เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ปีมังกร “คุณโทนทอง สุขแก่น” หรือ “โทน บางแค” พร้อมด้วยสานุศิษย์ของ “ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต” เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ร่วมจัดงานบุญใหญ่ประจำปี พิธีมหาพุทธาภิเษก “ปลดหนี้ชนะจน” เหรียญมังกรคู่ 67 ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต โดยวัตถุมงคลรุ่นนี้จัดสร้างโดยโทน บางแค ซึ่งได้รับฉันทานุมัติให้จัดสร้างเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งไปร่วมโครงการซื้อรถพยาบาล 108 คัน ตามวัตถุประสงค์ ของท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต นำรถพยาบาลไปแจกให้กับโรงพยาบาลและหน่วยกู้ภัยที่ขาดแคลนทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลืองานสาธารณกุศลเป็นประโยชน์ต่อประชาชนสืบไป รวมไปถึงร่วมทำบุญบูรณะวิหารหลวงลายคำ ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้
“วิหารหลวงลายคำ” ซึ่งเป็นวิหารหลักที่ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดแสงแก้วโพธิญาณ เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2549 ปัจจุบันมีอายุกว่า 16 ปี มีของมีค่าอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพระแสงแก้วโพธิญาณ ซึ่งเป็นพระประธานในวิหาร หุ่นขี้ผึ้งบูรพาจารย์ และของมีค่าอย่างอื่น ซึ่งเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมาเกิดเหตุเพลิงไหม้กลางดึกส่งผลให้ไฟไหม้พระพุทธรูปสำคัญ หุ่นขี้ผึ้งภาพจิตรกรรม เซิร์ฟเวอร์บันทึกภาพกล้องวงจรปิดภายในวิหารที่อยู่บริเวณด้านหลังพระประธานถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุ โดยประเมินเบื้องต้นความเสียหายไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท เหตุการณ์ดังกล่าวใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ
สำหรับบรรยากาศภายในงาน เริ่มตั้งแต่ช่วงบ่าย พระครูบาอริยชาติ เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีวางศิลาฤกษ์ สร้างมหาวิหารหลวง แทนพระวิหารลายคำหลังเดิม เมื่อเสร็จพิธีบวงสรวงวางศิลาฤกษ์แล้ว ช่วงค่ำเป็นมหาฤกษ์ฟ้าเปิด จึงเริ่มพิธีมหาพุทธาภิเษก เหรียญมังกรคู่ 67 “ปลดหนี้ ชนะจน” ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต นอกจากนี้โทน บางแค พร้อมสานุศิษย์ร่วมกันถวายเงินจำนวน 20 ล้านบาท พร้อมรถกระเช้า โดยโทน บางแค กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการถวายกำลังใจให้กับครูบาอาจารย์ของเรา ตามที่ทราบข่าวเมื่อประมาณเดือนมิถุนายน ที่วัดเกิดเหตุเพลิงไหม้วิหาร ตอนแรกไม่คิดว่าจะเสียหายเยอะขนาดนี้ พอเกิดความเสียหายเยอะมาก ซึ่งครูบาท่านเป็นคนที่มีกำลังใจดีมาก แต่ถ้าเราลองคิดกลับกันถ้าไฟไหม้บ้านเรา และเสียหายมากขนาดนี้จะทำยังไง จะเอากำลังใจมาจากที่ไหน ผมก็เลยร่วมกลุ่มกับศิษยานุศิษย์ หลายคนพูดคุยกันว่าเราจะถวายกำลังใจยังไง เบื้องต้นผมโอนเงินช่วยเข้าวัดไปจำนวน 100,000 บาท พอวันที่สองผมก็ประกาศเลยว่าบริจาค 1,000,000 ล้านบาท แต่พอวันที่ผมมาถวายเงิน ผมได้เห็นสถาพวิหารที่ไฟไหม้แล้ว หนึ่งล้านน่าจะช่วยทำอะไรไม่ได้เยอะ ผมเลยได้มีการพูดคุยกับครูบาว่าผมจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้อยู่แล้ว
