xs
xsm
sm
md
lg

ล่มจ้า! “ปู มัณฑนา-ลูกหมี” ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ ปูบอกมีเงิน 1.4 ล้าน แต่ไม่สะดวกจ่าย ชื่อเสียงป่นปี้จะรับผิดชอบยังไง? (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ “ลูกหมี” ยอมให้ “ปู มัณฑนา” จ่าย 1.4 ล้านแต่ต้องจ่ายทั้งหมด ปูลั่นมีเงินจ่ายแต่ไม่สะดวกจ่าย บอกทำไมต้องจ่าย ชื่อเสียงพังไปหมดแล้ว 21 วันเดินสายออกสื่อทำลายจิตวิญญาณ จะรับผิดชอบยังไง ลั่นฝ่ายลูกหมีเสนอจะออกรายการขอโทษ 4 รายการ แต่ยังไม่พอ ลูกหมีบอกไม่จ่ายก็กลับไปเริ่มต้นใหม่ที่ 2 ล้านเหมือนเดิม มั่นใจเกมไม่พลิก



ปักหลักอยู่ที่สน.ทองหล่อกันทั้งวันเลยทีเดียว สำหรับ “ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี”พร้อม “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” และ “ทนายกุ้ง อำนวยพร มณีวรรณ์” หลังจากแจ้งความ “ปู มัณฑนา หิมะทองคำ”อดีตนางเอกชื่อดังกู้ยืมเงินแล้วไม่คืน แถมจ่ายเช็คเด้ง 2 ล้าน ทวงแล้วก็เงียบ ซึ่งวันนี้เป็นการเผชิญหน้ากันเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยครั้งแรก โดยปูมาสน.กับสามี “หาญส์ ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ”นักการเมืองชื่อดัง และ “ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช”พร้อม “ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช”โดยไกล่เกลี่ยสองรอบแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งไกล่เกลี่ยรอบแรกนั้น ปูบอกยอมจ่ายแค่หนี้ 1.4 ล้าน แต่ลูกหมีเสนอที่ 1.6 ล้าน แล้วจะจบ ต่างฝ่ายต่างไปใช้ชีวิต

ทนายเดชา : “เมื่อสักครู่มีการไกล่เกลี่ยทางคุณปูเสนอจะจ่าย 1.4 ล้านทางเราลดเหลือ 1.6 ล้าน จะมาชี้แจงที่คุณปูกับทนายมาพูด เรื่องแรกสัญญากู้ยืมเงิน 2 มี.ค.67 เป็นการกู้ 2,000,000 บาท และมีการคิดดอกเบี้ยในราคาร้อยละ 15 ต่อปี ที่บอกว่า 1,800 ต่อปี ไม่ใช่ พี่ประมาณอาจจะจำคดีผิดหรือเปล่า เรื่องคำนวณทางสเตทเมนต์ เป็นความเข้าใจของเขา เราเป็นทนาย เราต้องคุยเรื่องของหลักฐาน คือร้อยละ 15 ต่อปี เพราะฉะนั้นเราไม่มีการทำอะไรที่ผิดกฎหมายเลย ไม่มีการคิดดอกเบี้ยเกินอัตรา จากที่คู่กรณีบอกว่าเป็นเช็คค้ำประกัน สัญญาเขียนไว้ชัดว่า เช็คชำระหนี้เงินกู้ ไม่ใช่เช็คค้ำประกัน แล้วที่บอกเขาบอกว่ามีการส่งกระดาษเปล่าให้เขาเซ็นใช่ไหม”

ลูกหมี : “ไม่ใช่ เราเขียนเอกสารทั้งหมดเลย ลูกหมีเซ็นครั้งที่ 1 พยานเซ็นครั้งที่ 2 เขาเป็นคนเซ็นคนที่ 3 (มีพยานยืนยันชัดเจน?) มีพยาน เราเซ็นก่อนไม่ใช่เป็นกระดาษเปล่าอย่างที่เขาพูด”

