xs
xsm
sm
md
lg

“มีน พีรวิชญ์” ลั่นอยากเป็นพระเอกเต็มตัว อยากได้บทแบกเรื่อง ไม่ใช่แค่คู่รอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“มีน พีรวิชญ์” เผยมีเป้าหมายอยากเป็นพระเอกเต็มตัว อยากได้บทแบกเรื่อง เหมือนตอนเล่นซีรีส์วาย เตรียมพร้อมตัวเองทุกด้าน จนกว่าจะได้ไปถึงจุดนั้น เชื่อใช้ฝีมือ 70% ที่เหลือคือดวงและโอกาส หมั่นเช็กดวงตลอด และขอพรเพิ่มเพื่อความสบายใจ รัก “ดรีม” แฮปปี้ มองเรื่องสร้างเรือนหอในอนาคต ส่วนคอนเทนต์คู่ดูตามความเหมาะสม ไม่อยากขายความสัมพันธ์

เรียกว่ามีผลงานต่อเนื่องเลยทีเดียว สำหรับหนุ่ม “มีน พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร” เพราะหลังจากเข้ามาอยู่ในสังกัดช่อง 3 ก็ได้รับบทที่ดีๆ มาโดยตลอด แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังมีเป้าหมายที่อยากจะไปให้ถึง นั่นคือการเป็นพระเอกเต็มตัว เหมือนก่อนหน้านี้ที่ได้เป็นตัวหนึ่งตลอดในซีรีส์วาย โดยมีนได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ ในงานโปรโมตละคร น่าน ฟ้า ชลาลัย ว่าอยากได้รับบทที่แบกเรื่อง อยากเป็นตัวละครที่มีเส้นเรื่องจริงของตัวเอง ไม่ใช่แค่ตัวที่มาแย่งนางเอก หรือมีผลกับพระเอกของเรื่อง

ชีวิตตอนนี้แฮปปี้ครับ ช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา ค่อนข้างถ่ายหลายเรื่อง ช่วงนี้ก็เริ่มออนแอร์แล้ว ไล่มาตั้งแต่ช่วงต้นปี มีทั้งภาพยนตร์ ละคร หลายเรื่อง เดี๋ยวปีนี้น่าจะไล่ๆ กัน จะได้เห็นหน้าจอตลอดไหม สาธุครับ (หัวเราะ) เรียกว่ามีเรื่อยๆ ดีกว่าครับ ช่วงก่อนหน้านี่เราเล่นซีรีส์ ก่อนที่จะเข้ามาช่อง 3 ปีแรกๆ เราอยากเข้าไปเจอกับทุกๆ คน อยากทำความรู้จัก อยากสนิทกับทุกๆ ค่าย ทุกๆ คน ใครมีโอกาสอะไรมาก็รับหมดเลย เลยโชคดีได้มีผลงานมากหน่อย ใน 1-2 ปีที่ผ่านมา”

โอดช่วงไหนงานเยอะก็ชนกัน ช่วงไหนงานเบาก็เบามาก
“จริงๆ มีแพลนคร่าวๆ ครับ ว่าอยากได้ประมาณนี้ต่อปี แต่ถ้ามีเรื่องที่น่าสนใจมากๆ น่าเล่น เราก็จะเติมเข้ามา แต่ก็จะพยายามไม่ให้มันชนกันจนหนักเกินไป เพราะมันมีบางช่วง ที่มีงานก็จะต่อๆ กันหลายเรื่อง แต่ช่วงไหนเบามันก็เบามากเลย เช่นช่วงนี้ (หัวเราะ) ตอนไหนว่างก็จะว่าง ตอนไหนหนักก็จะหนัก เคยชนกัน 3-4 เรื่อง แต่ช่วงไหนว่าง ก็จะว่างเลย แต่เวลาว่างงานก็ไม่ได้เครียด ยังไม่ประสบปัญหานั้นครับ แต่ก็กังวล ผมเชื่อว่าทุกคนไม่มีใครอยากว่างงานโดยที่ไม่มีแพลนหรอก ถ้าเจอก็คงไม่สบายใจเหมือนกัน

