นับเป็นข่าวเศร้าของวงการลูกทุ่ง หลังศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง) “เพลิน พรหมแดน” หรือ “สมส่วน พรหมสว่าง” ราชาแห่งเพลงพูด ได้จากไปอย่างสงบในวัย 85 ปี เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (13 ส.ค.) ทางครอบครัวได้นำร่างของครูเพลิน มาตั้งพิธีบำเพ็ญกุศล ณ ศาลาสารัชถ์-นลินีรัตนาวะดี วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน โดยเมื่อเวลา 15.00 น. ได้มีพิธีรดน้ำศพ ต่อด้วยพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และสวดพระอภิธรรมตามลำดับ ซึ่งมีศิลปินและคนในวงการบันเทิง มาร่วมแสดงความอาลัยมากมาย
งานนี้ “เทพ โพธิ์งาม” พร้อมน้องสาว “น้อย โพธิ์งาม” รวมถึง “จิ้ม ชวนชื่น” ได้ออกมาเผยความรู้สึกถึง “ครูเพลิน” ในฐานะที่เคยเป็นสมาชิกในวง ก่อนจะผันตัวมาเป็นตลกอย่างทุกวันนี้ โดยทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าครูเพลินเป็นหัวหน้าวงที่ดูแลลูกน้องดีมาก ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง
น้อย โพธิ์งาม : “น้อยไปตั้งแต่วันแรกที่พี่เพลินเสีย ไปที่ห้องดับจิต ความผูกพันก็มาจากพี่เทพนี่แหละ พี่เทพเป็นคนฝากน้องสาวไว้กับพี่เพลิน แล้วก็พี่ศกุน (ศกุนตลา พรหมสว่าง : ภรรยาครูเพลิน) น้อยมาอยู่ตั้งแต่อายุ 15 ย่าง 16 แล้วด้วยความหวงของพี่เทพ พี่ศกุนทำห้องให้อยู่บนบ้านแกเลย แกก็ดูแลมาตลอด พี่ศกุนมีโรคประจำตัว แต่พี่เพลินมีโรคประจำตัวเล็กน้อยเอง ไม่คิดว่าจะล้มเร็วขนาดนี้ แต่ได้ถามพี่ศกุน เขาบอกว่าตื่นมาได้ยินเสียงพานหล่นโครม เดินมาก็เห็นพี่เพลิน ไปสะกิดก็ไม่ลุก ถึงรู้ว่าแกไปแล้ว ที่ผ่านมาเห็นแกยังแข็งแรง เราก็ไม่ได้อะไร แต่ไปมาหาสู่แกบ่อย ก็ไม่ลืมกัน แล้วพี่เทพแกอยู่ไกล พี่เพลินก็จะคอยฝากถาม ว่าดูแลไอ้เทพด้วยนะ เราก็บอกพี่เทพแข็งแรง ไม่ต้องห่วง แกก็ยังหัวเราะอยู่เลย ก็ไม่น่าเชื่อ”
เทพ โพธิ์งาม : “เราผูกพันกันมาตั้งแต่หนุ่มๆ เลย วงเพลินเป็นสถานที่เกิดของป๋าเลย ตั้งแต่เป็นหางเครื่อง เป็นนักร้อง สุดท้ายก็มาเป็นตลกนี่แหละ อยู่กันมา 9 ปี มันมีความลึกซึ้งมากครับ พี่เพลินเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันมานานแล้ว เหมือนเป็นชีวิตจิตใจของเราเลย ไม่รู้จะพูดยังไง แกไปแล้ว ก็ไม่คิดว่าแกจะไปเร็ว เพราะไม่มีข่าวคราวเลยว่าแกเจ็บป่วย อยู่ๆ แกก็ไปเฉยๆ นั่นแหละ ก็ถือว่าแกไปดี ไม่ต้องเจ็บป่วย ไปของแกสบายๆ นะ ตั้งแต่มาทางตลก ก็ไม่ค่อยได้เจอแก ก็ห่างๆ กันมาหลายปีแล้ว แต่ตอนอยู่ด้วยกัน แกเหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง แกดีทุกอย่างเลย เป็นคนธรรมะธรรมโมมาก เรื่องเสียดายก็ไม่มีเลย เป็นหัวหน้าที่ดูแลลูกน้องดีมากๆ”
