“อนันดา” อยากให้งานประกาศรางวัลกลับมาศักดิ์สิทธิ์ ดีใจคนเริ่มเห็นค่ากับตรงนี้มากขึ้น หายเหนื่อยได้นำชายยอดเยี่ยม แต่ไม่ได้ทำงานเพื่อชิงรางวัล บอกตอนนี้เล่นบทชั่วเยอะ เพราะสนุกได้หลุดจากกรอบพระเอก ส่วนบทคนดีต้องดูก่อน อาจจะไปเวย์ดาร์กสักพัก เผยคิดว่าตัวเองถอดคาแรกเตอร์ได้ แต่คนรอบข้างยังรู้สึก ขำๆ อีกหลายปีข้างหน้าอาจจะเจออยู่รพ. เล่าเมื่อก่อนอารณ์ค้าง ทำซึมเศร้าและรู้สึกทุกข์ เดี๋ยวนี้ปล่อยวาง หยุดคือหยุด คัตคือคัต
เรียกว่าแท็กทีมกวาดรางวัลใหญ่กันทั้งคู่ สำหรับ “แอน ทองประสม”และ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง เกมรักทรยศ ในงานประกาศรางวัล นาฏราช ครั้งที่ 15 ประจำปี 2566 ล่าสุดได้เจอหนุ่มอนันดา เจ้าตัวก็ได้เผยว่าเสียดายมาก ที่วันนั้นไม่ได้ไปรับรางวัลด้วยเอง เพราะติดถ่ายหนัง ส่วนตัวอยากให้ความศักดิ์สิทธิ์ของงานประกาศรางวัลมันกลับมา เพราะรู้สึกว่ามันหายไปช่วงหนึ่ง แต่ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลง ทุกคนเริ่มให้ค่ากับตรงนี้มากขึ้น
“เราไม่ได้แสดงเพื่อรางวัลอยู่แล้ว แต่คนเห็นค่าตัวละครที่เรานำเสนอไป มันก็รู้สึกหายเหนื่อย มันก็มีมุมที่แบบเขาเห็นนะ ความพยายามที่เราใส่เข้าไปในงานของเรา ได้รางวัลนาฏราช แต่เสียดายมากไม่ได้อยู่ เพราะผมถ่ายหนังอยู่กระบี่พอดี จริงๆ รางวัลก็ดี แต่ผมก็อยากให้ความศักดิ์สิทธิ์มันกลับมาตรงนี้ด้วย ผมรู้สึกมันหายไปอยู่พักหนึ่ง อันนี้พูดกันแบบตรงไปตรงมา มันมีช่วงที่คนไม่สนใจรางวัลพวกนี้ แต่ปีนี้รู้สึกว่ามันมีอะไรที่มันเปลี่ยนแปลง เรารู้สึกว่าคนเริ่มให้ค่ากับตรงนี้มากขึ้น ก็อยากให้มันไปเวย์นี้มากขึ้นเรื่อยๆ”
ก่อนตัดสินใจรับต้องอ่านบท และคุยกับผู้กำกับก่อน
“ทุกเรื่องที่เราทำเราก็อ่านบทก่อน มันเริ่มจากตัวบทแล้วก็ตัวละคร ต้องคุยกับทางผู้กำกับด้วย ว่าเราเห็นตรงกันไหม แล้วเราสามารถทำในสิ่งที่เขาต้องการได้หรือเปล่า เราจะไปหลอกตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเขาให้เต้นบัลเล่ต์ผมทำไม่เป็น ผมก็ต้องบอกตรงๆ ว่าเกินตัวผมนะ”
ได้รางวัลจากการเล่นร้าย ไม่ได้โดนแม่ค้าด่ามาหลายปีแล้ว
“เจอบ่อยมากเลย ไม่ได้เจอฟีลแม่ค้ามาด่าหลายปีแล้ว แต่เขาด่าแบบน่ารัก แบบโหร้ายมาก เกลียดมัน(หัวเราะ)”
มองว่าคนเริ่มให้ค่ากับเนื้อหาใหม่ๆ มากขึ้น ทำให้วงการบันเทิงคึกคัก
