“ณิชา” แจงดรามามีฝุ่นไม่มีลูก เผยเป็นคนพูดเองยังไม่พร้อมแต่ง สงสารลูกถ้าต้องเกิดมาอยู่ในโลกร้อนๆ เข้าใจทุกคอมเมนต์ แต่ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ขอบคุณที่เป็นห่วงแต่ส่วนตัวแฮปปี้ดี เผย “โตโน่” ก็ไม่ได้ซีเรียส เห็นตรงกันอยากโฟกัสงานและดูแลครอบครัวก่อน รักนี้ไม่มีวันครบรอบ เพราะไม่เคยขอเป็นแฟน แต่ไม่ต้องมีวันฉลอง แค่ว่างไปกินข้าวด้วยกันก็พิเศษแล้ว นับคร่าวๆ คบกันได้ 7 ปี ไม่หวั่นอาถรรพ์ตัวเลข รีวิวแฟนคนนี้ น่ารัก อยู่ด้วยแล้วสบายใจ โชคดีที่มีเขา
กลายเป็นเรื่องที่หลายคนออกมาแสดงความคิดเห็น หลังหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์”ให้สัมภาษณ์ว่ายังไม่คิดแต่งงานมีลูกกับหวานใจ “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์”ถ้าประเทศไทยยังมีฝุ่น PM 2.5 และติด Top 10 ประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลก โดยบางคนก็รู้สึกเห็นด้วย แต่บางคนก็มองว่าถ้าอย่างนั้นจะได้แต่งกันเมื่อไหร่ เพราะดูจะเป็นปัญหาที่แก้ยาก ล่าสุดวันนี้ (25 ก.ค.) มีโอกาสได้พูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับสาวณิชา ในงานโปรโมตละคร น่าน ฟ้า ชลาลัย ที่ช่อง 3 เจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ ยอมรับตนเป็นคนพูดเองว่ายังไม่พร้อมแต่ง ยังไม่พร้อมมีลูก เพราะรู้สึกสงสารลูกถ้าต้องเกิดมาเจอโลกร้อนๆ และสภาพแวดล้อมแบบนี้
“เอาจริงๆ สำหรับเรามันไม่ได้มีอะไรเลย คือไม่ได้คิดมากอะไรเลย แล้วอย่างที่เคยบอกทุกๆ คน ว่าตัวเราเองก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นจริงจัง เพราะเราไม่พร้อมกับเรื่องนี้ เรายังอยากทำงาน เอ็นจอยชีวิตส่วนตัว ชีวิตคู่ที่มันจะต้องไปอีกสเต็ปอาจจะยังไม่ได้มีภาพตรงนั้นที่คิดเอาไว้ หรือว่าคุยกันอย่างจริงจังเลย สิ่งที่คุยกันคือปัจจุบันครอบครัวเราแฮปปี้มาก เราพอดีกับแค่นี้ก็โอเคแล้ว
สิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงก็เข้าใจทุกคอมเมนต์เลยค่ะ เข้าใจได้ว่าแต่ละคนพอฟังไปแล้ว เขาก็จะมีความเห็นหรือความคิดที่มันแตกต่างกันออกไป ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้ว เลยไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับชีวิตเท่าไหร่ ก็เคารพทุกความเห็น คือหนูเข้าใจว่าแต่ละคนเจอเรื่องต่างๆ ในชีวิตมาไม่เหมือนกัน ความคิดมุมมองต่างๆ ในการใช้ชีวิตก็อาจจะไม่เหมือนกัน ก็เข้าใจที่เขาอาจจะมองคนละมุมกับเรา แต่ก็ไม่ได้ไปตัดสินใคร เพราะเราไม่รู้จักคนที่มาคอนเมนต์ เลยไม่ได้เอามาใส่ใจ เอามาเครียดหรือกังวล
คือเอาจริงๆ ตอนพี่โน่สัมภาษณ์เขาก็ดูพูดเล่นนะ แล้วหนูว่าที่พี่เขาพูด ไม่ได้หมายถึงว่าฝุ่นไม่หมดไม่แต่งด้วย เขาบอกกว่าเรื่องแต่งเรายังไม่ได้คิด อยากเอ็นจอยชีวิตตอนนี้ พาครอบครัวไปเที่ยวกัน แล้วณิชาก็ยังไม่พร้อม แต่ถ้าเรื่องมีลูก มันอาจจะทำให้ดูกำกวม เรื่องมีลูกหนูเคยคุยกันจริงๆ คนอื่นอาจจะพร้อมที่จะมีลูกในสภาพแวดล้อมแบบนี้ อันนั้นเป็นสิทธิ์ของเขา ความแฮปปี้ของเขา แต่ส่วนตัวหนูเองก็รู้สึกว่ามันยาก คือมันไม่ใช่แค่มีลูกแล้วจบไป อาจจะเพราะปัจจุบันนี้หนูยังไม่พร้อมเองด้วย ปัจจัยนี้ก็เป็นอีกเหตุผลที่เคยคุยกัน ว่าถ้าโลกมันร้อนแบบนี้ แล้วมีลูกมาอยู่ในโลกร้อนๆ ก็สงสารลูกเนอะ แต่มันไม่เป็นเรื่องที่คุยกันซีเรียส ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่ว่าหนูแฮปปี้ดี”
