“จ๊ะ” ลั่นงานคู่ “เอม” จ้างได้แต่ค่าตัว 1 ล้าน! เผยตอนนี้มีแก้วส่วนตัว เพราะกลัวโดนทำของใส่

“จ๊ะ นงผณี” เผยงานคู่ “เอม วิทวัส” จ้างได้แต่ค่าตัว 1 ล้าน และต้องเป็นงานเฟสติวัล ส่วนงานเดี่ยวค่าตัวหลักพัน นอกนั้นเปย์แฟนคลับหมด ถอดแหวนมรกต ถอดสปอร์ตบาร์ให้แบบไม่คิด จนผู้จัดการต้องริบของมีค่าก่อนขึ้นเวที บอกตอนนี้มีแก้วส่วนตัว เพราะกลัวโดนทำของใส่ โอดทำธุรกิจสร้างบ้าน กำไรไม่มี ติดลบฉ่ำ

ทำเอาแฟนคลับหลายคนแอบสงสัย ว่าทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เห็นคู่เพื่อนซี้ “จ๊ะ นงผณี มหาดไทย” และ “เอม วิทวัส รัตนบุญบารมี” ขึ้นคอนเสิร์ตด้วยกันเลย ล่าสุดจ๊ะได้เผยถึงเรื่องนี้ในงานบวงสรวงภาพยนตร์ “มานะแมน” บอกอยากรับ แต่ถ้าหากว่าเอมมาเล่นกับจ๊ะ วงของเอมก็จะไม่มีงาน เลยหาทางออกร่วมกัน ว่าการปฏิเสธที่ง่ายที่สุดคือต้องขึ้นค่าตัวเป็น 1 ล้านบาท

“จ๊ะ-เอม จ้างได้ แต่เราอยู่ที่ 1 ล้านบาท ก่อนหน้านี้อยู่ที่ 5 แสนบาท แต่ตอนนี้เราขึ้นมาแล้วเป็น 1 ล้านบาท อันนี้เรื่องจริงแต่ยังไม่มีใครจ้างไง ต้องบอกก่อนว่าเอมเขาก็มีวงของเขา แล้วพอเอมมากับเรา นักดนตรีเขาก็จะไม่ได้ไปงาน เขาเลยมาปรึกษาเราว่าจะต้องทำยังไงดี เพื่อเขาจะได้ไปงานพร้อมกับวงของเขา จ๊ะเลยบอกว่าเอาอย่างนี้ ง่ายๆ เลยคือค่าตัว ขึ้นค่าตัวเป็นการปฎิเสธงานที่ง่ายที่สุด แต่ถ้าเกิดใครสู้เราไป ก็ 5 แสนบาท

แล้วพอตอนขึ้น 5 แสนไม่มีเลย ยิ่งขึ้นเป็น 1 ล้านบาท ก็ไม่มีอยู่แล้ว (หัวเราะ) เราอยากได้สถิติที่สูงที่สุด ต้องบอกก่อนว่าค่าตัว 1 ล้านเรารับแค่งานเฟสติสวัล เพราะว่างานเฟสติวัลมันจะมีเรื่องของค่าลิขสิทธิ์เพลงด้วย ค่าตัวจ๊ะกับเอมอยู่หลักแสน แต่มันก็มีค่าลิขสิทธิ์เพลงที่ทางเราต้องจ่าย ด้วยเราสองคนร้อง 40 เพลง เพราะว่าเราเอาเพลงมาตัดเป็นเมดเล่ย์ แล้วลิขสิทธิ์ไม่ใช่เพลงละ 2 หมื่นนะในงานเฟสติวัล ราคาอยู่ที่ 3-5 หมื่นบาท ต่อหนึ่งเพลง ก็จ้างได้ เราไม่เคยบอกว่าห้ามจ้าง จ๊ะ-เอม ใครจ้างเราก็ไป”

ถือเป็นนักร้องที่ค่าตัวสูงที่สุดตอนนี้
“ตอนนี้เป็นเรตค่าตัวสูงที่สุด แต่ไม่มีงาน (หัวเราะ) ตั้งให้สูงเฉยๆ”

