“ตูมตาม” เผยอยู่ในช่วงปฏิวัติตัวเอง คืนร่างทองสำเร็จ หลังขึ้น 10 กิโลตอนเมียท้อง โอดเลี้ยงลูกเอง เหนื่อยแต่มีความสุข อ้อนเมียอยากมีเพิ่มเป็น 3 คน “อาหลี” ไม่อนุมัติขอเก็บเป็นเรื่องอนาคต บอกเพิ่งลดน้ำหนักลงมาได้ ลั่นแม่ยังอยู่ หลังเจอถามคิดว่าตูมตามเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ไม่หวงซิกแพ็กสามี เพราะได้ลูบอยู่คนเดียวทุกคืน
หลังพักงานไปเลี้ยงลูกสาว “น้องรินณา” อยู่พักใหญ่ ล่าสุดหนุ่ม “ตูมตาม ยุทธนา เปื้องกลาง” ก็กลับมารับงานเหมือนเดิมแล้ว ซึ่งกลับมารอบนี้ก็ฟิตมาก เพราะเพิ่งเอาน้ำหนักที่ขึ้นมา 10 กิโล ตอน “อาหลี อัฐริญญา อึ้งศิลป์ศรีกุล”ท้อง ลงไปได้ แถมยังลดลงไปได้มากกว่าน้ำหนักเดิมตอนแรกอีก ทำเอาหลายคนแอบแซว ว่าไปเลี้ยงลูกยังไงถึงได้หล่อขึ้นขนาดนี้
ตูมตาม : “มันดีขึ้นขนาดนั้นเลยเหรอครับ ก็เหนื่อย แต่ผมกับอาหลีสองคน ปฏิวัติตัวเองนิดหนึ่ง เพราะต้องกลับมาทำงานกันแล้ว อย่างที่ตั้งใจไว้ว่า ให้ลูกสักประมาณ 8-9 เดือน จะรีเซ็ตร่างกายกันแล้ว ออกกำลังกายทำตัวเองให้พร้อมกับการกลับมาทำงาน ก็คืนร่างเดิมด้วยการออกกำลังกายครับ ลดน้ำหนักกัน เพราะขึ้นกันมา 10 กว่ากิโล จนผมตกใจ จนผมว่ามันจะไปหยุดตรงไหน คือก็กินตอนที่ภรรยาท้องนี่แหละ พอเขาท้องแล้วผมก็กิน คือมันเหนื่อยด้วย เราก็กินแล้วปล่อยจอยเต็มที่ เพราะช่วงนั้นไม่มีงานอยู่แล้ว ช่วงนั้นพักเพราะดูแลภรรยาและลูก จริงๆ สะดุ้งตั้งแต่ที่ผมเริ่มกินเยอะกว่าเดิมแล้วครับ (หัวเราะ) เพราะมันเริ่มแปลกๆ จากที่เราเป็นคนไม่ชอบกินขนมหวานหวาน จากเมื่อก่อนไม่กินอะไรที่เป็นน้ำตาล แต่ตอนนี้ทุกอย่างซัดเรียบ ก็ไปไกล แต่ตอนนี้ลงไปน้ำหนักน้อยกว่าเดิมแล้ว"
ซิกแพ็กยังมีแต่ซ่อนอยู่ข้างใน อายุและช่วงวัยเป็นอุปสรรค
ตูมตาม : “จริงๆ มีครับ แต่ว่ามันซ่อนอยู่ข้างในไงเมื่อก่อน เดี๋ยวรอดูๆ ถามว่ากลับมาอยากให้ได้แบบไหน มันมี 2 กรณีครับ ในเรื่องของการทำงานเรารู้สึกว่า พอเราออกกำลังกายกลับมาสุขภาพแข็งแรง มันก็จัดการทุกเรื่องได้ แต่อีกเรื่องหนึ่งในเวย์ของคนที่ออกกำลังกาย เราเคยไปสู่จุดหนึ่งแล้ว ที่เราหุ่นดีจนเราพอใจแล้ว ตอนนี้ก็ไปให้ไกลกว่าเดิม ขยับขึ้นไปให้ดีกว่าเดิม ก็ปรึกษาเทนเนอร์และปรึกษาหลายๆ คนและเริ่มจริงจังมากขึ้น ช่วงวัยและอายุก็เป็นอุปสรรคครับ มันเหนื่อยขึ้น พอผมแตะไปเลขสามแล้ว นอนดึกไม่ไหว ตื่นเช้าก็เริ่มช้าลง ชีวิตช้าลง และรีโคฟเวอร์ตัวเองยากเลยรู้สึกว่าอาจจะเป็นเพราะเราออกกำลังกายน้อยลง กินแย่ขึ้น ก็เซ็ตตัวเองใหม่ ไม่ได้เซ็ตแค่ตัวผมคนเดียว ก็เซ็ตทั้งครอบครัว ทำคู่กับอาหลีก็ช่วยกันเป็นกำลังใจให้กัน จนมันมาแตะจุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จมากๆ คือเราเป็นคนออกกำลังกายกันทั้งคู่แล้ว”