เห็นด้วยกับเหตุผลของ “โตโน่” เพราะส่วนตัวก็ยังไม่พร้อม
“หนูไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหาเลยค่ะ หนูไม่ได้มองว่าเรื่องนี้มันต้องเกิดขึ้นตอนนี้ เป็นแบบนี้ๆ หนูมองว่าเราใช้ชีวิตในแบบที่เราพอใจ คนอื่นๆ เขาอาจจะมีแบบที่เขาพอใจ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่เราแฮปปี้แบบนี้ เรายังไม่พร้อม บางคนคิดว่าแล้วเมื่อไหร่จะได้แต่ง ถ้าเอาเหตุผลนี้ ก็เข้าใจได้ แต่หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะหนูก็ยังไม่ได้พร้อมค่ะ ไม่ได้คิดจริงๆ คือตอนแรกหนูไม่รู้เรื่องเลย จนเพื่อนมาบอกว่ามีข่าวนี้ ก็เข้าไปดูแล้วก็อ๋อ ก็เข้าใจได้ค่ะ เป็นเรื่องปกติมากๆ เลย ที่เวลามีข่าวไป เราพูดในมุมของเรา คนเขาก็พูดในมุมของเขา ไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา”
ไม่ซีเรียสกับดรามานี้ เพราะโฟกัสงาน
“เอาจริงๆ ไม่รู้เรื่องกันทั้งคู่ เพิ่งคุยเมื่อคืนนี้เลยค่ะ ว่าพี่โน่ เดี๋ยวต้องสัมภาษณ์เรื่องนี้ด้วย แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสทั้งคู่เลยค่ะเราใช้ชีวิตและทำงานกันอย่างหนักมากๆ อาจจะไม่ได้เข้าไปดูโซเชียลเท่าไหร่ ตอนนี้พี่โน่เขาก็ฝึกร่างกายอยู่ต่างจังหวัดด้วย ต่างคนต่างโฟกัสงาน ไม่ได้มาดูโทรศัพท์บ่อยๆ”
เคยพูดเล่นกันแล้ว ว่ายังไม่พร้อมในหลายๆ เรื่อง
“เราพูดเล่นกัน หนูเป็นคนพูดว่าหนูไม่พร้อม เพราะร่างกายเรา ถ้าลูกจะออกมา ก็มาจากเรา (หัวเราะ) เราก็เลยพูดเองว่าเราไม่ได้พร้อม มันอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องนี้ด้วย หนูยังไม่พร้อมในหลายๆ เรื่องด้วยค่ะ เหตุผลนี้มันแค่หนึ่งเหตุผลเล็กๆ ในอีกหลายๆ อย่าง ไม่ได้อ้าง แต่ไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม หนูเข้าใจถ้าคนอื่นจะคิดว่าจะได้แต่งไหม ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่ได้ซีเรียส
ถามว่าตอนนั้นคุยอะไรกัน ถึงคุยเรื่องนี้ เหมือนเราดูหนังหรืออะไรสักอย่าง ที่อาจจะพูดเรื่องธรรมชาติ เลยมีประโยคนี้ขึ้นมา คือหนูจินตนาการว่าถ้าหนูไปถ่ายละครทุกวันนี้ ร้อนมากๆ เลย ถ้ามีลูกแล้วต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ หนูไม่มั่นใจในตัวเอง ว่าเราจะดูแลเขาได้ไหม หนูนับถือมากเลย พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกให้โตขึ้นมาได้ มันแค่ตัวหนูเองที่ไม่ได้รู้สึกพร้อม แล้วก็ยังไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น เอาจริงๆ มันคือความคิด ณ ปัจจุบันนี้เลย แต่คนเรามันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ วันนี้หนูรู้สึกแบบนี้ วันหน้าอาจจะพร้อมขึ้นมาใครจะไปรู้
