คำว่า อยู่รอด! เอาตัวรอด! หนีตาย! กำลังถูกใช้กันในทุกวงการ ด้วยสภาพเศรษฐกิจและสังคมตอนนี้ สำหรับวงการบันเทิงเองก็เช่นกัน เดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า ตั้งแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพราะโควิด-19 เทรนด์ตลาดทำเม็ดเงินไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมน้อยลง ทำให้การใช้ชีวิต วิถีการทำงานแต่ละคนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ใครไหวตัวทัน ปรับเปลี่ยนมายด์เซ็ตตัวเองขอเริ่มนับ1 อีกครั้งในเส้นทางใหม่ ก็จะเห็นว่ามีดารา คนดังมากมาย ที่คว้าอาชีพที่ 2 มาได้สำเร็จ อาทิ การเป็นแม่ค้าไลฟ์สดขายของ การเป็นอินฟูลเอนเซอร์ การเป็นยูทูบเบอร์ ควบคู่ไปกับการทำงานในวงการบันเทิงที่รัก ซึ่งส่งเสริมกันได้เป็นอย่างดี
แต่ก็มีดาราหลายคนที่ชีวิตเหมือนดังสุภาษิต “ผีซ้ำด้ามพลอย” งาน เงินก็หายากแล้วต้องมาเจอเรื่องให้เดือดเนื้อร้อนใจเข้าไปอีก อย่าง ถูกโกงค่าตัว ยืมเงินแล้วไม่คืน เจอคอลเซ็นเตอร์หลอก เจอมิจฉาชีพในคราบของคนที่ไว้วางใจ เรื่องนี้เริ่มเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ในหน้าสื่อ มีดาราหลายคนที่ไม่ขอทน ออกมาเปิดเรื่องราวคนในวงการบันเทิงด้วยกันเองอีกมุม ที่ทำเอาใครที่รู้ก็ถึงกับช็อกเพราะมีดาราคนดังในวงการบันเทิงหลายคนที่มีนิสัยชอบยืมเงินคนอื่น ใช้สิทธิ์ที่ตัวเองเป็นคนมีชื่อเสียงทำเรื่องราวที่เป็นภัยสังคมขึ้นมา
ขายฝันกับความโลภ
เคสประเภทนี้มีข่าวให้เห็นมากมายกับข่าวในคราบของมิจฉาชีพ แต่นี่เป็นคนดัง มาชวนลงทุน พร้อมขายฝันจะได้กำไรก้อนโตจากทุนที่ลงไว้อีกหลายเท่า คล้ายๆ ฟีลแชร์ลูกโซ่ , Forex คนดังสูญเงินกันอยู่ไม่น้อยเลย หนึ่งคนที่เคยประสบภัยเรื่องนี้อย่าง “จ๊ะ นงผณี มหาดไทย” ที่สูญเงินไปหลักสิบล้านเคยออกมาเล่าบทเรียนจากความโลภของวิถีแนวคิดเสือนอนกินจากเรื่องนี้ไว้ว่า…. “ให้คิดเสมอว่า..เราโชคดีมากแล้ว ที่มีงานทำ มีข้าวให้กิน มีบ้านให้อยู่ มีรถให้ใช้ มีครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ต้องมีมาก แค่มีพอ พอมี ก็พอแล้ว”
นอกจากนี้ยังมีเคสของดาราดัง มีฐานะ มีสามีเป็นผู้ทรงอิทธิพล ใช้จิตวิทยาชวนไปเลี้ยงอาหารหรู อวดให้เห็นว่าชีวิตอู้ฟู่ แล้วชวนลงทุนร่วมทำธุรกิจ เสนอดอกเบี้ยก้อนโตให้เคลิ้มไปกับความโลภ สุดท้ายรู้ตัวอีกทีสูญเงินเก็บทั้งชีวิต จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกัน “ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี” ได้ข้อคิดจากเรื่องนี้ว่า… “อย่าหวังรวยทางลัด และจากนี้จะไม่ให้ใครยืมเงินอีกแล้ว เราตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินเอง ทำมาหากินด้วยตัวเอง เก็บเล็กผสมน้อย ไม่ต้องไปอวดร่ำอวดรวย ใช้ชีวิตพอประมาณ อยู่แบบนี้รอดค่ะ”
อาศัยความน่าเชื่อถือยืมเงินคนในวงการไปทั่ว