ใช้คำว่าแพ้ท้องแทนเมียได้ เพราะกินเยอะมาก
ตูมตาม : “ผมว่าได้นะ เพราะผมกินเยอะกว่าเขาอีก แต่พาร์ตของผู้หญิง คือจริงๆ เขาไม่ได้กินอะไรเยอะ แต่มันมีเอฟเฟกต์จากการตั้งครรภ์อยู่แล้ว ก็ขึ้นมา 10 กว่ากิโลเหมือนกัน (ตอนนี้กลับมาแล้ว?) โอ้ย ภรรยาผมสวยจังเลยครับตอนนี้ (หัวเราะ) คนที่ 2 - 3 ก็คงจะตามมา (หัวเราะ) แต่ยังๆ ขอพักเหนื่อยก่อนเรื่องดำเนินการ อันนั้นมันก็ต้องมีเรื่อยๆ ไหม นี่มันหน้าฝนนะครับ จะให้มันแห้งเหี่ยวได้ยังไง (หัวเราะ)”
โอดการมีลูกมันเหนื่อยขอพักก่อน แต่อยากมีสัก 3 คน
ตูมตาม : “ขอพักก่อน จริงๆ การมีลูกมันเหนื่อยครับ แต่ก็คุยกับอาหลีว่าเดี๋ยวรอก่อน คือเราอยากมีลูกเยอะๆ อยู่แล้วมันน่ารัก ถามว่าตั้งเป้ากี่คน มีสักคอกได้ไหม (หัวเราะ) สัก 3 คนก็พอ ถ้าเป็นไปได้ ถ้าไหวก็อยากจะมีสักประมาณนั้นแหละ ถามว่าจะพร้อมตอนไหน เอาเป็นว่าตอนนี้หายเหนื่อยจากคนแรกก่อน คือต้องบอกก่อนว่า เราเลี้ยงกันเองแบบจริงๆ 24 ชั่วโมง ที่ไม่เห็นผลงาน ไม่เห็นหน้า คือผมไม่ได้ไปไหนเลยครับ เลี้ยงลูก ไม่มีพี่เลี้ยงครับ เป็นคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ช่วยกันสลับ มาช่วยเวลาที่เราทั้งคู่ออกมาทำงาน”
เลี้ยงเองเพราะไม่ไว้ใจใคร เหนื่อยแต่มีความสุข
ตูมตาม : “ส่วนหนึ่งพวกผมไม่ค่อยไว้ใจด้วยแหละ พวกผมเป็นคนประเภทที่อยู่ด้วยกันเอง ดูแลกันเอง ก็เลยไม่ค่อยชินกับการให้คนอื่นเข้ามาอยู่ในบ้าน แล้วมาช่วยอะไรมากมาย เราก็จะรู้สึกสบายใจเฉพาะครอบครัว ก็เลยรู้สึกว่าเอาตามที่เราสบายใจแล้วกัน เหนื่อยหน่อยแต่มีความสุข ถามว่าจะมีหัวปีท้ายปีไหม อันนั้นไม่มีกำหนดเลยครับ แต่ก็ต้องคุมครับ นี่ไงภรรยายืนยิ้มอยู่ข้างหลัง”
อาหลี : “ไม่ค่ะ ไม่ (หัวเราะ) เมื่อกี้หนูเพิ่งคุยกับพี่ธัญญ่า (ธัญญาเรศ เองตระกูล) แค่คนเดียวก็พอแล้วค่ะ (เขาบอกว่าอยากมีเป็นคอก?) เฮ้อ”
ตูมตาม : “(หัวเราะ) ดูการถอนหายใจก็จะรู้แล้วนะ”
อาหลี : “ไม่ไหว ไม่ได้รับทราบค่ะ รับทราบแค่แบบเราแค่คนเดียวก็พอ ที่เราคุยกันไม่ใช่อย่างนี้เราคุยกัน 2 คน จำได้ไหม”
ตูมตาม : “เรื่องบางเรื่องก็คุยกับภรรยาไม่ได้หรอก 3 คนได้ไหม”
อาหลี : “เฮ้อ ตอนนี้เอาเป็นว่าขอแค่คนเดียวก่อน เพราะรู้สึกว่าเหนื่อยมาก (หัวเราะ) เหนื่อยมากจริงๆ เราไม่มีพี่เลี้ยง เราไม่มีใครมาช่วยเลยจะมีแค่คุณย่า คุณยาย และมีคุณปู่บ้าง ก็ลุยเองทุกอย่างเลยค่ะ คืนไหนถ้าเกิดสมมติงอแง ก็ไม่ได้นอน ตาโหลกัน”