ทนายเดชา : “และที่บอกว่ามีการคิดดอกเบี้ยว่าทางนี้เป็นฝ่ายเรียกดอกเบี้ย คนที่เสนอดอกเบี้ยก็คือฝ่ายของคุณปู การที่ลูกหนี้เสนอดอกเบี้ยไม่ว่าจะผิดกฎหมาย หรือจะมากกว่าน้อยละ 15 ต่อปีหรือไม่ ไม่มีความผิด การเสนอคิดดอกต่างๆ คือฝ่ายของคุณปูเสนอดอกเบี้ยเพื่อจะได้เงินจากเรา เราไม่ได้เรียก จะผิดต่อเมื่อเจ้าหนี้เรียก” ลูกหมี : “สิ่งที่เขาพูดลูกหมีไม่ได้สนใจจริงๆ เพราะลูกหมีรู้อยู่แล้วว่าลูกหมีโอนเงินให้เขา ในบัญชีเขา เวลาเคลียร์เงินกันก็แค่พี่ปู-ลูกหมี แล้วเขาจะเอาเงินไปทำอะไรก็เรื่องของเขา เพื่อนที่เขาบอกเราก็ไม่เคยเห็นค่ะ ซึ่งเขาบอกเขาไปลงทุนกระเป๋า เรารู้อยู่แล้ว เราโฟกัสตรงจุด คือเงินเราให้พี่ปูไป พี่ปูแค่มาคืน เขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขา”

ส่วนที่เขาบอกว่าสามารถจ่ายหนี้คืนได้ แต่เขาจะโฟกัสตรงที่ทำให้เขาเสียชื่อเสียง ก็เอาเป็นเรื่องๆ ไป จ่ายให้หมดก่อนดีกว่า เพราะจริงๆ ลูกหมีก็มียอดที่บวกมาต้องให้เรา 1.8 ล้าน และก็เขาคิดเป็น 1.4 ล้าน ลูกหมีเลยบอกว่าให้ 1.6 ล้าน จะได้จบ ก็รอดูว่าเขาจะให้ 1.6 ล้าน หรือเปล่า ตอนนี้เขาจะพูดอะไรก็ได้ ลูกหมีไม่รู้จริงๆอย่างที่บอกลูกหมีโอนเงินให้พี่ปู พี่ปูก็น่าจะเอาเงินจากที่นัดกันแต่ละครั้ง แต่ปัญหามันเกิดขึ้นก็เพราะว่าทุกครั้งมันโอนไม่ตรง และก็มีการเลื่อนๆ ตลอด”

ดอกเบี้ยรายชม. อีกฝ่ายเสนอเอง
ลูกหมี : “ทุกครั้งเป็นข้อเสนอจากพี่ปู เงินลูกหมีอยู่เฉยๆ เขามาเสนอ ทุกอย่างเขาจัดการหมดเลย แล้วดอกเบี้ยรายชม. หลักฐานการโอนของลูกหมีก็มี มันไม่เป็นคำพูดแบบนั้น และไม่ได้เป็นจริงรายชม. และก็มีคลิปเสียงด้วย”

ไม่ได้กราบขอร้องให้ช่วย มีงานทำอยู่แล้ว
ลูกหมี : “เราอยู่ในวงการบันเทิงเราก็พูดคุยแบบนี้ได้ แต่ลูกหมีไม่ได้ไปกราบขอร้องเขาให้ไปช่วยลูกหมี เราก็มีงานทำ ลูกหมีสอนเดินแบบมา 20 ปี แล้วนิสัยลูกหมีมีเท่าไหร่ก็ได้เท่านั้น ลักษณะคำพูดของเขาทำให้ลูกหมีดูแย่ก็เรื่องของเขาส่วนที่เขาบอกว่าเวรกรรมมีจริง อันนี้แน่นอนค่ะ เวรกรรมมีจริงแน่นอน คุณทำอะไรกับลูกหมีไว้ ก็ต้องรับผิดชอบ และคุณทำอะไรท่านอื่นๆ ไว้ เดี๋ยวคุณก็ตามรับผิดชอบเช่นกันค่ะ”

พูดความจริง เป็นผู้เสียหาย อยากได้เงินคืน
ลูกหมี : “ก็ไม่ได้มีอะไร ลูกหมีก็พูดตามความจริงทุกอย่าง เพราะลูกหมีเป็นผู้เสียหายอยากได้เงินคืน ส่วนที่เขาบอกว่าจ่ายช้าแค่วันเดียวอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นข่าวใหญ่ จะดูเอกสารทั้งหมดไหมล่ะว่าจ่ายช้ากี่วัน เดือนหนึ่งมันมี 30 วัน 6 เดือนรวมแล้วก็เกิน ไม่ใช่ครั้งเดียวแน่นอน จริงๆ ที่ลูกหมีทำราคามาก็คือ 1,800,000 ถ้าเกิดแฟร์ๆ ก็พบกันครึ่งทาง 1,600,000 จะจบดีมาก”