แต่โชคดีว่าเรายังเห็นภาพของเราในแต่ละปี อย่างปีนี้ วางไว้ว่าอยากเล่นประมาณนี้ อยากมีโอกาสประมาณนี้ ถ้าทำได้ก็สบายใจ แต่ก็ยังมีจุดที่เราอยากไปอีกนั่นแหละ อยากได้บทที่มันต้องแบกเรื่อง ผมอยู่ช่อง 3-4 ปี ก็ยังไม่ได้เป็นพระเอกเต็มๆ มันก็ยังเป็นจุดที่เรายังต้องฝ่าฟันเพื่อบท เพื่อโอกาสในอนาคต ก็ต้องยอมรับว่าเราก็อยากที่จะไปให้ถึงจุดนั้นเหมือนกัน”

เป้าหมายอยากเป็นพระเอกเต็มตัว เพราะตอนเล่นซีรีส์วาย ก็ได้บทนำตลอด
“ใช่ พูดแบบนั้นก็ได้ครับ ก่อนที่เราจะได้เข้าช่อง 3 เราก็รับบทเป็นตัวหนึ่งแทบทั้งนั้น แต่พอเราเข้ามา เราก็เข้าใจว่ามันต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ ก็ยังมีรุ่นพี่อีกหลายคนที่อยากร่วมงาน เราเห็นเขาแล้วเราก็ได้โอกาส โชคดีมากที่ช่อง 3 ก็ให้บทดีๆ กับผมตลอด แต่อีกหนึ่งบทที่อยากได้ คือบทที่เป็นส่วนสำคัญของเรื่อง จุดเริ่มต้นมาจากเรา เราแบกเรื่อง (พูดง่ายๆ ว่าอยากเป็นพระเอกหลัก เพราะที่ผ่านมาได้เป็นคู่รอง?) ส่วนใหญ่บทที่ได้ ก็จะเป็นคนที่เข้ามาแย่งนางเอกบ้าง คนที่เข้ามามีผลกับพระเอกบ้าง เราก็อยากที่จะมีเส้นเรื่องจริงจังของเราเองบ้าง คิดว่าความสามารถของเราในตอนนี้ก็น่าจะ น่าลอง น่าลุ้น แต่ก็ต้องเลือกบทที่เหมาะสมกับเรา แล้วตัวเราเองก็จะส่งละครเรื่องนั้นด้วย“

การจะไปถึงจุดนั้นได้ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ที่เหลือคือเรื่องของดวงและโอกาส
“นั่นนะสิ (หัวเราะ) ถ้าถามตัวผมเองนะ ก็เท่าที่นักแสดงคนหนึ่งจะทำได้แล้วกัน ก็คือเราก็เตรียมฝีมือ เตรียมภาพลักษณ์ เตรียมทุกๆ อย่างที่นักแสดงคนหนึ่งจะทำได้ ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของดวง เรื่องของผู้ใหญ่ เรื่องของบทที่มันจะเข้ามากับเรา ปกติผมก็เรียนการแสดง ปีหนึ่งหลายครั้งอยู่แล้ว รูปร่างเราก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเรื่อยๆ พัฒนาในทุกด้าน“

