xs
xsm
sm
md
lg

2 ปีผ่านไป “เจมีไนน์-โฟร์ท” โตขึ้นแค่ไหน? พร้อมความในใจ! ที่ไม่เคยพูด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ถ้าไม่เจมีไนน์ ก็ไม่มีโฟร์ท ถ้าไม่มีโฟร์ท ก็ไม่มีเจมีไนน์ ผมยังคงยืนยันคำนี้อยู่ครับ”

นี่คือคำตอบที่เริ่มต้น สำหรับคำถามแรก กับการพูดคุยกับ 2 หนุ่มที่เขาได้พิสูจน์ตัวตนแล้วว่า “เขาไม่ได้มีดีแค่หน้าตา” ซึ่งทั้ง “เจมีไนน์ นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์” และ “โฟร์ท ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล” ตลอด 2 ปีที่โลดแล่นในวงการบันเทิงจากซีรีส์ แฟนผมเป็นประธานนักเรียน จากนั้นชีวิตของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไป ความดัง ชื่อเสียง และสิ่งอื่นๆ ก็ตามมาในแบบฉบับที่ “ซุปตาร์” ควรจะเป็น

และในปีนี้นอกจากซีรีส์ “My Love Mix-Up! เขียนรักด้วยยางลบ” แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เขาทั้งสองคนจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าความสามารถของทั้งคู่รอบด้านจริงๆ กับคอนเสิร์ต GEMINI FOURTH RUN THE WORLD CONCERT บนเวทีอิมแพคฯ อีกครั้งในวันที่ 31 ส.ค. และ 1 ก.ย. หลังจากเคยสร้างปรากฏการณ์ไปเมื่อปีที่แล้ว การพูดคุยในวันนี้ กับ 2 ปีที่ผ่านไป หล่อหลอมความเป็น “เจมีไนน์-โฟร์ท” กับเรื่องราวที่ไม่เคยพูดที่ไหน…

Q : 2 ปีผ่านไป “เจมีไนน์-โฟร์ท” เป็นยังไงบ้าง?
โฟร์ท : ถ้าไม่เจมีไนน์ก็ไม่มีโฟร์ท ถ้าไม่มีโฟร์ทก็ไม่มีเจมีไนน์ ยังคงยืนยันคำนี้อยู่ครับ

เจมีไนน์ : การเป็นพาร์ตเนอร์ของเราสองคน คือบวกกับบวกเจอกัน ก็กลายเป็นซุปเปอร์บวก ไม่มีใครถ่วงใคร คอยแต่ช่วยกันผลักดันไปในที่ ที่ดี ในทุกๆ วัน มันทำให้การทำงานในทุกๆ มันง่าย ทำงานกับคนที่เข้าใจกัน ทำงานได้ดี ทั้งตัวผมและตัวโฟร์ทเราสองคนทำงานได้ดีในระดับนึง

โฟร์ท : มันเป็นการส่งเสริมกันและกัน เจมีไนน์เขามีความสามารถที่เขาฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กแล้ว ผมก็จะซึมซับในความสามารถของเขามาใส่ในตัวเรา ซึ่งผมไม่ได้มีโอกาสได้ไปลองทำ ผมก็ซึมซับในส่วนนั้น มาปรับใช้กับตัวผมเอง ถ้าผมช่วยอะไรได้ ผมก็จะคอยช่วย เขาอาจจะไม่สันทัดเรื่องการแสดง ผมก็จะคอยซัปพอร์ตเขาช่วยอะไรได้ก็จะบอกเขา การที่เราบอกเขา เราไม่ได้บอกจริงจัง ไม่ได้เป็นการสอน แต่เหมือนเป็นการซึมซับกันและกัน เห็นว่าสิ่งนี้เขาทำแล้วเวิร์ก ผมก็เอามาปรับใช้กับตัวเอง อย่างเวลาที่เขาแสดง ก็เหมือนเรามองเห็นตัวเองแสดง ทำไมมันคล้ายกันเลย มันซิงค์กัน

Q : แล้วถ้าวันนึงอีกคนไม่ไหว?
โฟร์ท : เราไม่เคยหมดกำลังใจในการใช้ชีวิต สำหรับผมมีความสุขในการทำงานทุกวัน ไม่ได้คิดว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ มันเป็นสิ่งที่ทำไปเลย ไม่ได้คิดมากกับอะไร มีความสุขกับการทำงาน

เจมีไนน์ : เราไม่ได้รู้สึกว่าตื่นมาแล้ว ไม่อยากไปทำงานเลย เรารู้สึกอยากทำให้มันดี อยากให้แฟนๆ ดูผลงานของเรา ภูมิใจกับผลงานที่ตัวเองปล่อยออกไป เพราะมันคือผลงานที่ดีที่สุดในขณะนั้นแล้ว เราตั้งใจทำสุดความสามารถในตอนนั้นของเราแล้ว