ขอให้จบที่ 1.6 ล้าน แล้วต่างคนต่างอยู่
ลูกหมี : “ถามว่ามองหน้าเขาได้ไหม มองได้อยู่แล้วค่ะ ไม่มีปัญหา เพราะเป็นเรื่องๆ ไป ไม่ได้ติดใจอะไร อาจจะมีความคิดเขา วิธีการของเขา ซึ่งมันเรื่องของเขานะ ลูกหมีก็เป็นเรื่องของลูกหมี ให้จบที่ 1.6 ล้าน ก็ใช้ชีวิตกันต่างคนต่างอยู่ ส่วนที่เขาบอกพร้อมจ่ายแต่สิ่งที่ออกมาพูดทำให้นามสกุลเขาเสียหาย เอาจริงๆ ถ้าดูจากแหล่งข่าว ลูกหมีไม่ได้พูดถึงนามสกุลหรืออะไรต่างๆ ลูกหมีพูดในเรื่องราวที่ลูกหมีเจอ และเหตุการณ์ที่ลูกหมีเจอ ก็ยืนยันว่าเงินที่ทางคุณปูกู้ยืมไป เป็นการกู้ยืม ไม่ได้ร่วมลงทุน”

ทนายเดชา : “คือถ้าร่วมลงทุนต้องมีการตกลงทางกำไร-ขาดทุน แต่ไม่มี และที่ทนายประมาณพูดเกี่ยวกับชาร์ตไม่ได้เกี่ยวกับสัญญากู้อะไรเลยนะ มันเป็นเรื่องของการกระทำก่อนหน้านี้มีการกู้เงินเกิน 30 ครั้ง”

ต่อมา ทนายประมาณ - ปู มัณฑนา ก็ได้ออกมาเปิดใจต่อสื่อมวลชนหลังไกล่เกลี่ยรอบสองแต่ไม่สำเร็จ โดยครั้งนี้ยืนยันว่ามีเงินจ่ายแต่ไม่จ่าย เพราะชื่อเสียงเสียหายไปหมดแล้ว ฟาดกลับฝั่งลูกหมีจะรับผิดชอบอย่างไร

ทนายประมาณ : “วันนี้การไกลเกลี่ยยังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะว่าตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.เป็นต้นมาจนกระทั่งถึงวันนี้ ที่คุณออกข่าวจนกระทั่งคุณปู คุณหาญและลูกเขาบอบช้ำจนกระทั่งไปไหนไม่ได้ จะแสดงความรับผิดชอบกันอย่างไร เงิน เป็นหนี้เราจ่าย ผมเรียนแล้วว่าที่ลูกหมีโอนมา กับที่ปูโอนไป มันหักลบกันแล้วเหลืออยู่ 1.4 ล้าน ที่เป็นหนี้จ่ายแน่ แต่ปัญหาคือที่คุณออกสื่อมาทั้งหมด 3 สัปดาห์คุณจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร

ตอนนี้ยังตกลงกันไม่ได้ บอกว่าขอโทษตามสื่อต่างๆ ถามว่ามันพอไหม เพียงพอที่จะเยียวยาลูกความผมได้ไหม คือผมเองอยากให้ทุกฝ่ายตกลงกันได้จะได้ไม่ต้องเป็นคดีความ แล้วก็ไม่รู้จะขัดกันอีกกี่เรื่อง ยังมีคนที่เข้าไปถล่มคุณปูอีก ก็ต้องเรียนว่าวันนี้ถ้าคู่กรณีผมบอกว่าคุณมาถึงโรงพักแล้ว ต้องรับทราบข้อกล่าวหา ผมยินดี เมื่อไหร่ที่ผมรับทราบข้อกล่าวหา ผมร้องทุกข์ทันทีครับ พระราชบัญญัติดอกเบี้ยเกินอัตรา เขาบอกว่าต้องเจ้าหนี้เรียกถึงจะผิด ดอกร้อยละ 15 ถ้าลูกหนี้เสนอจ่ายไม่ผิด เพราะฉะนั้นดอกเบี้ยที่ไม่ผิดกฎหมาย เช็คฉบับ 2 ล้านบาท มันมีมูลหนี้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายรวมอยู่ในนั้น ต่อให้มีสัญญากู้ ซึ่งสัญญากู้คุณปูเขาเซ็นเปล่าๆ เพราะคุณไปขอเขากลางเดือนมี.ค. แล้วคุณก็ไปกรอกยอดเป็นวันที่ 2 มี.ค. แล้วก็ส่งภาพมาให้คุณปูวันที่ 18 มี.ค.”