เผยงานเดี่ยวค่าตัวหลักพัน ที่เหลือเปย์แฟนคลับหมด ทั้งแหวนมรกต ทั้งสปอร์ตบาร์
“ถ้างานเดี่ยวไม่แพง ค่าตัวหลักพันทุกวันนี้ (เพราะที่เหลือเปย์คนอื่นหมด ขนาดสปอร์ตบาร์ยังถอดให้แฟนเพลง?) ใช่ แล้วก็มีแหวนมรกตด้วย แหวนมรกตอันนี้ฮามาก เราไปเล่นงานแล้วเจอคุณแม่ท่านหนึ่งอายุ 72 แล้วเขาก็มาดื่มดริ๊งค์ และก็เต้นสนุกมาก เราก็เลยดึงแม่ขึ้นมาบนเวที เราพูดเล่นว่าลองดื่มสิ แม่ดื่มจริงๆ เราก็เลยพูดเล่นไปว่าถ้าแม่เขาดื่มเยอะขนาดนี้แล้วเขายังรอด พวกเราคงจะอายุยืน แล้วก็ถามแม่ว่า ที่แม่มาดูคอนเสิร์ต รู้ไหมหนูชื่ออะไร เขาบอกว่า จ๊ะ นงผณี ซึ่งแฟนคลับเราจริงๆ ยังเรียก จ๊ะ ผงมณี อยู่เลย แต่แม่เรียกเรา จ๊ะ นงผณี เราก็เลยถอดแหวนมรกตให้แม่ไปเลย

ส่วนสปอร์ตบาร์ก็ไปเล่นงานเหมือนกัน แต่วันนั้นมีน้องอายุประมาณ 20 ต้นๆ เขาบอกว่า แม่หนูเป็นแฟนคลับแม่ตั้งแต่หนูอายุ 9 ขวบ หนูร้องเพลงของแม่ประกวดเพลง สตอเบอแหล ซึ่งเพลงนี้มันเป็นเพลงลึกของหนู เราก็บอกไม่เชื่อ ให้เขาลองร้อง เขาก็ร้องให้หมดทั้งเพลง เราก็บอกวันนี้แฟนคลับของจริง แต่วันนั้นเรามีสติ แหวนเราไม่ให้แล้ว เพราะว่าแหวนมรกตวงนั้นเช้ามาเราหาใหญ่เลย (หัวเราะ) แล้วเราจะให้อะไรดี ตุ้มหูก็ไม่ได้ วันนั้นใส่สปอร์ตบาร์ แต่ข้างในเราก็ใส่เสื้อในอยู่ แล้วก็มีเสื้อข้างนอกด้วย ก็เลยถอดสปอร์ตบาร์ให้น้อง มันก็เลยกลายเป็นไวรัล ว่าถ้าเกิดจ๊ะเจอคนที่ถูกใจอีก จะให้อะไรอีก”

ผู้จัดการออกมาตรการ ไม่ให้ใส่ของมีค่าขึ้นคอนเสิร์ต เพราะมีเท่าไหร่เปย์หมด
“ไม่ใช่เรา แต่เป็นผู้จัดการ วันไหนที่เราจะใส่ของมีค่าขึ้นคอนเสิร์ต และเขาเห็นว่าวันนี้เดี๋ยวจะต้องเล่นคอนเสิร์ตสนุกเกิน เขาจะเดินมาบอกนาฬิกาถอดมาก่อนเลย สักพักก็จะบอกต่างหูถอดมาเลย เพราะเราเปย์ไง ขนาดเพื่อนไปดูเราเล่นคอนเสิร์ต จบงานก็พากันกลับบ้านมาร้องคาราโอเกะที่บ้าน เช้ามาเพื่อนได้รางวัลไป 4,000 เราแจกทิปไป แต่เพื่อนตอนนั้นรู้ตัวนะ มีอยู่ครั้งหนึ่งหลังจากเล่นคอนเสิร์ตเสร็จ ขึ้นรถตู้ มีเงินอยู่ในกระเป๋า 70,000 ให้ผู้จัดการหมดเลย ก็บอกว่าวันทำงานได้หลักพันต่องาน”

แดนเซอร์ก็ปังไม่แพ้ ทำงาน 2 เดือนได้ทิป 4 แสน
“แดนซ์เซอร์ปังมาก เราไม่รู้ว่าเขาจะเก็บรางวัลทุกวัน แล้วเขาจดว่าเดือนนี้ได้เท่าไหร่ 2 เดือนเขาได้เกือบ 4 แสน แค่ค่าทิปอย่างเดียว เราก็เลยถามว่าทำไมได้รางวัลเยอะจัง คือมันมีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่เราให้แดนเซอร์ลงมาจอยกับแฟนข้างล่าง ประมาณ 3-4 เพลง เขาบอกว่าเขาได้โทรศัพท์จากแฟนคลับมา แต่เสียดายไม่รู้รหัสผ่าน (หัวเราะ) ไม่ๆ เขาได้รางวัลจริงๆ (หัวเราะ) แล้วเวลาไปที่โต๊ะแล้วเขาให้ดื่ม บางคนก็ให้ 2-3 พัน ส่วนเราได้อยู่แล้ว แต่ทุกวันนี้เราจะมีแก้วส่วนตัวของเรา เพราะเรากลัว”

