xs
xsm
sm
md
lg

“ปิ่น เลอลักษณ์” ตั้งโต๊ะแถลง ป้องศักดิ์ศรีหมอ ถูกกล่าวหาส่งหมอที่ทำคนไข้เสียชีวิต 2 คนมาศัลยกรรมให้ “ต้อม รชนีกร”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปิ่น เลอลักษณ์” พร้อม “ทนายแก้ว” ตั้งโต๊ะแถลง ป้องศักดิ์ศรีหมอและโรงพยาบาล หลังถูกกล่าวหาส่งหมอที่ทำคนไข้เสียชีวิต 2 คนมาศัลยกรรมให้ “ต้อม รชนีกร” ลั่นมีหลักฐานพร้อมสู้อีกฝ่ายฟ้องเรียกค่าเสียหาย 50 ล้าน ตนเองก็ได้ฟ้องกลับเช่นกัน พร้อมชี้แจงเรื่องการผ่าตัดกรามจากผู้เชี่ยวชาญ ลั่นเรื่องนี้เกินเยียวยาแล้ว

ออกมาแถลงข่าวทั้งน้ำตา จากกรณีที่ “ต้อม รชนีกร พันธุ์มณี” แถลงแฉหลังศัลยกรรมกับโรงพยาบาลเลอลักษณ์แล้วหน้าพิการผิดรูป กรามพังข้าวเหนียวยังเคี้ยวไม่ได้ เสี่ยงกรามหัก และเสี่ยงมะเร็ง ต้องทำผมปิดหน้า และเดินหน้าฟ้องสถาบันความงาม 50 ล้าน พร้อมทั้งกำลังรวบรวมผู้เสียหายที่ทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาลดังแล้วเกิดปัญหาเหมือนตน

บ่ายวันนี้ (5 ก.ค.67) “ปิ่น พิศพรรณ” ผู้บริหารโรงพยาบาลเลอลักษณ์ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวด่วน พร้อม ทีมทนาย ได้แก่ ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล , ทนายเฟิร์น พิชญานัน ปานทอง ,ทนายกฤตย์ กฤตย์ สมุทรโคตา โต้กลับ ต้อม รชนีกร ทุกเม็ด

ทนายแก้ว : “ต้องเรียนว่าสิทธิ์ทางศาลในกรณีที่จะฟ้องร้องทุกคนมีสิทธิ์ ไม่ได้บอกว่าเขาไม่มีสิทธิ์นะครับ คุณต้อมมีสิทธิ์ แต่การใช้สิทธิ์มันต้องสุจริต ต้องแยกกันระหว่างทางศาล กับนำสารมาประจาน วันนี้ชี้แจงภาพกว้างว่าเกิดอะไรขึ้น กรณีที่เลอลักษณ์ทำอะไรผิดก็ไปฟ้องร้องกัน ไปพิสูจน์กันว่าผิดไม่ผิดอย่างไร กรณีนี้มีการพูดไม่จริง จึงก่อให้เกิดเรื่องวันนี้ มูลเหตุคือสัญญาเสนอกับสนองต้องตรงกัน มีการระบุหลายเรื่อง คุณต้อมต้องมารีวิว”

ปิ่น : “โรงพยาบาลมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจ เราดำเนินกิจการมา 24 ปี ใบอนุญาตถูกต้องทุกอย่าง มีความเป็นมาตรฐาน ผ่านการตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุข ส่วนที่คู่กรณีบอกว่าในสัญญา ก่อนนำรูปไปต้องได้รับความยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย เขาตกลงกับเราไว้ว่า เวลาจะรีวิวต้องขออนุญาตเขา ในหลักการถ้าต้องขออนุญาตเขาเราจะไม่ทำศัลยกรรมนี้เลย ถ้าไอ้นั่นไอ้นี่ไม่ได้เลย สัญญามี 2 ข้อ ข้อที่ 2 คือโรงพยาบาลจะให้เขารีวิวตามขั้นตอนของเรา แต่มีข้อที่ 7 เราจะให้อินฟลูฯ หรือดารา รีวิวความคืบหน้าของเขา ช่องทางของเขา อันนี้ต้องเห็นตรงกัน เพราะเขาอยู่บ้าน รูปถูกไหม เล่าเรื่องถูกไหม ภาพรวมถูกไหม แบบนี้ อยากให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน อยากให้อ่านให้ดีก่อนค่ะ (ทนายแก้ว ให้อธิบายเรื่องผ่าตัดอย่างย่อๆ ให้ฟัง)