ซึ่งตอนแรกเหรียญรุ่นนี้มีวัตถุประสงค์สร้างขึ้นมาเพื่อที่จะร่วมโครงการจัดซื้อรถพยาบาลตามที่ครูบาและปรารถนาว่าจะแจกรถพยาบาล 108 คันทั่วประเทศ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ของโครงการเดิม แต่ครั้งนี้มีส่วนนึงที่จะสมทบทุนจำนวน 10,000,000 บาท แต่พอมาคุยครูบาไม่กังวลเรื่องวิหาร เนื่องจากมีเงินวัดส่วนหนึ่งในการสร้างอยู่แล้ว พร้อมกับมียอดบริจาคเข้ามาเยอะพอสมควร ก็เลยไม่ได้กังวลอะไร แต่กังวลเรื่องการสร้างวิหาร เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่โรงทานเก่า พื้นที่นั้นจะหายไป ครูบาจึงอยากสร้างอาคารโรงทานลักษณะคล้ายกับโรงอาหาร โดยมีการออกแบบเรียบร้อยแล้ว มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ผมและครอบครัวจึงถวายเพิ่มอีก 10,000,000 รวมเป็นทั้งหมด 20,000,000 บาท ซึ่งจะถวายในวันนี้ให้ท่านได้นำเงินส่วนนี้ไปสร้างโรงทาน อีกส่วนนึงจะนำไปใช้ในงานสาธารณะประโยชน์ที่วัดตั้งใจ และอีกส่วนหนึ่งก็จะนำไปบูรณะวิหารลายคำ ให้กลายเป็นมหาวิหารซึ่งเดิมเป็นเพียงวิหารหลวง”
โทน บางแค กล่าวต่อว่า “ก่อนหน้านี้ผมมีความตั้งใจที่จะนำรถดับเพลิงมาไว้ที่นี่อยู่แล้ว เพราะผมมองเห็นว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น เกิดไฟไหม้จะควบคุมไม่ได้ เพราะที่นี่เป็นพื้นที่บนเขา ซึ่งผมเคยบริจาครถดับเพลิงมาแล้วหนึ่งคัน แต่ครั้งนั้นเป็นรถน้ำก็ใช้ในสาธารณะต่างๆ ในวัด ซึ่งผมเห็นว่าวัดมีแต่สิ่งปลูกสร้างสูงๆ ผมเลยทำการไปประมูลรถกระเช้ามา และนำมาซ่อมบำรุง เพื่อจะให้มาใช้งานได้สมบูรณ์แบบ ราคารวมเกือบ 10,000,000 บาท นอกจากนี้มีการพิธีปลุกเสกเหรียญรุ่นดังกล่าวแล้ว ใครที่มาในงานครูบาก็จะมีการแจกพระเป็นของขวัญเรียกว่า “เหรียญตามังกรคู่ 67 ปลดหนี้ ชนะจน” เป็นเหรียญเล็กๆมีลักษณะคล้ายตามังกร จำนวน 5,000 เหรียญ สำหรับโครงการในอนาคต ผมได้รับฉันทานุมัติจากครูบาสร้างพระทั้งหมดห้ารุ่น ผมทำมาแล้วรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 3 รุ่นแรกผมทำ ”เศรษฐีแสนล้าน“ รุ่นที่ 2 “สร้างบารมี“ และรุ่นที่ 3 “ปลดหนี้ ชนะจน” ส่วนรุ่นต่อไปที่ผมกำลังจะทำคือรุ่นที่ 4 “ชนะมาร” ซึ่งกำลังขึ้นแบบอยู่ ส่วนเหตุผลที่ผมตั้งชื่อรุ่นว่ารุ่นชนะมารเพราะว่า ครูบาเคบบอกไว้ว่าวันนี้เราอยากได้อยากมีอยากเป็น เราลำบากเราทุกข์เพราะเรามีกิเลส มันคือกิเลสถ้าเราชนะมารได้ทุกอย่างเราจะมีความสุข นั้นคือคำที่ครูบาบอกพวกเราก็เลยต่อยอดว่าจะทำเหรียญชนะมาร
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่ผมได้ทำเช่าบูชาเหรียญพระ หรือวัตถุมงคลผ่านผมที่ผมสร้าง เงินทั้งหมดที่เป็นรายได้ผมก็มอบให้กับครูบาเพื่อไปทำสาธารณะประโยชน์ต่อไป ทั้งกองทุนเพชรล้านนา ช่วยเหลือวัดในถิ่นทุรดาน แจกรถพยาบาล 108 คันให้กับหน่วยงานที่ขาดแคลน ซึ่งครูบาท่านไม่เคยปฏิเสธ 3 เรื่องที่ขอ คือ 1.วัด 2.โรงเรียน และ 3.โรงพยาบาล ซึ่งใครมาขอให้ครูบาท่านทำทั้งสามเรื่องนี้ท่านไม่เคยปฏิเสธเลย ท่านทำมาโดยตลอด นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากจะบอกว่าท่านเป็นพระนักพัฒนา เป็นพระที่มีหัวใจโพธิสัตว์จริงๆครับ”..