“ไม่แน่ใจว่าคนเริ่มให้ค่ากับเนื้อหาที่มันต่างออกไป หรือมีคุณค่ามากขึ้นหรือเปล่า พูดตรงๆ อย่างช่อง 3 ซีรีส์หรือละครของเขาปีนี้ ก็เกี่ยวข้องกับครอบครัวและ LGBT มันไม่ใช่เรื่องปกติที่เราจะไปเสนอเนื้อหาแบบนี้ แล้วต่อมาที่ผมเล่นกับพี่แอน ทองประสม ก็เป็นซีรีส์ที่มีลุคทันสมัย ซึ่งมันเป็นข้อดี”
ไม่ได้ทำงานเพื่อชิงรางวัล เพียงแต่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
“จริงๆ ผมไม่ได้ทำงานแบบชิงรางวัลอยู่แล้ว อย่างว่ามันก็ปลื้ม ก็เป็นเกียรติ แต่สุดท้ายผมมีหน้าที่เป็นนักแสดง ผมก็ต้องทำให้ดีที่สุดอยู่แล้ว”
ตอนนี้เล่นบทชั่วเยอะ เพราะชอบและสนุก ไม่มีข้อจำกัด
“ตอนนี้เล่นบทชั่วเยอะเลย บทชั่วเข้ามาเยอะเลย แต่ข้อดีของพวกบทโหดๆ โดยเฉพาะตัวผู้ร้าย ผมชอบมาก สนุกมาก คือมันจะไม่มีข้อจำกัด ไม่มีกรอบของพระเอก บางทีเราติดว่าพระเอกต้องหน้าตาแบบนี้ ต้องทำตัวแบบนี้ พอผมไปเป็นตัวร้าย นี่คือแบบ… สนุกมาก มีอะไรค้างคาใจก็ปล่อยออกมา พ่นไฟแม่xให้ไหม้ทั้งกองเลย (หัวเราะ) สนุกมาก”
บทคนดีตอนนี้ขอคิดดูก่อน
“คิดดูก่อน (หัวเราะ) อาจจะไปเวย์ดาร์กสักพักหนึ่ง พูดเล่น ถ้าบทดี มีอะไรดีๆ เราก็อยากจะแสดงหมดแหละไปเวย์อบอุ่น แฟมิลี่แมน ครอบครัวก็ดีนะ
คิดว่าตัวเองสลัดตัวละครหลุด แต่คนรอบข้างไม่คิดอย่างนั้น ขำๆ อนาคตอาจจะเจออยู่โรงพยาบาล
“ยอมรับถ้าถามผม ผมจะบอกว่าไม่ แต่คนใกล้ตัวก็จะแบบ แบกใครกลับมาด้วยเนี่ย มันต้องมาผลแหละ ผมเล่นหนังตั้งแต่อายุ 14 หลากหลายบท ผมไม่รู้ว่าร้องไห้เพราะคนรักตายมากี่ร้อยรอบแล้ว ยิ้ม หัวเราะ เป็นบ้า มันต้องมีผลแหละไม่ตื้นก็ลึก แต่ผมชอบคิดว่าไม่มีผล ตัดแล้วตัดเลย แต่ว่าก็นั่นแหละ อีกหลายปีข้างหน้าอาจจะเจอผมที่โรงพยาบาล (หัวเราะ)”
วิธีถอดคาแรกเตอร์ คือถ้าหยุดคือหยุด คัตคือคัต ไม่ปล่อยให้อารมณ์ค้างคา
“ผมก็แค่หยุด พอคัตแล้วก็ลืมหมด ไม่ว่าจะร้องห่มร้องไห้ คือเราชินกับการที่ตอนทำงาน เขาอยากจะให้เราทำอะไรกี่ครั้ง เราก็ต้องพร้อมที่จะเป็นอย่างนั้น ถ้าเราไปคิดในหัวว่าจะเก็บทุกอย่างแล้วระเบิดทีเดียวหมด หมดแล้วหมดเลยมันไม่ได้ ผมเลยแบบพอหยุดคือหยุด พอคัตคือคัต แล้วถ้าเริ่มต้นใหม่เทค 2 ก็เหมือนเทค 1 เทค 10 ก็เหมือนเทค 1 มันต้องเป็นอย่างนั้น ไม่งั้นมันค้าง แต่ก่อนเป็น มีอารมณ์ซึมเศร้าลึกๆ แบบเอ๊ะเป็นอะไรวะ ทำไมทุกข์ มีอะไรค้างคาใจอยู่ แต่ทุกวันนี้ปล่อยวางทุกอย่าง”