ตูมตาม : “จริงๆ รองพื้นหนามากเลยนะ”
อาหลี : “(หัวเราะ) ทุกวันนี้ออกจากบ้าน คือเขาต้องรองพื้นใต้ตาตลอดเลยนะ”
ตูมตาม : “ผมไปเดินห้าง ผมยังต้องแต่งหน้าเลย ไม่ได้สิเดี๋ยวคนจะรู้ว่าเรานอนดึก”
อาหลี : “เอาจริงๆ บางครั้งไปเดินห้าง เขาไม่ปรึกษาเราด้วย พ่อไปหน้าเต็ม ส่วนแม่หน้าสด (ยิ้ม)ซึ่งปกติก่อนหน้านั้นไม่เคยแต่งหน้า”
ตูมตาม : “แล้วอาหลีบอกว่าพี่ตูมๆ ใส่มาสก์หน่อย เดี๋ยวคนก็มาสนใจหนู หนูไม่ได้แต่งหน้ามา”
อาหลี : “มันเต็มไป แล้วบางทีเขาอุ้มลูกใช่ไหม หนูสภาพกระเซอะกระเซิงอย่างนี้ แล้วเหมือนหนูเป็นพี่เลี้ยง เหมือนตามมาช่วยคุณพ่อ ส่วนคุณแม่เขาอยู่ที่บ้าน ประมาณนั้น”
รับเรื่องลูก 3 คนไว้เป็นเรื่องของอนาคต
อาหลี : “ก็คงเก็บไว้เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ ตอบแบบกลางๆ เซฟๆ ไปก่อน
ตูมตาม: “โอ้โห ปั่นใหญ่เลยนะ ไม่ สงสารเขา จริงๆ แล้วต้องบอกว่าอาหลีเขาอยู่เบื้องหลัง จริงๆ อาหลีเขาไม่ค่อยโพสต์โซเชียล แต่เขาทำงานหนักมากในการเลี้ยงลูก ผมเนี่ยขโมยคอนเทนต์ ก็คุณแม่อุ้มมาทั้งคืนแล้ว ส่วนผมอุ้มลูก 3 วิ ได้คอนเทนต์”
อาหลี : “เอาจริงๆ นะ บอกว่าขอฝากลูกแป๊บหนึ่ง ขอเข้าห้องน้ำก่อน ออกมาปุ๊บ อ้าว คอนเทนต์ จนมีคนมาถามว่า ตูมตามเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวเหรอ (หัวเราะ) ยังมีแม่ค่ะ แต่บางครั้งคุณแม่ก็ไม่พร้อมออกกล้อง บางทีเราก็เป็นคนช่วยถ่าย แต่เขาก็เลี้ยงลูกเก่งจริงๆ ขยันเลี้ยงลูกมาก รักลูกมาก อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้ เขาบอกเมียเขาสวยมากใช่ไหม สามีหนูก็หล่อมาก”
จริงๆ อยากมี แต่อยู่ในช่วงเหนื่อย
ตูมตาม : “พี่อยากให้มีเด็กอีกคนหนึ่งเกิดขึ้นมาใช่ไหม เอางี้ไปช่วยผมเลี้ยง (ยิ้ม)”
อาหลี : “เอาจริงๆ ถามว่าอยากมีไหม ก็อยากมี แต่ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงเหนื่อย ยังเหนื่อยที่เราค่อยๆ ตามพัฒนาการของคนแรกไป”
ตูมตาม : “ให้เวลาแบบเต็มที่”
อาหลี : “ใช่ หนูเพิ่งลดน้ำหนักมา เหนื่อยมาก (หัวเราะ) ลดกันทั้งคู่เลย พากันอ้วนฉุตอนท้อง พอคลอดเสร็จก็เฟิร์มกลับมาเป็นเหมือนเดิมเลย ประมาณ 3-4 เดือน แต่คือป่ะป๊าเขาน่ารักมากเลยนะ เพราะตอนท้อง ป่ะป๊าเขาตั้งใจอ้วนเป็นเพื่อนหนู น้ำหนักเขาขึ้นมา 10 โล”
ตูมตาม : “คือเขาอยากกิน พอสั่งมา เขากินแค่นิดเดียว แล้วที่เหลือใครรับผิดชอบ ก็ผมสิ แล้วก็หลังๆ ผมเริ่มติด อร่อยไง ดึกๆ ตอนเมียท้องผมบอกอาหลี พาพี่ขับรถไปกินข้าวตรงนี้หน่อย”
