“คิมเบอร์ลี่” ปิดตายประตูดวงมีลูก แม้ซินแสบอกว่าดวงบุตรเริ่มขึ้นแล้ว บอกแม้จะอายุ 30 กว่าแต่เพิ่งจะได้เริ่มใช้ชีวิตเพราะที่ผ่านมาตอนเด็กๆ ทำงานมาหนัก ขอเวลาอีก 2-3 ปีมีลูกแน่นอน แต่ลั่นยังไงก็ไม่คิดมีลูกแฝด ชีวิตไม่พร้อมรับความวุ่นวายขนาดนั้น
โพสต์ภาพไปมูไหว้พระขอพรที่ประเทศฮ่องกง แฟนๆ เข้าไปร่วมคอมเมนต์ขอให้สมหวัง ทำหลายคนลุ้นไกลว่า “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส”เดินทางไปขอลูก? เพราะประเทศฮ่องกงเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องมูขอลูก ที่งาน งานนิทรรศการ ‘Nespresso ME Moments’ ณ Em Glass ชั้น G, The Emsphere คิมเบอร์ลี่ ก็เล่าถึงทริปฮ่องกงว่าไปมูขอพรอะไรมา
“ไหว้พระค่ะ เพราะว่าไม่ได้ไปมาเกือบ 10 ปีแล้วค่ะ คนมองว่าไปขอลูก เฮ้ย… ไม่ได้ขอ ขอทำไม ยังไม่ได้อยากมี เราไปขอเรื่องงานความราบรื่น ขอความสุข สุขภาพต่างๆ ให้ตัวเองและครอบครัวค่ะ
หลายคนเชียร์ว่าต้องมาแล้วแหละ ก็เข้าใจว่าตอนคบกันก็ลุ้นให้แต่งงาน พอแต่งงานก็ลุ้นให้มีลูก จริงๆ ถึงแม้ว่าเราจะ 30 กว่าแล้ว แต่เราไม่ได้รู้สึกว่าเรา 30 กว่า เรารู้สึกอยากเที่ยว ยังอยากทำงาน ยังอยากเฮฮากับเพื่อน เหมือนเราเพิ่งจะได้เริ่มใช้ชีวิตจริงๆก็คือตอนอายุขนาดนี้ เพราะว่าตอนเด็กๆ ก็ทำงานๆ อย่างเดียวเลย”
หลังจากลองอุ้มลูกเพื่อนแล้ว ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่เป็นแม่หมาไปก่อน
“ตอนนี้เวลาอุ้มลูกของเพื่อน ก็น่ารักดี เราเห็นก็ตะมุตะมิ ทุกคนก็เห็นแววแล้ว แต่เรายัง เรากลัวไปหมดเลย จะดูแลยังไง ก็พยายามคิดนะว่าเราจะเป็นแม่ในรูปแบบไหน แล้วพี่หมาก (ปริญ สุภารัตน์) จะเป็นพ่อแบบไหน ยังคิดไม่ออก ตอนนี้เป็นแม่หมาไปก่อน ยังคิดในหัวไม่ออกเลย รู้แต่ว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมเลยค่ะ มันยากค่ะ ผู้ใหญ่เขาก็บอกว่าชีวิตมันจะเปลี่ยนเลยนะ ซึ่งตอนนี้เรายังไม่พร้อมจะเปลี่ยน ก็มีแน่แหละ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ ทุกคนก็เชียร์อยู่ค่ะ ถ้าเรามีน่าจะน่ารัก แต่ว่าเดี๋ยวค่อยน่ารักในอนาคตก็ได้
ตอนนี้ก็พูดคำว่ายัง… มาเป็นร้อยๆ รอบเลย ครอบครัวไม่กดดัน ครอบครัวซัปพอร์ตแต่เขาก็จะมีเตือนว่า 30 กว่าแล้วนะ ตอนนี้ฝากไข่ไปก็เยอะอยู่ เดี๋ยวต้องไปหาซินแสแพลนฤกษ์ก่อนด้วยฤกษ์ที่จะคลอดเมื่อไหร่ ก็ต้องวางแผนว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ (ปลายปีนี้หรือปีหน้า?) อุ้ย ไม่ๆ ค่ะ น่าจะอีก 2-3 ปี”
ปิดตายประตูดวงยังไม่พร้อมมีลูกในตอนนี้
“คือที่เชื่อเพราะว่าฟังพี่ๆ เขาเล่ากันว่าอย่าให้ลูกขัดกับพ่อแม่แค่นั้นก็พอ แต่ถ้าซินแสบอกว่าให้มีปีหน้าดี ก็หาใหม่(หัวเราะ) เปลี่ยนฤกษ์ มันต้องมีแหละ เราก็ดูแล้วเขาบอกว่าจริงๆ มีได้ตลอด เหมือนจะมาแล้วด้วยดวงเราเริ่มขึ้นแล้วว่าจะมีแล้วนะ แต่อยู่ที่ตัวเราว่าเราจะปิดกั้นประตูยังไง ตอนนี้ประตูปิดตายเลย
อีก 3 ปี เขาบอกว่าพี่หมากเกิดปีม้า คิมเกิดปีแพะ จริงๆ ลูกควรจะเกิดระหว่างปีม้าจะดีมากเลย ซินแสแนะนำว่าให้มีแฝดไปเลย บ้านจะได้มี 3 ม้า เขาบอกว่าจะรวยถ้ามี 3 ม้า คิมบอกหยุด พอก่อน เดี๋ยวแพะจะต้องมารับบาป(หัวเราะ)”
ขอบายลูกแฝดแม้ซินแสจะแนะนำว่ามีแล้วจะรวย บอกเห็นสภาพครอบครัว “มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า จิราธิวัฒน์” แล้วบอกกับตัวเองชีวิตไม่สามารถวุ่นวายได้ขนาดนั้น
“ไม่เห็นด้วยค่ะ เข้าใจมากๆ เลยคนที่อยากมีแฝด เข้าใจว่าอยากท้องทีเดียว แต่มันก็เหนื่อยมากๆ เลย เรารู้สึกว่าเราอยากมีทีละคน พี่หมากเองก็ไม่เอาเหมือนกัน เรารู้สึกว่าเราเมเนจกับอะไรแบบนี้ไม่ได้ เหมือนที่มาร์กี้เมเนจ เราทำไม่ได้ เนเจอร์เรามันวุ่นวายขนาดนั้นไม่ได้ ตอนนี้ทำงานไปก่อน”
เล่าตนเป็นคนจูนมือสามีพาเข้าสายมูเอง
“คิมเป็นคนพาพี่หมากเข้าสู่วงการนี้เอง คิมเป็นคนชอบดูดวง ไม่รู้ทำไมนะ คือเราอยากฟัง แต่เราไม่ซีเรียส ถ้าใครทักไม่ดี คิมก็ไม่ซีเรียสนะ เราก็ทำบุญของเราไปเรื่อยๆ เวลาเขาทักให้ทำอะไรเราก็ทำเท่าที่เราจะทำได้ ถ้าทักอะไรที่มันดูจะเกินเอื้อมเราก็ไม่ทำ ณ ตอนนี้พี่หมากก็มูตาม เขาบอกมูเผื่อด้วยนะ ทำให้ด้วยนะ (คู่รักสายมู?) นิดนึง แต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้น”