หาคนสานต่อยังไม่มี เป็นคนแรกๆ ที่ร้องเพลงพูด
น้อย โพธิ์งาม : “เพลงพูดนี่ยังหาคนสานต่อไม่ได้ ยังหาไม่มีนะ”
เทพ โพธิ์งาม : “แกเป็นคนแรกเลยนะ ที่ร้องเพลงพูด เราก็ได้บันทึกเสียงไป 1 เพลงคือ ตาแป๊ะฝัน”
จิ้ม ชวนชื่น : “สิ่งที่จะฝากให้แฟนเพลงได้จดจำหัวหน้าไว้ เพราะหัวหน้าเป็นคนที่ปฏิบัติอยู่ในภาพลักษณ์ที่ดีตลอด อยู่ในศีลธรรม ก่อนจะขึ้นเวทีก็ขึงเน็ตตีแบดกับลูกน้อง ผมมีโอกาสได้เป็นสมาชิกรุ่นหลัง เข้าไปตอนอายุ 18 ปี อยู่ได้เดือนกว่าแล้วหัวหน้าก็ยุบวง พ่อถึงต้องลากมาตั้งชวนชื่น เราได้เห็นภาพลักษณ์ว่าหัวหน้า เป็นคนอยู่ในศีล ในธรรม น่าชื่นชมมาก หน้าเวทีกับหลังเวทีเหมือนกันเลย”
น้อย โพธิ์งาม : “พี่ศกุนกับพี่เพลิน เขาเป็นคู่สร้างคู่สมกันจริงๆ สามีดังทะลุฟ้า แต่ไม่ยุ่งกับวงเลย แต่ที่ทำให้วงขึ้นชื่อเป็น เพลิน พรหมแดน คือพี่ศกุนตลาโดยตรงเลย ที่ไปดูจากเมืองนอกมา เป็นอันแรกของประเทศไทยเลย”
เทพ โพธิ์งาม : “เกิดมาจากวงเพลินนี่หลายคนมากเลย ไปเป็นตลก ไปเป็นนักดนตรี แล้วพ่อตาเนี่ย ดม ชวนชื่น แต่ก่อนเล่นด้วยกัน ก็เรียกพี่ดมๆ เล่นตลกกันมา”
จิ้ม ชวนชื่น : “ก็คือพอชุดพี่เทพออกไป พี่น้อยก็ออกไปด้วย พ่อถึงได้มาเป็นตลกเพลงพูดแทน แล้วก็ลากเราเข้าไป”
เทพ โพธิ์งาม : “คิดว่าแกไม่น่าจะห่วงอะไรนะ อายุแกก็ป่านนี้แล้วด้วย”
จิ้ม ชวนชื่น : “จริงๆ ผมจะได้เจอกับหัวหน้า ในวันที่ 9 สิงหาคม ที่คอนเสิร์ตของมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ก็ใจหาย ตั้งใจว่าเดี๋ยวจะไปกราบหัวหน้าอีกสักครั้ง เพราะโอกาสเจอกันน้อยมาก”
เทพ โพธิ์งาม : “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวได้ตามแกไปอยู่แล้ว ก็ดีใจที่แกได้ไปแบบสบายๆ เราก็อยากจะไปแบบพี่เพลินนี่แหละ ก็ขอให้แกไปสู่ภพภูมิที่ดีๆ นะ รักเสมอครับ”
น้อย โพธิ์งาม : “ถามว่ามีโปรเจกต์อะไรที่แกยังทำค้างอยู่ไหม ก็เห็นแกแต่งเพลงไปเรื่อยนะ เมื่อตอนปลายปีที่ไปเยี่ยมแกก็ไม่รู้มีอะไรบ้าง เพราะส่วนมากจะคุยกับพี่ศกุนซะส่วนใหญ่ พี่เพลินแกไม่ค่อยพูด”
จิ้ม ชวนชื่น : “ก็อยากให้ทุกคนจดจำ เพลิน พรหมแดน ว่าเป็นศิลปินที่ดีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง คุณงามความดีที่ท่านสร้างเอาไว้ มันก็จะยังคงอยู่”
