“กองทัพ พีค - มิ้นท์” เผยกว่าจะมาเป็นฉากเลิฟซีนริมทะเลและในคอนโด เขินและเกร็งมาก กดดันสุดๆ แต่ดีใจที่ทั้งผู้จัด ผู้กำกับและทีมงานทุกคนช่วยเซฟดีมาก ทำให้ผ่านมาได้ด้วยดี ยอมรับเป็นเลิฟซีนครั้งแรกในการแสดง บอกอยากร่วมงานกันอีก แต่ขอเป็นบทแบบฟาดฟัน หยุมหัว
เป็นคู่จิ้นที่หลายคนก็ลุ้นให้เป็นคู่จริง เพราะความฟินในจอมันทะลุออกมานอกจอเหลือเกิน สำหรับคู่ของพระเอกหนุ่ม “กองทัพ พีค”กับนางเอกสาว “มิ้นท์ รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร”จากซีรีส์เรื่องดวงใจเทวพรหม ตอน ดุจอัปสร โดยเฉพาะกับซีนสวีตล่าสุดที่เลิฟซีนกันหวานฉ่ำริมทะเล ซึ่งทั้งคู่ได้มาเผยถึงการถ่ายทำฉากนี้ว่ากว่าจะผ่านมาได้ต้องเจออุปสรรคไม่น้อยทีเดียว
มิ้นท์ : “ซีนริมทะเลนั้นต้องบอกว่าตัวไหม้ค่ะ”
พีค : “ร้อนมากเลยครับ”
มิ้นท์ : “ร้อนค่ะ ลม ฝน ทะเล เสียง ทุกอย่างเป็นอุปสรรคหมดเลย (หัวเราะ) แต่ไม่กี่เทกนะคะ”
พีค : “ไม่กี่เทกครับ แต่การถ่ายทำเราถ่ายไปโดยที่ต้องสู้กับฝนไปด้วยครับ เพราะตอนนั้นพี่จ๋า (ยศสินี ณ นคร) บอกว่าเราย้ายไป 2 ครั้ง ในซีนนั้นเราถ่าย 2 วัน วันแรกกำลังจะถ่าย ฝนก็ตก พายุเข้าแบบไม่มีอะไรต้านทานได้เลย จนเราต้องย้ายและไปถ่ายซีนอื่นก่อน แล้วก็ถ่ายซีนดรามาทั้งหมดกลับมาอีกวันเราถึงไปถ่ายซีนนั้นกัน ที่พูดมาคืออุปสรรคทุกอย่างเลยครับ จริงๆ ฉากนั้นเป็นฉากอันซีนของเกาะช้างด้วย ถ้าใครอยากตามรอยทางออฟฟิเชียลมีขึ้นไว้แล้ว เป็นมุมที่สวยงามมากๆ ก็ขอบคุณทีมงานทุกคนด้วยที่ฝ่าฟันก้นไปหาโลเกชั่นสวยๆ ครับ”
มิ้นท์ : “เอาจริงๆ กดดันมากเลยนะคะ เพราะซีนนั้นเป็นอีกซีนที่ในเรื่องพออ่านบทแล้วรู้สึกว่าสับสน ไม่รู้จะเล่นออกมายังไง เพราะว่าบทมันค่อนข้างจะมีหลายอารมณ์ในซีนเดียว รักก็ต้องบอกว่าไม่รัก เราไม่สามารถแสดงออกถึงความรักของเราได้มากหรือน้อยแค่ไหน มันยากมาก ระดับอารมณ์คาดเดาไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่เลิฟซีนกับเขาไปแล้ว เราก็ต้องมาบอกเลิก (หัวเราะ) มันยากและซับซ้อนมากซีนนั้น ก็คุยกับพี่จ๋า คุยกับผู้กำกับนานมาก พอครั้งแรกไปถ่ายกองก็ถูกยกเพราะพายุเข้า เราก็แอบโล่งใจ (หัวเราะ) แต่อีกใจก็คิดว่าทำไมไม่ถ่ายให้เสร็จๆ อีกวันจะได้โล่งไปเลย แต่ซีนนั้นหนูกับพีคไม่ได้คุยกันเลย เหมือนซีนนั้นความคิดเขากับความคิดหนูมันคนละทางกัน”
พีค : “ของเขาคือความสับสน ส่วนเรามันคือแสงสว่างที่เรารอคอยมาไม่รู้กี่ปี และที่ผ่านมาเราก็เข้าใจว่าเขารักคุณภูมิ เพราะเขามีท่าทางสนใจน้องเหลือเกิน แต่พอเขาบอกว่าคิดกับคุณภูมิแค่เพื่อน เราก็ถามเขาว่าแล้วคุณรักใคร และเขาไม่ตอบ แสดงว่าคำตอบมันอยู่ในนั้นอยู่แล้ว ก็เลยทำให้ฝั่งเรามันมีความหวังช่วงนึง แต่ก็โดนหักดิบเพราะเขาบอกว่าเขาไม่ได้รักคุณเพชร”