ยืนยันว่าอีกฝ่ายไม่ได้เซ็นเอกสาร ตนเซ็นฝ่ายเดียว
ปู : “ไม่มีค่ะ เขาให้ปูเซ็นอย่างเดียว เรื่องดอกเบี้ยเขาเสนอเองค่ะ เขาบอกว่าเขาปล่อยให้ร้านแว่นอยู่แล้ว 15-20% กับเพื่อนของเขา เขาก็เลยอยากได้ดอกเบี้ยเท่าเดิมมากกว่า”

ทนายประมาณ : “หนี้ส่วนหนี้ หมิ่นประมาทก็อีกเรื่องแน่นอน หนี้ส่วนหนี้ 1.4 ล้านใช้อยู่แล้วไม่ต้องห่วง พร้อมจะใช้ทันที แต่คุณจะแสดงความรับผิดชอบที่คุณทำลายชื่อเสียงมา 3 สัปดาห์ คุณจะแสดงความรับผิดชอบยังไง

บอกใครจะยอมจ่าย ให้บอกมาก่อนจะรับผิดชอบยังไง
ทนายประมาณ : “ใครจะยอมจ่าย คุณทำตัวแบบนี้คุณบอกมาก่อนสิจะแสดงความรับผิดชอบยังไง

ปู : “ตอนนี้ลูกของปูได้รับผลกระทบมาก ลูกไม่กล้าไปโรงเรียน โดยเพื่อนว่า โดนทุกคนมอง ปูไม่กล้าออกจากบ้านไปไหน 2 เดือนในช่วงที่เขาทำกับปู ปูเข้าโรงพยาบาล 5 ครั้ง ที่เขาทำกับปูกับครอบครัวมันเยอะมาก”

ตาต่อตา ฟันต่อฟัน แจ้งความปู ก็จะแจ้งความหมิ่นประมาท
ทนายประมาณ : “ถ้าวันนี้แจ้งข้อกล่าวหาปู ผมก็จะร้องทุกข์ข้อหาหมิ่นประมาท ผมเอาแค่ 4 กรรม 1.วันที่ 13 มิ.ย. แถลงข่าวที่สำนักงานเดชา 2. วันที่ไปออกรายการคุยแซ่บโชว์ ผมก็ยังไม่รู้นะว่าพิธีกรจะเป็นตัวการร่วมหรือเปล่า ว่ารู้อยู่แล้วว่าเขาจะมาหมิ่นประมาทคนนี้ คุณก็ยังกระทำ 3.รายการแฉ 4.รายการเปิดปากกับภาคภูมิ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ล่าสุด เอา 4 รายการก่อนที่ผมจะแจ้งความร้องทุกข์ ถ้าวันนี้ไม่มาแก้ข้อกล่าวหากับคุณปู แต่ถ้าแจ้งความ ผมก็จะแจ้งความคืนนี้เลย ตาต่อตาฟันต่อฟัน

ถามว่าจะให้เขารับผิดชอบยังไง คู่กรณีคุณจะแสดงความรับผิดชอบยังไง พูดมาก่อน ไม่เรียกเป็นเงินครับ ไม่รู้จะเยียวยากันยังไงกับตระกูลหิมะทองคำและครอบครัวของปูผมไม่เรียกเป็นเงินหรอกครับ ไม่เอามาหักลบกันนะครับ ไม่เกี่ยวกัน หนี้ส่วนหนี้ การกระทำความผิดส่วนการกระทำความผิด เขาก็เสนอว่าจะไปขอโทษใน 4 รายการที่ไปออก ผมก็บอกว่าไม่พอ”

