xs
xsm
sm
md
lg

“แหม่ม เนาวรัตน์” เล่าชีวิตสุดพีก ตำนานโป๊ “อีโล้นซ่า” ดังสุดโต่ง แต่ถูกครอบครัวทั้งขับไล่ ทั้งเอาโซ่ล่าม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แหม่ม เนาวรัตน์” อดีตนางเอกชื่อดังยุค 70-80 เผยความฮอตในอดีตกับบท อีโล้นซ่า บอกประสบความสำเร็จจริง มีงานทุกวันจนนับเงินไม่ไหว แต่อีกด้านก็ต้องปะทะกับครอบครัว เพราะไม่อยากให้ใช้ชื่อนามสกุลจริงในวงการ จนโดนไล่ออกจากบ้าน ต้องย้ายไปอยู่กับเพื่อน จากนั้นก็มีแต่ภาพยนตร์แนวโป๊ๆ ให้เล่น พอตัดสินใจเลิกเล่นเพื่อกลับไปหาครอบครัว ก็โดนพ่อล่ามโซ่ไม่ให้ออกจากบ้านอีก

เชื่อได้ว่าถ้าย้อนกลับไปยุค 70-80 ภาพยนตร์เรื่อง อีโล้นซ่า เป็นตำนานที่อยู่ในใจแฟนภาพยนตร์ รวมทั้งแจ้งเกิด “แหม่ม เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์” ไปด้วยเช่นเดียวกัน ล่าสุดได้เจอเจ้าตัวในงานบวงสรวงภาพยนตร์ ปอบดิ๊บดิบ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม ที่ลานพระพิฆเนศ หน้าศูนย์การค้า ยูเนี่ยนมอลล์ ถือเป็นการหวนมารับงานแสดงอีกครั้ง แหม่มเล่าย้อนไปถึงยุคสมัยที่ดังสุดๆ ให้ฟัง ลั่นมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน

“แหม่มอยากรับงานนะคะ แต่ว่าบางทีเราก็ไม่ได้ถูกเลือก (หัวเราะ) จริงๆ ก็มีความสนุกเวลาที่ได้อยู่กองนะ ชอบอยู่ใกล้เด็กๆ เพราะเด็กๆ เขาก็น่ารัก สอนให้เล่นมือถือ เราก็มีความสุข น้องๆ น่ารักทุกคน แล้วน้องๆ บางคนพอเห็นรูปเราเขาก็ตื่นเต้น ว่าพี่โกนผมเหรอคะ เราเองก็เล่นละครดังมาเยอะ หนังก็เยอะ ตอนที่เป็นอีโล้นซ่า ต้องโกนผม ตอนนั้นเราก็วัยรุ่น แต่วัยรุ่นสมัยนั้นก็ต้องผมยาว ผมสวย ผู้ชายก็จะเรียบร้อย แต่เรื่องนี้เป็นหนังฮ่องกง แล้วมีบทต้องโกนหัว เขาเลือกผู้หญิงจาก 200 คนนะ ไม่รู้ว่าทำไมมันโชคดีมาที่เรา คนก็จะบอกว่าทำไมกล้าจังเลย เธอเป็นคนดีหรือไม่ดี ทำไมโกน (หัวเราะ)

ภาพโปสเตอร์ต้องทำแบบนั้น แต่ไม่ได้เปลือยนะ มันจะมีผ้าแถบ แล้วก็มีคนอยู่ข้างหน้า ข้างหลังอีกประมาณ 20 คน ก็มีคนคอยดึงผ้าแถบให้เรา เราก็ต้องดันหน้าอกขึ้นมา พร้อมกับเอาศีรษะและงาช้างไปไว้ ก็กลายเป็นภาพนั้นออกมาและขายดีมาก เรามีความโชคดีที่ไปไหนก็จะมีคนขายภาพของเรา แล้วก็เดินมาขอบคุณเรา บอกว่าขอบคุณมากๆ เลยที่ให้ผมได้มีเงินเรียนด้วยการขายโปสเตอร์ เราก็ดีใจ ต้องขอบคุณคุณพิเชษฐ์ ปอบดิ๊บดิบ ที่ให้เรามาเล่น เขายังเห็นคุณค่าเรา แล้วก็ต้องขอบคุณคุณบีเวอร์ด้วย ขอบคุณทุกคนที่ให้เนาวรัตน์กลับมาตรงนี้”

โดนครอบครัวไล่ให้ออกจากบ้าน เพราะอับอายที่เล่นแต่บทโป๊ๆ
“คือตอนนั้นเราก็ใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง และยังเรียนหนังสือไม่จบ อายุเพิ่ง 16 พ่อแม่เราก็บอกอย่างเดียวว่าต้องไปเรียนหนังสือ พี่น้องก็บอกว่าเอาชื่อจริง นามสกุลจริงออกได้ไหม เพราะเขาเขิน เขาอาย เพราะเหมือนเต้นกิน รำกิน ตอนนั้นเราก็ไปไม่เป็น เพราะเราใช้ไปแล้ว (หัวเราะ) แล้วสมัยนั้นเราก็ถ่ายโฆษณาแทบทุกอย่าง แล้วโป๊หมด เล่นกับใครก็โป๊ เล่นเป็นผู้หญิงหากิน ครอบครัวไม่ให้เข้าบ้านเลยค่ะ (หัวเราะ) ก็เลยออกไปอยู่บ้านพี่หนิง เมตตา รุ่งรัตน์ ครอบครัวไม่พูดด้วยเลย เขาบอกถ้าเธอจะเลือกงานนี้ก็ต้องออกไป