บอกเป็นการจูบครั้งแรกในชีวิตการแสดง
มิ้นท์ : “ก็ได้ดูค่ะ เขินมากค่ะ แต่วันนั้นเทกน้อยมาก เพราะทุกคนเซฟมากๆ อันไหนที่มันไกลเขาก็เซฟให้ แต่อันไหนที่ใกล้เราก็จำเป็นต้องเต็มที่ให้โอเคในฉากเดียวเลย แต่โชคดีที่ก่อนจะไปเล่นฉากที่ทะเล เราถ่ายฉากคอนโดที่เชียงใหม่ก่อน เราก็เริ่มรู้จักกันมากขึ้น เริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น”
พีค : “เป็นการเลิฟซีนจริงครั้งแรกของเราทั้งคู่ด้วยครับ”
มิ้นท์ : “ใช่ค่ะ ที่ดุเดือดที่สุดที่เคยรับมา เหงื่อตก หายใจไม่ออก กลัว หนูกังวลมาก เพราะการที่จะต้องเล่นฉากเลิฟซีน แล้วให้คนดูเยอะๆ เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับตัวเองมากไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้ว่ามุมไหนสวย เราสามารถมูฟตรงไหนได้บ้าง ซึ่งก็ถือว่าโชคดีมากได้พาร์ตเนอร์ดี เราเล่นกันครั้งแรกเราก็ได้เลย พี่วุ้นผู้กำกับก็ช่วยเซฟด้วยค่ะ คือตอนแรกพี่วุ้นบอกว่าตามฟีลเลย ในใจเราก็มองหน้ากันและคิดว่าเอายังไงดี (หัวเราะ)”
พีค : “เขาไกด์มาว่ามันคือความโหยหาของทั้งสองตัวละครที่รอคอยมาไม่รู้กี่ปี และครั้งนี้เป็นโมเมนต์ที่เขาทั้งสองคนมีโอกาสแล้ว”
มิ้นท์ : “เป็นครั้งแรกที่เราได้แสดงความรักกันทั้งคู่”
พีค : “มันคือการบอกรักโดยที่ไม่มีคำว่ารัก ก็ให้ทั้งสองคนคิดเอาว่ามันจะไปถึงขนาดไหนได้ ซึ่งสำหรับตัวพีคเองก็คิดว่าซวยแล้ว เอาจริงๆ เครียดนะ ก็ปรึกษาพี่วุ้นส่วนตัวเลยครับเพราะเราก็ต้องให้เกียรติมิ้นท์ด้วย และพีคก็อยากจะให้ภาพมันออกมาสวย ทำงานโดยที่เทกน้อยที่สุด พี่วุ้นกับพี่จ๋าก็บรีฟมาแบบนี้ สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่พาร์ตเนอร์ด้วยแหละ เราเชื่อใจกันทั้งคู่ครับ”
มิ้นท์ : “แต่หนูเกร็งนะ (หัวเราะ) คิดในใจซวยแล้ว คือทุกคนดูปล่อยจอยมาก วางใจพวกเรามาก”
พีค : “บรรยากาศกองทุกคนคือบอกว่าเราทำได้ ชิลๆ”
มิ้นท์ : “และนั่นคือซีนหนักๆ ครั้งแรกเลย”
พีค : “ไม่เคยเล่นอย่างนี้มาก่อนด้วย”
มิ้นท์ : “ตอนแรกยอมรับว่าหนูไม่กล้าเล่นเลยค่ะ ก็ถือเป็นจูบแรกในการแสดงด้วย แต่ตอนเข้าซีนหนูก็ทำตัวไม่ถูก หนูเกร็ง หนูก็ไปหลบมุม แล้วเหมือนพี่จ๋าเขารู้”
พีค : “ตัวพีคเองก็เกรงใจเขา เพราะยิ่งเราเป็นผู้ชายด้วย กลายเป็นว่าเราหลบทั้งคู่เลย พี่จ๋าก็เลยเรียกมาคุย”