ใบหน้าก่อนทำศัลยกรรมที่นี่ ซีทีสแกนออกมาก็เห็นว่าหน้าไม่เรียบ มีซิลิโคนเหลวออกมา ใบหน้าปูด คางไม่มีทรง ซึ่งแก้ไขมาหลายครั้งมาก ไม่สามารถแตะต้องซิลิโคนได้อีก แตะปุ๊บเนื้อจะบุ๋ม คุณหมอตกลงใจกับคุณต้อม ทุกอย่างเป็นการตกลงใจกัน แพทย์กับคนไข้ตกลงกัน คุณหมอชี้แจงมาอย่างมีเหตุผลว่านี่คือการแก้ปัญหา ไม่ใช่การเสริมความงามตามปกติ

นอกจากหน้าหย่อนคล้อยตามอายุแล้ว ซิลิโคนที่จับเป็นก้อนตามส่วนต่างๆ ของคางและแก้ม ได้ผ่านการขูดมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ได้ผล เพราะฉะนั้นการขูดใหม่จะหวังผลไม่ได้ นอกจากการขุดซิลิโคนออกยังมีวิธีที่ดีกว่านี้ คือแนะนำให้ลดกระดูกกรามเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้มากกว่า แม้ซิลิโคนยังอยู่ แต่รูปหน้าจะชัดเจน คาดคะเนผลได้ ซิลิโคนที่ยังอยู่จะจมลงไปแทนกระดูก ภาพหน้าจะดีขึ้น

วิธีนี้เป็นวิธีมาตรฐานที่เริ่มต้นที่เกาหลีเมื่อ 20 ปีก่อน และนิยมขึ้นเรื่อยๆ การผ่าตัดนี้ไม่มีผลกับกลไกการเคี้ยวของฟัน ไม่เกี่ยวกับการเคี้ยว เส้นประสาท รากฟัน สามารถทำงานได้ตามปกติ นี่คือคำชี้แจงของคุณหมอ”

ทนายกฤตย์ : “ภาพซีทีสแกน ก่อนทำหน้าไม่เท่ากัน มีสารที่เกินออกมากให้หน้าหย่อนคล้อย แต่หลังทำจะเห็นว่า 2 ข้างบาลานซ์กันตั้งแต่กรามด้านบนจนถึงคางเท่ากัน”

คู่กรณีบอกว่า ที่ทำศัลยกรรมไปทำให้กระดูกรามบางลง ถ้าเกิดอุบัติเหตุ อาจจะหักได้
ปิ่น : “การตัดกรามตัดตรงส่วนที่ไม่รบกวนความแข็งแรงของโครงสร้าง เนื้อฟัน กระดูกด้านในที่รวมกันยังแข็งแรง คุณหมอฝีมือดีจริงๆ และแม่นยำ ทางปิ่นได้ขอความคิดเห็นจากบุคคลที่สาม (Third Openion) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดกระดูกโครงหน้า ปิ่นขออธิบายจากใจว่า ก่อนหน้านี้คุณต้อมไม่ได้มีประเด็นนี้เลย มีแต่เรื่องรีวิว

แต่พอเดือนกุมภาพันธ์ เริ่มบอกว่าตัวเองมีความผิดปกติ และไปหาทันตแพทย์ที่ไหนมา มีคำอธิบายของคุณหมอท่านหนึ่งว่าในใบรับรองแพทย์ที่หนึ่งออกมาว่า ทันตแพทย์ผู้เขียนใบรับรองนี้อ่านฟิล์มผิดโดยสิ้นเชิง ว่าสกรูชนกับประสาทรากฟัน โดยอ่านฟิล์มด้านหน้าที่ปลายสกรูและรากฟันอยู่คนละความลึกเห็นซ้อนกัน และไม่ได้ดูฟิล์มด้านข้างเลย เรียกว่าดูแค่ 2 มิติ ไม่ได้ดู 3 มิติ ซึ่งไม่ได้มีการกระทบกันเลย”