ฝีมือ 70 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือคือดวง เลยคอยเช็กเรื่อยๆ และขอพรเพื่อความสบายใจ
“ผมรู้สึกว่าฝีมือก็ครึ่งหนึ่ง 50-70 เปอร์เซ็นต์ แต่สุดท้ายแล้วเรื่องความเหมาะสม ดวงมันก็ต้องมีด้วย ส่วนตัวผมก็เช็กดวงอยู่เรื่อยๆ ส่วนใหญ่ก็จะมีไปขอพร เพื่อความสบายใจ เพื่อจุดมุ่งหมาย ถามว่าเขาบอกไหมว่าดวงเราจะขึ้นเมื่อไหร่ ยังไม่เคยถามเรื่องนี้ ผมเพิ่งลองดูเมื่อปีที่ผ่านมานี่เอง เพิ่งเข้าวงการการดูดวง ส่วนใหญ่จะมูฯ เมื่อก่อนไม่กล้าดู แต่พอดูแล้วมันก็ยัง 50-50 ไม่แน่นอน แต่ก็ใกล้แล้วๆ ก็หวังว่าจะมีโอกาส กำลังใจเต็มร้อย พร้อมมากครับ เราทำตัวให้พร้อมตลอดเวลา แล้วมันหนึ่งที่บทมันเข้ามา เราก็พร้อมที่จะไปกับมัน”

ไม่ติดถ้าจะกลับไปรับซีรีส์วาย เพราะดูที่บท ถ้าบทส่งก็อยากเล่น
“มันอยู่ที่บท อยู่ที่คาแรกเตอร์เรา ว่าเราอยากเล่นอะไรแบบไหน ไม่ใช่ว่าไม่รับเลยหรือว่าต้องรับแบบนี้เท่านั้น ถ้าบทมันดี มันส่งเสริมเรา เล่นแล้วคนดูรัก คนดูได้อะไรกลับไป เราก็อยากเล่นแหละ เราดูที่บทเป็นหลัก บทมาก่อนเป็นอันดับแรก แล้วก็ทีมงานต่างๆ รอบตัว แต่ผมไม่ใช่คนเรื่องมากนะ แค่นิดๆ หน่อยๆ แค่รู้สึกว่าเราสบายใจที่ได้ทำงาน และทุกคนก็สบายใจที่จะได้ร่วมงานกับเรา”

ความรักแฮปปี้ดีขึ้นเรื่อยๆ คิดอยากสร้างเรือนหอในอนาคต
“ความรักก็ดี ดีขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าถ้ามีโอกาสก็อาจจะต้องเพิ่มอีกสักหลังครับ ฟังก์ชันมันก็ต้องเพิ่มขึ้นสำหรับอนาคต ก็อาจจะเลือกอีกหลังที่ใกล้กัน แต่หลังแรกยังเพิ่งเริ่มผ่อนได้แค่ไม่กี่ปีเองครับ (หัวเราะ) หลังแรกหมดค่อยมาคุยใหม่ แต่มันก็เป็นอนาคตอันไม่ไกลหรอก แต่ปัจจุบันนี้เราอยากโฟกัสกับงานกันทั้งคู่ ผมคุยกับดรีม (อภิชญา พานิชตระกูล) แล้ว เขาก็มีงานที่อยากทำ เรามีจุดที่เราพร้อมจะสู้อยู่“

คอนเทนต์คู่อาจจะมีบ้างตามความเหมาะสม เพราะคุยกันแต่แรกว่าไม่อยากขายความสัมพันธ์
คุยกับดรีมตั้งแต่แรก ว่าเราไม่อยากที่จะขายความสัมพันธ์ขนาดนั้น แต่มันก็อาจจะมีบ้าง ถ้างานนั้นมันสามารถจูนเข้ากับเราสองคนได้ ซึ่งมันก็อาจจะมีคู่บ้าง แต่มันไม่ใช่ว่าเราจะขาย ตลอด ต้องเลือกอันที่มันเหมาะสมจริงๆ ที่คิดแบบนี้ เพราะว่าถ้าเกิดให้เราสองคนมาขายอะไรที่ว่ามันยังไม่ใช่ มันก็ยังไม่ใช่ สมมติให้ไปถ่ายรูปครอบครัว ชุดแต่งงาน เราก็รู้สึกว่ามันก็ยังไม่ใช่ ไกลไป เอาสิ่งที่เราสองคนทำแล้วคนดูโอเค เชื่อ ซื้อตามได้ แมสเสจของเรามันชัดเจนกับลูกค้าและฐานคนดูเรา”













กำลังโหลดความคิดเห็น