“พีเค” เผยสิ่งที่ผิดพลาดที่สุด คือมีแล้วให้หมด จนหมดตัว! ลุกขึ้นได้เพราะ “มิเรียน”

“พีเค” เปิดใจเต็มๆ หลัง “มิเรียน” แฉอดีตภรรยาเรื่องเงิน เปิดสเตทเมนต์ - สลิปย้อนหลัง เหตุสงสารพีเคมีแต่ตัว ไม่เหลืออะไรเลย งานนี้พีเคยอมรับว่าสิ่งที่พลาดที่สุดที่ผ่านมาคือตัดสินใจเร็วไป แนะคนมีครอบครัวแยกกระเป๋าเงิน ไม่แยกคือพัง! ยกมิเรียนแฟนที่ดีที่สุด ดึงตนออกมาจากความมืด บอกรักทุกชั่วโมง เต็ม 10 ให้ 12 หวังว่าจะรักไปได้เรื่อยๆ

ถือว่าเป็นการเปิดใจหมดเปลือกครั้งแรกหลังจากที่เลิกรากับอดีตภรรยา “โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ บุญประชม” และเริ่มมาคบหากับสาว “มิเรียม สุเดชา อัคเซลการ์ด” อย่างจริงจัง สำหรับพิธีกรหนุ่ม “พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพ็ชร”ในรายการ Thairath Talk ซึ่งก่อนหน้านี้ทางฝั่ง มิเรียน ก็ออกมาเปิดหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับการเงินของพีเค ที่มีการโอนไปให้อดีตภรรยามากมาย แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าไม่เคยได้รับ และตอนนี้แทบจะเรียกว่าฝ่ายชายนั้นแทบจะหมดตัวอยู่แล้ว โดย พีเค เปิดใจว่าบอกใครก็ไม่มีใครเชื่อว่าตอนไม่เหลือเงินเลย จนแม่ต้องมาถามว่ามีเงินกินข้าวไหม

“ใช้คำว่าเพิ่งผ่านมรสุมเหรอครับ ยังผ่านอยู่เลย (หัวเราะ) ปีนี้หนักมากตั้งแต่มีนาคม หนักที่สุดในชีวิต ถามว่าดิ่งขนาดไหน โอ้โห…ตอบยากมากเลย อยู่คนเดียวไม่ได้ เวลาเราตื่นมาตอนเช้า เห็นคนด่าเป็นหมื่นๆ คน เราโคตรเสียใจเลยนะ แต่เราเข้าใจที่เขาด่า เราไม่โกรธใครเลย แต่พอเห็นคนด่าเราเป็นหมื่นคนทุกวัน เรารู้ว่าเราผิด รู้ว่าเราตัดสินใจเร็วไป รู้ว่าเราพลาด รู้ว่าเรากลับไปแก้ไขไม่ได้

ตอนแรกก็ยังรับไม่ได้กับความจริงเหล่านี้ จนวันนึงพอเริ่มรับได้และเข้าใจโลกว่าจริงๆ โลกมันไม่ได้เลวร้ายแบบนั้น ทุกครั้งที่เราออกไปทำงานอีเวนต์ คนก็ยังมายิ้มให้เรา มาให้กำลังใจ มาขอถ่ายรูป เราก็เริ่มแยกแยะออกว่าโลกโซเชียลเป็นอย่างนี้ โลกแห่งความเป็นจริงเป็นอย่างนี้

เราอยู่ในวงการมา 25 ปี เรามีเพื่อนเยอะ เราคิดว่าเรามีเพื่อนเยอะมาก ทุกคนคือเพื่อนของเรา เพราะเราดีกับทุกคน แต่พอมีปัญหา ส่วนใหญ่ยิงมาอย่างเดียวเลย เราก็เฮ้ย นี่เพื่อนเราไม่ใช่เหรอวะ จนมาเห็นว่า แม่ พี่ชาย 2 คน พี่สะใภ้ หลาน คุณแฟนและเพื่อนไม่กี่คน แมสเสจมาหาเรา มาหาเราที่บ้าน มานั่งกินข้าว มานั่งเป็นเพื่อน เราก็คิดได้ว่าอ๋อนี่คือ…(นิ่ง น้ำตาซึม) ประมาณนั้น

ถามว่าคุณแม่เป็นกำลังใจหลัก ท่านให้คำปรึกษา ให้คำสอนอย่างไร ในวันที่เรามีมรสุม ไม่หรอกครับ แค่เขามานั่งกินข้าวด้วยก็พอแล้ว จากที่ 2 เดือนเจอครั้งนึง จนช่วงมรสุมเขามาหาทุก 2 วัน แม่ถามว่ามีเงินกินข้าวไหม (หัวเราะ) เราเป็นคนที่ชอบให้และเต็มที่กับทุกอย่าง จนวันนึงเจออย่างนี้ เขาก็เข้าใจ