Q : อย่างสิ่งแวดล้อมมันกดดัน ว่า “เจมีไนน์-โฟร์ท” ต้องทำได้?
เจมีไนน์ : ยิ่งพอคนเห็นว่าเราทำได้ คนก็จะคาดหวังสูงๆ ซึ่งเขาจะเห็นว่าเราทำอะไรไปแล้ว อย่างคอนฯ ปีที่แล้วเป็นแบบไหน พอมาปีนี้ก็คาดหวังอีกว่าจะต้องออกมาเป็นแบบไหน ก็กดดันแหละ เขาก็อยากเห็นว่ามันดีกว่าเดิม แต่เราไม่ได้เก็บมากดดันขนาดนั้น คอมเมนต์ของคนอื่น ไม่ได้ทำให้เราต้องเครียด เพราะเราก็พยายามทำให้มันออกมาดีในทุกๆ ครั้งที่เราได้โอกาสนั้นมา ผลตอบรับจะออกมาเป็นยังไง มันก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำออกไป เรารับความคาดหวังมา แต่เราไม่ได้เอามากดดันตัวเอง เพราะเราต้องพัฒนาตัวเองในทุกๆ วันไปเรื่อยๆ ในรอบปีที่ผ่านมาเราได้ประสบการณ์อะไรใหม่ๆ ได้เรียนรู้มากขึ้น ได้เติบโต ได้พัฒนามากกว่าปีที่แล้ว อันนี้ในมุมมองของผมนะครับ

โฟร์ท : เครียดมากเลยนะ ผมก็เคยเครียดกับคอมเมนต์คนอื่น ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยเครียดกับคอมเมนต์เลย แล้วผมรู้สึกไม่ได้เครียดกับความกดดันที่เราควบคุมไม่ได้ แต่ผมจะเครียดกับผลงานที่ผมจะทำ รู้สึกว่าคนที่เขารอ เขามีคาดหวังในผลงานเรา แต่ก่อนอาจจะไม่เครียดมาก เพราะยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่พอตอนนี้เรามีผู้ติดตามประมาณนึง มีคนคาดหวังอยากให้ผมทำแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งสิ่งนี้มันเป็นกำลังใจที่ดี ที่ทำให้ผมมีพยายามในการทำให้มันออกมาให้ดี

มันต้องทำให้ผมต้องเก่งขึ้นกว่าเดิม ให้มันเกินมาตรฐานขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างวันที่โดนคอมเมนต์หนักๆ ผมไม่ได้อะไรกับสิ่งนั้น ไม่ได้ซีเรียส เพราะผมรู้ว่าเจตนาเราคืออะไร แต่ว่าคนรอบตัว โทร.มาบอกให้ลบนะ หรือว่าเราต้องทำแบบนั้นนะ เรากลับมาถามตัวเองว่าผมทำผิดขนาดนั้นเลยเหรอ และดันไปดูคอมเมนต์ ดันไปอินกับสิ่งที่เขาเมนต์กันมาอีก เลื่อนไปเรื่อยๆ บวกกับช่วงนั้นจิตใจเราอ่อนแอด้วย มันเอนอ่อนไปง่าย ทำให้เราคิดว่าเราเป็นจริงตามที่เขาเมนต์จริงเหรอ ทั้งๆ ที่เรา ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นเลย แต่ตอนนี้ผมก็สามารถจัดการตัวเองได้แล้ว ถ้าต้องเจอเรื่องอะไรแบบนี้

Q : เราเรียนรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง?
โฟร์ท : ตอนนั้นผมยังเด็กมากกับสิ่งที่ผมเจอ ตอนนั้นผมคิดว่าทำไม ผมต้องไปใส่ใจกับคนที่เขาไม่ได้รู้จักตัวตนผมจริงๆ เลย เราไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นจริงๆ ผมรู้ว่าผมต้องการสื่ออะไร ถ้าเรื่องที่ดี ที่เขาแนะนำมา ผมก็จะเอามาปรับมาใช้ แต่ถ้าเรื่องไม่ดี จะพยายามไม่ใส่ใจ ซึ่งเจมีไนน์ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ผมผ่านมาได้ในวันนั้น ผมชอบความสดใสของเขา เล่นด้วยแล้วสนุก มันไม่ต้องคิดอะไรมาก

