“ท็อป ดารณีนุช” เปิดใจรักครั้งใหม่ “ไมโล” แฮปปี้มาก เปลี่ยนมุมมอง เห็นคุณค่าชีวิต เหมือนกลับมา 14 อีกครั้ง ฝ่ายชายหวาน บอกรักทุกวัน จนลูกหมั่นไส้ ทำหน้าจะอ้วกแล้ว แฮปปี้ลูกเปิดใจ ทั้งที่เคยประกาศจะไม่มีสามีใหม่
ชีวิตโสดกลับมากระชุ่มกระชวย หลังจากได้ความรักจากเพื่อนเก่ารู้จักตั้งแต่สมัยมัธยมต้น อย่าง “ไมโล” มาเติมเต็ม สำหรับ “ท็อป ดารณีนุช ปสุตนาวิน” โดยในงานชวน ช้อป ชิม ลิ้นติดโปรแฟร์’67 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต เจ้าตัวก็เผยว่ารักครั้งนี้ทำให้รู้สึกเหมือน 14 อีกครั้ง ที่ผ่านมาคิดว่าคงไม่มีสามีใหม่แล้ว เพราะแก่แล้ว แต่ไมโลก็เข้ามาเติมเต็ม ทำให้เห็นคุณค่าชีวิต
“ก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว พอได้เจอตรงหน้า พอได้ศึกษา คบหากันต้นรักก็เบ่งบานขึ้น เป็นความรักแบบคนรุ่นใหญ่ มันเข้าอกเข้าใจกันไปหมด ไม่เรียกร้อง ไม่คาดหวัง พูดกันไม่กี่คำก็รู้เรื่อง สิ่งที่มีความสุขก็คือมันทำให้เรากระชุ่มกระชวย เหมือนเรากลับมาอายุ 14 ชอบเล่น ชอบอำกัน ทำให้ชีวิตเราสนุก มีสีสันขึ้น ทำให้มันไม่น่าเบื่อเพราะเรามีความสุข
ถามว่าสปาร์กกันได้ยังไง ก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยมัธยม เขาชอบผู้หญิงหลายแบบหลายคน เราก็เป็นหนึ่งในเมมโมรี่ ของเขา เราจะแปลกคือทุกๆ กี่ปีจะเวียนมาเจอกันโดยบังเอิญตลอด พอจะลืมก็กลับมาเจอกันอีก แต่ก็ยังไม่สปาร์ก เขาชอบเรามาตลอด ด้วยความที่เราสวย เราก็เลยมีผัวที่เป็นพ่อเด็กมาตั้งแต่เด็กแล้ว เรามีแฟนมาตั้งแต่เด็กและมีคนเดียวมาตลอด เขาบอกว่าเขาไม่มีช่องทางจะเข้ามา
พอเราเลิกกับสามี เขาก็ยังมีครอบครัวของเขาอยู่ พอเขาเลิกกับแฟน ตอนนั้นก็ไม่ได้อยากคุย แค่อยากจะปรึกษากัน คุยกัน มันก็รู้สึกสนุก ความสัมพันธ์มันมาจากการเข้าขาเขาคอกัน เจตนามันไม่มีแบบนั้น ใครมาจีบเรา เราจะระวังตัวมากๆ เราแก่แล้ว เรามีลูก เราไม่ได้น่าพิศวาส น่าดึงดูดแล้ว ไม่ได้อ่อนหวานเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ใจเราไม่ได้คิดจะมีแฟนอีกแล้วในชีวิตนี้ 100% เลย เราพูดกับเพื่อนตลอดเราว่าเดี๋ยวเราจะอยู่แก่ไปด้วยกันนะ แต่พอเขาเข้ามา ในทีแรกเราก็ไม่ได้เปิดใจจะคบเป็นแฟนนะ มันเป็นฟีลมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน เหมือนเราอยู่กับเพื่อนสาว เพื่อนกะเทย คุยอะไรกันบ้าๆบอๆ”
ไม่มีกำแพงกับไมโล
“กับคนอื่นมี แต่กับไมโลไม่มี ใครมาคุยอะไรแปลกๆ เราก็ตัดทิ้งเลย ไม่ก็บล็อก เราไม่เอา เราไม่เชื่อ แต่ทำไมถึงยอมคบเขา เรารู้จักเขามาตั้งแต่ ม.1 บ้านเราอยู่ไหน พ่อแม่เขาเป็นแบบไหน รู้จักเทือกเถาเหล่ากอกันพอสมควร รู้ว่าชีวิตเขาดำเนินมาเป็นยังไง เขาไม่น่าจะมาหลอกเรา ในวัยนี้การเข้ามามันคืออะไร ถ้ามาเล่นๆ ก็เป็นเพื่อนกันเสียดีกว่า”