ถามเลยว่ามีเงินกินข้าวไหม มีเงินพอใช้ไหม ทุกวันนี้พอมีมิเรียน ทำให้เราอยากลุกขึ้นไปทำอันโน้น อันนี้ อยากออกกำลังกาย อยากทำให้ชีวิตมันดีมากยิ่งขึ้น สุดท้ายมันก็ไม่ได้เพื่อตัวเองนะ แต่อยากทำให้เขา เพราะปัญหาของผมคือ เราเป็นคนไม่รักตัวเองแต่ไหนแต่ไรแล้ว เป็นคนที่ชอบเห็นคนข้างๆ มีความสุข ทุกวันนี้ที่เราเริ่มทำโน่นทำนี่กลับมาเหมือนเดิม เพราะอยากจะเก็บเงินด้วย มีสตางค์ไว้ใช้ พามิเรียนกับลูกสาวเขาไปเที่ยว พาแม่ไปเที่ยว พาพี่หนุ่ม (พี่ชาย) ไปเที่ยว สมัยก่อนไปทุกๆ 2 เดือน เงินเราด้วยนะ อยากกินอะไรกิน อยากใช้อะไรใช้ แต่ตอนนี้ในช่วงที่ดิ่ง จิ้มจุ่มข้างหน้าก็อร่อย (หัวเราะ)”

บอกว่าไม่มีเงินก็ไม่มีใครเชื่อ ไม่ได้ลำบาก แต่เงินไม่คล่องมือ
“ไม่มีใครเชื่อ สำหรับส่วนตัวตอนนี้ไม่มี ด้วยเหตุผลในอดีต มันมีกิน แต่ถ้าอยากไปเที่ยวไหน อยากซื้ออะไรเรายังไม่เอาดีกว่า พูดมาเป็นปีแล้วไม่มีใครเชื่อใครฟังแฉก็จะรู้เลย เราพูดตลอด บางวันมี 700 บางวันมีพันกว่าบาท แต่คนฟังก็ขำ ไม่มีใครเชื่อ เราก็จะบอกว่าไม่มีจริงๆ แต่ไม่ใช่ว่าลำบาก ไม่ใช่ว่าทุกเดือนไม่มีเงินผ่อนค่าบ้าน แต่เราทำมาหมดแล้ว เพียงแต่ให้เงินมันคล่องมือ ตอนนี้ก็เรียกว่าค่อยๆ กลับมา”

เผยบทเรียนความรัก 3 สิ่งที่ต้องทำ แนะคนแต่งงานให้แยกกองเงิน เพื่อคอนโทรลกันเอง
“อย่าตัดสินใจเร็ว อันนี้สำคัญสุดคือต้องคุยกันทุกเรื่อง เพราะผมเป็นคนที่ไม่คุย อะไรที่เขาอยากได้เขาได้ทำทั้งหมด อะไรที่ผมอยากทำแล้วไม่ได้ ก็ไม่พูด นี่สำคัญที่สุด 2. จัดการกับเงินของตัวเอง ถ้าจะแนะนำคนที่กำลังจะแต่งงาน ให้แยกกองเงินของตัวเอง เพื่อให้ต่างคนต่างคอนโทรลของกันและกัน ถ้าเกิดจะให้ใครคนใดคนหนึ่งดูแลการเงิน เราต้องดูด้วยว่าเงินของเราอยู่ไหน 3. อย่าตัดสินใจเร็ว ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม คิดให้ดี ผมพลาดมาแล้ว ค่อยๆ คิด ค่อยๆ คุย สิ่งหนึ่งที่อยากให้คนดูทางบ้านได้ก็คือ 3 สิ่งนี้ ถ้าเรารู้มาก่อนและเราทำ 3 สิ่งนี้ เราจะไม่ได้มานั่งคุยกันอย่างนี้เลย”

ผิดเอง ไม่โทษใคร เป็นราคาที่ต้องจ่าย
“ไม่โทษใคร ผมผิดเอง ตัดสินใจเร็วไป ปล่อยให้ใจเถลิงไป จนทุกวันนี้เราก็ยังต้องจ่าย คือเป็นราคาที่ต้องจ่ายให้กับตัวเขาและสังคม ผิดที่สุดคืออันนี้ แต่เราเข้าใจและไม่โทษใคร อยู่บ้านและยอมรับความผิดของตัวเอง”

