ตำรวจรับปากมีหวัง! ตามตัว “เอิร์ก เลเดอเรอร์” มารับโทษ ด้านผู้เสียหายรวมตัวแฉเป็น 18 มงกุฎ อาจเชื่อมโยงการตาย “เก๋ เลเดอเรอร์”
ไม่จบง่ายๆ สำหรับคดีที่ “เอิร์ก เลเดอเรอร์” โกงเงินผู้เสียหายกว่า 50 คน จนมียอดรวมกว่า 500 ล้านบาท ก่อนหนีไปกบดานที่ต่างประเทศ โดยล่าสุดวันนี้ (2 ส.ค.) “อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ” ในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย ได้พา “ลิลลี่ เหงียน” พร้อมกลุ่มนางแบบ FHM นางเอกมิวสิค ลูกน้ำ ศิริพรนรา นิลน้อย, เดือน ฐิติกานต์ ศรีทรัพย์ และ คุณปอ ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหาย เข้าร้องและสอบถามความคืบหน้า ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจสากล เรื่องการติดตามตัว เอิร์ก กลับมารับโทษ ซึ่งงานนี้ “พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ” ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ (ผบก.ตท.) ได้เป็นตัวแทนเจ้าหน้าที่ในการรับเรื่อง
โดยวันนี้ทางผู้เสียหาย ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการถูกหลอก พร้อมนำคลิปเสียงที่ถูกข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ มาเปิดให้สื่อมวลชนฟัง ด้าน “อี้ แทนคุณ” ก็ได้เผยข้อมูลใหม่ ว่ามีคนในวงการบันเทิง โดนหลอกให้ร่วมเป็นบัญชีม้าในการโอนด้วย และตอนนี้ก็ได้มีการสืบเรื่องสาเหตุการตายของ “เก๋ เลเดอเรอร์” กันยกร ศุภการค้าเจริญ เพิ่มเติม เพราะอาจจะเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับคดีของนายเอิร์ก
อี้ : “วันนี้มาสอบถามความคืบหน้าของคดีที่ได้มาร้องทุกข์ไว้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านกองปราบ และได้มีการออกหมายของตำรวจสากล ซึ่งผมได้ประสานงานกับท่านผู้ใหญ่ของที่นี่ไว้ วันนี้มีตัวแทนผู้เสียหายมาด้วย โดย 3 ท่านที่ยืนอยู่ตรงนี้ เสียหายรวมกันประมาณ 300 กว่าล้าน ถ้ารวมกับผู้เสียหายท่านอื่นๆ ก็จะเป็นยอด 500 กว่าล้าน”
ลิลลี่ : “วันนี้ไม่พูดอะไรมาก เพราะพูดไปหมดแล้ว แต่ขอบคุณที่ให้โอกาสได้นำเรื่องนี้มาพูดอีกครั้งหนึ่ง ลี่ได้คุยกับผู้เสียหาย เราหัวอกเดียวกัน ผู้เสียหายทุกคนมีความหวังมากในครั้งนี้”
คุณปอ : “ปอเป็นตัวแทนของผู้เสียหาย ที่ถูกหลอกลงทุนในเรื่องของธุรกิจ คือปอทำธุรกิจแล้วอยากต่อยอด เขาก็มาหลอกเรา เอาคลินิกของเขามาบังหน้า เพื่อให้เราลงทุนคลินิกเขา ส่วนผู้เสียหายท่านอื่นๆ ก็โดนลักษณะคล้ายคลึงกัน มูลค่าความเสียหายก็ร้อยกว่าล้าน คือเขาบอกว่าจะให้ผลประโยชน์เป็นรายเดือน ย้อนกลับไปตอนเปิดคลินิกใหม่ ที่เพื่อนสนิทเขาเสียชีวิต เขาก็ให้แบ่งเป็นในส่วนของศัลยกรรมและสกิน เริ่มต้นเขาบอกให้เราเอาสินค้าเราไปวางที่คลินิกได้ แล้วเขาจะจ่ายเป็นรายเดือนให้ และนอกจากคลินิก เขาบอกว่าทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์ด้วย ก็จะหลอกในส่วนของนางแบบที่จะเข้ามาลงทุนต่อ