นัดไกล่เกลี่ยอีกรอบ 19 ก.ค.
ทนายประมาณ : “กำลังนัดไกล่เกลี่ยไปวันที่ 19 ก.ค. อีกวันนึง เผื่อว่าจะไกล่เกลี่ยลงตัวได้ คือปกติผมเองเรื่องหนี้ 1.4 ล้านเนี่ย อู้หู ไกล่เกลี่ยง่ายจะตาย แต่ที่มันไกล่เกลี่ยไม่ได้เพราะคุณไปถล่มครอบครัวเขา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถามว่า 4 รายการเขาได้เอ่ยชื่อไหม ไม่ใช่แค่ 4 รายการนะ คุณไปดูสิ ทุกสื่อ ทุกสำนักมีหมด เขาก็เอ่ยชื่อ ป.ปลา ไง พี่ป.ปลา เอาเงินมาคืนหนูเถอะค่ะ อย่าให้ชื่อเสียงเสียไปมากกว่านี้”

ทีมทนาย : “จริงๆ ในแง่กฎหมายคดีหมิ่นประมาทการเอ่ยชื่อหรือไม่เอ่ยชื่อมันไม่สำคัญขนาดนั้น เขาดูว่าบุคคลที่สามฟังแล้วรู้ไหมว่าคุณหมายถึงใคร ถ้าไปดูคอมเมนต์เยอะมากค่ะ รู้หมดค่ะ”

ไม่เรียกเงินหมิ่นประมาท ขอแค่แสดงความรับผิดชอบ บอกปู-หาญส์ยากยอมรับได้ง่ายๆ
ทนายประมาณ : “ไม่เรียกครับ คุณจะแสดงความรับผิดชอบยังไงแบบไหนบอกมา ณ วันนี้ใจของปูกับหาญคงยากที่จะให้เขายอมรับอะไรได้ง่ายๆ อาจต้องใช้เวลา เพราะที่ผ่านมา 21 วันมันทำลายจิตวิญญาณทั้งหมดเลยป่วยแล้วป่วยอีก น้องปูเขาก็ค่อนข้างเซนซิทีฟนะครับ จะมาโน้มน้าวให้ลูกความผมยอมตามที่เขาเสนอไม่ได้ เพราะที่เขาเสนอมันไม่พอ“

แจงอีกฝ่ายแถลงออกสื่อ ไม่ใช่วิสัยทวงหนี้ มีเงินแต่ไม่รีบจ่าย ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
ทนายประมาณ : “ถามว่าทำไมเพิ่งออกมาแถลง ก็รอวันที่ 4 ไงครับ เพราะถ้าแก้ข่าวแล้วไม่มีผู้สื่อข่าวมาเป็นกองทัพขนาดนี้ ผมว่าแก้ข่าวไปก็ไร้สาระ มันจำเป็นครับ เพราะเวลาเขาออกข่าวใส่ความเขาก็ผ่านพี่ๆ สื่อไปทางพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ผมก็จำเป็นต้องอาศัยพี่ๆ สื่อนี่แหละครับที่จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาพูด ไม่ใช่เรื่องจริง”

ทีมทนาย : “และทนายก็ต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงด้วย จริงๆ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น ทนายเองก็งงว่าเดี๋ยวนี้ทวงนี้มันเป็นกันแบบนี้ เพราะถ้าเป็นลูกหนี้ เจ้าหนี้กันปกติ เราก็จะส่งโนติสไป คงไม่ได้มานั่งแถลงข่าวให้คนทั้งประเทศรู้ อันนี้คือไม่ใช่วิถีปกติของการทวงหนี้และการที่คุณทวงหนี้แบบนี้มันเป็นการทวงหนี้โหดยิ่งกว่าคนที่ไปทวงหนี้แล้วทำลายบ้านคนอื่นอีก พอมาถึงตรงนี้ความเสียหายมันแทบจะประเมินไม่ได้แล้ว ว่าการกระทำของคุณมันทำให้เขาเสียหายขนาดไหน ถามว่าวันนี้มีเงินทำไมถึงไม่จ่าย ย้อนถามว่าถ้าคุณเป็นคนโดนคนทั้งประเทศด่าขนาดนี้ คุณมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องรีบจ่ายเงินก้อนนี้ อันนี้เป็นความในใจของเขา มันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว โดนซะขนาดนี้แล้ว”