บอกอะไรจะจังหวะบังเอิญขนาดนั้น หญิงรายหนึ่งโร่เข้ามาอ้างเสียหายจากทำหน้าอกกับเลอลักษณ์ วันที่ต้อมแถลง
ปิ่น : “เราทำธุรกิจมา 20 กว่าปี การร้องเรียนหรือว่าเรื่องคดีความ หรือคดีขึ้นศาลแทบจะไม่มีเลยพี่เคลียร์นะคะ เราทำเยอะ ก็ต้องมีบ้าง เอาจริงๆ หน่วยงานราชการ สสจ. ยังเคยชมเลยว่าเลอลักษณ์ ว่าทำเยอะ ทำไมมีปัญหาให้เขาน้อย และ ณ วันนั้น ที่เขาแถลงเมื่อวันจันทร์ ปิ่นสังเกตเห็นได้ว่าช่วงที่เขาจะแถลงอยู่ จะมีผู้หญิงคนหนึ่งถือแฟ้มออกมา และบอกว่าเขาเสียหายจากการทำหน้าอก และไปหาหน่วยงานราชการ 3 แห่งแล้ว แต่ไม่จัดการอะไรเลยเหมือนทำอะไรกับเลอลักษณ์ไม่ได้ ปิ่นไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ถ้าปิ่นผิดจริง หน่วยงานลงโทษปิ่นแน่นอน เราก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เหมือนเป็นฉาก จังหวะอะไรที่คนๆ หนึ่งจะมาพอดีเลย”

ทนายแก้ว : “ผมว่ามันเป็นสิทธิ์ ใครรู้สึกยังไงก็เป็นสิทธิ์”

ปิ่น : “เราจับประเด็นไปว่ามันมีความเชื่อมโยง ปิ่นไม่เคยมีเคสไหนที่ต้องไปร้องเรียนหน่วยงาน 3 หน่วยงาน ซึ่งเคสนี้เป็นคนเดียวกันที่ไปออกรายการโหนกระแส ปิ่นก็ฝากให้ทุกๆ คนคิดเรื่องการเชื่อมโยงของคุณต้อมและคุณคนนี้ คือเรื่องอะไร มันเหมือนเป็นเรื่องเดียวกันแล้วพาคนเสียหาย และถามจริงๆ ว่าคนนี้เขาทำหน้าอกไป เขาบอกว่าเขามีปัญหา แต่สคบ.ดูแล้ว ว่าสวยมาก ไม่รู้จะเอาความผิดอะไรกับเลอลักษณ์

เขาไปถึงแพทยสภา คุณหมอ ทำงานมา 20 กว่าปี ไม่เคยโดนแพทยสภาเชิญ คุณหมอก็ไปแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะหน้าอกมันสวย คือไปหน่วยงานไหนก็สวย คือโรงพยาบาลทำผิดตรงไหน แล้วเขาจะมาลงโทษปิ่นได้ยังไง จุดสังเกตก็คือเอาคนมาสมทบ ปิ่นคิดว่าต่อจากนี้จะมีการดิสเครดิต ที่สวมเวลาในเรื่องเดียวกัน เราทำคนไข้เยอะ มันก็ต้องมีพลาดบ้างไหม แต่เราก็มีการรับผิดชอบตลอด ถ้าอยู่ในวงการจะเข้าใจ แต่อยากให้คนเห็นว่าทำไมมันไปเชื่อมโยงกันอย่างนี้ คนนี้ออกที่โน่นแล้วมาที่นี่ทำไม โหนกระแสคนเดียวกันเลย”

เสียใจข่าวหมอทำให้คนไข้ตาย กระทบรพ. คนไข้ขอเงินคืน อัด “ต้อม” ทำลายแพทย์ทำไม จะรับผิดชอบอย่างไร
ปิ่น : “เสียใจจากความรู้สึกที่ดีที่มีให้กับน้องต้อม อันนี้มีเจตนาใจที่บริสุทธิ์มากทำให้อย่างดี ไม่เคยเอาเรื่องเลย ไม่คิดจะฟ้อง คือจะบอกเขาว่าไม่ว่าคนไข้เคสไหน ต่อให้บางทีสื่อออนไลน์มันเยอะ การศัลยกรรมตกแต่งมันยากนะ บางทีเราไม่ผิดเราก็ต้องยอม เพราะว่าเราไม่เคยฟ้องใครอยู่แล้ว