เชื่อใจเขาเพราะเขาได้ไปออกรายการหนึ่งซึ่งดังมาก เขาก็เอาคลิปให้ดู ว่าถ้าไม่แน่จริงไม่กล้าไปออกรายการนี้หรอก พิธีกรก็เอ็นดูเขามาก เราก็เลยมีความเชื่อใจประมาณหนึ่ง ก็มีรายการของพี่หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ด้วยค่ะ ถามว่าทราบแบ็กกราวด์ชีวิตเขาแค่ไหน คือ ณ วันนั้นเขาบอกว่าเขาถูกเพื่อนใส่ร้าย ตอนนี้เขากำลังทำธุรกิจใหม่ เกี่ยวกับเรื่องความงานและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เราก็เชื่อใจเขาจากภาพที่เขานำเสนอ
มารู้ตัวว่าโดนหลอก ก็ตอนที่เขาหนีไป เขาบอกอาทิตย์สุดท้ายก่อนหนีไป ว่ามีรถเข้ามานะ ขอแสนเดียว 7 วัน แต่ถามว่าเราให้ เพราะเราทำธุรกิจกับเขา เราก็ไว้ใจและให้ไป แต่มีได้คืนบ้างเหมือนของน้องลิลลี่ แต่พอคืนเสร็จก็ขอไปอีก”
ลูกน้ำ : “ในนามของนางแบบนะคะ ได้รู้จัก เอิร์ก เลเดอเรอร์ ด้วยการไปถ่ายแบบเอ็มวี จากนั้นก็มีการชักชวนให้มาถ่ายรีวิวคลินิกเสริมความงามของเขา แล้วช่วงโควิดเศรษฐกิจแย่ เขาก็ได้ชวนให้ร่วมลงทุนคลินิก ด้วยการเซ็นสัญญาหุ้นกับคลินิก จากนั้นก็มีเรื่อยๆ ในเรื่องของแบรนด์เนม นาฬิกาหรู รถหรูต่างๆ ที่ชักชวนให้ร่วมลงทุน ของตัวน้ำเองโดนไป 3.5 ล้านบาท แต่รวมของกลุ่มแล้วเป็น 10 ล้านค่ะ
ถามว่าอะไรทำให้เราเชื่อใจ คือเขามาตีสนิท แล้วก็ชวนให้มารีวิวบ้าง ชวนทำบุญบ้าง ใช้เวลาหลักปี แต่ก่อนหน้าเรารู้จัก พี่เก๋ เลเดอเรอร์ อยู่แล้ว เขาก็พูดว่าเขาไม่ได้เป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตของพี่เก๋ เราก็เชื่อใจในตรงนี้ ส่วนในเรื่องของการแบ่งผลประโยชน์ สมมติลงทุนเดือนแรก 5 แสนบาท ก็จะได้เงิน 5 หมื่นบาทต่อเดือน แล้วก็มีการเซ็นสัญญาหลักปี โดยที่เราไม่สามารถนำเงินก้อนออกมาได้ ซึ่งมารู้ตอนสุดท้ายว่าโดนหลอก ก็ตอนที่เขาหนีไปแล้ว ระยะที่ติดต่อกันคือ 2 ปี คือกลุ่มนางแบบจะมีสัญญากับเขา ว่าเราจะถอนเงินได้หลังจาก 1-2 ปีที่เซ็นสัญญา แต่ก็จะได้เงินปันผลทุกเดือน”
เดือน : “ชื่อเดือนนะคะ เป็นนางแบบ ความเสียหายที่รวมยอดแล้ว ก็ประมาณ 2 ล้านกว่า แต่ถ้ารวมที่เขาต้องคืนเราจริงๆ มันประมาณ 3 ล้านกว่า เจอเอิร์กตอนต้นเดือนมกราคม ปี 62 เขาจ้างนางแบบพริตตี้ไปถ่ายเอ็มวี แล้วเขาก็สร้างความสนิทสนมเป็นกันเอง จบงานเขาก็พยายามติดต่อพวกเรา ว่าพี่มีเคสลงทุน ได้ผลกำไรนิดๆ หน่อยๆ พอเราเชื่อใจเขาแล้ว เขาก็เริ่มชวนลงทุนซื้อนาฬิกามาปล่อย แล้วก็เขยิบมาเป็นรถหรู ด้วยความเชื่อใจ เราก็ลงมากขึ้น เพื่อนเราก็ลงเหมือนกัน ในกลุ่มที่ไปถ่ายเอ็มวีวันนั้นก็ลงกันหลายคน เขาบอกว่าเชื่อใจได้ พี่ไม่โกง ไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว เราก็เลยทยอยลงๆ