ทนายประมาณ : “แล้วทนายเดชาที่มาถ่ายรูปคู่กับผม แล้วไปโพสต์ว่าทนายประมาณ ทนายรุ่นพี่ครับ ช่วยไปบอกลูกหนี้หน่อย มาจ่ายเงินลูกความผมหน่อยครับ ดูสิครับ ทำแบบนี้”

ทีมทนาย : “จริงๆ ถ้าเขาไม่มาออกสื่อ ถ้าเป็นกระบวนการคุยกันตั้งแต่แรก ทนายเจอกัน ส่งโนติสเรียกคุยกัน การจ่ายไม่ได้ยากเลย แต่วันนี้มันเกิดความเสียหายขึ้นมาระดับนี้ มันก็อาจจะยากขึ้น เพราะความเสียหายมันเพิ่มมากขึ้นแล้ว“

ทีมทนาย : “(แบบนี้เรียกว่าดื้อหนี้?) ถ้าเป็นคุณโดนแบบนี้จะเรียกว่าดื้อไหม เราทำอะไรได้บ้าง โดนขนาดนี้จะรีบจ่ายไหมคะ โดนจนไม่มีที่ยืน ถ้าเราเป็นคนโดนเราต้องทำยังไง”

ทนายประมาณ : “ถ้าเราเป็นคนธรรมดาไม่มีที่ยืนก็แย่แล้วครับ แต่นี่เขาเป็นดาราดัง เป็นรองนางสาวไทย”

ทีมทนาย : “คือถ้าเราจ่าย ใครๆ ก็ไปกดดันผ่านสื่อ ทำลายชื่อเสียงให้เอาเงินมาจ่ายเร็วๆ แบบนี้มันไม่ถูกต้อง”

ปู : “เมื่อกี้เขาอยากให้เราจ่ายแล้วจบ แต่ในสิ่งที่เขาทำกับเรา ไปออกรายการด่าปู ด่าลูกปู ด่าครอบครัวปู มันจะจบยังไงคะ

ขณะที่ ทนายเดชา และลูกหมี ก็ได้ออกมาเปิดใจอีกครั้ง เผยยอมให้ปูจ่ายที่ 1.4 ล้าน แต่ต้องจ่ายทั้งหมดในรอบเดียว แต่คู่กรณีไม่สะดวกจ่ายแล้ว ประสงค์ดำเนินคดี ข้อหาหมิ่นประมาท บอกก็ไปสู้กันในศาล

ทนายเดชา : “เจรจาหนี้เขาอยากจะขอลดหนี้เหลือประมาณ 1.4 ล้าน ทางนี้ก็รับเงื่อนไขถ้าลดหนี้ เขาต้องจ่ายทีเดียวเลย เขาก็ยังไม่สะดวกจ่าย เงื่อนไขที่สองเขามีความประสงค์จะดำเนินคดีกับลูกความผม ลูกหมี ว่าไปหมิ่นประมาทออกทีวีเพราะฉะนั้นก็ให้เขาดำเนินคดีไป เราก็ไปสู้กันในศาล เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ยังไม่จบ อาจจะมีการนัดมาเจรจากันใหม่หรือไม่อย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง ประมาณอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ทางนี้ก็พร้อมจะขึ้นศาล เขาจะแจ้งความดำเนินคดีกับลูกหมี ข้อหาหมิ่นประมาท ทางนี้ไม่มีปัญหาก็ไปสู้กันในศาล อันไหนเราทำผิดเราก็ยอมรับผิดแต่อันไหนถ้าคุณทำผิด คุณเป็นหนี้คุณไม่ได้ชำระคุณก็ต้องมีหน้าที่ชำระแค่นั้นเอง ก็ต้องว่ากันไปคนละคดี”

ลูกหมี : “พอเรายื่นข้อเสนอให้เต็มที่แล้วอยู่ที่ 1.4 ล้าน แต่พี่เขาก็บอกว่ายังไม่สะดวกที่จะจ่าย ก็เลยเป็นการเจรจาที่ไม่สำเร็จ”
ทนายเดชา : “วันนี้ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ สรุปง่ายๆ เขาบอกว่าหนี้ที่ต้องใช้ 1.4 ล้าน เขามีตังค์จ่าย แต่เขาไม่สะดวกจ่าย แต่เขาบอกว่าเราไปทำชื่อเสียงเขาเสียหาย ออกทีวีออกสื่อ ทำให้เขาเสียหายตรงนี้มันมากกว่านี่คือเหตุผลของเขาที่บอกไม่พร้อมจ่ายเพราะว่าลูกหมีไปออกทีวีให้สัมภาษณ์นักข่าว ทำให้เขาเสียหาย”

