“บี น้ำทิพย์” ควง “ไฮโซฟลุค” เปิดตัวธุรกิจใหม่ร่วมกัน เอ็นดูฝ่ายชายเกร็งหนัก ออกสื่อครั้งแรก เผยข่าวดีสวมแหวนตีตราจองแล้ว มีขอแต่งงาน แต่ไม่อยากเปลืองเงิน เล่ารักครั้งนี้สบายใจคุยกันด้วยเหตุผล เป็นบทพิสูจน์ที่ดี หลังเจอมาหนักหนาสาหัส ยอมรับเหนื่อยและท้อกับอุปสรรคที่เจอ แต่การเป็นคนดี คนอื่นจะรับรู้ได้โดยไม่ต้องพยายาม ไม่แคร์ข่าวแรงๆ หรือคอมเมนต์ลบ เพราะไม่มีผลต่อชีวิต
หลังถูกโยงเป็นนางเอกชื่อดังแย่งสามีคนอื่น จนฝ่ายชายออกมาเคลียร์ครบจบทุกประเด็น ว่าข่าวลือต่างๆ นั้นไม่เป็นความจริง และได้เลิกรากับอดีตภรรยาไปแล้ว ก่อนที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ ล่าสุดวันนี้ (19 ส.ค.) สาว “บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์”ก็เลยขอถือฤกษ์ดี ควงแฟนหนุ่ม “ไฮโซฟลุค ชลัคร ชีวเกษมสุข”ออกสื่อครั้งแรก โดยเป็นการเปิดตัวธุรกิจ Glow plus wellness ร่วมกัน ที่ Brighton Grand Hotel Pattaya ซึ่งงานนี้ทั้งสองคนก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์คู่ พร้อมเผยถึงความรักครั้งนี้ ว่าใช้เวลาพิสูจน์กันอยู่นาน แต่สุดท้ายก็คุ้มค่า เพราะคุณแม่ของฝ่ายชาย ได้ให้แหวนหมั้นมาตีตราจองไว้เรียบร้อยแล้ว แถมตัวคุณแฟนเอง ก็เคยเอ่ยปากขอแต่งงานแล้วด้วย
บี : “คือจริงๆ แล้วเป็นเหมือนทำงานด้วยกัน มีอะไรก็คือปรึกษากันตลอดค่ะ การที่เราทะเลาะกันเรื่องงานคือน้อยมาก เพราะเราเป็นคนที่มีเหตุผลทั้งคู่ และเราไม่เอาความโมโหส่วนตัวมายุ่งเกี่ยวกับงาน”
ตัดสินใจไม่ยาก ในร่วมลงทุนกับหวานใจ
บี : “ไม่ยากเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าเขาเป็นคนที่มีเหตุผลดีทุกๆ อย่าง แล้วก็ไม่ได้มีการเอารัดเอาเปรียบอะไรกัน ต่างคนต่างทำงานในด้านของตัวเองค่ะ”
ยอมรับแอบเกร็ง ยืนสัมภาษณ์คู่กัน ไม่ชินเจอกล้องเยอะขนาดนี้
บี : “เขาก็เกร็งแน่นอน (หัวเราะ)”
ฟลุค : “มากครับ ก็กล้องมันเยอะมากเลย ไม่เคยเจอกล้องเยอะขนาดนี้เลย (หัวเราะ) ไม่ชิน”
บี : “วันนี้ต้องแต่งหน้า เขาก็ทำตัวไม่ถูกเลย ว่าจะแต่งยังไง”
ไม่ได้เปิดตัวมากขึ้น แค่วันนี้ทำงานร่วมกัน เลยต้องให้สัมภาษณ์คู่
บี : “คือจริงๆ ไม่ได้ปิดบัง เพราะว่าทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้ว เราไม่ได้ต้องการที่จะมาโชว์ออฟ ว่าเราอะไรยังไง แต่ว่าวันนี้มันเป็นส่วนในเรื่องของงาน แล้วก็ตามมารยาทเนอะ เราก็ต้องออกมาพูดเกี่ยวกับงานที่เราทำวันนี้ เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าเรากำลังทำงานอะไรกันอยู่ แค่นั้นเองค่ะ งานล้วนๆ”
