“อาย กัญญาลักษณ์” ยอมรับตกใจไวรัลคบแฟนหนุ่มอภิมหาเศรษฐี ไม่คิดว่าคนจะให้ความสนใจขนาดนี้ เขินคนเรียกมาดาม อยากให้เรียกชื่อเหมือนเดิมมากกว่า จากนี้ก็คงใช้ชีวิตอยู่ที่ไทยเหมือนเดิม ให้แฟนหนุ่มบินมาหาแทน บอกทุกคนก็สามารถเป็นแบบนี้ได้ แค่ลองเปลี่ยนมาคุยกับจักรวาลแทนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่หวั่นถูกมองว่าบ้า เพราะมันเวิร์กสำหรับตัวเอง
หลังจากที่ “อาย กัญญาลักษณ์ หนูแก้ว“ หรือ “อายกัญ” รองอันดับ 1 Miss Universe Thailand 2022 กลายเป็นไวรัล จากคลิปเปิดตัวออกเดตนั่งรถซุปเปอร์คาร์สุดหรู McLaren 650s สนนราคาราว 26 ล้านบาท โดยมีอภิมหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวโมนาโก “โอลิเวอร์ ทิม ร็อตต์” (Oliver Tim Rott) เป็นคู่ออกเดต ทำเอาเจ้าตัวบอกว่าจากที่คนเคยเรียกอี ตอนนี้แห่เรียกมาดามกันหมดแล้ว
ล่าสุดเจอสาวอายกัญในงานแถลงข่าวการประกวด "Miss Wellness World Thailand 2025" ณ เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ต กรุงเทพ (ปาร์คนายเลิศ) เจ้าตัวก็ยอมรับว่างงกับกระแสไวรัล เพราะไม่คิดว่าคนจะสนใจมากขนาดนี้
“ดีใจมาก พร้อมกับงงว่าทำไมข่าวมันไวรัลขนาดนี้ ก็รู้สึกตกใจเหมือนกันค่ะ ก็ได้มีการส่งข่าวไปหาคนฝั่งนั้นว่ามันเกิดไวรัลแบบนี้ขึ้นนะ เขาก็หัวเราะ อายก็ไม่ได้คิดอะไรตอนลงคลิป ก็เห็นว่าคลิปสวยดี ก็อยากลง ก็ไม่คิดว่ามันจะมีผลตอบรับที่ดีค่อนข้างเยอะขนาดนี้ ส่วนที่หลายคนอิจฉา อายมองว่าจริงๆ ทุกคนก็ไปอยู่จุดนั้นได้นะคะ แค่ต้องเชื่อมั่น เหมือนกับเราคุยกับพลังจักรวาลน่ะ (หัวเราะ) คุยกับตัวเอง เราต้องเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ออกมาจากจุดเดิมๆ คุยกับจักรวาลเยอะๆ ว่าเราอยากมีชีวิตแบบนี้ เราอยากเจอผู้คนแบบไหน อยากใช้ชีวิตแบบไหน อายเชื่อว่ามันจะเป็นการเปิดทางให้กับเรา
เริ่มต้นจากอายคุยกับตัวเองตั้งแต่เด็กค่ะ คุยกับตัวเองบ่อยๆ จนกระทั่งไม่ไหวแล้ว คุยกับตัวเองบ่อยๆ ก็เหมือนจะบ้าแล้ว ก็เลยต้องเปลี่ยนจากการคุยคนเดียว มาคุยกับจักรวาล เหมือนเราก็ฟังจากติ๊กต๊อกเยอะ ดูยูทิวบ์ด้วย ว่าการจากคุยกับตัวเองก็คุยกับจักรวาลดีกว่า ซึ่งมันก็เวิร์กจริงๆ เราลองแล้วรู้สึกว่าสิ่งนี้มันช่วยได้จริงๆ”
บอกเปลี่ยนจากคุยกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาคุยกับจักรวาลแทน
“ก็มีเสียงตอบรับจากจักรวาล ตัวเป้งๆ เลย มาเป้งๆ จังๆ เลย คือเหมือนอายก็คุยกับจักรวาลว่าเราผ่านประสบการณ์แย่ๆ มาในชีวิต เจอคนรักที่ค่อนข้างเป็นประสบการณ์ที่แย่ แต่เราขอบคุณนะที่เจอเหตุการณ์เหล่านั้นมา จนกระทั่งเราพร้อมที่จะเปิดโอกาสใหม่ๆ พร้อมที่จะไปอยู่ในสังคมที่เราอยากอยู่ อยากเป็น หรืออยากได้ อยากมี เราก็ขอกับจักรวาลว่าขอให้ได้เจอคนลักษณะแบบนี้ เจอคนดีๆ เข้ามาในชีวิต สุดท้ายมันก็จะดึงดูดพลังงานเดียวกันเข้ามาหาเราเอง
ก็ใช้เวลาไม่นานนะ คือต้องขยันคุยบ่อยๆ เหมือนเราต้องเชื่อในศาสตร์นี้ด้วย ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะ แต่เหมือนเราลองกับตัวเองจนรู้สึกว่ามันของจริง จากที่เราคุยกับตัวเองเรื่อยๆ เปื่อยๆ ไม่ได้มีผลอะไร แต่ลองเปลี่ยนจากคุยกับตัวเองมาเป็นคุยกับจักรวาลดู คือเราเชื่อในสิ่งนี้ค่ะ เหมือนเราเคยคุยกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะ เราเปลี่ยนจากการคุยกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเป็นคุยกับจักรวาลดู ซึ่งมันก็เวิร์ก เหมือนเรารวมศาสตร์ทุกศาสตร์ คือบางทีเราคุยกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราได้แค่ศาสตร์เดียวค่ะ ได้แค่ที่เดียว แต่พอเราคุยกับจักรวาล ก็เหมือนเราได้ทุกศาสตร์ all angle, all evil เลย ก็เปิดทางได้ดี”
ยอมรับมีคนคิดว่าบ้า แต่เชื่อว่าสิ่งนี้แหละที่ทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พร
“คนก็คิดว่าอีนี่บ้า ตอนที่ไปถ้ำนาคาเขาจะมีเหมือนเมืองลับแล เราไม่รู้หรอกว่าคนอื่นเขาทำยังไง แต่เราจะไปเซย์ฮัลโหลหน้าถ้ำ ฮัลโหล สวัสดีค่ะ หนูมาเยี่ยมแล้วนะคะ เป็นยังไงบ้างคะในนั้น อยู่กันเหงาไหม เราก็คุยเรื่อยเปื่อย ให้เขาจำได้เลย หนูเชื่อว่าถ้าเกิดเขาจำได้ เขาจะเอ็นดูเรา คิดว่าเขาสัมผัสได้กับความติงต๊องของเราค่ะ เหมือนว่าอีนี่น่าจดจำนะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจจะคิดว่าไม่เคยมีใครขนาดนี้ เขาก็เลยรู้สึกว่าให้พรเถอะ เลยทำให้เรามีทุกวันนี้ เพราะความติงต๊อง
ทุกวันนี้ก็ยังคุยกับจักรวาลอยู่นะ ก่อนนอนเราก็จะพยายามหมั่นคุย หรือบางทีนั่งรถก็จะมองฟ้า ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันได้เกิดมาบนโลกนี้ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์แย่ๆ ที่เข้ามาในชีวิต มันสอนให้เราเติบโตมากยิ่งขึ้น ทำให้เราเข้มแข็ง แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เหมือนเราคุยกับตัวเองและปลอบประโลมตัวเองในทุกๆ วัน มันทำให้เราก้าวผ่านหรือพ้นจุดตรงนั้นที่เราคิดว่ามันแย่ที่สุดในชีวิต แล้วก็รู้สึกว่าอย่างน้อยก็ยังมีจักรวาลคอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ
ถามว่าแอดวานซ์กว่าการมูเตลูไหม คือมันเป็นการคุยกับจักรวาลมากกว่าคุยคนเดียว เราไม่รู้หรอกว่ามันคือขั้นอะไร แต่มันเวิร์ก ก็อยากให้ทุกคนลองเชื่อในศาสตร์นี้ดู เอาจริงๆ ถ้าคนที่คุยไปเรื่อยอยู่แล้ว เหมือนบางทีเราเจอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราเจอพระพิฆเนศ แล้วเราคุยบอกท่าน เราก็ลองเปลี่ยนจากอันนี้มาบอกกับจักรวาลดู มันอาจจะเวิร์กก็ได้นะ ไหนๆ เราก็เชื่อเรื่องมูแล้ว ก็ลองเชื่อเรื่องศาสตร์จักรวาลดู มันอาจจะเวิร์กก็ได้ และสิ่งนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าเราไม่ได้บ้า ถ้าบ้าก็หนักอยู่ จากความสวยนะ”
บอกอย่าคุยกับจักรวาลตอนอยู่กับแฟน เดี๋ยวจะวิ่งหนีได้
“เขาน่าจะเข้าใจแหละ เพราะมันก็เวิร์กไง ก็อย่าคุยคนเดียวต่อหน้าเขาสิ เราก็คุยตอนที่นอน ก็คุยคนเดียว แต่อย่าไปคุยต่อหน้าเขา เดี๋ยวเขาตกใจวิ่งหนี แต่ชีวิตก็เปลี่ยนไปเยอะค่ะ ดีขึ้นเยอะกว่าแต่ก่อน เรียกว่าอยู่ในจุดที่เราวางเอาไว้ คาดหวังไว้ว่าเราอยากอยู่จุดนี้ รู้สึกมีความสุขที่เราหลุดพ้นในประสบการณ์ที่มันแย่ๆ ในเรื่องราวของความรักมาค่ะ
แต่อย่าเรียกมาดามเลย เรียกอายเหมือนเดิมเถอะค่ะ (หัวเราะ) เขินนะ ตอนไปต่างประเทศแล้วมีคนมาเปิดประตูให้ แล้วเขาเรียกมาดาม เรายังเขินเลย ไม่รู้สิ คิดว่ามันเหมือนการแบ่งชนชั้น คือคนจะเรียกมันก็ไม่ผิด แต่เราเขินไง ชอบให้คนเรียกชื่อมากกว่า ตอนไปเรียนวันแรกเพื่อนก็ตะโกนเรียกมาดาม (ทำเสียงตะโกน) แต่ก็ยังมีเพื่อนเรียกอีอยู่นะ (หัวเราะ) ก็บอกเพื่อนว่าเรียกกูเหมือนเดิมเถอะ ก็คือเรียกอายเหมือนเดิมเถอะ
อยากจะบอกว่าอายเชื่อว่าศาสตร์พลังแห่งความดี คิดดี ทำดี พูดดีค่ะ แล้วก็มีความกตัญญูกตเวทีต่อคนรอบข้างและคนในครอบครัว มันจะทำให้เราประสบความสำเร็จ ให้เราเจอกับคนรอบข้างที่ดี และโอกาสที่ดีๆ จะเข้ามาในชีวิต มันจะเปลี่ยนเราไปค่อนข้างเยอะ ถ้าเรามีความคิดบวก สิ่งนี้แหละที่จะทำให้เราไปไหนมาไหนก็ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ค่ะ ถามว่าวางแผนชีวิตยังไง จะอยู่เมืองไทยหรือย้ายไปอยู่กับเขา ก็ต้องอยู่เมืองไทยนี่แหละค่ะ ให้เขาบินมาหา”