Q : แล้วสำหรับ “เจมีไนน์” กับคอมเมนต์ที่เกิดขึ้น?
เจมีไนน์ : ไม่มีนะ ถ้าคอมเมนต์ไหนที่ดี ก็จะเก็บ หรือถ้าคอมเมนต์ไม่ดี ก็จะเก็บมาคิดว่ามันจริงหรือเปล่า ซึ่งมันมีหลายคอมเมนต์มากที่มันไม่จริง มันคือเฟกนิวส์ มันเป็นอะไรที่ผมไม่ได้เป็น มันเป็นอะไรที่ผมไม่ได้ทำ มันมีอะไรที่ไม่จริง ซึ่งผมไม่รู้จะพูดยังไง ซึ่งมันเยอะมาก เฟกนิวส์เยอะมาก ก็แค่อยากรู้ว่าคนพวกนั้นทำไปทำไม เพราะมันเป็นเรื่องไม่จริง ว่างเนอะ ที่มาว่าคนอื่นได้ ซึ่งผมคิดแบบนี้ แล้วผมก็คิดว่าผมต้องทำตัวเองให้ดี โดยที่เราไม่ต้องไปด่าคนอื่น เพื่อที่จะทำให้ตัวเองดูดี ผมไม่ได้นอยด์เพราะว่าไม่ได้ไปสนใจคนพวกนั้นอยู่แล้ว ซึ่งผมจะสนคอมเมนต์ที่เป็นผมจริงๆ ผมผิดพลาดจริงๆ

อย่างแม่ผมจะเป็นคอมเมนต์ที่ดีมาก เวลาผมทำอะไรผิดจริงๆ แม่ผมจะด่าผมตลอด ทุกคอมเมนต์ที่ด่าผมมา แล้วถ้ามันเป็นเรื่องจริง แม่ผมจะด่าผมก่อนเลย แม่ผมจะตามดูผมทุกงาน ถ้ามีอะไรผิดพลาด แม่ก็จะบอกเลย ผมโดนแม่สอนมาตั้งแต่เด็กแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าต้องพัฒนาตรงไหน มันเป็นคำติที่เป็นจริง และก็ติดด้วยความหวังดี แต่ผมไม่ค่อยนอยด์ไง

โฟร์ท : เจมีไนน์ เขาก็จะมีมุมนอยด์ๆ ของเขา แม้เขาจะแสดงออกว่าเขาไม่ได้นอยด์ แต่ผมสัมผัสได้ว่าลึกๆ ว่าเขามีอะไรในใจ ยกตัวอย่าง ตอนแรกเอเนอร์จี้เขาเต็ม 100 แต่อยู่ดีๆ มันลดลง ผมจะถามว่าเป็นอะไรไหม โอเคเปล่า สู้ๆ มึง แค่ตบไหล่ มึงสู้ๆ (เจมีไนน์ : ก็จริงเนอะ) เราก็ให้กำลังใจเขา

Q : สำหรับ “เด็กอายุ 19” กับ “เด็กอายุ 20” มันหนักไปไหมกับสิ่งที่ต้องเจอ?
โฟร์ท : บางทีมันก็หนักเกินไปไหม อย่างเมื่อวานเพิ่งไปกับเพื่อนๆ มหาวิทยาลัย ก็รู้สึกว่า เด็กมหา’ลัยมีอยู่ไม่กี่อย่าง มีเรื่องเรียน เที่ยว กิน นอน ไปหาแฟน คุยเรื่องเรียนกันทั้งวัน เออ...มันก็สบายดีเนอะ (หัวเราะ) อยากลองเป็นเด็กมหา’ลัยดูบ้าง แต่ในมุมกลับกัน เราโชคดีกว่าคนอื่น อาจจะไม่ได้มีความคิดโตกว่าคนอื่นมาก แต่เราต้องมีอะไรหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น มีโอกาสรับผิดชอบมากขึ้นตั้งแต่เด็ก มันก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างตั้งแต่วัยนี้

เจมีไนน์ : ถามว่าหนักไหม ก็หนัก เพราะเมื่อวานก่อนเพิ่งคุยกับแม่ไป อยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหล รู้สึกว่าทำไมเราต้องเหนื่อยขนาดนี้ เราไม่ต้องแบกอะไรเยอะแบบนี้ก็ได้ มันไม่ได้เหนื่อยกาย แต่มันเหนื่อยหลายอย่าง มันมีหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบ กับงานที่หลายคนคาดหวังให้เราทำ เรียนก็ต้องเรียนให้จบ มันมีอีกหลายอย่าง ผมรู้สึกว่าผมต้องทำอะไรหลายอย่างเยอะมาก เยอะจนเหมือนผมเป็นหัวหน้าครอบครัว อายุ 30 กว่าแล้ว ผมเหมือนพ่อผม เหมือนตอนที่ดูแลผมอยู่ ตอนที่ผมยังเล็กๆ ซึ่งถามว่าทำได้ดีไหม จะพูดว่าทำได้ดี ก็ไม่ได้หรอก แต่ว่าก็อยากจะทำให้มันได้ดีนะ ผมไม่รู้ว่าดีของมันอยู่ตรงไหน แต่ผมรู้สึกว่าการที่ผมตั้งใจทำงาน ผมก็ดีที่สุดในการทำงานของผม ตั้งใจเลี้ยงดูพ่อแม่ ดูแลตัวเอง มันก็ดีมากสำหรับเด็กอายุเท่านี้