แต่หลังๆ เขาไม่คืนต้น ไม่คืนดอก ไม่คืนอะไรเลย เหมือนพยายามให้เราทบทุนเอา ว่าพี่มียอดนี้มา ทบยอดไปเลย มันเลยกลายเป็นเยอะขึ้นๆ ก็ผิดที่เราเชื่อใจด้วย เราอยากได้เงินก้อน เราโลภ ตอนเขากำลังจะหนี เขาบอกว่ามียอดนี้ อยากให้หนูลง พี่ไม่ได้บอกใครเลย แต่สุดท้ายทุกคนโดนเหมือนกันหมด สมมติเราลง 1 แสน เขาจะให้ 1 หมื่น ก็จะโอนให้เรา 110,000 บาท แต่ช่วงหลังๆ เขาไม่ให้เราแล้ว จะให้ทบทุนเป็นก้อนใหญ่ไปเลย จะได้ได้เยอะขึ้น แต่หนูเพิ่งเริ่มได้ไม่กี่เดือนถึงโดนโกงคะ ประมาณ 8 เดือนเขาก็หนีไป
ตอนแรกก็ไม่ได้เชื่อใจเขาขนาดนั้น เพราะเคยได้ยินข่าวไม่ดีของเขามาเยอะ ทำคนตาย เราเลยถามเขานะ ว่าพี่เก๋ตายเพราะเขาหรือเปล่า เขาก็บอกว่าไม่ พ่อแม่พี่เก๋เขารักพี่มาก หนูเลยพยายามเชื่อใจเขา พอเชื่อในก็เลยมาลงทุนได้ 8 เดือนเขาก็ไปแล้ว วันที่เขาจะไป เขาให้หนูโอนเท่าไหร่หนูโอนหมด แค่ตังค์จะเติมน้ำมันไปแจ้งความหนูยังไม่มีเลย”
ผู้เสียหาย 50 คนมีหลักฐานครบ บางคนเครียดจนคิดสั้น
อี้ : “ตอนนี้มีผู้เสียหายประมาณ 50 คน ส่วนใหญ่จะเป็นคนในวงการด้วย และมีนักธุรกิจ ผู้ประกอบการธนาคาร เป็นเซเลบก็หลายท่าน ลักษณะก็คือให้ลงทุนคลินิก และมีโปรดักส์อื่นๆ เช่นนาฬิกา แล้วค่อยขยับเป็นรถ แล้วแต่ว่าบุคคลนั้นประกอบอาชีพอะไร น่าจะมีฐานเงินเท่าไหร่ เงินตรงนี้บพอใครไปทวง เขาก็บิดว่าเอาไปลงทุนอยู่ ยังไม่ได้คืน ถ้าถอนตอนนี้จะเสียผลประโยชน์ ไม่คุ้ม หรือบางคนตามหนักๆ ก็จะบอกว่าสัญญาผูกขาดต้องไปฟ้องเอา หลายคนเครียด หมดตัว ซึมเศร้า คิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่เอิร์กกินหรูอยู่สบาย สิ่งที่มาตามวันนี้ ก็คือมาขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ติดตามเรื่องนี้ให้ หลังออกหมายแดง ผมก็จะไปติดตามเพิ่มขึ้น เพื่อจะจับกุมมาดำเนินคดี เพราะตอนนี้มีหมายจับเรียบร้อยแล้ว”
มีคนในวงการถูกหลอกให้เป็นบัญชีม้า กำลังสืบเพิ่มเรื่องการตายของ “เก๋ เลเดอเรอร์” เพราะต้นเหตุอาจจะมาจาก “เอิร์ก”
อี้ : “เรื่องบัญชีม้าที่เป็นของคนในวงการบันเทิง อาจจะถูกหลอกไปอีกทีหนึ่ง ว่าให้มาเป็นตัวแทนในการช่วยเปิดบัญชี เพราะมีเครดิตดี เขาจะมีวิธีการหลอกล่อเอาผลประโยชน์มาให้ อาจจะให้หุ้นลม แบ่งเปอร์เซ็นต์จากคลินิกให้ ซึ่งไม่มีอยู่จริง ตอนนี้ผมพยายามสืบว่าเรื่องราวนี้ มันเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคุณเก๋ เลเดอเรอร์ ด้วยหรือไม่ เพราะมีเรื่องบางอย่างเชื่อมโยงกัน แต่จะโยงไปถึงขนาดที่จะรื้อคดีขึ้นมาใหม่ไหม ถ้าใครมีหลักฐานเพิ่มเติม ก็มาให้ข้อมูลกับผมได้ ถ้าโยงไปถึงว่าเขาเป็นสาเหตุหนึ่งที่หลอกลวงและทำให้คุณเก๋ต้องเสียชีวิต ก็อาจจะพลิกเป็นอีกคดีขึ้นมาได้
