xs
xsm
sm
md
lg

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “ครูเพลิน พรหมแดน” ลูกสาวร่ำไห้ ขอทำบุญเยอะๆ จะได้เกิดเป็นลูกพ่ออีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เวลา 16.40 น. วันนี้ (13 ส.ค. 2567) พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ​ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์อัญเชิญน้ำหลวงอาบศพ “ดร.สมส่วน พรหมสว่าง (เพลิน พรหมแดน)” ราชาเพลงพูด ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง) พ.ศ. 2555 ที่เสียชีวิตด้วยโรคชรา ในวัย 85 ปี เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2567 ณ ศาลาสารัชถ์-นลินีรัตนาวะดี วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ยังความซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัว และผู้ร่วมวงการเพลงไทยลูกทุ่ง

ในการนี้ผู้แทนพระองค์เชิญพวงมาลาพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา​ พชรสุธาพิมลลัษณ พระบรมราชินี และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปวางหน้าหีบศพ

บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีครอบครัวและญาติสนิทเดินทางมาไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก โดยมีภรรยา ครูเพลิน พรหมแดน “ศกุนตลา พรหมสว่าง” และลูกสาว “แพท ภัทริญา พรหมสว่าง” ทำหน้าที่ดูแลแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีคนในวงการบันเทิงพร้อมใจกันมาเคารพดวงวิญญาณครูเพลงผู้ล่วงลับ อาทิ แดน บุรีรัมย์, ประยงค์ ชื่นเย็น, เจนภพ จบกระบวนวรรณ, เทพ โพธิ์งาม, น้อย โพธิ์งาม, สดใส รุ่งโพธิ์ทอง, จิ้ม ชวนชื่น, ทศพล หิมพานต์, ศิรินทรา นิยากร, รุ่ง สุริยา, จอมขวัญ กัลยา, นก บริพันธ์ ชัยภูมิ ฯลฯ โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีรดน้ำศพ ได้มีพิธีสวดอภิธรรมต่อในเวลา 18.00 น.

ด้าน “แพท ภัทริญา พรหมสว่าง” ลูกสาวเพียงคนเดียวของครูเพลิน เปิดใจทั้งน้ำตา พ่อเคยบอกไว้ว่าจะอยู่ถึงอายุ 90 แต่มาจากไปกะทันหันไม่ทันได้ร่ำลา เสียชีวิตด้วยโรคชรา ไม่ใช่จากอาการหัวใจล้มเหลวตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ภูมิใจได้เกิดมาเป็นลูกพ่อ ขอตั้งมั่นทำบุญเยอะๆ ชาติหน้าจะได้เกิดมาเป็นลูกพ่ออีก

“จริงๆ แล้วคุณพ่อเป็นคนแข็งแรงมากนะคะ แล้วตอนนี้คุณแม่ไม่ค่อยสบาย เราก็เลยโฟกัสไปที่คุณแม่มากกว่า แต่กลายเป็นว่าคุณพ่อ ซึ่งไม่มีอาการอะไรเลยและค่อนข้างแข็งแรง แต่ว่า 2 วันก่อนหน้านั้น คุณพ่อบ่นว่าเหนื่อย แล้ววันที่ 2 คุณพ่อไปอรัญฯ ไปเรื่องที่แล้วก็ไปเยี่ยมญาติตั้งแต่เช้า กลับมาตอนมืด พอวันที่ 3 ปกติกิจวัตรประจำวันของคุณพ่อ คือสวดมนต์ที่ห้องพระ แล้วก็จะออกมาทานข้าว แต่ทีนี้พอสวดมนต์แล้วเหมือนเหนื่อยและวูบ เลยจับเก้าอี้แล้วก็ล้มลงไป แต่ไม่ได้หัวแตกหรืออะไรนะคะ เพราะคุณพ่อยังบอกให้เรียกรถพยาบาล