มิ้นท์ : “พี่จ๋ารู้ว่าหนูรู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ พี่จ๋าเลยพยายามบอกว่าพี่คนไหนที่ไม่ได้มีหน้าที่ตรงนั้นก็ขอให้ออกไปก่อน พี่จ๋าช่วยเยอะมาก”
พีค : “เอาจริงๆ ตอนนั้นเคยพูดกันว่าเป็นช่วงที่เซนซิทีฟสำหรับนักแสดงทั้งคู่มาก และการที่ต้องมานั่งเลิฟซีนกันภายใต้หลายๆ สายตา 20 กว่าชีวิตอยู่ในห้องๆ เดียว มันดูไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเลย พี่จ๋าก็เลยขออนุญาตเชิญคนที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกไปก่อน ก็สร้างความสบายใจให้เรามากๆ ครับ”
มิ้นท์ : “หนูจำได้เลยตอนนั้นพอพักซีน พอหนูสบตาใคร เขาก็หลบตา ไม่มีใครหันมามองเลย แล้วคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเขาก็บอกว่าเอาเลย เล่นตามสบาย แล้วเขาก็เดินออกไปนั่งปาร์ตี้ขนมกัน คือทุกคนน่ารักมาก ทำให้พวกหนูไม่กดดัน”
พีค : “ก็เป็นหน้าที่ของเราสองคนแหละครับ เพราะพี่ๆ เขาจัดไฟเสร็จแล้ว และก็บอกเราว่าสู้ๆนะ ก็เป็นหน้าที่ในฐานะนักแสดงของเราแล้ว ตอนจะเข้าซีนนั้นเราคือขอโทษก่อนครับ ขออนุญาต ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขอโทษไว้ก่อน เผื่อหลายเทก”
มิ้นท์ : “เขาพูดกับหนูอย่างนี้จริงๆ ก็ทำให้หนูสบายใจขึ้น หนูก็ตอบเขาว่าโอเคไปด้วยกันๆ ก็พอถ่ายครั้งที่สองหลังจากบรีฟกับพี่จ๋าแล้ว ก็คิดว่าต้องได้แล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นก็ไม่เสร็จสักที และเราถ่ายที่โรงแรม เวลาก็ค่อนข้างจำกัด เราไม่สามารถหลายเทกได้”
พีค : “เป็นซีนสุดท้ายที่เราต้องถ่ายกัน โชคดีที่ก่อนหน้านั้นไม่ใช่ว่าอยู่ๆ มาแล้วเลิฟซีนเลย มันเป็นซีนยาวจริงๆ มีการเล่าเรื่องเหตุการณ์ไล่อารมณ์ไป ก็ต้องขอบคุณคนเขียนบทและทีมงานทุกคนด้วยที่เซฟพวกเราทั้งคู่ครับ”
บอกพอ “เทศน์ ไมรอน” เห็นฉากเลิฟซีนของตน ถึงกับต้องไปขอผู้กำกับว่าขอมีบ้าง
พีค : “เขินครับ (หัวเราะ)”
มิ้นท์ : “ไม่ได้ดูด้วยกันค่ะ แต่เรามีดูรีแอ็กของเมคเกอร์ก่อน หนูเกร็งมาก เขินมาก อยากจะเอาผ้าห่มมามัดตาสองข้าง”
พีค : “ก็บอกให้ทุกคนปิดตา อย่าดู เขาก็ปิดตากัน (หัวเราะ) พีคอยากจะกดปุ่มเลื่อนฉากเลย มันก็รู้สึกแปลกๆ นะ ตอนนี้ก็ยังเขินอยู่นะครับ (หัวเราะ)ต้องบอกว่าจุดเริ่มต้นของเลิฟซีนในเรื่องเทศน์คือซีนของพีค เพราะเทศน์ถามตลอดว่ายูมีเลิฟซีนไหม พีคก็บอกว่ามีแล้วก็ให้เขาดูบทว่าเป็นยังไง จากนั้นเทศน์ก็ไปบอกผู้กำกับเรื่องเขาเลยว่าผมขอมีเลิฟซีนครับ (หัวเราะ) เรามองแล้วมันก็เป็นซีนที่สวยงามของตัวละครด้วย คนบอกว่าเลิฟซีนคู่เราทำถึงที่สุด พีคว่าเงียบกริบเลยครับ จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาขิงกัน (หัวเราะ) ถ้าจะมาขิงเรื่องนี้พีคจะรู้สึกเขินๆ มากกว่า”