จุดเชื่อมโยงที่พูดถึงคือเรื่องของคลินิก เพราะเมื่อก่อนมีการลงทุนคลินิกอักษรย่อ ล.ลิง และมีการไปชวนคนมาร่วมทุน เป็นโมเดลลักษณะกับครั้งนี้เลย มูลค่าความเสียหายที่คุณเก๋ต้องแบกรับ ประมาณ 30 กว่าล้าน เลยเป็นสาเหตุให้เขาเครียดและคิดสั้น ผมคิดว่าเป็นอันตรายร้ายแรงของผู้ที่อยู่ในวงการบันเทิง อาจจะรู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขา และบัญชีม้าที่บอกว่าเป็นของคนในวงการบันเทิง ถ้าพูดชื่อมาก็รู้จักอยู่แล้ว แต่ขออนุญาตเก็บไว้ เพราะหลายข้อมูล ผมอยากโฟกัสไปที่เอิร์กเป็นหลัก หลายคนที่มาให้ข้อมูลเขาขอร้องไว้ เพราะส่วนใหญ่เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม ต้องยอมรับว่าถ้าไม่ได้ลิลลี่ดึงกระแสกลับมา เรื่องนี้มันก็จะหายไป 2 ปีแล้วที่ติดตามเรื่องนี้มา อาจจะเปิดชื่อไม่ได้ด้วยหน้าที่การงาน แต่มีหลักฐานทุกอย่างยืนยันได้ มีตัวตนจริงๆ”
ลิลลี่ : “บอกตามตรงว่าเราต้องการเงินคืน เพราะพวกเราทุกคนผ่านความเดือดร้อน ผ่านความเป็นความตายมา แล้วเงินไม่ใช่น้อยๆ เราก็อยากได้คืน หนูเชื่อว่าความหวังมันมี เชื่อว่ากฎหมายไทย จะสามารถดำเนินการให้เสร็จเร็วขึ้น”
อี้ : “ตอนนี้เท่าที่สืบดู เงินเขาใช้ไปเยอะแล้ว และกระจายไปในที่ต่างๆ ถ้าเขาบอกว่าไม่มีเงิน เราก็ต้องตามยึดทรัพย์ที่เขามี ถ้ามันเข้ามาเงื่อนไขฟอกเงิน หลอกเงินคนอื่นไปต่อเงิน ก็เข้าข่ายการฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน เราก็จะตามสืบทรัพย์ ถึงแม้ไม่ใช่ชื่อเขา แต่มีการยักย้ายถ่ายโอนหลังก่อเหตุ ก็อย่าคิดว่าจะหนีหายไปได้ เราจะไปตามสืบมา ถึงแท้จะยาก สำคัญที่สุดคือเส้นทางการเงิน ว่าเขาโอนไปไหนต่อ เกี่ยวข้องกับใครบ้าง แล้วคนนั้นจะอยู่ในฐานะที่เป็นทั้งผู้ต้องหาก็ได้ หรือฐานะพยานให้กับพวกเราก็ได้ วันนี้ก็จะประสานต่อ เพราะเรารู้แล้วว่าเขาอยู่ประเทศไหนอย่างไร ก็จะติดตามเงินมาคืนให้ได้มากที่สุด แต่เดี๋ยวจะให้ฟังเสียงของผู้เสียหาย ว่าเจ็บปวดทรมาน อยู่ยากอย่างไร เครียดขนาดไหน”
ปอ : “ที่ผ่านมาได้เห็นเขาโพสต์ ทั้งกล่าวหาน้องลิลลี่ หรือแม้กระทั่งใครที่ออกมา ก็จะเจอเขาโพสต์ในลักษณะใส่ร้ายป้ายสี แล้วก็มีการส่งข้อความและโทร.มา ขอให้พวกเราถอนแจ้งความ เขาข่มขู่ว่าถ้าไม่ถอนแจ้งความ พวกเธอพลาดเอง มัวแต่เชื่อแกนนำ ถ้าเขากลับมาทุกคนก็มีเงินกันหมดแล้ว ซึ่งมันยิ่งตอกย้ำเรา ว่าทำไมคนแบบนี้ยังลอยหน้าลอยตา ยังโพสต์ทำร้ายผู้เสียหายอยู่เรื่อยๆ อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรารู้ว่าเงินเราอาจจะไม่ได้คืน แต่เราอยากให้เขามีสำนึก อยากให้เขามารับโทษ