ตั้งแต่ทำธุรกิจมา ถามว่าเสียใจไหม ปิ่นเสียใจ เพราะคนเราทำดี ทำด้วยใจทุกอย่าง แต่กลับมาพูดแบบนี้ อีกอย่างก็กระทบต่อรพ.มีคนไข้ที่มัดจำไว้แสนกว่าบาทหรือจะทำประมาณ 1 ล้านบาทก็มี ของเคสหมอที่เสียหายอยู่ ตอนนี้มีเข้ามาหลายเคสเขาขอเงินคืน บอกบอกว่าหมอที่นี่ทำคนไข้เสียชีวิต เราก็พยายามโน้มน้าวว่าเป็นแพทย์ท่านอื่นได้ไหม แต่แพทย์ท่านนี้ก็ทำสวยจริงๆ ไม่ได้มีคดี เขาไม่เชื่อ

แพทย์ท่านอื่น เขาก็ไม่เอา ขอเงินคืน อย่างนี้คุณต้อมรับผิดชอบให้เราอย่างไร และทำลายแพทย์คนนี้ทำไม ในเมื่อชมเขาตลอดว่าเขาทำดี ไม่เกี่ยวกับแพทย์ คุณโกรธพี่คุณบอกพี่เลย ตัวต่อตัวเลยค่ะ อย่าทำนิสัยแบบนี้”

เกินเยียวยา-ไกล่เกลี่ย อดทนทุกอย่างแล้ว
ปิ่น : “คือปิ่นว่ามันเกินเยียวยาแล้วค่ะ ปิ่นอดทนทำทุกอย่าง ยิ่งให้อภัยแม้กระทั่งเข้าไปตอบในติ๊กต๊อก ที่มีผ้าโพกหัวน่ารักๆ คนชมว่าไปขอโทษเลอลักษณ์ ไปขอโทษพี่ปิ่น ปิ่นเห็นว่ากระแสมันแรง ก็เลยไปโพสต์ว่าน้องต้อมคะไม่ต้องขอโทษพี่ก็ได้ ขอแค่ให้อภัยกันไปอย่ายึดติดให้ปล่อยวางจะได้มีคนรักเยอะๆ ปรากฏว่ามีอวตาร ตอบพี่ว่าไม่ต้องมาหิวแสง ไม่ต้องมาบอกให้พูดฝ่ายเดียวหรอกว่าให้ปล่อยวาง

พี่สะอึกเลยเพราะความใจของเราที่อยากจะให้เขาดี เมื่อสักครู่ก่อนที่จะแถลง เข้าไปพูดว่าปิ่นเข้าไปที่บ้านเขาแล้วไปบอกเขาว่าต้อมรู้สึกอย่างไร คือเขามีเจตนาทำให้ปิ่นเสีย ปิ่นไม่เคยถามเขาเลยว่าเขารู้สึกอย่างไรในการที่คุณมาว่า แต่เวลาเขาพูดกับสื่อเขาจงใจ ทำให้เปลี่ยนประเด็นเหมือนว่าปิ่นแย่จังเลย ใจบริสุทธิ์ของคน ปิ่นว่าสัมผัสได้ ไม่ต้องมาแถลงอะไรแล้วให้มันจบๆ ไป”

ทนายแก้ว : “คือผมกับทีมที่เข้ามาคือเข้ามาดูเฉพาะคดี แต่ความเป็นมากับใครอย่างไร ผมไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ผมแค่มองว่าในกรณีที่ใช้สิทธิ์พาดพิงหรือว่ามาฟ้องร้อง ผมไปว่าที่ขบวนการที่ศาลอยู่แล้ว หรือถ้าโจทก์จะไกล่เกลี่ย หรือจำเลยจะไกล่เกลี่ย ผมว่าเป็นเรื่องของศาลที่จะต้องไกล่เกลี่ยอยู่แล้วแต่ในส่วนของคดีอาญาที่มากระทบสิทธิ์ในคดีประมาท ผมเดินไปตามขบวนการก่อน 

ส่วนเคสไหนที่เขาจะมาฟ้องผมว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาจริงๆ แต่จุดประสงค์ที่ผมและทีมทนาย เข้ามาอธิบาย อยากจะให้เห็นว่าโรงพยาบาลไม่ได้รับหมอที่จะทำคนตาย แต่บางอย่างเราโชว์ไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของข้อตกลงกับครอบครัวเขาและที่ศาล แต่แน่นอนว่าขบวนการฟ้องร้องกันก็ต้องใช้ก็ต้องขอหมายเรียกเอกสารกัน”

























กำลังโหลดความคิดเห็น