อาหลี : “(หัวเราะ) เนี่ยหนูเข้าใจมาตลอดว่าเขารักหนู แล้วทุ่มเทเพื่อหนู จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เหรอ เป็นเคสบังคับอะไรอย่างนี้เหรอ”
ตูมตาม : “รัก”
อาหลี : “โอเคๆ”
การเลี้ยงลูกกัน 2 คน ทำให้ได้เห็นธาตุแท้กันมากขึ้น
อาหลี : “มันได้เห็นแง่มุมของกันและกันเพิ่มมากขึ้น เอาจริงๆ เหมือนคำที่เขาบอกว่า ถ้าสมมุติว่าอยากรู้ว่าเรามีพาร์ตเนอร์ที่ดีไหม ให้เราลองมีลูก เพราะมีลูกแล้วเราจะรู้เลย ว่ามันอยู่ด้วยกันได้ไหม ซึ่งคำตอบคนนี้เกินฝัน เกินคาดมาก สิ่งที่ดีและสนับสนุนซัปพอร์ต เพราะหนูมองว่าการที่เรามีลูก มีเด็กคนหนึ่ง มันเป็นสิ่งที่แบบร่วมกัน ไม่ใช่หน้าที่คุณแม่คนเดียว ที่แม่จะต้องมาเลี้ยงลูกต้องปั๊มนม แต่เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบทั้งครอบครัว คือทั้งตัวลูกด้วย และคุณพ่อด้วย เป็นการซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน”
ตูมตาม : “สำหรับผม ผมว่าเราเป็นคนที่ดีขึ้น สเต็ปแรกเลยเพราะมีภรรยาที่น่ารัก เราก็กลายเป็นคนที่ดีขึ้น เราอยากให้เขาภูมิใจ เราอยากให้ทุกๆ คนเบื้องหลังต่อจากนี้ที่เกี่ยวเนื่องกับเรา ภูมิใจกับการที่เกิดความรักครั้งนี้ และหลังจากพอมีลูก ผมยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นชาเลนจ์ใหม่ในชีวิต ที่ผมต้องเป็นแบบอย่างของคน แล้วผมต้องเป็นกระจกสะท้อนลูกที่ดี และเราต้องเป็นพ่อที่ทำทุกอย่างด้วยความทุ่มเทมากขึ้น ผมไม่เคยคิดว่าเราจะทำได้ด้วยซ้ำ แต่ว่าเขาคือเหตุผลในการที่ทำให้เราทำได้ ทำให้เรามีกำลังใจจะทำทุกอย่างและพัฒนาให้ดีขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ยอมรับว่ามันเหนื่อยมาก แต่มันคุ้มมากเลย”
อาหลี : “ต้องมีแล้วแหละคนที่ 2 (หัวเราะ) ก็ดูเขาพูด (หัวเราะ)”
ตูมตาม : “คนที่ 2 ชื่ออะไรดี น้องเมเจอร์”
อาหลี : “เหตุเกิดที่เมเจอร์งี้เหรอ (หัวเราะ) ไม่น่าจะดี หนูว่านะ”
เผยได้สามีหล่อและดีแบบนี้เพราะใช้แต้มบุญ
อาหลี : “เขาเรียกว่าได้ใช้แต้มบุญ เพราะว่าเรา ตั้งใจ”
ไม่หวงกลับมาหุ่นเป๊ะร่างทองกันทั้งคู่แล้ว
ตูมตาม : “ผมไม่หวงครับ ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่าภรรยาผมสวย ก็อยากให้เขาสวย อยากให้เขามีความสุข เพราะว่าความสุขผม คือความสุขของเขา”
อาหลี : “ไม่หวง เพราะหนูชอบมาก แอบลูบทุกวัน เพราะหนูมีสิทธิ์คนเดียวที่ลูบไง (หัวเราะ) ลูบทุกคืน ลูบซิกแพ็ก”