เนื่องในโอกาสมหามงคลมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ชาวบุรีรัมย์เปิดเมืองจัดงานยิ่งใหญ่เพื่อเถิดพระเกียรติ แสดงความจงรักภักดี ณ สนามช้างอารีนา จ.บุรีรัมย์ ตลอด 3 วัน วันที่ 28-30 กรกฎาคม 2567
โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย นำรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ของพรรคภูมิใจไทย พร้อมนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และพี่น้องประชาชน ร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคลพระบาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล โดยมีประชาชนร่วมแสดงความจงรักภักดี 30,000 คน เต็มทุกที่นั่งภายในงาน
ซึ่งชาวบุรีรัมย์ได้สำนึกพระมหากรุณาธิคุณ ของพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่ ๑๐ ที่ทรงเสด็จวางศิลาฤกษ์ อนุสารีย์บุรีรัมย์ , ทรงทำให้คนกรุงเทพ สามารถเปลี่ยนสนามม้านางเลิ้ง 279 ไร่ ให้เป็นสวน, พระราชทานที่ดิน 300 ไร่ ทำสวนสัตว์ใหม่ทดแทนสวนสัตว์เขาดิน ที่ จ.ปทุมธานี ,เสียสละทรัพทย์สินส่วนพระองค์ นับร้อยล้านบาท สร้างแหล่งเก็บน้ำที่บึงสีไฟ จ.พิจิตร 3 พันไร่ ,พระราชทานรถตรวจเชื้อชีวะนิรภัย เคลื่อนที่ 13 คัน ให้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อต่อสู้สถานกาารณ์โควิด ,พระราชทานเครื่องบินเล็กลาดตระเวณช่วยเหลือประชาชน,วางศิลาฤกษ์ สร้างศาลากลางหลังเก่า จึงได้นำมาถ่ายทอดผ่าน มิวสิคคัล “ลมหายใจแห่งแผ่นดิน” ในครั้งนี้
นอกจากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ร่วมเป่าแซกโซโฟนร่วมกับวง “บุรีรัมย์ออร์เคสตร้า” เยาวชนชาวบุรีรัมย์ กว่า 200 ชีวิต ในเพลงสดุดีจอมราชา ในการแสดงมิวสิคคัล แสง สี เสียง “ลมหายใจของแผ่นดิน” และปิดท้ายด้วยการจุดพลุเฉลิมพระเกียรติที่วิจิตรตระการตา
ด้าน นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ได้กล่าวถึงการแสดง “ลมหายใจของแผ่นดิน” ครั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และอยากนำเสนอพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ต่อประชาชนชาวไทย ซึ่งวันนี้คนบุรีรัมย์ทุกคนมีความจงรักภักดี ซึ่งเป็นเมืองก่อตั้งองค์ปฐมบรมจักรีพระบาทสมเด็จพระพุธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชการที่ ๑ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ 99% เป็นคนบุรีรัมย์ ได้ร่วมแรงร่วมใจทำทุกอย่างเพื่อถวายความจงรักภักดี“
คงต้องยกให้งาน ”ลมหายใจของแผ่นดิน“ ครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความประทับใจของประชาชนชาวไทยที่มีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ตราตรึงในหัวใจคนไทยทุกคน