“แมท ภีรนีย์” น้ำตารื้น เคยใจสลาย คิดจะบวชชี ขอบคุณ “เฟม” ขอแต่งงาน ไม่คิดว่าจะได้รับสิ่งดีๆ ในชีวิต ลั่นพลาดคนนี้ไปคงไม่ได้เจอคนดีๆ
แบบนี้อีกแล้ว
เปิดใจครั้งแรกหลังจากที่ถูกหวานใจ “เฟม ภีมเดช ศิวพรพิทักษ์” แฟนหนุ่มทำเซอร์ไพรส์ ขอแต่งงานที่ประเทศนอร์เวย์ งานนี้ทำเอา “แมท ภีรนีย์ คงไทย” น้ำตารื้นกลางรายการแฉ ยอมรับว่าไม่คิดว่าจะได้รับสิ่งดีๆ แบบนี้ในชีวิต
“ใกล้วันก็ยังงง ยังช็อกๆ ค่ะ ไม่รู้มาก่อนว่าเขาจะขอ ถามว่าทำไมต้องเป็นนอร์เวย์ เขาคงรู้สึกว่ามีป่ะป๊าอยู่ เป็นเหมือนโอกาสที่ดี เราก็ไม่ได้ถาม (หัวเราะ) ตื่นเต้นและจำอะไรไม่ได้ จำเขาพูดไม่ได้ จำตัวเองพูดไม่ได้ ต้องกลับมาดูคลิปถึงรู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป แมทเสียดายเหมือนกัน คือมั่นหน้าอีกแล้ว จะรู้สึกว่าเราเล่นละครมาเยอะ เหมือนถูกขอแต่งงานแล้วฉันต้องสวยอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอถึงตอนนั้น ดูสภาพตัวเองมันไม่ได้เลย (หัวเราะ) พูดจริงๆ เลยนะ มันแบลงก์หายไปหมด พูดอะไรไม่ถูก จำอะไรไม่ได้เลยค่ะ แต่เชื่อไหมมันเป็นความสุขแบบที่สุดเลยจริงๆ”
น้ำตารื้น ไม่คิดว่าจะได้รับสิ่งดีๆ แบบนี้ในชีวิต เพราะที่ผ่านมาไม่รู้จะดีพอสำหรับใครไหม
“เราไม่เคยคิดว่าจะมีใครขอแต่งงานด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเราจะดีพอสำหรับใครพอหรือยัง ที่ถึงขนาด… พอแมทโดนขอจริงๆ แล้ว แมทก็มานั่งคิดทบทวน ผู้ชายคนหนึ่งเขาต้องใช้ความกล้า ใช้จิตใจ ใช้เงิน ใช้อะไรทุกๆ อย่างเยอะมากๆ ที่จะตัดสินใจขอผู้หญิงคนหนึ่งแต่งงาน วันนั้นก็ไม่ได้ถามว่าทำไมตัดสินใจขอ ฉันน้ำตามาอีกแล้ว (หัวเราะ) แมทพูดอยู่คำเดียวเลยว่า ขอบคุณนะ ฉันไม่คิดว่าฉันจะได้รับสิ่งดีๆ แบบนี้ในชีวิต แต่พูดออกไปโดยไม่รู้ตัว แต่เขาเล่าให้ฟังว่าเราพูดคำนี้
พอทุกอย่าง ณ โมเมนต์นั้น ใจเย็นลงแล้ว ก็เริ่มพี่ตาล คนไทยที่อยู่ที่นั่น ถามเฟม ถามป่ะป๊าด้วยว่ามันเป็นมายังไง ป่ะป๊ารู้เมื่อไหร่ แมทต้องขอบคุณปาป๊ามาก ปีนี้เขา 80 แล้ว เขาเดินไม่ค่อยถนัดแล้ว เขาจะไม่ทานอาหารนอกบ้าน เขาจะมัธยัสถ์มาก เป็นฝรั่งที่ต้องทานที่บ้านเท่านั้น ไม่ออกไปที่อื่นเลย แต่วันนั้นเขามาแล้วขึ้นไปบนดาดฟ้า ทำทุกอย่างเกินปกติ