ไม่นานมานี้ “ตั๊ก มยุรา เศวตศิลา” ได้ออกมาเปิดเรื่องราวตัวเองว่าพลาดท่าให้คนรู้จักในวงการยืมเงิน 1 แสนบาท ตามทวงแล้วทวงอีกจนไม่ทวงแล้ว เตรียมให้ทนายจัดการ ถามว่าทำไมถึงให้เพราะเขาเอาเรื่องลูกต้องใช้เงินมาอ้าง ทำให้รู้สึกสงสาร บวกกับคนนี้เป็นคนที่หลายคนให้ความเชื่อถือและยอมรับ พูดชื่อออกมาแล้วจะไม่มีใครเชื่อเลยว่า ยืมเงินคนไปทั่ววงการขนาดนี้ได้ และเมื่อไปสืบก็พบว่าคนอื่นที่โดนก็มาขอยืมด้วยมุกเดียวกัน รวมๆ แล้วน่าจะเอาเงินจากคนในวงการไป 20 ล้านได้ เรื่องนี้กลายเป็นข่าวดัง แต่ลูกหนี้กลัวการขุด การเปิดโปง ตั๊ก มยุรา ก็เลยได้เงินคืนแล้ว ซึ่งยังมีอีกหลายคนมากๆ ที่ยังไม่ได้คืนและกำลังรวบรวมความกล้าเปิดเผยเรื่องนี้อยู่
ติดหนี้ค่าตัว
นอกจากเรื่องราวของการยืมเงินกันแล้ว มันมีในเคสของค่ายดัง เบี้ยวเงินค่าตัว ทำงานแล้วได้เงินไม่ครบอีกก็มีหลายเคสมากๆ เรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ มีหลายคนมากๆ ที่โดนเบี้ยวค่าตัว แต่คนดังหลายคนเลือกมองข้าม เพราะยังมีงานทำอยู่เรื่อยๆ แต่หลังๆ ก็เริ่มมีคนดังออกมาเปิดเผยเรื่องราวทำนองนี้กันมากขึ้น อาจจะด้วยภาวะเศรษฐกิจบีบคั้น งานหาย เงินหด เลยเกิดการทวงเงินค่าตัวกันหนักหน่วง
อย่างเคส “หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน” ก็เพิ่งจะประสบความสำเร็จจากการทวงเงินคืนจาก “เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง“ ที่ค้างจ่ายเงินค่าตัวละคร นานถึง 5 ปี เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3 แสนบาท และดูเหมือนว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังได้เงินค่าตอบแทนจากการทำงานไม่ครบในละครเรื่อง ปาฏิหาริย์กาลเวลา
อย่างที่บอกเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เมื่อคุยเรื่องนี้กับดารารุ่นเดอะอย่าง “พล ตัณฑเสถียร” เจ้าตัวก็ได้เล่าให้ฟังถึงการคัดเลือกงาน นอกจากดูบทที่จะรับแล้ว ยังขอสกรีนตัวผู้จัดและสืบให้รู้ลึกถึงการเงินของค่ายด้วย เพราะตนก็เคยเจอประสบการณ์ค่ายดังมากๆ เบี้ยวค่าตัวมาเหมือนกัน กลายเป็นเรื่องที่จำฝังใจของการเป็นนักแสดง และสุดท้ายก็เลือกมองอีกมุม ซึ่ง พล เล่าว่า…
“เป็นเวลา 20 กว่าปีแล้วที่เรายังไม่ได้เงินของเราคืน มันโกรธจนหายโกรธแล้ว มันเป็นละครเรื่องแรกของผม ง่ายๆ เราก็ยังไม่มีชื่อเสียง มองในมุมกลับกันจะบอกว่าเขาไม่ให้อะไรเราเลยมันก็ไม่ได้ ก็หามุมบวกมองไปแล้วกัน ในใจลึกๆ ถ้าเขามี เขาประสบความสำเร็จเขาก็คงให้ เราเอาชีวิตเราไปดำเนินเรื่องอื่นๆ ต่อดีกว่า
มันมีความโกรธอยู่ช่วงหนึ่ง ก็คิดไม่ดี พูดไม่ดี อาจิ๋ม (มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช) มาเคาะหัวกบาล เตือนสติเรา อาจิ๋มถามแล้วได้เงินมาบ้างไหม เราก็บอกว่าได้แต่ไม่ครบ อาจิ๋มก็บอกต่อว่าจำไว้นะคนที่เคยให้ข้าวให้น้ำเราแม้มันจะไม่ได้เยอะเท่าที่เราคิดเราคาดเราหวังไว้ เขาก็ถือว่าเป็นคนที่มีบุญคุณกับเรา ดังนั้นอย่าพูดถึงเขาไม่ดี คำพูดนี้ทำให้เราคิดได้ ถ้าเขามีเขาคงให้แหละ เขาคงไม่ได้อยากตกอยู่ในสภาพกระอักกระอ่วนหรอก”
อย่างไรก็ตาม กระแสคนบันเทิงถังแตก ยังมีอีกมาก ที่ยังไม่เป็นข่าว ล่าสุดมีการออกมาเผยถึงอดีตนักร้องดังยุค 90 รายหนึ่ง ซึ่งเคยสังกัดค่ายดังย่านลาดพร้าว ก็ยืมเงินคนในวงการไปทั่วด้วยเหมือนกัน
บอกเลยว่ารู้ชื่อว่าเป็นใครต้องเอามือทาบอก เหลือจะเชื่อ!