ไม่คิดว่าจะมีวันนี้! “ใบเฟิร์น” เสียงสั่นกลั้นน้ำตา เจ็บปวดเลิก “นาย ณภัทร” แต่เป็นทางที่ดีที่สุด ลั่นยาก แต่ตัดสินใจร่วมกัน ไม่กังวลข่าวลือที่ไม่จริง
ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากเลิก “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” สำหรับ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์”โดยในพิธีบวงสรวงละครทองประกายแสด เจ้าตัวหน้าตาเศร้าหมอง ไม่สดชื่นเหมือนเคย ก่อนเปิดใจกับสื่อมวลชนเสียงสั่นกลั้นน้ำตาสุดๆ ยอมรับว่าถึงเจ็บปวดแต่เป็นทางที่ดีที่สุด และคิดไม่ถึงว่าจะมีวันนี้เหมือนกัน
“วันนี้สภาพจิตใจก็…เฟิร์นไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ยอมรับว่าเสียใจมากค่ะ เสียใจมาก แต่ก็เข้าใจค่ะ มันเป็นการตัดสินใจร่วมกันอย่างที่นายได้ตอบไป ที่เรากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มันเป็นทางที่ดีที่สุด ที่เราสองคนตัดสินใจร่วมกันแล้ว (ใช้เวลาตั้งแต่กลับมาจากทริปสวิตเซอร์แลนด์?) ใช่ค่ะ เป็นเรื่องที่คุยกันมาค่ะ จริงๆ มันเป็นเรื่องที่เราคุยกันมาอยู่แล้ว พอถึงวันนี้เราก็คุยกันแล้วเข้าใจ ก็เลยตัดสินใจแบบนี้ด้วยกัน”
ยอมรับเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก
“ยากค่ะ ยากมาก แต่สุดท้ายก็เป็นเรื่องที่เราเห็นตรงกัน ถามว่าใช้เวลาปรึกษากันนานไหม จริงๆ เราคุยเรื่องนี้มาสักพักอยู่แล้ว ถามว่าใครเป็นคนเริ่มเอ่ยปาก คือเราคุยกันจริงๆ ค่ะ เราเห็นเรื่องนี้มาด้วยกัน เราเจอทุกอย่างมาด้วยกัน เราเข้าใจกัน”
ไม่ซีเรียสเรื่องข่าวลือ ยืนยันไม่เกี่ยวกับคนอื่น ตัดสินใจร่วมกันแค่สองคน
“เรื่องข่าวลือเฟิร์นไม่ได้ซีเรียสเลย ไม่ได้เครียดเลย เฟิร์นรู้สึกว่าอะไรที่มันไม่ใช่เรื่องจริง เฟิร์นก็จะไม่ไปกังวล ส่วนที่มีการโยงไปถึงคนอื่น เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลยเนาะ เฟิร์นอยากยืนยัน มันเป็นเรื่องที่เฟิร์นกับนายคุยกัน และตัดสินใจจากเราสองคนจริงๆ”
หลังดูสัมภาษณ์ “นาย ณภัทร” ก็ยังให้กำลังใจและคุยกันปกติ เป็นห่วงอยู่ตลอดอยู่แล้ว
“ได้ดูๆ ก็ให้กำลังใจกันแหละค่ะ ก็เข้าใจว่ามันอาจจะเจ็บปวด แต่มันเป็นทางที่ดีที่สุดแล้ว ทุกวันนี้ยังเป็นเพื่อนที่ดีค่ะ ยังมีการถามไถ่เป็นห่วงเป็นใยกันอยู่ หลังแถลงก็คุยกัน ยังถามไถ่อยู่ปกติ จริงๆ เป็นห่วงเขามาตลอดอยู่แล้ว”
ไม่รู้อนาคตมีสิทธิ์รีเทิร์นไหม แต่วันนี้มันเป็นแบบนี้ ขอเวลาดูแลหัวใจตัวเอง
“ในอนาคตเฟิร์นก็ไม่ทราบจริงๆ แต่วันนี้มันก็เป็นแบบนี้ค่ะ ส่วนที่คนทวงรอยยิ้ม เฟิร์นก็ยังมีรอยยิ้ม แต่ก็ต้องให้เวลาเฟิร์น ในการดูแลหัวใจตัวเองด้วย เชื่อว่ามันก็จะดีขึ้น มีกำลังใจจากหลายอย่าง จากรอบตัวเฟิร์นเยอะมากค่ะ มีครอบครัว มีเพื่อนๆ มีผู้จัดการ แล้วก็ยังมีแฟนๆ ที่เฟิร์นเห็นอยู่ตลอดทุกช่องทาง อยากจะขอบคุณมากๆ มันมีความหมายกับเฟิร์นมากจริงๆ”
