xs
xsm
sm
md
lg

“นุ้ย เชิญยิ้ม” เขินทุกครั้งที่เข้าฉากกับเมีย เป็นตั้งแต่ก่อนจีบจนทุกวันนี้ อัปเดตแจ้งความเพื่อนบ้านป่วยจิต พาไปรักษาแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นุ้ย เชิญยิ้ม” เผยเล่นหนังกับเมียไม่เกร็งแต่กังวล ทำไม่ถูกใจวีนตรงนั้น ไม่มีกระซิบ ส่วนเงินไม่ได้ ได้แต่เหงื่อกับใบภาษี ทุกวันนี้เข้าฉากด้วยกันยังเขินตลอด แต่พร้อมเล่นคู่กันอีกจ้างได้ อัปเดตแจ้งความเพื่อนบ้านป่วยจิตเวช เคลียร์กันด้วยดี พาไปรักษาแล้ว ฝากครอบครัวดูแลอย่าให้ขาดยา ยอมรับเคยคิดย้ายบ้านหนี แนะเจอแบบนี้ให้ปิดบ้าน อย่าออกไปเดินเพ่นพ่าน ต้องป้องกันตัวเองและครอบครัว

เป็นนักแสดงตลกที่มีงานภาพยนตร์เข้าไม่ขาด สำหรับ “นุ้ย เชิญยิ้ม” ชูเกียรติ เอี่ยมสุข ที่ล่าสุดวันนี้ (18 ก.ค.) เพิ่งจะไปร่วมงานบวงสรวงภาพยนตร์เรื่องใหม่ “มานะแมน” มาหมาดๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีความพิเศษ เพราะได้เล่นคู่กับภรรยา “ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด” ด้วย โดยเจ้าตัวได้เปิดใจ ว่าเล่นกับเมียไม่เกร็งแต่กังวล เพราะถ้าทำไม่ถูกใจ จะโดนวีนตรงนั้นแบบทันที แต่ถึงอย่างนั้นก็มีความเขินกันทั้งคู่ ในทุกครั้งที่เข้าฉากด้วยกัน เป็นมาตั้งแต่ก่อนจะคบกันแล้ว

“ไม่เกร็งแต่กังวล กลัวเล่นออกมาไม่ดี ไม่เต็มที่ เพราะพี่ตั๊กเวลาเขาเล่นอะไร เขาเต็มที่ ไอ้เราจำไดอะล็อกไม่ค่อยได้ เราก็จะเล่นสไตล์ของเราไป แต่ถามว่ากดดันไหมก็ไม่ ชอบทำงานด้วยกัน (หัวเราะ) แต่ก็มีบ้างที่ไม่ถูกใจ เขาก็จะวีนตรงนั้นเลย ดูสิให้น้องมารอ แค่นี้ก็จำไม่ได้สมองเป็นอะไรหมด ส่วนมือก็มีหยิกบ้างอะไรบ้าง เขาชอบทำอะไรเป๊ะๆ แล้วพูดเสียงดัง ไม่มีกระซิบแบบพ่อเล่นดีๆ เกรงใจน้อง ไม่มีเลย มีแต่เฮ้ย 2 เทคแล้วเนี่ย ถามว่ามีต่อบทด้วยกันที่บ้านไหม คือบทเราก็ไปอ่านของใครของมันเลย เพราะเขาจะอยู่อีกบ้านหนึ่งกับเรา เวลามาต่อบทด้วยกันจะไม่มี ส่วนมากก็ไปต่อด้วยกันหน้ากองเลย”

ทำงานกับเมียได้แต่เหงื่อ ไม่ได้เงิน
“ได้เหงื่อมาเยอะเลย ถามว่าเงินได้ไหม โธ่ ก็รู้อยู่มีแต่ใบภาษี เงินให้เขา แต่ไม่เป็นไร เขาดูแลบ้านไง เราต้องเป็นพ่อบ้านที่ดี แต่ก็มีแบ่งค่าน้ำมันมาบ้างนิดหน่อย ค่าทางด่วน (มีเล่นไปแล้วอ้าว…มันเป็นเรื่องที่บ้านไหม?) ไม่นะ (หัวเราะ) คือให้มันเป็นธรรมชาติที่สุด แล้วเขาก็ทำออกมาซะเต็มที่เลย”

ขอบคุณถ้าคนดูแล้วชอบ ทุกวันนี้เล่นด้วยกันก็ยังเขินอยู่
“ก็ขอบคุณมากๆ นะ ผมเจอตั๊กตั้งแต่ก่อนบ่ายคลายเครียด ที่อยู่ช่อง3 ด้วยกัน ก็จะเขินๆ กันมาตลอด ก่อนจะคบเป็นแฟนกัน ทุกวันนี้เล่นด้วยกัน ก็ยังเขินกันอยู่เลยเวลาเข้าฉาก ตัวเขาเองก็เหมือนกันนะ เขาไม่อยากเล่นเป็นผัวเมียกันในเรื่อง กลัวคนแบบว่าเป็นข้างนอกไม่พอเหรอ ยังมาเป็นในหนังในละครอีก แต่ก็ทำงานสบายเหมือนกัน แต่ก็มีเขินๆ บ้าง”