ก็นั่นแหละค่ะ หนูก็เข้าใจ ทุกคนมีสิ่งต่างๆ มาไม่เหมือนกัน มุมมองเลยแตกต่างกัน มันเป็นเรื่องปกติของชีวิตมนุษย์ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนมีความเห็นตรงกันทั้งหมด แล้วถามว่าเมื่อไหร่จะพร้อม คือแผนที่วางไว้ตอนนี้ เดี๋ยวจะพาครอบครัวไปเที่ยวค่ะ (ยิ้ม) แค่นี้เลย คู่อื่นอาจจะมีแบบแผนในการใช้ชีวิต แต่สำหรับหนูถนัดอิมโพรไวส์ วันนี้แฮปปี้แบบนี้ ไม่ได้กดดันตัวเองหรือใคร ชีวิตของแต่ละคนพร้อมไม่เท่ากัน ถามว่าคิดไหมว่าอายุเท่าไหร่ ก็ไม่ได้คิดเลยค่ะ”
ไม่ได้มีความฝันชัดเจนเรื่องแต่งงาน “โตโน่” เองก็เห็นตรงกัน
“เข้าใจที่มีคนคิดแบบนั้นค่ะ แต่หนูไม่ใช่หนึ่งในนั้นแน่นอน ที่จะมีความฝันอย่างชัดเจน ว่าเราจะไปยังไง คือเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่เขามีความคิดอย่างนั้น มันก็เป็นความสุขความสบายใจของเขา แต่เราถนัดแบบนี้ (แล้วโตโน่มีไหมแพลนไหม?) กลับมาเหมือนเดิม ว่าเราอยู่กับปัจจุบันกันมากๆ เลย พี่โน่ก็อยู่กับปัจจุบันมากๆ มันเลยพอดีที่เราคิดเหมือนกัน เราคิดตรงกันว่าอยากพาพ่อแม่ไปเที่ยวก่อน หนูเพิ่งทำงานเก็บเงินได้ ก็อยากจะดูแลครอบครัว พี่โน่เขาก็อยากดูแลครอบครัวเขา แล้วเราก็ยังเอ็นจอยที่จะไปเที่ยวกัน”
ไม่มีวันครบรอบเหมือนคู่อื่น แต่นับดูน่าจะ 6-7 ปีแล้ว
“ไม่มีวันครบรอบ (เสียงอ่อย) อย่างที่เคยบอกทุกคนว่าไม่เคยขอ คร่าวๆ นะคะ แต่ไม่แน่ใจ น่าจะก่อนโควิด 6-7 ปีไหมคะ”
ไม่กลัวอาถรรพ์ 7 ปี ใช้ชีวิตปกติแบบมีความสุข บอกตัวเลขไม่ผิด ปล่อยไปตามธรรมชาติ
“ก็ยังไม่มีอะไร ก็ใช้ชีวิตไปปกติมากเลย ก็มีความสุข เขาซัปพอร์ตเรา เราซัปพอร์ตเขา ครอบครัวเราซัปพอร์ตกัน ก็มีความสุข เป็น 7 ปีที่สบายใจค่ะ อาจจะเพราะหลายๆ เรื่องเรามองตรงกัน คือหนูไม่รู้ว่าคู่อื่นเป็นแบบไหน แต่ละคนไม่เหมือนกัน ของหนูก็คงไม่เหมือนคนอื่น มันเป็นแบบของเรา เราสบายใจแบบนี้ ครอบครัวเราสบายใจแบบนี้ แค่นั้นเลยค่ะ เราโฟกัสที่ชีวิตปัจจุบัน มันไม่ใช่ว่าเราทำงานอย่างเดียว ปัจจุบันนี้หนูอยากเห็นแม่หนูได้ไปเที่ยวที่นี่ด้วยกัน อยากพาครอบครัวเราไปเที่ยวด้วยกันที่นี่ ทำงานนี่แล้วเอ็นจอยมาก ตัวเลขไม่ผิดนะคะ (หัวเราะ) ปล่อยไปตามธรรมชาติค่ะ ไม่ได้คิดว่าเลขจะเป็นอะไร”
ไม่ต้องฉลองวันครบรอบ แค่ว่างพาไปกินข้าวก็พิเศษแล้ว
“ไม่ต้องฉลองก็ได้คะ แค่นั่งกินข้าวด้วยกันก็แฮปปี้แล้ว สำหรับหนูวันนี้ว่างตรงกัน พี่โน่พาไปกินข้าว ก็พิเศษแล้วค่ะ (ยิ้ม)เดี๋ยวนี้กินหมดแล้วค่ะ ยัดเข้าไปเลย”
ปัดทริปทะเลคือพรีเวดดิ้ง
“ใจเย็น หนูยังไม่พร้อม แค่ไปเที่ยวค่ะ นี่น่าจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เราได้ไปพักกัน 2 คน แต่ถ้าไปกับครอบครัว พยายามจะให้เป็นปีละ 1 ครั้งขึ้นไปค่ะ เพราะเวลาส่วนใหญ่ไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่”
รีวิวแฟนคนนี้ น่ารัก และทำให้สบายใจ โชคดีที่มีเขา
“มันเหมือนอวยกันเอง (หัวเราะ) สำหรับเราไม่ได้นะ ไม่ได้อวดหรือว่าอะไร ก็น่ารัก เขาทำให้เราสบายใจ ทำให้เรามีแรงในการใช้ชีวิตในมุมอื่นๆ เพราะเราไม่ต้องมาพะวงหรือกังวลกับเรื่องนี้ แล้วเราก็โชคดีที่มีเขาค่ะ”
