กรณีที่ “บิ๊ก ธิติวุฒิ วารุณ” หรือ “ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” ขึ้นศาลเคลียร์เรื่องรับรองบุตรกับอดีตภรรยาสาว “แพรวพราว แสงทอง” ในวันนี้ (30 ก.ค.67) ล่าสุด “ทนายพัฒน์” ทนายฝั่งบิ๊ก ได้ออกมาโพสต์อัปเดตเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังทั้ง 2 ฝ่าย ได้เจรจากันที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดยโสธร เรียบร้อยแล้ว ระบุว่า
“รายงานคดีผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์หรือบอสบิ๊กแห่งค่ายโตเกียวมิวสิค ตามที่เป็นกระแสข่าวมาอย่างต่อเนื่องประเด็นพิพาทเกี่ยวกับเรื่องของบุตรครับ วันนี้ทางคุณพ่อและคุณแม่สามารถพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของบุตรได้ทุกเรื่องไม่ได้มีปัญหาอันใด จึงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเรียบร้อยครับ…
ต่อจากนี้ไป ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ก็เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของลูกเขาทั้งสองแล้ว มีสิทธิ์และอำนาจทุกประการ.. ณ ตอนนี้เรื่องข้อกฎหมายเราได้ทำเต็มที่และออกมาได้ดีแล้ว (เหลือนิดเดียว555) ต่อไปทีมเราก็ยังคงอยู่เบื้องหลังดูแลกันต่อไปครับ ขอให้บอสบิ๊กประสบความสำเร็จขึ้นไปครับ”
ด้าน “ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” ได้อัปเดตผ่านไลฟ์ว่ามีการตกลงกันด้วยดี ตนจะได้จดเป็นพ่อลูกสองคนตามกฎหมาย เป็นผู้ดูแลเท่าเทียมกัน ก็รอไปจดรับรองบุตร ทุกอย่างมีเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษร โดยตนเป็นพ่อโดยชอบธรรม ลูกอยู่กับมารดาเป็นหลัก เรื่องถ่ายคลิปลูก คนอื่นที่เป็นญาติ คนใกล้ชิด ไม่ให้ถ่าย อนุญาตเฉพาะแม่กับป้าของลูก ถ้าคนอื่นไปถ่ายโดยพลการจะผิดกฎหมาย สามารถคัดค้าน ฟ้องร้องได้ ส่วนค่าใช้จ่าย จะจ่ายเป็นรายเดือน มีรายเดือนให้ลูกทุกๆ เดือน ส่งเสียเลี้ยงดูจนจบปริญญาตรี หรือถึงอายุ 23 ปี มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ค่าประกันชีวิตให้ลูก รวมทั้งตนสามารถไปรับลูกในวันหยุดได้ ส่วนวันธรรมดา ลูกอยู่กับแม่เป็นหลัก
ขณะที่แพรวพราวได้อัดคลิปแจงสั้นๆ ว่าข้อพิพาทเรื่องลูก ก็ราบรื่น พ่อขอสิทธิรับรองบุตรถูกต้องตามกฎหมาย แม่ก็ให้สิทธิเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่คุณพ่อไปจดรับรองบุตร เรื่องนี้ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ลูกก็อยู่ในความดูแลของแม่อยู่แล้ว พ่ออาจมาหา อยากพาไปส่งโรงเรียนก็ได้ ปิดเทอมอยากพาลูกเที่ยวก็ได้ ไม่ได้ติดอะไร แค่เราแจ้งกันก่อน ค่าเทอมค่าใช้จ่ายต่อเดือน คุณพ่อก็จะมีให้ลูกต่อเดือน ส่วนค่าเทอมหารกัน ทุกอย่างก็คนละครึ่งหมดเลย มีค่าจิปาถะอื่นใด มีความรับผิดชอบร่วมกัน พ่อแม่ก็หารกัน คุณพ่อขอมาว่าอยากให้สิทธิถ่ายไลฟ์สด ถ่ายคลิปลูกให้เป็นสิทธิแม่ และคุณป้า ก็ไม่ได้โต้แย้งกัน ก็อยากให้เอฟซีสองฝั่งยุติ ไม่อยากให้สาดกันไปมา อยากให้คลื่นมันสงบ อยู่อย่างสงบ เอาเวลาไปทำมาหากิน ดูแลครอบครัวดีกว่า เราก็เหนื่อยกับดรามามาเยอะ ไม่ได้โฟกัสตรงนั้นแล้ว ตอนนี้มีคอมเมนต์ด่าก็เฉยๆ เรามองข้าม ไปแก้ที่ใครไม่ได้ ก็แก้ที่ตัวเราเอง ทำยังไงให้มีความสุข ยังไงก็โฟกัสที่ลูก ครอบครัว ทำมาหากิน ก็จบเด้อ ทุกอย่างไม่มีอะไรแล้ว เรียบร้อยดี