ทำงานร่วมกัน เพราะอยากมีธุรกิจอื่นนอกจากงานแสดง
บี : “จริงๆ คือนอกจากเราเป็นนักแสดง เราก็อยากมีธุรกิจอื่นๆ ซึ่งจริงๆ บีทำเยอะมากเลยนะคะ ถ้าเห็นในโซเชียลของบี บีทำเกี่ยวกับครีม ยังไงก็ฝากไปดูได้ ส่วนจะเห็นผลิตภัณฑ์อะไรก็ลองมาหาข้อมูลกันดู หรือว่า DM มาถามบีก็ได้ สามารถตอบได้นะคะ”
ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยพูดเรื่องความรัก เพราะหมอดูทักยังไม่ให้เปิดตัว
บี : “มันจะมีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่หมอดูบอกว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งเปิด อย่าเพิ่งพูด แล้วเขาก็บอกว่าเดี๋ยวอีกสักพักหนึ่ง จะได้เวลาแล้ว เขาบอกอย่างนี้จริงๆ ตอนเขาทักก็อย่าหาว่างมงายเลยนะ เป็นคนไม่ค่อยดูดวง แต่วันนี้ขอพูดเลยว่าเขาแม่นมากๆ เลย อาจจะไม่ใช่เรื่องของเรา แต่ว่าเป็นเรื่องของคนที่เรารู้มา เป็นคำทำนายที่แบบว่าห๊ะ จริงเหรอทุกอย่างที่เขาทายเกี่ยวกับคนอื่นที่เรารู้มา มันสมูทเลย มันแปลกมาก
ของเราเขาก็พูดประมาณว่า ยังไม่ต้อง เงียบๆ ไปก่อน แต่สักพักหนึ่งเดี๋ยวดวงเธอจะเริ่มดีแล้วนะ แล้วเธอก็จะถึงเวลาเปิดเลย เปิดได้ แต่จริงๆ เรากับเพื่อนๆ ก็ไม่ได้ปิดอยู่แล้ว คนที่รักเราและรู้ว่าเราเป็นคนยังไง เขารู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เขาก็เหมือนแบบไม่ได้คิดอะไร (หลังจากนี้ดวงงานดวงความรักจะรุ่งแล้ว?) รุ่งค่ะ เขาบอกว่าเรื่องงานก็จะดีค่ะ”
รักครั้งนี้ทำให้สบายใจ เพราะใช้เหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ เขินให้แฟนออกจากวงสัมภาษณ์ก่อน ถึงกล้าพูดว่าทำให้มั่นใจกับคนนี้
บี : “คือพอเราโตแล้ว เราก็ค่อนข้างที่จะมีอะไรก็ใช้เหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ค่ะ ใช้ชีวิตเรียบง่ายด้วย (อะไรทำให้มั่นใจกับคนนี้?) เอาเขาออกไปก่อน(หัวเราะ) (ฟลุคเดินออกจากวงสัมภาษณ์) คือของแบบนี้นะคะ บีคิดว่าอะไรไม่รู้แหละ แต่กับเราคือมันใช่หรือเปล่า หรือว่ามันอยู่ในไทม์มิ่งที่มันสบายใจหรือเปล่า”
ใช้เวลาพิสูจน์อยู่นาน กว่าจะถึงวันนี้
“นานนะคะ นานเหมือนกัน เห็นอย่างนี้บีก็เคยอยู่เป็นโสดเหมือนกัน ใช้เวลา คิดว่าถ้ามันใช่ เดี๋ยวมันก็ใช่เอง แต่เราก็พยายามใช้ชีวิตสายกลาง ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ให้เกียรติซึ่งกันและกันมากกว่า มีอะไรไม่โกหกเคยกันเลย มีอะไรคือบอกกันหมดทุกอย่างค่ะ”
เป็นบทพิสูจน์ที่ดี หลังเจอมาหนักหนาสาหัส
