท่านก็ไม่มีห่วงอะไรแล้ว
ระยะ 1-2 ปีมานี้ก็เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลตลอดค่ะ แต่ช่วงหลังอยู่ไอซียูประมาณเดือนนึงค่ะ เจ็บป่วยอะไรนิดๆ หน่อยๆ โรคคนแก่ค่ะ เพราะก็ 90 กว่าแล้ว ก็ถือว่าอายุยืนพอสมควรแล้ว ท่านก็สู้นะคะจริงๆ ท่านก็ยังอยากสู้อยู่ แต่บางทีข้างในเราทั้งหัวใจเอย ปอด มันค่อยๆ เสื่อม ไปตามเกิดแก่เจ็บตาย เราก็คิดไปตามธรรมะ ธรรมชาติ ก็คิดว่าคงสู้ไม่ไหวแล้วก็บอกท่านว่าให้ไปสบายไม่ต้องเป็นห่วงอะไรแล้ว ซึ่งท่านก็ไปในที่ที่สวยงาม กว่านี้แล้วไม่ต้องเจ็บป่วยด้วยค่ะ ท่านก็จากไปด้วยโรคชราและหัวใจล้มเหลวร่วมด้วยค่ะ”
ปัญญชนิตย์ : “คุณพ่อเป็นเสาหลักในหลายเรื่อง ทำให้เราเห็นโลกกว้าง บางทีเราไปหาท่านก็จะคุยเล่าเรื่องต่างๆ ประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาให้เราได้รู้ว่าเป็นอย่างนี้นะ เขาจะสอนแหวนกับหวายเสมอเรื่องการอยู่ในวงการ ให้มีความเคารพศิลปินอาวุโส”
ด้าน “แหวนแหวน” สุดกลั้น เสียใจไม่ทันพาลูกชายมากราบคุณทวด
แหวนแหวน : “เรียกได้ว่าเติบโตมาตั้งแต่จำความไม่ได้ แม่คงเปิดกล่อมนอน พอโตขึ้นมาเริ่มรู้เรื่องคุณตาจะเป็นคนอบอุ่นน่ารัก ท่านเกิดมาเพื่อเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ เป็นคนที่ให้ความสุขกับทุกคน เป็นคุณตาที่เวลาลูกหลานไปหาก็จะมีแต่เสียงหัวเราะ แม้กระทั่งช่วงสุดท้ายของชีวิตท่านก็ยังตลกทุกครั้งที่ไปหาก็เรื่องขำขันทุกรอบ ท่านเป็นศิลปินที่แท้จริง เราเห็นท่านร้องเพลงใส่ใจในเรื่องของคุณภาพของงาน จะไม่มีการลิปซิงค์ ร้องสดตลอด อายุ 80-90 ก็ยังร้องสด จนต้องเอาถังออกซิเจนไปรอข้างเวที กลัวว่าเดี๋ยวจะหน้ามืด เป็นศิลปินที่ทุ่มเทมากๆ เราก็ชื่นชมและเคารพคุณตาเป็นตำนานจริงๆ ค่ะ
(ร้องไห้) วันนี้ก็เอาลูกมาแล้วค่ะ พามาหาคุณทวดเป็นครั้งสุดท้าย จริงๆ เราอยากพามา แต่ก็รอครบ 3 เดือน พอครบ 3 เดือนตั้งใจจะไปหา ก็ไม่ทันคุณตาเข้าโรงพยาบาลแล้วไม่ได้ออกมาอีกเลย ตอนแรกยังคิดว่าถ้าถอดสายแล้วสามารถเข้าไปกราบได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ ก็ขอให้แกหลับไปสบาย วันนี้ก็เลยได้พาตัวเล็กมาเจอคุณทวดครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ก็ดีใจ คิดว่าแกยังรู้สึกได้ก็จับมือกัน เพราะตอนอยู่ที่ไอซียูก็ดูคลิปหลานวิดีโอคอล แกก็น้ำตาไหลอยากเจอ แกรักเด็กวันนี้ก็ได้เจอแล้วค่ะ”
หวาย : “หวายเองตามรอยคุณตามาตั้งแต่เด็กๆ ก็คือครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่สนิทกันมาก เวลาอยู่ด้วยกันก็จะมีเสียงเพลง ร้องเพลงด้วยกันตลอด ก็ยังอยากให้ทุกคนฟังเพลงของคุณตาอยู่นะคะ”
เชื่อ “คุณตา” ห่วง “คุณยายเพชรา” ที่สุด แต่คุณยายก็เข้มแข็งกว่าที่คิด
แหวนแหวน : “เชื่อว่าอีกหนึ่งในสาเหตุที่คุณตาอยู่ได้ยาวๆ คือจริงๆ คุณหมอพูดมาตั้งแต่ปีที่แล้วว่าอาจจะไม่พ้นปีที่แล้ว แต่คุณตาก็อยู่มาได้อีกเป็นปี เราก็ไปหาตลอด เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นวันไหน แต่เชื่อว่าคุณตาห่วงคุณยาย ห่วงมากเหมือนจะไป แต่ก็สู้มาก อยู่ต่อมาได้อีกหลายเดือน จนมันไม่ไหวแล้วจริงๆ ค่ะ
ก็เชื่อว่าหนึ่งในสิ่งที่คุณตาเป็นห่วงก็คือคุณยายเพชร เราก็ไม่ได้บอกคุณยายเพชรว่าคุณตาอาการไม่ดีมาเป็นปีแล้ว ก็ไม่อยากให้แกเสียกำลังใจ ได้มาบอกคุณยายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่าไม่น่าได้กลับบ้านแล้วนะ คุณยายก็เข้มแข็งนะคะ เข้มแข็งกว่าที่คิด ทีแรกคิดว่าเราจะดูแลคุณยายยังไง เพราะเขารักกันมาก ดูแลกัน นอนด้วยกันตลอด เป็นสามีภรรยาที่รักกันเหนียวแน่น แกก็เสียใจค่ะแต่คุณยายก็เข้มแข็ง รับมือได้ดีแล้ว หลังจากนี้เราก็ต้องดูแลสภาพจิตใจคุณยายให้ดีที่สุดค่ะ
จริงๆ คุณยายเป็นคนเข้มแข็งมาก ตอนที่บอกคุณยาย ท่านก็ไม่ได้ร้องไห้โฮเลยนะ แกนิ่งแล้วก็จับมือคุณตาแล้วก็ลูบมือ ตอนแรกคิดว่าจะร้องไห้ฟูมฟาย เราก็คงเครียด ก็ห่วงว่าท่านเก็บอะไรไว้ในใจเยอะ ท่านพยายามเข้มแข็ง แต่ข้างในอาจจะแตกสลายแล้วเราก็กลัว เหมือนเราเศร้าเราก็ร้อง แต่คุณยายเขาจะโฮลไว้ เราก็กลัวว่าท่านอาจจะเก็บเยอะเกินแล้ววันนึงจะระเบิดออกมา กลัวสภาพจิตใจแกจะแย่ลงเรื่อยๆ ค่ะ เราก็ค่อนข้างกังวลในเรื่องนั้น เพราะแกไม่ค่อยแสดงออก”