ปรึกษาเพื่อนทุกวงการก่อนตัดสินใจคบ
“โอ้โห… อย่าใช้คำว่าคิดเยอะเลย คือเราปรึกษาทุกวงการ เริ่มจากเพื่อนสนิท พระเพื่อนกัลยาณมิตรที่วัด ทุกคนที่เรารู้สึกว่าเขาจริงใจกับเรา จะให้คำตอบที่ดีกับเราได้ คนที่วัดเหมือนเขาตัดเรื่องพวกนี้ไปแล้ว ซึ่งเราเองก็กำลังเดินในทางธรรมมาเยอะพอสมควร เราคาดหวังว่าเพื่อนจะบอกไม่ต้องไปคบหรอก อายุขนาดนี้แล้ว พระเพื่อนกลับบอกว่าดีใจด้วยที่โยมจะมีคนดูแล พระก็ไม่ห่วงโยม ท่านบอกว่าก็เอาเรื่องแฟนเป็นเครื่องทดสอบจิตใจเรา ว่าเราจะฝึกตัวเองในการควบคุมอารมณ์ ควบคุมสติ ใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องทดสอบใจเรา”
ความสุขของแม่คือความสุขของลูก ทั้งที่เคยพูดว่าแม่จะไม่มีสามีใหม่
“ตอนแรกลูกก็ปิดใจนะ เขาไม่ได้กีดกัน แต่ด้วยเขาเชื่อไปสนิทใจแล้วว่าเราจะไม่มีทางมีสามี ไม่มีอะไร ด้วยเราได้เคยพูดกับลูกเองว่าแม่จะไม่มีใคร แม่จะเลี้ยงลูก ดูแลลูก พอเราคบใครเข้าจริงๆ เราก็ไม่ปิด ก็บอกเขา เขาก็รับฟัง แต่ไม่ได้เป็นจริงเป็นจัง จนวันหนึ่งเราบอกเขาว่าเราจะจริงจังกับคนนี้นะ เขาห่วงเรานะ แต่เขากลับเปิดใจ ลูกแฟร์กับเรามาก ความสุขของเราก็คือความสุขของเขาด้วย
แต่เขาก็สแกนหนักเหมือนกัน เขาก็ดูว่าคนนี้ทำมาหากินอะไร ใช้ชีวิตยังไง เขาก็ถามเพื่อนๆ เรา ที่เป็นเพื่อนกับไมโลด้วย เขาก็สืบหาข้อมูล ตอนแรกที่คบกับเพื่อนๆ เรา ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร รู้แค่ว่ามีคนคุยด้วย เขาก็กีดกันบอกเขาจะมาหลอกขายอุปกรณ์ เครื่องกรองน้ำหรือเปล่า เขาจะมาขายอะไรมึงรึเปล่า เพื่อนแต่ละคนไม่มีใครเห็นด้วย จนผัดไทไปบอกก้องว่าเราควรจะเปิดโอกาสให้เขาคบกัน บางทีเขาอาจจะเป็นคู่กันจริงๆ ก็ได้
พอทุกอย่างปลดล็อก เราก็ได้ไปเที่ยวกันสองคน ที่มาสนิทกันเพราะชอบไปออกกำลังกายกัน ก้อง ปิยะ บอกถ้าคู่นี้แต่งงานกัน จะทำธีมงานเป็นลู่เดิน เพราะเรารักการเดิน ชีวิตเราแก่แล้ว ก็มีแต่เรื่องออกกำลัง ไปหาหมอ กินยาหรือยังที่จะเป็นห่วงกัน ล่าสุดก็เพิ่งไปตรวจร่างกายกันมา”
ไม่จัดงานวิวาห์ ตอนนี้พอใจแล้ว การแต่งงานไม่จำเป็นอีกแล้ว
“ไม่จัด ขอบคุณทุกคำอวยพรเลยนะที่พอรู้ว่าเราคบกัน เป็นเสียงตอบรับที่ดี แค่ตรงนั้นเราพอใจแล้ว พ่อแม่เราไม่มีเหลือ เพื่อนก็รับรู้หมดแล้ว การจัดงานแต่งงานเลยไม่จำเป็นสำหรับเรา แต่ถ้าเพื่อนอยากปาร์ตี้เดี๋ยวจะจัดตามงานวัดให้”
ความรักเปลี่ยนมุมมองหญิงวัย 56 ปี