พร้อมเล่นด้วยกันอีกไม่มีปัญหา จ้างได้ ยินดีมากๆ
“มีฉากที่เขามาแอบชอบเรา เราเป็นดาราเก่า แล้วเขามาเจอเราก็กรี๊ดแตกออกมา ส่วนในชีวิตจริงคือ ไปไหนมา ทำไมเพิ่งกลับมาเนี่ยห๊ะ กลับมากี่โมง งานเลิกกี่โมง ไม่เหมือนในหนังเลย ถ้ามีภาคสองก็เล่นได้ ร่วมงานกับเมียไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น ใครจะกล้ามีปัญหาครับ ยินดีมากๆ ตอนนี้อายุมากขึ้น ถ้ามีงานอะไรที่เราพอจะทำได้และเหมาะสมกับพวกเราสองคนก็เชิญนะครับ จ้างได้เลย ค่าตัวก็ตกลงกันแล้ว ว่าพ่อขอสัก 20 เปอร์เซ็นต์แล้วกันนะ อย่างเอาไปเต็มร้อย แบ่งๆ กันใช้”

อัปเดตแจ้งความเพื่อนบ้านป่วยจิตเวช หลังถูกตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย จนสร้างความหวาดกลัว ทางญาติได้มาขอโทษและคุยกันด้วยดี ส่งตัวไปรักษาเรียบร้อยแล้ว
“ไม่มีอะไรแล้วครับ ก็ป่วย ก็รักษากันไปนะ เขาจิตเวช พี่น้องเขาก็มาขอบคุณเรานะ ว่าอันนี้มันเป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ เพราะพี่น้องเขาต้องทำงานกันหมด ไม่มีเวลาดูแล ป่วยจิตเวชต้องกินยาสม่ำเสมอ แต่เราก็ต้องขอบคุณ สน.มีนบุรีเขาด้วยที่เขาส่งไปรักษา พอรักษาเสร็จก็กลับมาพักผ่อนที่บ้านแล้ว ตอนนี้ก็กินยาตามปกติ พี่น้องเขาก็เดินมาขอบคุณเราทำ ก็คุยกันด้วยดีๆ สงสารเขาไง แต่ก่อนเขาไม่ได้เป็นแบบนี้”

ก่อนหน้านี้รู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะมีการเอะอะโวยวาย เคยคิดย้ายบ้านหนีแต่ก็ขายยาก
“ก่อนหน้านี้ก็จะมีเอะอะโวยวายบ้าง โรคพวกนี้พอมันหนักขึ้น ขาดยา มันก็จะอันตรายต่อคนรอบข้างในหมู่บ้าน แต่ตอนนี้โอเคแล้วครับ มีการดูแลที่ดีครับ ก่อนหน้านี้ก็คิดย้ายบ้านหนีเหมือนกัน แต่เดี๋ยวนี้บ้านมันขายยาก แล้วหลังนี้อยู่มา 21-22 ปีแล้ว มันเป็นบ้านคู่ชีวิตของเราไปแล้ว เราก็บอกพี่น้องเขา ว่าให้ดูแลให้ดีนะพี่นะ ให้เขาทานยาตามปกติ บุหรี่อย่าให้สูบเยอะนะ อะไรที่หมอห้ามก็ดูให้หน่อยนะ แต่พี่น้องเขาน่ารักมากนะครับ เขาเข้าใจเรา”

เผยถ้าเจอแบบนี้ให้ปิดบ้านและไม่ออกไปเดินเพ่นพ่าน ต้องป้องกันตัวเอง ครอบครัวจะได้ปลอดภัย
“จริงๆ บางเคสเขาส่งไปโรงพยาบาลนะ แต่รักษาเสร็จ พอดีหน่อยเขาก็ส่งกลับบ้าน แต่โรคพวกนี้มันก็จะกลับมาเป็นได้อีก เพราะฉะนั้นคนในครอบครัว อันดับแรกต้องดูแล ต้องให้ยาตามเวลาที่หมอสั่ง แล้วก็ดูว่าถ้าไปรบกวนบ้านโน้นบ้านนี้ คนในครอบครัวต้องดึงกลับมาก่อน คนอื่นเขาไม่รู้ไง อาจจะใช้กำลังกัน เดี๋ยวก็โดนตีโดนชกโดนต่อยมันอันตราย ให้คนคนครอบครัวดูแลก่อนดีที่สุดครับ ส่วนการป้องกันของเรา คือจะปิดบ้านหมดเลย ไม่ออกไปเดินเพ่นพ่าน เราก็ต้องดูแลป้องกันตัวเองก่อน อย่างน้อยคนในครอบครัวต้องปลอดภัยครับ











กำลังโหลดความคิดเห็น