ลูกหมี : “สถานการณ์ก็ไม่ตึงเครียดค่ะ เป็นเรื่องเดิมๆ เดี๋ยวต้องเริ่มเจรจาใหม่ เริ่มใหม่หมดเลย”

ทนายเดชา : “มันก็มองได้สองอย่าง มองเป็นข้ออ้างเพื่อไม่จ่ายก็ได้ ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายก็ได้ แต่ผมก็คุยกับท่านผู้กำกับว่าคดีเป็นหนี้แจ้งความก็จ่ายไป ส่วนจะดำเนินคดีลูกความผมกี่คดีก็ตามสบายเลยเต็มที่ ก็ไปสู้กัน จริงๆ มันคนละประเด็นคนละการกระทำ แต่วันนี้เขาบอกว่าเขาไม่จ่ายเพราะเราไปสัมภาษณ์สื่อทำให้เขาเสียหาย ก็ว่ากันไปไม่เป็นไร ไปสู้คดีกัน แต่จริงๆ อยากให้แยกกัน มันคนละเรื่อง เป็นหนี้กับหมิ่นประมาทมันคนละอย่างกัน
ลูกหมี : “ไม่ได้กังวลใจเรื่องถูกฟ้องอะไรค่ะ มันก็เป็นความคิดของทางพี่เขา ลูกหมีไม่ทราบว่าเขาจะไปรู้สึกตรงไหน”

ทนายเดชา : “อีก 2 สัปดาห์ไกล่เกลี่ยได้ไหม มันพูดยาก เพราะว่ามันจะจบคือเขาต้องใช้หนี้ก่อน ถ้าเขาใช้หนี้ เราทำความเสียหายให้เขา ให้เขาไปฟ้องศาล เราแพ้เราก็ใช้ ไม่มีก็ขายบ้านไปแค่นั้นเอง”

ตกลงไม่ได้ ก็เรียก 2 ล้านเหมือนเดิม ไม่ลดให้
ลูกหมี : “ถามว่าหวังจะได้เงินไหม หวังสิคะ ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ที่ 2 ล้าน เราเต็มที่ให้แล้ว 1.4 ล้าน พี่เขายังไม่สะดวก

ทนายเดชา : “ถ้ายังตกลงกันไม่ได้ ก็เต็มที่ 2 ล้าน เราไม่ลดนะ ดอกเบี้ยก็ตามกฎหมายร้อยละ 5 ที่เขาฟ้องหมิ่นก็แล้วแต่เขาเขาเสียหายเท่าไหร่ มีทนายพี่ประมาณดูแลอยู่แล้ว ทางเราก็สู้ไปว่าหมิ่นไม่หมิ่นยังไง ก็ไปสู้กัน”

ยันเกมไม่พลิก
ทนายเดชา : “ไม่มีอะไรพลิกเลย เหมือนเดิม เราก็ยังคงยืนยันดำเนินคดีเขาเหมือนเดิม พ.ร.บ.เช็คเหมือนเดิม ไม่มีอะไรพลิกครับส่วนพี่ประมาณจะมาชี้แจงว่ามีการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ก็เป็นความเห็นของพี่เขา เราก็เคารพ”

ลูกหมี : “ตอนเจรจาถามว่าได้คุยกับพี่ปูไหม ก็เป็นการพูดคุยกันปรับความเข้าใจกัน พี่เขาก็พูดเหตุผลมาเยอะ ลูกหมีก็รับฟัง”

ทนายเดชา : “ในระหว่างเจรจาลูกหมีก็ขอโทษเขานะ อะไรที่เราดูแล้วไม่เหมาะสมเราก็ขอโทษเขาแล้ว แต่เขายังโกรธอยู่

ลูกหมี : “ไม่ได้ผิดหวังอะไรนะคะ ถือว่ามันเป็นความคิดของพี่เขา ก็ให้โอกาสต่างคนต่างคิด แต่ว่ามันก็ใช้ระยะเวลาที่ สน.นี้ยาวนานมาก”











กำลังโหลดความคิดเห็น