เทปที่แล้วยังจิ้นกันไม่พอ! สำหรับ My Ambulove ของ “ก้อย-นัตตี้-ดรีม” ที่บอกเลยว่าอีพีนี้เป็นการมาเปิดใจ พูดเรื่องรักๆ ที่มั่นใจว่ายังไม่เคยมีใครได้ยินได้ฟังแบบเต็มๆ จากที่ไหน เมื่อทั้ง “มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์” กับ “ตุลย์ ภากร ธนศรีวนิชชัย” ควงกันมาเปิดใจ เล่าโมเมนต์ความหวานระหว่างกันและกัน รวมไปถึงยังเผยความรู้สึกเป็นครั้งแรก พร้อมจิกหมอนฟินไปกับ “อวัยวะที่ต้องสัมผัสทุกคืน” ไปอีก
Q : โมเมนต์จำของกันและกัน?
มิว : วันแรกที่เราไปช่วยงานของเพื่อน เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ไปเดินแบบให้เพื่อน
ตุลย์ : ผมก็ไปเดินแบบให้รุ่นพี่ หลังเวทีมันก็แคบ ก็ไม่ค่อยมีใครคุยกัน และเจอพี่คนนึง ตอนนั้นชื่อนิว เป็นวิศวะเกษตร กับน้องตุลย์สถาปัตย์จุฬาฯ
มิว : ขอเล่าสถานการณ์ตอนนั้นก่อน มันมีเก้าอี้เยอะมาก เราก็นั่งรอเพื่อน เพราะรู้จักเพื่อนแค่คนเดียว อยู่ๆ นางมาถึงก็มานั่งข้างๆ ซึ่งที่อื่นก็มีเก้าอี้ แต่นางเลือกมานั่งตรงนี้
ตุลย์ : ผมนั่งที่อื่นมานานแล้ว แล้วมันเหงาปาก มันไม่มีที่ เราก็เลือกตรงนี้แล้วกัน
มิว: สรุปเราก็อยู่ด้วยกันทั้งวัน และเราก็เริ่มกลับมาคอนเน็กซ์กันมากขึ้น หลังจากที่เรามาเริ่มถ่ายซีรีส์ด้วยกัน หรือไปเจอกันตามงาน
ตุลย์ : พอพี่มิวเขามีซีรีส์และซีรีส์ดังมาก เราก็ส่งข้อความไปยินดี บอกเขาว่าลุคนี้พี่หล่อว่ะ
มิว : เริ่มกลับมาคอนเน็กซ์กันมากๆ ก็ช่วงที่ตุลย์ไปอเมริกา
ตุลย์ : ซึ่งเราถ่ายซีรีส์ที่เขาโปรดิวซ์เอง พอเราถ่ายซีนสุดท้ายเสร็จปุ๊บ เราก็บินไปเรียนต่อทันทีเลย
มิว : ตอนนั้นเราก็โหวงๆ นิดนึงแหละ (ตุลย์ : น้ำตาไหลเลย?) ก็ไปส่งที่สนามบิน เราก็บินไปหาเขาที่อเมริกา 3 รอบ ซึ่งถามว่าเราคลั่งรักไหม เป็นคนคลั่งรักที่สุด เพราะผมหวานเต็ม 10 ทุกวัน
และในช่วงเล่นเกมที่ทำให้ทุกคนจิกหมอน เมื่อมิวต้องทายว่าตุลย์เอาอวัยวะอะไรสัมผัสที่มือ ซึ่งตุลย์ ได้เอาแก้มไปแตะที่ฝ่ามือของอีกฝ่าย ซึ่งมิวตอบว่า “เป็นอวัยวะที่สัมผัสทุกคืน ก็คือแก้มครับ” พิธีกรทั้งสามถึงหวีดร้องออกมาเสียงหลง พร้อมกับส่งอีก 1 เกมที่จะต้องบอกข้อดีของกันและกัน ผ่านคำขึ้นต้นว่า “เขาชอบที่รัก เพราะ”
ตุลย์ : เขาชอบที่รักเพราะ ที่รักมีความสนใจในเรื่องเดียว มันไม่ใช่คุณสมบัติที่จะหากันง่ายๆ และที่รักเป็นที่ปรึกษาที่ดี เอาประสบการณ์บวกกับความเป็นห่วงด้วย เอาคำปรึกษาไปใช้แล้วมันดีขึ้นจริงๆ ชอบที่รักทั้งตัวเพราะที่รักดูดีมากๆ ดูแลตัวเองดี
มิว : เขาชอบที่รักเพราะที่รัก น่ารัก และชอบที่รักเพราะว่าเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เหมือนพัฒนาไปด้วยกัน ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องการใช้ชีวิต รู้สึกเหมือนได้เรียนรู้เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดี สุดท้ายชอบที่รัก อยู่ด้วยและมีความสุข อยากอยู่ด้วยไปนานๆ
Q : สุดท้ายการเปิดเผยความสัมพันธ์มันต้องผ่านอะไรมาบ้าง?
ตุลย์ : มันเยอะมาก คุยกันเยอะมาก มันผ่านกระแสที่เข้ามาเยอะมาก เราไม่คิดว่าการเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ เป็นสิ่งที่ต้องทำ มันมีความคิดเห็นจากคนอื่นที่จะมองว่าเราเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ แต่พอโตขนาดนี้แล้ว เราไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตนเองให้ใครรัก ก็เลยคิดว่าถ้าไม่ทำตอนนี้ แล้วเราจะทำตอนไหน เราก็โดนเทสเยอะ ทำให้เราคิดว่าโลกจริงๆ มันโหดร้าย มันมีคนที่ไม่รู้จักเรา คิดว่าอยากให้กูตายหรือว่าอะไรอย่างนี้ เราก็ถึงเวลาที่ต้องก้าวผ่านความกลัวเหล่านี้ กับสิ่งที่คนอื่นจะมาตัดสินตัวเรา อยากให้ทุกคนเป็นตัวเอง อยากจะบอกว่าเราไม่ควรเอาความคิดเห็นของเราไปตัดสินคนอื่น เพราะความหลากหลายคือสิ่งที่สวยงามที่สุด
มิว : ต้องยอมรับสังคมปัจจุบันมันเปลี่ยนไปเยอะมาก เปลี่ยนไปทิศทางที่ดี ขอบคุณทุกคนที่พร้อมจะก้าวไปกับสังคมที่มันดีขึ้น ในทุกๆ แง่มุม เราก้าวข้ามผ่านที่เราต้องมาเปิดเผย มาแสดงสเตตัสต่างๆ มันข้ามไปแล้ว เรามีความรักในแบบตัวเอง เจอคนที่มีโมเมนต์ดีๆ ใครที่ติดตามเรามา เราผ่านมาหลายช่วงมากๆ ช่วงที่หนักก็ผ่านมาแล้ว พอเรามองมาที่ตัวเองมากขึ้นว่าปัญหาคืออะไร เราแก้อะไรได้บ้าง มันทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เรามีเวลาเฮลท์ตี้แบบนี้ เอาไปพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น