“คือต้องบอกว่าบีเจออะไรที่มันหนักหนาสาหัสจริงๆ แต่ว่าบีเชื่อว่าคนเราเมื่อถึงเวลา ไม่ว่าเรื่องจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ ถ้าถึงเวลาที่มันต้องมูฟออน ก็คือมูฟออน เราไม่ต้องไปสนใจว่าใครจะคิดยังไง แต่เรารู้แค่ว่าสิ่งที่เราเป็น เราเป็นคนยังไง ตัวตนเราเป็นยังไง นั่นคือสิ่งที่มันพิสูจน์ ให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างเราได้เห็น ว่าจริงๆ แล้วเราเป็นคนยังไง”
ยอมรับเหนื่อยกับอุปสรรคที่ฝ่าฟันมา แต่การเป็นคนดี คนอื่นจะเห็นเองโดยไม่ต้องพยายาม
“บีคิดว่าการฝ่าฟันอุปสรรคทุกๆ อย่าง มันเหนื่อย มันเสียใจ มันท้ออยู่แล้ว แต่บีเชื่อว่าคนที่รักเรา และเขารู้ว่าเราเป็นยังไงจริงๆ เขาก็จะอยู่ข้างเรา ไม่ใช่หมายถึงว่าเราเป็นคนไม่ดีนะคะ เรามั่นใจว่าเราเป็นคนดี แต่คนที่ใกล้ชิดเรา ที่เขารู้ว่าเราเป็นยังไง มันจะเห็นได้เอง โดยที่เราไม่จำเป็นต้องพยายาม ให้เขาเห็นว่าเราดี แต่เขาจะเห็นได้เลยตั้งแต่แรก ว่าเธอดี เธอไม่ใช่แบบนั้น”
ปล่อยผ่านคอมเมนต์ลบ เพราะไม่ได้มีผลต่อชีวิต
“บีไม่ค่อยแคร์เรื่องสื่อ เนื่องจากบีไม่ใช่เด็กๆ และบีก็โตแล้ว มีวุฒิภาวะพอ ที่จะรู้ว่าเราควรที่จะต้องแคร์ใคร อย่างสื่อ หรือบางทีที่เขาเขียนไว้ก่อนแรงๆ หรือแม้แต่คนที่มาเล่นโซเชียล แล้วมาด่าเราแรงๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไร อันนี้ไม่สนใจอยู่แล้ว เพราะเราคิดว่าไม่ได้มีผลดีต่อชีวิตเรา และอย่างที่บอกเรามีคนที่เขาอยู่ข้างๆ ที่รู้มาตลอดว่ามันคืออะไร เราไม่ต้องพยายามโชว์ว่าเราเป็นคนดีนะ เราแค่ใช้ชีวิตของเรา เขารู้เขาก็รู้ ใครไม่รู้เราก็ปล่อยผ่านแค่นั้นเอง”
เผยข่าวดีมีแหวนหมั้นตีตราจองไว้แล้ว
“ไม่ได้ใส่มา กลัวหายไม่ใช่อะไร (หัวเราะ) คือเป็นแหวนที่คุณแม่พี่เขาเอามาให้ค่ะ ขอพูดเพราะว่าก็เป็นความจริง อย่างที่บอกเขาเห็นอยู่แล้วว่ามันคืออะไร โดยที่เขามั่นใจ เขารู้อยู่แล้ว (เหมือนเป็นการจองไว้แล้ว?) ท่านพูดไว้ว่ายอมรับ แต่ไม่อยากพูดถึงท่านเยอะ อย่างที่บอกว่าเราเป็นคนยังไงเขารู้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องพยายาม”
ไม่ซีเรียสต้องจัดงานแต่ง รู้สึกเสียดายเงิน
“ถ้าถามเรื่องแต่งงาน บีเป็นคนไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องจัดงานแต่ง เขาก็เคยถามว่าเอาไหมๆ แต่เรารู้สึกเสียดายตังค์ในเศรษฐกิจแบบนี้ (หัวเราะ)มันก็ต้องลงทุน ถ้าทำก็ต้องแบบดีอะไรงี้ แต่มีแพลนว่าอาจจะเชิญเพื่อนๆ มากินข้าว (ทั้งหมดทั้งมวลที่วางแผนมา ก็เหมือนมาสู่การแต่งงาน เหลืออย่างเดียวแค่เราเซย์เยส?) เราก็สวมแหวนไปแล้วนะ แต่วันนี้ไม่ได้เอามา”