พอหน่วยกู้ชีพมาก็ปั๊มหัวใจ ปั๊มไปประมาณ 20 นาที สัญญาณชีพก็ขึ้นมาประมาณ 20 แล้วก็เอาขึ้นรถพยาบาลไป พอไปถึงโรงพยาบาลศิริราชก็ปั๊มต่อ หมอก็โทร.มาแจ้งว่าสัญญาณชีพอ่อนและไม่มีแล้ว ปั๊มอยู่ประมาณ 30 นาทีคุณพ่อก็เสียที่โรงพยาบาล (จากภาวะหัวใจล้มเหลว?) ไม่ใช่ค่ะ เพราะคุณพ่อไม่ได้มีโรคหัวใจ ตอนที่ไปตรวจ เช็กแล้วว่าไม่ได้มีโรคหัวใจ แต่คุณหมอลงความเห็นว่าเป็นโรคชรา และน่าจะเหนื่อยเพราะพักผ่อนน้อยมากกว่าค่ะ”

ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง มีแค่โรคคนชราทั่วไป
“คุณพ่อไม่ได้มีโรคอะไรที่ร้ายแรงค่ะ ก็เป็นโรคของคนชราทั่วๆ ไป ความดันก็มีนิดหน่อยค่ะ ก็มีกินยาประจำ คุณพ่อค่อนข้างแข็งแรง ขับรถได้ ทำอะไรได้ ดูแลตัวเองได้หมดเลยคะ เราเลยไปโฟกัสที่คุณแม่มากกว่า กลายเป็นว่าคุณพ่อไปก่อน”

ครอบครัวเสียใจกับการจากไปอย่างกะทันหัน ไม่มีคำพูดสุดท้าย เพราะไม่มีสัญญาณมาก่อน
เสียใจค่ะ มันกะทันหันมาก (เสียงสั่น) คุณพ่อเคยบอกว่า คุณพ่อคิดว่าจะอยู่ถึงอายุ 90 ปี เราก็ถามว่าทำไม เขาก็บอกว่าเขาสวดบทอิติปิโสเลยไปถึง 90 ก็เลยคิดว่าจะอยู่ถึง 90 แต่คุณพ่อบอกตลอด ว่าเขาขอให้มีนิมิตอะไรสักอย่าง ให้รู้ก่อนจะไป ช่วงหลังคุณพ่อสวดมนต์เยอะมาก ก็เลยคิดว่าคุณพ่อน่าจะไปในภพภูมิที่ดีค่ะ

ส่วนคำพูดสุดท้ายไม่มีเลย เพราะไม่มีสัญญาณ เรายังคุยกันปกติ คุณพ่อก็จะบอกว่าเหนื่อย เราก็บอกว่าพักผ่อนเยอะๆ เพราะเขาจะนอนหลับยาก ตั้งแต่สมัยเล่นดนตรี บางทีตี 2 ดูกล้องพ่อยังไม่หลับเลย แต่ท่านจะตื่นสายนะคะ ตอนนี้กลายเป็นว่าคุณแม่เข้มแข็งกว่าเรา อาจจะเห็นว่าเราเสียใจ คุณแม่ก็เลยต้องเป็นหลักมากกว่า ก็เสียใจ ทุกคนเสียใจ คือตอนช่วงที่เสียใหม่ๆ ฟังเพลงของท่านไม่ได้เลย ฟังปุ๊บก็จะคิดถึง จะร้องไห้ค่ะ

มีฝันว่าพ่อมาเรียก เชื่อท่านไปอยู่ในภพภูมิที่ดีแล้ว
“วันที่ 3 ฝันว่าท่านมาเรียกแพท เหมือนท่านไปอยู่ในภพภูมิที่ดีแล้ว รู้เลยว่าเป็นสถานที่ที่ดี สวยงาม ก็หมดห่วงค่ะ เหมือนท่านรู้ว่าเราห่วง เราคิดถึง คือส่วนตัวเราไม่ได้อยู่กับคุณพ่อตลอด เพราะเราทำงานที่ระยองค่ะ ยังเสียใจจนถึงทุกวันนี้ จริงๆ ควรจะกลับวันศุกร์ แต่วันนั้นมีเหตุอะไรที่ไม่ได้กลับ กำลังจะเตรียมตัวกลับมา กลายเป็นว่ากลับมาแล้วต้องไปที่โรงพยาบาล”