มิ้นท์ : “แต่เทศน์เนี่ย นอกจากจะขิงแล้วยังอวดด้วยนะคะว่าผมไปขอมานะ ผมโดนเขาแย่งก่อน ก่อนที่ผมจะเริ่ม”
พีค : “จริงๆ จักรวาลของเขาเป็นจักรวาลของความหวานครับ อย่างที่ทุกคนเห็นโทนเรื่องของเขาจะเป็นสีฟ้าๆ น่ารักๆ ส่วนเรื่องของเรา เราก็ทำเต็มที่ในพาร์ตของเราแหละ มันมีเสน่ห์ในแต่ละเรื่อง ก็ไม่รู้จะขิงยังไงกับเขาเหมือนกัน”
บอกอยากร่วมงานด้วยกันอีก แต่ขอบทแบบหยุมหัวกันหน่อย
มิ้นท์ : “ที่ไปออกรายการแล้วบอกว่าพีคคือเพื่อนสนิท เพื่อนสนิทก็คือเพื่อนสนิท (หัวเราะ) เป็นพาร์ตเนอร์ค่ะ เขาเป็นพาร์ตเนอร์ที่เป็นเด็กแฝดอีกคน เป็นอีกร่างนึงของหนูที่เป็นผู้ชาย เราค่อนข้างเหมือนกันค่ะ”
พีค : “ก็ค่อนข้างเหมือนกันนะครับ”
มิ้นท์ : “พูดไม่รู้เรื่อง ความเนือย ชอบอ่านหนังสือ ชอบเล่นกีฬา ชอบสวดมนต์ เข้าวัดทำบุญ”
พีค : “อีกคนนึงที่ฟังเราสองคนรู้เรื่องก็คือพี่เซ้นต์ (ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา) ครับ พอเราอยู่ด้วยกัน 3 คน เราวุ่นวายกับเขาไปทั่วเลยครับ ก็จะมีพี่เซ้นต์นี่แหละ เขาชอบทำบุญ เขาก็จะอยู่กับเราตลอดจริงๆ ที่บอกว่าเราคุยกันสองคนรู้เรื่อง เพราะว่าเราชอบคุยกันเบาๆ เอเนอร์จี้ไม่ได้สูงมากขนาดนั้น”
มิ้นท์ : “ตอนถ่ายละครอยู่ในกอง เขานอนแล้วก็คิ้วขมวดตลอดเวลา เราก็คิดว่าเขาหลับจริงเหรอ เวลาจะเข้าซีนหนูก็ไปปลุกเขา บอกว่าคุณตื่น แล้วเขานิ่งมาก ปลุกแรงมากก็ไม่ตื่น”
พีค : “เป็นปกติของผมนะ ไม่ได้แกล้งเขา ช่วงนั้นพีคป่วยด้วย ผ่าตัดบ่อย เรียนด้วย แล้วมหาวิทยาลัยที่อังกฤษเวลาก็ไม่ตรงกัน ก็ต้องเรียนถึงตี 5 แล้วก็ตื่นมา 7 โมงถ่ายละครต่อ แต่ที่คนบอกว่าอยากให้มีงานคู่กันอีก อันนี้ก็สาธุครับ (ยกมือไหว้)”
มิ้นท์ : “อย่างแรกก็ขอบคุณที่ซัปพอร์ตเราทั้งคู่ ก็อยากร่วมงานอีกเหมือนกัน”
พีค : “ในฐานะนักแสดงคนนึง ร่วมงานกับเขาแล้วรู้สึกประทับใจมาก ในทุกๆ ซีนเขาทำการบ้านมาหมดเลย พอเล่นด้วยกันแล้วรู้สึกธรรมชาติ เหมือนเป็นตัวละครด้วยกันจริงๆ ก็ขอบคุณทุกคนครับ ก็อยากจะร่วมงานด้วยกันอีกแน่นอน อยากเล่นแบบตีกัน ฟาดฟันกัน หยุมหัวกัน”
มิ้นท์ : “อยากเล่นแนวพลิกกับเกลือ หนูชอบเรื่องนี้มาก สวยเริ่ดเชิ่ดโสด ที่พี่เจนี่ (เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ) ตีกับพี่ฟิล์ม (รัฐภูมิ โตคงทรัพย์) หนูอยากตีกับเขาแบบนั้น”
พีค : “ชอบมากครับ ก็เคยคุยกับเขาเรื่องนี้เหมือนกัน น่าสนุกดีครับ”