“ความรักครั้งนี้มันเปลี่ยนมุมมองของผู้หญิงวัย 56-57 ไปเลย จากคนที่เคยเชื่อว่าชีวิตบั้นปลายเราจะไม่มีใคร เราจะเป็นผู้หญิงที่ใช้ชีวิตคนเดียว เพราะเราเป็นซิงเกิ้ลมัม พอลูกโต เราก็เตรียมใช้ชีวิตอีกแบบ ที่จะไม่ไปยึดไปเกาะเขาไว้ เราจะต้องอยู่คนเดียว เราก็พยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะใช้ชีวิตพึ่งตนเองในอนาคต
แต่พอมีความรัก มันเข้ามาเปลี่ยนมุมมอง ทำให้เราเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ มันไม่จำเป็นต้องมานั่งขีดข้อจำกัดให้ตัวเองว่าฉันจะอยู่แบบไหน ฉันจะเป็นยังไง วางแผนคร่าวๆ ได้นะ แต่เราไม่มีทางรู้อนาคตถึงสิ่งที่จะเข้ามาในชีวิต เราวางแผนอนาคตได้ แต่เมื่อมันมีการเปลี่ยนแปลงเราก็แค่ยอมรับและทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด พอมีคนมารักเราและเราได้แสดงความรักตอบ มันมีคุณค่าทางความรู้สึกจริงๆ มันดี ในวัยที่เราอายุขนาดนี้ เรามีสติ เรามีปัญญา มันมีแต่ความรู้สึกที่จริงใจ
ถ้าเราได้เจอแบบนั้น มันคือเรื่องที่ดี มันจะทำให้เรามีกำลังใจ ตัวเราก็เปลี่ยนไปด้วย หลายคนบอกเราดูซอฟต์ลง เราก็มองตัวเองจริงแฮะ ที่ผ่านมาเราไม่ได้ถึงกับว่าตั้งกำแพงนะ แต่เราอยู่กับความรู้สึกที่ว่าฉันต้องอยู่ให้ได้ ฉันต้องเข้มแข็ง ฉันจะต้องยังคงอยู่ แต่พอมีคนเข้ามาเราก็รู้สึกว่าเราอ่อนโยนขึ้น”
เพื่อนแซวตลอด หวานแสบคอมาก จนไมโลไม่ยอมไปออกรายการ กลัวคนอ้วก บอกรักทุกวัน
“เพื่อนแซวตลอด เลยเป็นเหตุผลที่เขาไม่ยอมไปออกรายการ ถ้าไปออกแล้วเดี๋ยวคนจะอ้วก เขาไม่ได้หวานมาก แต่เขาจะเป็นคนพูดจา ก็กลัวจะน้ำเน่า บอกรักเราทุกวัน เขาบอกเขาพูดจากความรู้สึก ก็รู้สึกดี มันเป็นการเติมเต็ม (จุ๊บๆ?) เช้าไม่ได้จุ๊บ มันปากเหม็น จะเป็นก่อนนอนเพราะเราสีฟันแล้ว เขาจะบอกเขารักเรานะ ลูกก็จะแบบทำหน้าจะอ้วก หมั่นไส้ ก็ขอบคุณเขาจริงๆ ที่อุตส่าห์มีคนมารักมาชอบเรา กระดุกจะผุอยู่แล้วทุกวันนี้”
ฝากถึงเพื่อนๆ วัยเดียวกันที่ยังปิดใจ
“เพื่อนๆ วัยเดียวกันหลังจากรู้ข่าวก็เข้ามาแสดงความยินดีกัน และส่วนใหญ่เขาก็จะมีความหวังดีกัน ก็ขอให้ทุกคนสมหวังนะ หากเจอใครที่เขาเข้ามาชอบเราก็พิจารณากันเยอะๆ ให้หลากหลายมิติ ถ้าไว้ใจแล้วก็เปิดใจ มันอยู่ที่ตัวเราหมดเลย ถ้าเจอคนดีๆ เข้ามา เราก็ดีกับเขาตอบในแบบที่เราเองมีความสุข ถ้าเจอคนไม่ดีเราก็ต้องมีสติ ฟังคนข้างๆ ต้องตัดปล่อยเขาไปโดยไม่ต้องเสียดายว่าหลังจากนี้ไปฉันจะไม่มีใครอีกแล้ว เราต้องอยู่ได้ในทุกๆ ที่ ความรักมันเริ่มต้นจากการที่เรารักตัวเองก่อน ถ้าวันหนึ่งเราได้ไปเจอคนที่เขารักเรา เข้าใจเราทุกอย่างมันจะเป็นตามธรรมชาติของมันเอง”