ต้องมีแก้วส่วนตัวเพราะกลัวโดนของ ขำๆ คนรักเป็นร้อย คนเกลียดเป็นล้าน
“คนรักเป็นร้อย คนเกลียดเป็นล้าน (หัวเราะ) มันอันตราย และคุณเอมแนะนำมา ว่ามันมีเรื่องของโรคติดต่อ ไม่ใช่เขาเอาโรคมาให้เรา แต่เราจะเอาโรคไปให้เขา เพราะเราเจอคนเยอะ ก็เลยต้องมีแก้วของเราที่เอาไว้ชง ซึ่งเราก็ดื่มจริง แต่เดี๋ยวนี้เราลดแล้ว คือเราจะไม่ดื่มหลายขนาน เพราะการดื่มหลายขนานมันจะเมา เราต้องอย่างใดอย่างหนึ่งไปเลย ตอนนี้ไม่มีภาพหิ้วลงจากเวทีเลย จนเจ้าภาพบอกว่าอยากได้ภาพนั้น จ่ายเพิ่มได้ไหม ภาพนั้นเกิดได้ ถ้าเงินถึง (หัวเราะ) แต่ถ้าล้านนึงหิ้วขึ้นเลยค่ะ”

ทำงานเหมือนร้อนเงิน แต่จริงๆ เป็นเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์
“เราหาเงินไปสร้างบ้านให้คน จริงๆ จะมีธุรกิจสร้างบ้าน 3 อย่าง คือหนึ่งรับสร้างบ้าน สองสร้างพูลวิลล่าแล้วขาย สามคือธุรกิจบ้านสำเร็จ สำหรับคนที่มีงบน้อย เราเปิดธุรกิจบ้านสำเร็จมา มีคนแอดไลน์มาประมาณ 9,000 กว่าคน อยากให้เราไปสร้างบ้าน แต่บางคนมีงบไม่ถึงล้าน แต่อยากได้บ้านขนาดนี้ เราก็เลยมีโปรเจกต์ที่เป็นบ้านสำเร็จ ที่เราประกอบไว้

และยกไปตั้งให้เลย ธุรกิจนี้ดีมาก เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ชอบสร้างบ้านอยู่แล้ว และเป็นธุรกิจที่เราทำเองค่อยๆ ทำ คือเราไม่ต้องกู้ เดี๋ยวโชว์รูมเราจะเสร็จไม่เกิน 3 เดือนนี้ ตอนที่เราลงรูปบ้านสำเร็จไป ก็มีคนทักเข้ามาจะจอง 300 กว่าคน เราเลยบอกว่าอยากให้มาเห็นของจริงก่อน เราก็เลยจะทำโชว์รูมที่พัทยา ซึ่งเป็นที่ที่เราซื้อไว้ เพื่อจะทำพูลวิลล่าสอง เพราะว่าพูลวิลล่าหนึ่งเราได้ขายไปแล้ว”

โอดกำไรไม่มี ติดลบฉ่ำ ทุน 1 ล้าน ติดลบไปแล้ว 2 แสน
“ติดลบฉ่ำ (หัวเราะ) ก็บอกแล้วไง ทุกวันนี้ที่มาร้องเพลง เพื่อที่จะเอาเงินไปสร้างบ้าน คือเป็นเพราะเราใจดีมากกว่า จริงๆ แล้วการสร้างบ้าน เขาจะเริ่มกันที่ตารางเมตรละ 25,000 แต่เราคิดตารางละ 17,500 บาท ถูกกว่าในท้องตลาดและด้วยความเป็นจ๊ะด้วย ที่เรารับประกันว่าไม่หนีไม่หาย หน้างานเราตอนนี้มีหลาย 10 หลัง เราก็ต้องใช้ช่างรับเหมานอกบ้าง เราก็เจอช่างเลวเยอะ แต่เราเป็นคนรับผิดชอบ พอเราส่งวิศวะไปตรวจดูงานไม่ตรง เราก็เปลี่ยนช่าง แต่สิ่งที่เสียหายเราก็รับรับผิดชอบไปแล้ว ลงทุน 1 ล้านได้กำไรเท่าไหร่ ก็คือติดลบไปแล้ว 2 แสนบาท ถามว่าแล้วทำทำไม ก็ทำให้ดูดีขึ้นไปนิดหนึ่ง (หัวเราะ) คือมันเพิ่งเริ่มไง หลังที่ขาดทุนมันก็เป็นช่วงแรกๆ เพียงแต่มันเยอะไปหน่อย”