แต่ตอนนั้นชื่อเนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ มันก็เกิดแล้วนะ เราก็เลยเลือกที่จะไปบอกกับทุกคนว่า ถ้าต้องเล่นหนังแล้วโป๊ แล้วต้องสูบบุหรี่ด้วย ซึ่งเรายังเด็กก็สูบไม่เป็น เราต้องไปหัดสูบบุหรี่ แต่เขาบอกเราสูบเหมือนคางคก (หัวเราะ) เพราะสมัยก่อนยังไม่มีครูการแสดง มีแต่แอ็กติ้งโค้ช แล้วต้องแต่งหน้าเอง ทำทุกอย่างเอง เราก็ได้ครูจากนางเอกรุ่นเดอะๆ นี่แหละ เราก็ได้ครูคืออาโย (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) เป็นคนสอน สมัยก่อนต้องเรียนจากพี่ๆ นักแสดงรุ่นนี้นะ”

“อัโล้นซ่า” ดังมาก มีงานทุกวันทั้งปีจนนับเงินไม่ไหว
“คำว่าสุจริต กับคำว่านามสกุลเนี่ยมันไม่ได้ (หัวเราะ) แต่เราก็ไม่ได้พยายามเปลี่ยนหรืออะไร เพราะมันใช้ไปแล้ว แต่เราพยายามเปลี่ยนตัวเอง หักดิบด้วยการไม่เล่นหนัง เพราะบทโป๊มันเยอะ ก็กลับไปเรียนหนังสือ แต่เอาจริงๆ เราใส่เสื้อปกติก็ดูโป๊แล้ว เปิดเสื้อนิดนึงก็ดูโป๊แล้ว บางคนใส่เว้าไปหมดยังดูไม่โป๊เลย มันอยู่ที่สรีระนะ

ที่บอกว่าอีโล้นซ่ามีผลเสียก็คือไม่ได้หลับได้นอนเลย โชว์ตัว 365 วันทุกจังหวัด เชื่อไหมนั่งจากชลบุรีถึงกรุงเทพฯ ยังนับไม่หมดเลยแบงก์ 20 ซึ่งถ้าเทียบกับสมัยนี้ ถ้าเทียบกับบัตรเข้าโรงหนังก็น่าจะเป็นร้อยนะ ลองคิดดูว่าเล่นเมื่อ 45 ปีที่แล้วค่าเงินจะเท่าไหร่”

บอกครอบครัวไม่ยอมรับ ถึงขนาดพ่อต้องล่ามโซ่ห้ามออกจากบ้าน
“ไม่ๆ แหม่มถ่ายเรื่องไอ้ติงต๊องก่อน เป็นนางเอกผมซอยๆ แต่จริงๆ นางเอกเรื่องอีโล้นจะไม่ได้เป็นแหม่มหรอก พระเอกก็คือคุณเศรษฐา ศิระฉายา แต่ตัวอีโล้นมีหลายคนที่ดังๆ เราก็ไปห้อยพี่ๆ เขา คุณกรุง ศรีวิไลก็มาเล่นเป็นแมงดา รุ่นนั้นดาราเยอะ เรามาได้สอดแทรกเล่นก็ถือว่าโชคดี ที่เกิดได้ก็เพราะพี่ๆ ไม่ได้เกิดเพราะตัวเองนะ เพราะคนอยากดูประกบดาราเยอะๆ มากกว่า แต่ผลเสียอีกอย่างที่สำคัญคือพ่อเราเอาโซ่ล่าม ไม่ให้ออกจากบ้าน

คือการที่ลูกไม่ได้ออกจากบ้าน พ่อบอกว่าอย่าออกเลย คุณคิดยังไง ไม่ได้ออกแล้ว หรือออกจากบ้าน บ่าย 3 คุณต้องเข้าบ้านนะ มันอันตราย แหม่มจะโดนแบบนั้น พ่อยึดกุญแจรถ และเราเป็นคนแปลก คือถ้าทำอะไรไม่เป็นก็ต้องทำให้ได้ พ่อไม่สอนขับรถเพราะกลัวจะขับเป็น เราก็ไปจ้างแท็กซี่ พอมีเงินก็ไปแอบเรียนขับรถ ทุกวันนี้ก็ยังขับแบบแท็กซี่อยู่เลย (หัวเราะ)

