ไรอัน เรย์โนลด์ ทำถึงจริง ๆ กับ "Deadpool & Wolverine" ที่เต็มไปด้วยการปรากฏตัวของแขกรับเชิญมากมาย กลายเป็นหนังที่ "ปลุก" ให้จักรวาลภาพยนตร์ MCU ที่ดูเหมือนจะเริ่ม "ขาลง" ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ทั้ง เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ ในบทอีเล็กตร้า และแชนนิ่ง เททัม ในบทแกมบิท แต่ที่สร้างความตกตะลึงที่สุดคือการกลับมาของเวสลีย์ สไนปส์ ในบท Blade
เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่า เวสลีย์ สไนปส์ เคยมีปัญหาถึงขั้น "ไม่เผาผี" กับ ไรอัน เรย์โนลด์ พระเอกของเรื่อง
เวสลีย์ สไนปส์กลับมารับบท Blade หลังจากเกือบสองทศวรรษที่เคยร่วมงานกับเรย์โนลด์สใน "Blade: Trinity" แม้ว่าในตอนนั้นหนังจะไม่ได้รับความนิยม แต่ก็มีข่าวลือเรื่องความขัดแย้งระหว่างนักแสดงสองคนนี้ ล่าสุด เรย์โนลด์สแสดงความตั้งใจที่จะปรับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นผ่านโพสต์ในโซเชียลมีเดียของเขา
การประสบความสำเร็จของ "Blade" และ "Blade II" ทำให้สไนปส์กลายเป็นดาราดัง จนมีการสร้างภาค 3 ออกมาในปี 2004 "Blade: Trinity"หวังต่อยอดความสำเร็จ แต่กลับล้มเหลวทั้งในด้านคำวิจารณ์และรายได้ ขณะเดียวกันก็มีข่าวลือถึงความขัดแย้งระหว่างสไนปส์กับเรย์โนลด์สในกองถ่าย
ซึ่งใน "Deadpool & Wolverine" มีการล้อเลียนเรื่องนี้ด้วย เมื่อ Blade พบกับ Deadpool และกล่าวว่า "ฉันไม่ชอบนาย" Deadpool ก็ตอบว่า "ไม่เคยชอบเลย"
ทั้งคู่ยอมรับว่ามีปัญหากันในกองถ่าย Blade: Trinity อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่คนลือกัน
เวสลีย์ สไนปส์ ยอมรับว่าไม่ค่อยเข้าใจวิธีการทำงานของ ไรอัน เรย์โนลด์ ที่พยายามจะ "ตลกตลอดเวลา" และคิดว่าเขาคงไม่มีวันได้กลับมาแสดงเป็น Blade อีกแล้ว
แต่สุดท้าย ไรอัน เรย์โนลด์ ก็ติดต่อมา และชวนให้เขากลับมารับบทเป็นนักล่าแวมไพร์อีกครั้ง อย่างที่ ไรอัน เรย์โนลด์ บอกว่า เวสลีย์ สไนปส์ มีส่วนสำคัญมากกับความรุ่งเรืองของหนังซูเปอร์ฮีโร่ในวันนี้ และยกย่องว่า เวสลีย์ สไนปส์ คือ "พ่อของ Marvel"
ในการสัมภาษณ์ใหม่กับ Entertainment Weekly เพื่อโปรโมทภาพยนตร์ สไนป์สได้อธิบายถึงวิธีการที่เขากลับมาเล่นบท Blade ใน Deadpool & Wolverine พร้อมกับพูดติดตลกว่าเขาเกลียดเรย์โนลด์ส ก่อนที่จะเปิดเผยว่าพวกเขาได้ "เล่น" กันมาตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมาเกี่ยวกับความขัดแย้งที่รายงานกัน
"มันเริ่มต้นจากข้อความจากไรอัน เรย์โนลด์ส และข้อความที่เขาส่งมาบอกว่า 'ฉันอยากคุยกับคุณ' ฉันคิดว่า 'ฉันเกลียดคนนี้' ซึ่งเป็นการพูดเล่นนะ เราได้เล่นกันมาแบบนี้มาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว จริงๆ เราชอบกันมาตลอด!" สไนป์สกล่าว
" เขาโทรมาบอกว่าเขามีไอเดียอะไรบางอย่าง แล้วก็อธิบายให้ฟัง ซึ่งผมก็คิดนะว่า 'คุณจะทำยังไง มันเป็นไปได้เหรอ' แต่ก็พูดไปว่า 'ถ้าคุณทำได้ ก็ได้ครับ ผมเล่นได้นะ' เขาถามว่า 'จริงเหรอ?' ผมตอบว่า 'ใช่ ทำไมไม่ลองล่ะ? มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น' ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ ผมไม่คิดว่าเขาจะทำได้ ผมไม่คิดว่า Marvel หรือ Disney จะสนใจ เพราะพวกเขามี มาห์เชล่า อาลี ที่จะเป็น Blade คนต่อไปแล้ว"
แต่สุดท้าย เวสลีย์ สไนปส์ ก็ได้กลับมาเป็น Blade จริง ๆ
การกลับมาของเวสลีย์ สไนปส์ใน "Deadpool & Wolverine" ยังสร้างสถิติโลกกินเนสส์สองรายการ ได้แก่ “นักแสดงรับบทตัวละครของ Marvel ในระยะเวลาที่นานที่สุด” และ “ทิ้งห่างการรับทเป็นตัวละครในหนัง 2 เรื่องที่ห่างกันมากที่สุด”
สไนปส์ที่เคยรับบท Blade ครั้งแรกในปี 1998 กลับมารับบทนี้อีกครั้งหลังจากเกือบ 26 ปี ลบสถิติของฮิวจ์ แจ็คแมนที่รับบท Wolverine ตั้งแต่ปี 2000
การปรากฏตัวล่าสุดของสไนปส์ยังสร้างสถิติการ "พัก" ยาวนานที่สุดถึง 19 ปี นับตั้งแต่ "Blade: Trinity" ในปี 2004 เป็นการทำลายสถิติในการห่างหายระหว่างการปรากฏตัวในภาพยนตร์ Marvel โดยรับบทเดิมเป็นเวลานานที่สุด ซึ่งสถิตินี้เคยเป็นของ อัลเฟรด โมลิน่า ที่ทั้งห่างบทนี้ระหว่าง Spider-Man 2 และ Spider-Man: No Way Home ถึง 17 ปี
สไนป์สยอมรับว่าแนวคิดเริ่มแรกเกี่ยวกับการกลับมาของเขาในบท Blade "ดูไม่สมเหตุสมผล"
แต่เมื่อเขาได้ฟังคำอธิบาย ก็เริ่มจะเข้าใจ เห็นด้วยกับการกลับมาของเขาในบท Blade การกลับมาของเขาจึงเริ่มต้นขึ้น ส่งผลให้เขากลับมารับบทนี้อีกครั้งหลังจากห่างหายไป 20 ปี