เผยยังมีหลายอย่าง ที่คุณพ่อทำค้างไว้
“มีหลายอย่าง คุณพ่อเขาอยากทำยูทิวบ์ เพลงใหม่ๆ ที่แต่งไปร้องไกด์ไว้ แล้วคุณพ่อท่านก็จะแต่งตั้งแต่ประวัติหลวงตาบัว หลวงปู่มั่น และประวัติพระพุทธเจ้า ท่านจะศึกษาธรรมะเยอะ ตอนนี้ก็เลยเหมือนทยอยลงยูทิวบ์เป็นช็อตๆ เกี่ยวกับประวัติของพระพุทธเจ้าเพื่อให้ทุกคนเข้ามาศึกษาธรรมะ (พ่อเปรยไว้ไหม ว่าอยากให้ใครสานต่อ?) ไม่มี เพราะว่าเป็นลูกสาวคนเดียว ไม่ได้มีสานต่ออะไรค่ะ ส่วนงานเพลงของคุณพ่อที่ทำค้างไว้ ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ ตอนนี้ขอจัดงานให้เรียบร้อยก่อน”

คุณพ่อเป็นแบบอย่างที่ดีมาก ในการดำเนินชีวิต
“คุณพ่อเป็นแบบอย่างที่ดีมาก เป็นคนที่อดทน จิตใจดี ไม่เคยว่าร้ายใคร ไม่เคยโกรธใคร คนจะบอกตลอดว่าแพทโชคดีเกิดมาในตระกูลที่ไม่ต้องทำบาป ไม่เคยผิดศีล คุณพ่อจะเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิต

ในฐานะลูกรู้สึกภูมิใจมาก ที่มีพ่อเป็นบรมครูในวงการเพลงลูกทุ่ง
“ภูมิใจมากค่ะ แค่เห็นวันนี้ที่มีคนมาเยอะแยะ ก็ดีใจ คุณพ่อมีโอกาสได้เป็นศิลปินแห่งชาติ ได้รับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ แล้วก็ได้พวงมาลา รู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะ ดีใจมากค่ะที่ได้เกิดมาเป็นลูกคุณพ่อ”

เตรียมเก็บร่างไว้ 100 วัน เพื่อรอพระราชทานเพลิงศพ
“สำหรับพิธีการหลังจากนี้ มีสวดอภิธรรม 5 วัน เริ่มตั้งแต่วันนี้ 13 ส.ค. ไปจนถึงวันที่ 17 ส.ค. แล้ววันที่ 17 จะมีเลี้ยงเพล มีสวดปกติแล้วมีพิธีบรรจุศพ จะเก็บร่างไว้ 100 วัน รอพระราชทานเพลิง ต้องรอสมเด็จพระกนิษฐาฯ ท่านว่าง ท่านเสด็จมา”

เสียงสั่นบอกคิดถึงคุณพ่อมาก อยากเกิดเป็นลูกของพ่ออีก
“อยากบอกว่าคิดถึงมาก รักมาก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเกิดเป็นลูกคุณพ่ออีก (เสียงสั่นน้ำตาคลอ) ต้องไปรีบเร่งทำบุญค่ะ เพราะว่าถ้าบุญบารมีเราไม่ถึงกับคุณพ่อ เราจะไปไม่ทัน เราควรต้องไปทำบุญให้มากๆ ขึ้น ปฏิบัติธรรมค่ะ 

ตอนนี้ไม่น่ากลัวเลยถ้าไปก็คุณพ่อรออยู่ เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมชาติ จะคุยกับคุณพ่อไว้ว่า ถ้าเกิดว่าแพทต้องเป็นเจ้าหญิงนิทราหรือสายระโยงระยาง ปล่อยแพทไปเลยนะ คุณพ่อบอกคุณพ่อก็เหมือนกัน ก็ถือว่าคุณพ่อไปสบายมาก ไม่เจ็บป่วย ไม่ทรมาน ไม่ต้องมาใส่สายอะไรเลย ถือว่าท่านมีบุญมากๆ ที่เลือกมาวัดนี้ ท่านเคยมาหลายงานของศิลปินแห่งชาติและงานของหลายๆ คน วัดนี้ดีที่จอดรถเยอะด้วย สะดวกสบายสำหรับผู้มาร่วมงาน”

















กำลังโหลดความคิดเห็น