แล้วเขาก็ไม่ได้เป็นลูกครึ่ง เขาเป็นคนสุพรรณบุรี ในทะเบียนบ้านมีบอกชื่อพ่อแม่เขาหมด ล่าสุดเขาโพสต์รูปรถปอร์เช่ ว่าทำธุรกิจดีลต่างประเทศ มีเงินเข้าบัญชี 19 ล้าน ก็อยากบอกว่าถ้าเงินเข้า 19 ล้าน ก็เอามาใช้หนี้ผู้เสียหายทั้งหมดดีกว่า ในส่วนของธุรกิจที่เขาทำ บัญชีเขาถูกอายัดทุกบัญชีแล้ว ที่เขาโพสต์ว่าเงินเข้า ก็ไม่รู้ว่าเงินเข้าบัญชีใคร”
ลิลลี่ : “มันมีคนหนึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนหรือเป็นแฟนเขา แต่ให้ชื่อว่า อ.อ่าง คนนั้นน่าจะเป็นคนนำเงิน หรือทรัพย์สินอะไรใดๆ ของเอิร์กไปให้หรือเปล่า อันนี้คือความสงสัยของหนู ตอนนี้พี่อี้ก็กำลังดำเนินการอยู่ ก็อยากให้ผู้ใหญ่บ้านผู้ใหญ่เมือง ลองเอาคนนี้มาสืบสวนดู”
อี้ : “การที่เราสนใจเรื่องของคดีของคุณเก๋ ว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้อง มันก็อาจจะเชื่อมโยงว่าเขาไม่ได้กระทำสิ่งเหล่านี้เป็นครั้งแรก ถ้ามันเข้าข่ายหลอกลวง ล่อลวง ให้ผู้อื่นมีความทุกข์ทรมานใจจนถึงแก่กรรม โทษมันก็จะหนักขึ้น และจะเป็นอีกคดีหนึ่ง ซึ่งเราก็ต้องติดตามต่อไป ตอนนี้มีข้อมูลมา แต่ผมยังไม่ปักใจเชื่อ ทุกคนที่เข้ามาคุย ผมต้องขอดูเอกสารการโอนและหลักฐานต่างๆ ด้วย”
ลูกน้ำ : “ถ้าพี่เอิร์กเห็นพวกหนูออกมาแถลงข่าว แล้วมันทำให้พี่โกรธหรือเกลียด แล้วจะมาแต่งนิทานเหมือนที่แฉพี่ลิลลี่ ตอนนี้พวกหนูพร้อมจะสู้กับพี่ เพราะพี่ไม่มีอะไรที่เป็นความจริงเลย พี่คือคนหลอกลวง เอาชีวิตพวกหนูจนหมดตัว ชีวิตพวกหนูพัง พ่อแม่ก็พังไปด้วย ไม่รู้ว่าต่อไปครอบครัวพี่เอิร์ก จะพังไปกับการกระทำของพี่ไหม
แต่ในเรื่องการเสียชีวิตของพี่เก๋ หนูรู้สึกว่ามันได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะหนูเองกับเพื่อน ก็ดิ่งมากๆ เกือบจะกระโดดคอนโดแล้วเหมือนกัน แต่วันนี้หนูพร้อมสู้กับพี่แล้ว เพื่อนหนูที่เป็นนางแบบอยู่ต่างจังหวัด ก็หมดตัวเหลือเงินหลักร้อย การกระทำของเขา ทำให้ทุกคนดิ่ง เศร้า และเป็นเหตุผลให้หลายคนคิดสั้น อยากให้เขาหยุดพฤติกรรมนี้ ไม่รู้เขาจะเชื่อบาปบุญไหม แต่หนูเชื่อในกฎหมายบ้านเมือง เขาชอบแต่งเรื่อง แล้วก็มโน บอกมีนาฬิกาหรู รถหรู แต่ไม่เคยเห็นของจริงนอกจากรูป”
เดือน : “เขาน่าจะเป็น 18 มงกุฎ เพราะแต่งเรื่อง สร้างเรื่อง พยายามหลอกล่อเราให้เชื่อใจกัน เขาแต่งเรื่องว่าดูแลและเลี้ยงพวกเราอย่างดี ไม่มีนะคะ นับได้แค่ 1 ครั้งที่เขาเลี้ยงข้าว เพราะอยากให้เชื่อใจและมาลงทุนกับเขา”
ลูกน้ำ : “แชตที่เขาคุยกับคนอื่น มาจากเขาล้วนๆ เลย ไม่มีตัวตนแน่นอน แชตที่บอกว่าเป็นนางงามออกมาแฉ หนูว่าเขาทำเอง เพราะจากที่รู้จักเขามา 2 ปี เขาจะเล่าตลอด ว่าถ้าเขาเกลียดคนไหน เขาจะขยี้ให้หมดเลย”