ยืนยันครอบครัวทั้งสองฝ่ายเข้าใจและเคารพการตัดสินใจ
“หลังจากที่เฟิร์นกับนายได้พูดคุยกัน และได้ตัดสินใจกลับมาเป็นเพื่อน เฟิร์นก็ได้แจ้งทั้งครอบครัวของนายและของเฟิร์น ทั้งสองครอบครัวก็เข้าใจและเคารพในการตัดสินใจค่ะ อย่างครอบครัวเฟิร์นเขาอาจจะมีเครียดบ้างเรื่องข่าว เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่เฟิร์นไม่ใช่คนในวงการบันเทิง แต่สุดท้ายก็เข้าใจทุกอย่าง แล้วก็ยังซัปพอร์ตเราเหมือนเดิม ยืนยันว่าทั้งสองครอบครัวเข้าใจค่ะ”
ทำให้ได้เห็นความรักของตัวเองในอีกเวอร์ชั่น หลังหลายคนมองว่าเลิกทั้งที่ยังรัก
“เฟิร์นว่ามันก็เป็นการได้เห็นความรักของตัวเองในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง เป็นความรักที่ไม่ว่ามันจะอยู่ในสถานะไหน ก็ยังรักและหวังดีเหมือนเดิม เรื่องมูฟออนก็ยังต้องให้เวลาตัวเองค่ะ เฟิร์นยังมีทั้งวันที่ดีและวันที่แย่เป็นธรรมดา ตอนข่าวถาโถมถามว่าหนักไหม เรื่องข่าวอาจจะไม่ใช่ปัญหาหลักของเฟิร์นเนาะ อาจจะมีเรื่องแบบ…สุดท้ายเรากลับมาที่ความเข้าใจกัน ความรักและความหวังดีเท่านั้นเอง”
โพสต์แคปชั่น “แหลกสลายมันเป็นแบบนี้นี่เอง” เพราะเวิร์กช็อปซีรีส์เป็นตัวละครทิชา แล้วจังหวะมันได้พอดี
“ตอนนั้นเฟิร์นเวิร์กช็อปซีรีส์ ทิชา กับทางช่องวัน อันนั้นก็หนักหน่วงเหมือนกัน อาจจะจังหวะมัน…(ยิ้ม) วันนั้นมันก็ในฐานะตัวละครทิชา ซึ่งจริงๆ ตัวละครนั้นก็ที่เจ็บปวดเหมือนกัน ถ้าออนแอร์แล้วอาจจะได้ทราบสาเหตุ”
เสียงสั่นขอบคุณคนที่เชียร์มาตลอด ทุกกำลังใจมีค่ามากๆ
“ก็อยากจะบอกว่าขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ตั้งแต่วันแรกเลย ทุกกำลังใจมันมีค่ากับเฟิร์น กับเรามากๆ (เสียงสั่น) แล้วขอบคุณพี่ๆ (สื่อมวลชน) ด้วย ฉันโอเค โอเคขึ้นค่ะ โอเคขึตามลำดับ มีแต่คำว่าขอบคุณค่ะ ขอบคุณจริงๆ ถามว่าได้อะไรจากความรักครั้งนี้ ก็อย่างที่เฟิร์นบอก เป็นความรักในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ที่เฟิร์นรู้สึกว่ามันอยู่ในสถานะไหน เราก็รักและหวังดีต่อกันได้”
มีความรักทีไรไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แต่ทุกความรักที่เกิดขึ้น ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีและมีความสุข
“เฟิร์นรู้สึกว่าสำหรับเฟิร์น ความรักเกิดขึ้นแล้วเฟิร์นก็มีความสุขนะคะ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีในชีวิต ถามว่ายังมีความหวังกับความรักไหม มี จริงๆ มันมีความสุขนะคะ ไม่ใช่เรื่องที่แย่หรือเลวร้าย มุมมองความรักมันก็โตตามเราไปเรื่อยๆ มันก็เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ซึ่งเฟิร์นชอบนะ มันก็ดีอีกแบบ”