ปาป๊าแก่มากแล้ว ขาเขาเดินติดๆ แล้ว แต่ยังแข็งแรงถ้าเทียบกับคน 80 ทั่วไป แต่เฟมเล่าให้ฟังว่าเขาก็วางแผนอะไรของเขา แต่ป่ะป๊าพูดว่า แน่นอนฉันจะออกไปสำหรับดินเนอร์มื้อนี้ ที่สำคัญขนาดนี้ ฉันจะไม่ไปได้ไง คนในครอบครัวรู้ พ่อแม่รู้หมดเลย มีแต่เราไม่รู้
เขาวางแผนดีมาก เฟมปกติโป๊ะแตกมาก แล้วแมทเป็นคนเจ้าระเบียบ เขาพกแหวนหรือเวลมา เขาเป็นคนปักชื่อเองหมดเลย เขาก็แบกมาจากเมืองไทย เพราะเราไปเที่ยวฝรั่งเศสกันก่อนมาที่นอร์เวย์ แมทงงมาก อย่างแรกก็ถามก่อนเลยว่าเธอแอบแหวนยังไง ฝรั่งเศสเราเที่ยวระวังมาก เพราะมิจฉาชีพเยอะ เธอหลบฉันได้ยังไง หลบแหวนได้ยังไง ทุกคนก็เตรียมตัวกันไปหมดแล้ว”
ส่วนกรณีคนไปค้นประวัติแฟนคุณเป็นลูกของอดีตผู้ช่วยปลัดกทม. แมท เผยว่า “เฟมเขาตกใจมาก เพราะเขาเป็นคนไม่คุ้นชินเรื่องราวในวงการบันเทิง แมทก็แปลกใจเหมือนกัน ทั้งที่พี่ฟาน พี่ชายเขา ก็เคยเล่นละครเรื่องหินกลิ้งฯ ซึ่งก็ดัง พี่ฟิน พี่สาวก็เคยเล่นละครช่อง 3 อยู่บ้าง เขาทำช่วงสั้นๆ
ย้อนเหตุการณ์เจอกันครั้งแรก จะบวชเป็นแม่ชี หัวใจแหลกสลายไม่พร้อมเจอใคร
“เพื่อนแนะนำ ไม่ได้จะจับคู่นะ เขาเป็นเจ้าของร้านโฮมเอกมัย ตอนนั้นช่วงต้นปี เราก็เอ๋อๆ เหรอๆ เราก็ทานข้าวอยู่แถวๆ นั้น แต่แมทมีเพื่อนที่ดีและดูแลใจเราตลอด เขาเห็นว่าเราทานข้าวอยู่แถวๆ นี้ก็ชวนมาทานข้าว ฟังเพลง ซึ่งเป็นดนตรีสด ปกติแมทไม่ไปร้านอะไรพวกนี้อยู่แล้วเพราะไม่ชอบคนเยอะๆ กับสียงดังมันเม้าธ์ไม่สนุก ก็ไปซะหน่อย เขาเหมือนฝากไว้กับเฟม เพราะร้านแน่นมากค่ะ เราก็มาอะไรก็ไม่รู้
ตอนนั้นโสดสนิท ช่วงต้นๆ ปี เพื่อนก็อยู่ด้วยกันแต่ฝากรุ่นพี่ที่อยู่ร้านนี้ เขาเห็นว่าแมทกับเพื่อนสนิท ทานข้าวอยู่ ก็ชวนมาฟังเพลงปล่อยจอย สรุปมาถึงไม่มีโต๊ะอยู่ เขาไม่ได้จะจับคู่เลย ตอนนั้นต้องมนต์ (เพื่อน) เหมือนจะใส่พานถวายพร้อมเงิน 3 ล้านให้ หรือเป็นความสรวนก็ไม่รู้ (ต้องมนต์เผยว่าบทสนทนาพาไป นั่นก็โสด นี่ก็โสด ก็ความสาระแน ไม่ได้คิดอะไรเลย คืนนั้นออกแนวสนุกมากกว่า) ตอนนั้นแมทตั้งใจต้องอยู่แบบบวชชีแน่แล้วชีวิตนี้ พูดเว่อร์ไปแล้ว หัวใจแหลกสลายจนไม่พร้อมจะเจอใคร คงไม่มีใครดี ไม่มีใครที่ชอบ ไม่มีใครจริงใจ ไม่มีดวงทางด้านนี้อีกต่อไป
