xs
xsm
sm
md
lg

ยูซัมมิตฯ เตือน “ลิลลี่ เหงียน” พาดพิงอีกครั้งที่ 2 จะฟ้อง! เรียกค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัท ยู ซัมมิต กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนไกล่เกลี่ย “ปู มัณฑนา หิมะทองคำ” บุก สน.ทองหล่อ ร้องขอความเป็นธรรมกู้ศักดิ์ศรีตำรวจคืน เมื่อวันที่ 11 ก.ค.67 “ตรีพัชญ์ มหากิจวิวัฒน์” กรรมการบริษัท ยู ซัมมิต กรุ๊ป จำกัด แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษขอให้ทางสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ทำการสอบสวนว่าการกระทำของ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” และ “ทนายกุ้ง อำนวยพร มณีวรรณ์” พร้อมทั้งส่งมอบคลิปดังกล่าวได้ทำการพูดออกสื่อออนไลน์ เป็นหลักฐานว่าดูหมิ่นพนักงานสอบสวนหรือไม่อย่างไร และผู้อื่นได้ฟังแล้วกล่าวอ้างว่าพนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่อย่างไร

แม้คดีนี้จะไม่ได้ระบุชื่อพนักงานสอบสวนแต่ก็เห็นได้ชัดว่าคู่กรณีในคดีและเจ้าหน้าที่ตำรวจในสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อจำนวนหลายคนก็รู้ว่าพนักงานสอบสวนในคดีที่ทนายเดชา และทนายกุ้งพูดถึงเป็นพนักงานสอบสวนชื่ออะไร

บริษัทฯ จึงขอให้สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อทำการสอบสวนจนสิ้นกระแสความ และขอให้ออกหมายเรียกทนายเดชาและทนายกุ้ง และบุคคลอันที่เกี่ยวข้องมาทำการสอบสวนในฐานะผู้ถูกกล่าวหา และทำความเห็นในทางคดีว่าการกระทำของทนายเดชากับทนายกุ้งเป็นความผิดต่อกฎหมายหรือไม่ และส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการตามกฎหมาย

โดย ตรีพัชญ์ กรรมการบริษัท ยู ซัมมิต กรุ๊ป จำกัด มีความรู้สึกว่าพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อถูกดูหมิ่นและถูกทำให้เกลียดชัง มีความประสงค์ให้ ร.ต.ท. เปรม ชำนาญดู รอง สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ เป็นพนักงานสอบสวนเนื่องจากเป็นผู้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด

ตรีพัชญ์ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ในช่วงไกล่เกลี่ย ช่วงท้ายได้เห็นในเหตุการณ์ และทราบถึงข้อเท็จจริงว่า ต่างฝ่ายต่างยังมีอารมณ์ จึงไม่สามารถตกลงได้ และในที่สุดทั้งสองฝ่ายได้ตัดสินใจเลื่อนนัดการไกล่เกลี่ยอีก 1 ครั้ง พร้อมลงลายมือชื่อบันทึกประจำวันทั้งคู่ เป็นวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ตรีพัชญ์ ได้แสดงความรู้สึกสะเทือนใจที่ สน.ทองหล่อ ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะประชาชนที่ได้มีบ้านและบริษัทอยู่ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งเป็นที่พึ่งของประชาชนในละแวกนั้น

และในวันเดียวกัน ตรีพัชญ์ ได้ลงบันทึกประจำวัน กรณีดำเนินคดีคดีกับ “ลิลลี่ เหงียน” ในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องจากเธอได้กล่าวถึงบริษัทฯ ในรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ว่า ปัญญาอ่อน ณ ตอนนั้นตนเข้าใจว่าเกิดจากอารมณ์และความไม่เข้าใจว่าเราเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ ซึ่งการลงบันทึกประจำวันในครั้งนี้เป็นการตักเตือนครั้งแรก หากมีการหมิ่นประมาทครั้งที่สองก็จะดำเนินคดี เรียกค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 10,000,000 บาท เนื่องจากเราเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์มีนายทุนเยอะและการหมิ่นประมาทของลิลลี่เป็นการพูดในโซเชียล ทำให้ดูซ้ำและเผยแพร่ซ้ำๆ ได้จึงสร้างความเสียหายให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก













กำลังโหลดความคิดเห็น