ไม่รู้คนมองคลั่งรัก แค่ใช้ชีวิตปกติชิลๆ
“จริงเหรอคะ รูปก็ไม่ได้ลงนะ บียังไม่ลงเลย อย่างที่บอกเขาก็ชิลๆ ของเขาอยู่แล้ว เหมือนเราไม่ได้ปิดเลย เราใช้ชีวิตปกติเลย อย่างที่บอกใครเข้าใจ ไม่เข้าใจไม่ได้สนเลย เรามุ่งหน้าเป็นเราในทุกวันนี้ เราก็ทำงาน หาเงินเลี้ยงครอบครัว เท่านี้คือจบแล้ว เราก็ใช้ชีวิต เรื่องอื่นอย่าไปคิดมากเลยบีว่าชีวิตสมัยนี้มาเร็ว ไปเร็ว เรามีชีวิตอยู่ตรงนี้ แล้วมีความสุขกับสิ่งที่เป็น สิ่งที่ทำตอนนี้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรักครอบครัวตัวเอง ดูแลครอบครัวตัวเอง ดูแลคนรักซึ่งกันและกัน ดูแลคุณพ่อคุณแม่ และก็ทำงานให้มีประสิทธิภาพในทุกๆ อย่างที่เราทำ นั่นคือสิ่งสำคัญในชีวิต และก็สุดท้ายก็เกิด แก่ เจ็บ ตาย และสุดท้ายเราก็ตายจากโลกนี้ไป”
แบ่งพาร์ตชัดเจน เรื่องธุรกิจกับงานในวงการบันเทิง
“เดี๋ยวเปิดกล้องละครประมาณ 1-2 เดือนหน้าค่ะ คือพอจบจากงานนี้ เดี๋ยวบีจะไปโฟกัสเรื่องการเรียนภาษาจีน เพราะต้องพูดภาษาจีน ต้องทำให้ดีที่สุดเหมือนกันเพราะว่าผู้ใหญ่ได้มอบหมายให้เราทำตรงนี้ เราก็ไม่อยากทำให้การแสดงของเรามันรู้สึกผิดหวัง เราก็จะทำให้ดีที่สุด เป็นละครของช่องวัน เรื่องแบ่งเวลาอันนี้ก็คิดว่าทำได้ เพราะเป็นสิ่งที่เราเข้าใจและเราก็ชอบตรงนี้อยู่แล้วด้วย
อย่างที่บอกเราเปิดเองและเราก็ทำเองด้วยเลย เสริมความสวยให้ตัวเองด้วย และอยากให้คนที่มาใช้บริการเขามีสุขภาพที่ดีกลับไปด้วย และอยากให้มาทำ มาพักที่นี่ มาเที่ยวเมืองพัทยา เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ดีมากๆ นะคะ เมื่อก่อนมาไม่บ่อยหรอก แต่พอช่วงนี้มาบ่อย เราก็ไปหลายที่ ก็มีสถานที่ที่เราชอบเยอะแยะเลย”
ฟีดแบ็กลูกค้าดีมาก อยากให้ได้มาลอง
“คุยเยอะค่ะ จริงๆ เรามีหลายตัวมาก อยากให้ไปลองก่อน พอได้ทำแล้วจะรู้สึกว่าดีจริงๆ อย่างบีมีตัวประจำที่ทำอยู่ชื่อบีโกลด์ เป็นวิตามินรวมและมีอาหารเสริมเข้าไปในร่างกายเยอะแยะมากมายเลย ทำแล้วรู้สึกเฟรซ แล้วก็ขนาดนอนน้อยมากๆ เพราะปั่นงาน งานนี้ไม่ได้หยุดเลย ทานข้าวก็น้อยมากๆ ด้วย แต่รู้สึกว่ายังมีแรง และสมองก็ทำงานตลอด”
มองอนาคตอยากขยายธุรกิจไปกรุงเทพฯ
“ตอนนี้ก็อยากทำกรุงเทพฯ แต่ก็ลุยที่นี่ก่อน เพราะรู้สึกว่าที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยวและอย่างที่บอกอยากให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองพัทยา หรือว่าประเทศไทยจากที่ไหนก็ได้ เพื่อให้เศรษฐกิจมันดี มีกิน มีใช้”