Q : มันมีแว๊บนึงกับการอยากลาออกความเป็น เจมีไนน์-โฟร์ท ไหม?
เจมีไนน์ : อยากจะลาออกทุกวัน แต่เราก็ต้องมีความเป็นมืออาชีพ เราต้องทำทุกๆ วัน ทุกๆ งานให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แต่บางทีมันก็มีแว๊บนึง อยากไปไหนก็ได้สัก 2 ชม. แล้วค่อยกลับมาที่ร่าง เพราะมันมีอะไรที่ต้องคิด

โฟร์ท : สำหรับผม ผมอาจจะมีความสุขในการทำ ไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะลาออก ในวันที่พัก ผมดีใจมากเลยนะในวันที่แฟนคลับ เข้ามาทักผม ผมอาจจะเคยปฏิเสธไปบ้าง เพราะว่าผมอาจจะต้องรีบไปทำอะไร ถ้าให้ถ่ายรูปได้ ก็จะถ่ายนะ มันมีความสุขที่ได้ทำงานทุกวัน ได้เจอแฟนคลับ ผมเหนื่อยกาย แต่ผมไม่เคยเหนื่อยใจ ที่ได้มาเจอแฟนคลับ ได้ทำเพื่อเขา เขามีค่ากับผมมาก เขาให้ผมมาก ผมต้องตอบแทนเขา มีความสุขกับแฟนคลับ มีความสุขที่เราสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ ผมปักธงว่าจะต้องเลี้ยงดูครอบครัวให้ได้ ผมรู้ว่าผมทำไปเพื่ออะไร พ่อแม่ไม่ต้องทำงาน น้องสาวต้องเรียนดีๆ เรียนจบสูง ผมก็คิดแค่นั้น ทำให้คนที่รักมีความสุข

Q : ถ้าบอกกับตัวเองในวันนี้ กับ 2 ปีผ่านมา อยากบอกอะไรกับตัวเอง?
โฟร์ท : บอกอะไรกับตัวเอง คือมันมีอยู่ช่วงนึงที่มันยากมาก ผมไม่เคยบอกใครเลยว่ามันยาก ในช่วงมัธยมต้น มันเป็นช่วงชีวิตที่ยาก มันมีอะไรเต็มไปหมดในชีวิต มันลำบาก แต่พอมาวันนี้ผมมองย้อนกลับไป ว่าในตอนนั้นผมอดทนมันมาก ๆ พยายามเชื่อในความฝันตัวเองว่าผมทำได้ ผมพยายามพัฒนาตัวเองตลอด พอมาเป็นโฟร์ทวันนี้ อยากจะบอกโฟร์ทว่าอย่าหยุดพัฒนาตัวเอง มันผ่านช่วงที่ยากมาแล้ว พัฒนาต่อไป เก่งขึ้นในทุกวัน เพราะนี่มันคือจุดเริ่มต้นของชีวิต อยากให้โฟร์ทพัฒนา และไปต่อเรื่อยๆ ในอนาคต ไปดาวอังคารเลย ถ้าไม่หยุดพัฒนา ใครๆ ก็สามารถไปไกลๆ ได้

เจมีไนน์ : อยากขอบคุณตัวเอง รู้สึกว่าทำมาเยอะแบบที่ไม่รู้ตัวว่ามันเยอะขนาดไหน ก็รู้สึกว่าเราก็ทำเยอะ ขอบคุณตัวเองที่มาได้ถึงขนาดนี้ อย่างที่โฟร์ทบอกว่าก็พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ทำให้ดีที่สุดในทุกๆ วัน พัฒนาตัวเองในทุกๆ วัน มีความสุขในทุกๆ วัน พยายามรักษาสุขภาพให้ดี (เคยบอกว่าตัวเองเก่งมากไหม?) ไม่อยากบอกครับ เพราะว่าผมจะเก่งให้มากกว่านี้ (ยิ้ม) มันพัฒนาได้อีก ที่ทำมาก็เก่งแล้วล่ะ แต่ก็อ่อนแอได้บ้าง











กำลังโหลดความคิดเห็น