เริ่มธุรกิจจากความชอบ และประสบการณ์โดนโกง
“เริ่มจากที่เราชอบ และเราก็มีประสบการณ์ในการโดนโกง ที่ผ่านมาเราเชื่อว่าเงินมันทำงาน ซึ่งจริงๆ มันไม่มี เราต้องทำงาน และเราก็ต้องมีเงินไปด้วย เรามาคิดว่าเราร้องเพลงแล้วเราจะทำอะไรอีก เพราะว่าค่าเงินมันลดลง เราก็เลยไปซื้อที่ แล้วก็ไปสร้างบ้าน และไปเข้าแอปฯ หนึ่ง แล้วก็มีคนมาจองเข้าไปนอน เราเห็นรายได้ก็ตื่นเต้น เลยไปซื้อที่ใหม่แล้วก็สร้างบ้าน หลังจากนั้นก็ขาย ซึ่งมันก็ประสบความสำเร็จ ทำไปทำมามีลูกน้องอยู่ในทีม เพราะว่าหัวหน้าช่างทิ้ง เขาก็เลยอยู่กับเรา ก็เลยมีจ๊ะสร้างบ้าน”

ล่าสุดไปไหว้พิธีใหญ่ที่คำชะโนด ไม่ได้ขอแต่ขายบ้านได้เลยทันที 10 กว่าล้าน
“ที่ไปคำชะโนดครั้งล่าสุด หนูไม่ได้มูฯ เรื่องนี้เลย หนูไปเล่นงานที่อุดรธานี แล้วเราเป็นคนที่ถ้าเกิดไปเล่นงานที่ไหน จะต้องไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่ด้วย แต่ความที่เราเป็นคนเล่นใหญ่ วันนั้นไปทำพิธีหมดไปเกือบ 6 หมื่น เพราะว่ามีนางรำด้วย วันนั้นก็ไม่ได้ไปขออะไรปู่ แค่ไปไหว้ บอกปู่ว่าวันนี้หนูมาเล่นงานนะ ถ้าเกิดอะไรไม่สมควรก็ขอสมาภัยแค่นั้น กลับเข้าโรงแรมนอนตื่นมา 4 โมงเย็น ลูกน้องโทร.มาว่าคุณจ๊ะคะ พูลวิลล่าที่พัทยา ซึ่งตอนนี้ยังสร้างไม่เสร็จ มีลูกค้าจะรับและซื้อเงินสดเลย 10 กว่าล้าน ตอนนี้เขาโอนมาแล้วครึ่งหนึ่ง เดี๋ยววันที่ 1 สิงหาคมนี้เรามอบให้เขา”

โดนหมอดูทักว่าลูกหนี้จะทรยศ แต่ปล่อยไปให้พี่สาวเป็นคนทวง ถ้าไม่คืน ต่อไปก็ไม่มีให้ยืมแล้ว
“ลูกหนี้ทรยศทุกวัน ลูกหนี้เราเยอะอยู่แล้ว ยอดก็เยอะ หลักล้าน แต่เราก็เคยผ่านอะไรที่มันเยอะกว่านี้มาแล้ว เลยมีความรู้สึกว่าอะไรที่มันไม่ใช่ของเรา มันก็คงไม่ใช่ ปล่อยผ่านมันไปเถอะ ตอนนี้คนที่ทวงหนี้ก็คือพี่สาว แล้วพี่สาวก็ทะเลาะกับทุกคน แต่เราไม่ทะเลาะกับใคร เราเป็นแม่พระ ตอนนี้เราก็ไม่ให้ใครยืม ไม่บอกด้วยว่าเราไม่มี เพราะเราถือเคล็ด ถ้าไม่มีเดี๋ยวมันจะไม่มีตามปาก ส่วนใครที่ยืมไปแล้วไม่คืน ครั้งต่อไปก็ไม่ให้มันยืมต่อแค่นั้นแหละ”