ล้างภาพอีโล้นซ่าได้ เพราะเล่นเรื่องนางสาวทองสร้อย
“คือตอนที่ตัดสินใจรับเล่น พ่อแม่ไม่รู้ ตอนไปประกวดพ่อแม่ยังไม่รู้เลย จำได้ประกวดครั้งแรกด้วยกันกับพี่ต่าย เพ็ญพักตร์ มองหน้ากันไม่รู้ว่าอายุถึงทั้งคู่หรือเปล่า เขาก็ขอบัตรประชาชน ต่างคนต่างเผ่น ไม่มีบัตรประชาชน ก็กลับบ้านสิคะ (หัวเราะ) พอสักพักเราก็เลือกที่จะหยุดเล่นหนังโป๊ เพราะคนเขาดูถูกว่าคุณเล่นได้แต่บทโป๊ เรามีความรู้สึกว่าตอนนั้นถ้าเราจะล้างภาพก็นึกได้อย่างเดียว พี่เหน่ง เมตตาบอกให้ไปหัดร้องเล่น หรือไปเล่นละคร ท่านรพีพรเห็นก็บอกคนนี้ต้องเล่นนางสาวทองสร้อย คนก็มองว่าเล่นหนังโป๊มา แล้วจะมาเล่นนางสาวทองสร้อยเป็นไปได้ยังไง ตอนนั้นมีประมาณ 5 นางเอก มีตั้งหลายคน แต่คุณรพีพรบอกว่าถ้าคนนี้ไม่ได้เล่น ก็ไม่ให้ใครเล่น

ก็ล้างภาพอีโล้นซ่าไปเลย กลายเป็นคนละเรื่องเลย นางสาวทองสร้อยเป็นผู้หญิงเรียบร้อย เด็กนักเรียนนอกมาทำธีสิส ซึ่งเราเองยังเรียนไม่จบเลยตอนนั้น ก็ต้องไปนั่งหาอีกว่าธีสิสคืออะไร มันไม่ง่ายนะการเป็นนักแสดง”

ยอมรับบทโป๊เปลือยอาจทำให้คนติดภาพ และไม่กล้าติดต่องานมา
“ไปสะดุดบทโป๊กับบทจูบ ไม่รู้ทำไมต้องให้จูบให้โป๊ เพราะว่าอาจจะเป็นสรีระไหม คนชอบคิดว่าแหม่มไม่รับเล่นละครแล้ว แต่จริงๆ รับนะคะ มีละครเล่นก็ถือว่าดี เล่นของพี่เวอร์ก็หลายเรื่องนะ คิดว่าอาจจะเพราะบทโป๊ๆ กับบทอีโล้นซ่าด้วยที่ทำให้เราไม่มีงาน ด้วยภาพลักษณ์คือถ้าโป๊แล้วก็เล่นได้แต่โป๊ เขาไม่รู้ว่าการนักแสดงมันอยู่ในสายเลือด เหมือน DNA เหมือนนักข่าว คุณตื่นมาก็คิดคอนเทนต์แล้วว่าจะทำอะไร ความรู้สึกนึกชอบการแสดงมันตั้งแต่จำความได้ แหม่มดูรูปพี่เปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์ ตั้งแต่อายุ 7-8 ขวบ แล้วก็พูดกับตัวเองว่าจะเป็นดาราๆ นี่คือเรา

แหม่มจะบอกว่าความรู้สึกของการเป็นนักแสดง ทนได้ไหมกับการเดินออกจากบ้าน แล้วมีคนพูด เมื่อก่อนเนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ เมื่อก่อนสวย แล้วเดี๋ยวนี้….อันนี้แหม่มไม่ได้อยากได้ เราอยากได้ยินว่า หูย..เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ เหรอ เพราะเราเคยได้ยินคนพูดว่าวันนี้เนาวรัตน์ ซื่อสัตย์มาด้วย ป่านนี้คงแก่แล้ว เป็นผู้ชายพูด เราได้ยินก็หันไปมอง เขาก็รีบบอกขอโทษครับ เป็นพี่แหม่มเหรอครับ

ถามว่าถ้าย้อนกลับไปได้ จะรับบทอีโล้นซ่ากับโป๊ไหม มันก็พูดยากนะ ถามว่าความรู้สึกวันนั้นกับวันนี้ ในวันนั้นความรู้สึกเราทำดีไม่ดีเราไม่รู้ เพราะเราเป็นเด็ก แต่สิ่งที่เป็นเนาวรัตน์ ซื่อสัตย์ แล้วภาพจำมันก็คืออันนี้ มันเป็นโอกาส พ่อสอนประจำว่า คนเราถ้าไม่รู้จักใช้โอกาสนั่นคือคนโง่ แล้วเวลาเราเถียงกับพ่อ ก็บอก อ้าว..พ่อบอกเองไงว่าไม่รู้จักใช้โอกาสคือคนโง่ อันนี้ก็โอกาส พ่อก็บอก ไม่ได้สอนให้เป็นแบบนี้ เขาก็เสียงสูงเนอะ เราก็ไม่รู้ ทำไปแล้ว แต่บุคลิกเราตัวจริงกับโล้นซ่าคนละเรื่องนะ จะไปคิดว่าคนนี้ต้องเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ คุยกับเขาก่อน ดูแบ็กกราวน์เขาก่อน”













กำลังโหลดความคิดเห็น