ลุกขึ้นได้เพราะรักครั้งใหม่
“จริงๆ เป็นเพื่อนพี่ชาย และรู้จักกับแม่มา 7-8 ปี เราเคยเจอเขาในงานวันเกิดของหลาน เขาแวะมากินข้าวด้วย ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่าคนนี้น่ารักดี แต่เรามีแฟนแล้วก็จบ แต่ช่วงที่เราดิ่งมากๆ ใน 2 เดือนที่ผ่านมา เขาก็แมสเสจมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง ยูโอเคไหม เราก็บอกว่าไม่โอเค ก็ถามว่าเขาอยู่กรุงเทพฯ ไหม เขาบอกกำลังจะกลับเชียงใหม่ และบ้านผมอยู่ห่างจากสุวรรณภูมิแค่ 10 นาที ก็เลยนัดกันข้าวกัน

พอเปิดใจคุยกัน เราก็ขอให้เขาไม่กลับ เขาก็บอกไม่เป็นไร กลับตอนเช้าก็ได้ พออีกเช้านึงก็ขอเขาว่าอย่าเพิ่งกลับเลย อยู่เป็นเพื่อนกัน จนตอนนี้ 2 เดือนครึ่งแล้วยังไม่ได้กลับเลย (หัวเราะ) เราก็ไม่รู้ว่าอะไรของตัวเราที่ทำให้เขาอยากอยู่นะ ในขณะที่เราไม่มีอะไรเลย

วันที่คุยกันก็คุยเรื่องชีวิต ก็เปิดใจทุกอย่าง เราทำอะไรพลาด เราจะแก้ไขยังไง ก็คุยเรื่องชีวิตเขา ตอนที่สามีเขาเสีย ก็เหมือนจูนกันได้ว่าต่างคนต่างเสียเหมือนกันเลย ยิ่งคุยก็ยิ่งถูกคอ ก็เลยแกล้งโทร.บอกคนขับรถให้มาช้าๆ เพื่อให้เขาตกเครื่อง แล้วก็ตกเครื่องจริงๆ (หัวเราะ)”

ถ้าไม่มี “มิเรียม” ในวันนั้นอาจจะไม่มี “พีเค” ในวันนี้ เขาคือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม
“อาจจะไม่มี เพราะเขาคือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม ถ้าวันนี้ทำแย่กับเขา บอกได้เลยว่าพรุ่งนี้เขาก็ไม่อยู่ พรุ่งนี้เขาก็ซื้อตั๋วกลับเชียงใหม่ไปหาลูก (หัวเราะ)”

หยุดคาสโนว่า 2 เดือนกว่า
“หยุดมา 2 เดือนครึ่งแล้วครับ (หัวเราะ)”

เรียกมิเรียนแฟนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ บอกรักทุกวัน เต็ม 10 ให้ 12 เขาดูชีวิตผมแล้วบอก “ไอยอมไม่ได้”
“ใช่ครับ บอกรักทุกชั่วโมง เขามีลูกสาวที่น่ารักมาก เขาบอกรักลูกสาวตลอด และบางทีเราก็เหมือนลูกชายเขาด้วย เพราะเขาดูแลเราเหมือนลูกชาย (หัวเราะ) เดินเข้ามากอดและบอกไอเลิฟยูตลอด ทุกชั่วโมง

มิเรียนเขาเป็นนักสู้ ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวเขา และเรื่องของผมด้วย เขาดูชีวิตผมและบอกเลยว่าไอยอมไม่ได้ (ปรบมือ) เต็ม 10 ให้ 12 เลย เขาสวย เซ็กซี่ เอาใจเก่ง เข้ากับแม่กับครอบครัวได้ดีมากและเขาแบ่งเลยว่าเงินที่เขาทำมาของเขา เงินที่ผมทำมาของผม ไม่แตะกันนะ ซึ่งเราไม่เคยเจอ (หัวเราะ) อย่างที่เคยบอกให้แยกกระเป๋าเงินเลย ไม่งั้นพัง”

ไม่มีคำสัญญาให้กัน แค่วันนี้ไม่ดีพรุ่งนี้ก็แยก
“ไม่มีๆ เขาบอกเลยว่าถ้าวันนี้ดี พรุ่งนี้ก็อยู่ ถ้าวันนี้ไม่ดี พรุ่งนี้ก็แยก เขาเป็นคนอย่างนี้ เพราะเขามีลูกสาวต้องดูแล สองเขาสูญเสียสามีมาแล้วเพราะฉะนั้นไม่มีอะไรในอนาคตที่จะทำร้ายเขาได้แล้ว เป็นคนที่แข็งแบบนั้น”

หวังว่าจะรักมิเรียนไปได้เรื่อยๆ ขอบคุณเขาไปจนวันตาย ดึงออกจากจุดมืดที่สุดในชีวิต
“หวังว่า เพราะถึงแม้จะรักหรือไม่รักในอนาคต เขาเป็นคนที่ดึงผมออกมาจากจุดที่มืดที่สุดในชีวิต และไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เราจะมีความขอบคุณอยู่เสมอไปจนตาย”