ถ้าพลาดคนนี้ คงไม่ได้เจอคนที่ดีอีกแล้ว
“กลัวความรักจริงๆ สูญเสียความมั่นใจ ไม่เว่อร์ จนมาเจอเฟม เขาเป็นคนดีที่ดีมากๆ เขาไม่ใช่คนที่เพอร์เฟกต์ แต่นี่แหละ แมทรู้สึกว่าถ้าพลาดคนนี้ไปแล้ว แมทอาจจะไม่ได้เจอคนที่ดีแบบนี้ มันค่อยๆ สะสมไปเรื่อยๆ มีความสุขขึ้นทุกวัน
ช่วงนึงเคยเกิดความสูญเสียความมั่นใจ ตอนนั้นใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แค่ว่าต้องอยู่ให้รอด ลึกๆ อาจเป็นนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ แต่ก่อนสู้ได้ต้องมีความสว่างไสวในใจว่าเราไม่ได้เป็นคนที่แย่ขนาดนั้น เรามีคำตอบของเรา ออนไลน์สอนชีวิตเรา เพื่อนก็แซวว่าแมทได้เรียนรู้ชีวิตที่เกิดมา 30 ปีจากเหตุการณ์นี้ เมื่อก่อนชีวิตเฉยๆ ราบเรียบ ตื่นมาไปทำงาน แม่ปลุกไปทำงาน ไม่มีอะไรต้องเครียดหรือกังวล
เวลาน้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง ตอนนั้นให้สงบสติอารมณ์ก่อน มันก็มีทั้งคนไม่ถูกใจเราอยู่แล้ว อาจเข้าใจผิด หรือเจอเราตอนไม่น่ารักก็แล้วแต่ แต่ไม่มีทางที่เราจะไปพูดถึงคนร้อยล้านบนโลกนี้ว่าเราไม่ใช่คนแบบนั้น ถ้าเขารู้สึกดีกับเรา มีวิจารณญาณพอ เขาก็จะค่อยๆ อยากรู้ หาคำตอบ ไม่ตัดสินใจด่วนไปเอง ไม่ว่าเราจะไปพูดอย่างไร ต่อให้เขาชอบเราไม่ชอบเรา เขาก็เชื่อคำนั้นอยู่ดี”
วันนึงรถทัวร์สอนเรา แมทเป็นคนค่อนข้างอ่านคอมเมนต์ แรกสุดโมโห แต่ถ้าผิดจะยอม จะอยากขอโทษ จะอยากปรับปรุง แต่ถ้าบางทีเราไม่ได้เป็นแบบที่พูด ก็อยากไฝว้ ยังไม่เข้าใจ ก็มาดิ เปิดมาดิ ตอนนั้นไม่ชินแค่เข้าใจว่ามันไม่มีประโยชน์ แล้วไม่รู้ไปสู้กับใคร
เมื่อทุกอย่างผ่านไปหมดแล้วก็เรียนรู้เรื่องการเข้าหาคน เมื่อก่อนแมทตรงไปตรงมาโผงผาง ถ้าผิดเงียบสงบปากสงบคำ ถ้าไม่ผิดจะฉอดๆ ตอนนี้เป็นไงก็เป็นงั้น แล้วแต่ ต้องเอาตัวเองเป็นหลัก ต้องรู้ว่าเราทำอะไรอยู่ เราทำไม่ทำจริงไหม