คุณปอ : “วันนี้มีคลิปเสียงที่เขาบอกให้ถอนแจ้งความ และคลิปเสียงที่เขาหลอกให้ลงทุน เช่น ล้านละล้าน หรือ 3 ล้าน ได้ 4 ล้าน แล้วก็จะเป็นรายละเอียดที่เขาข่มขู่ผู้เสียหาย แล้วก็จะมีในส่วนของการหนีออกจากประเทศ เขาบอกว่าเขาสับขาหลอก (เปิดคลิปเสียงเอิร์ก)”
ด้าน “พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ” ได้เผยถึงขั้นตอนการติดตามตัว “เอิร์ก” หลังมาเป็นตัวแทนเจ้าหน้าที่รับเรื่องในวันนี้ โดยให้ความหวังผู้เสียหายเต็มที่ ว่าจะตามตัวมารับโทษให้ได้
“ขั้นตอนหลังจากที่พนักงานสอบสวน ได้สอบสวนคดีแล้ว ก็จะร้องศาลขอหมายจับ ซึ่งมันมีอยู่ 2 รูปแบบ ถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วนจริงๆ ก็สามารถออกหมายจับไปเพื่อขอประกาศหมายสีแดงได้ แต่เพื่อความรอบคอบ ก็ต้องเป็นแนวทางที่ 2 คือรอให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องกับศาลก่อน ถึงจะออกหมายแดงได้ ต้องดูเป็นกรณีไป แต่ในกรณีนี้ได้มีการยื่นขอหมายสีแดงไปแล้ว คือหมายสีแดง เป็นหมายของตำรวจสากล ที่จะติดตามจับกุมตัวคนร้าย ซึ่งมีอยู่ 195 ประเทศ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกจะดำเนินการไม่ได้ เพราะเรามีการประสานงานทั้งในเครือข่ายและนอกเครือข่าย
เมื่อตำรวจสากลได้แจ้งประเทศสมาชิก ถ้าพบตัวเขาก็จะดำเนินการจับตัวให้เราครับ หลังจากนั้นก็จะเป็นเรื่องของการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ผมว่าสิ่งที่ยากที่สุด คือการเจอตัวคนร้าย ถ้าเจอตัวได้การประสานงานก็ใช้เวลาไม่นาน ถ้าใครทราบข้อมูลว่าอยู่ที่ไหน ก็แจ้งตำรวจสากลได้ครับ คือการเดินทางเข้าออกประเทศต่างๆ ก็ตามตัวจากตม.ได้ แต่ถ้าหมายแดงยังไม่ประกาศ เขาก็ยังเดินทางได้อิสระ แต่สิ่งที่เราเกรง คือเขาสามารถใช้พาสปอร์ตของประเทศที่ 3 ได้ แต่ว่ามันก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์เป็นยังไง ถ้ามีการเตรียมการอาจจะขอสัญชาติของประเทศที่ 3 และมีหนังสือเดินทางประเทศที่ 3 แต่ก็ไม่ได้ง่ายครับ
ก่อนหน้านี้ก็มีคดีที่สามารถนำตัวคนร้ายกลับมาได้ เช่นคดีเสี่ยแป้ง นาโหนด โดยเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งตอนนี้เราพยายามจะร่วมมือในลักษณะพหุภาคีมากขึ้น คือถ้าตามตำรวจสากล ก็จะเป็นระบบตามปกติ ซึ่งอาจจะไม่เร็วเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นพหุภาคี แล้วเราสามารถทราบประเทศที่เขาไป ก็จะสามารถตามเจอได้ง่าย ตามปกติถ้ามีการเคลื่อนไหวในโซเชียล เราก็จะประสานงานให้ตำรวจไซเบอร์ช่วยตามให้ด้วย ปกติแล้วตำรวจสากล ก็จะมีการประสานงานกับทาง บช.สอท. อย่างใกล้ชิดครับ (ผู้เสียหายยังไม่สิ้นหวังใช่ไหม?) ผมให้ความหวังเต็มที่ครับ ว่าจะตามตัวให้ได้ครับ”