xs
xsm
sm
md
lg

"ไบรท์ วรวิทย์" เปิดไทม์ไลน์ละเอียดยิบกรณีฟ้อง "นัท เลอทาน่า" ละเมิดลิขสิทธิ์ ยันอีกฝ่ายพูดความจริงไม่หมด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจอยู่ในตอนนี้กรณี "นัท เลอทาน่า" หรือนายกิตติพันธ์ ลี้ศัตรูพ่าย เจ้าของโรงแรมและร้านอาหารย่านบางพลี ได้มีการโพสต์คลิปเล่าเรื่องที่ตนเองถูกนักร้อง-นักแต่งเพลง "ไบรท์ วรวิทย์ นิมมานศิริกุล" เรียกเก็บที่ตนเองละเมิดลิขสิทธิ์เพลง "ถอนตัว" หลายแสนบาท

ก่อนที่อีกฝ่ายจะกลับมาอีกครั้งพร้อมเรียกขอเงินจำนวน 1 ล้านบาทโดยอ้างว่าตนเองมีการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงอีกจำนวน 10 เพลงซึ่งส่วนใหญ่แต่งโดย "นก ฉัตรชัย ดุริยประณีต" ก่อนที่ทางด้านของนักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังสมาชิกวงเฉลียงจะมีการโพสต์ข้อความระบายความในใจถึงเหตุที่ต้องฟ้องคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์ตามที่ทีมข่าวบันเทิงเสนอข่าวไปนั้น

(อ่านข่าว : "นก ฉัตรชัย" ระบายความในใจ หลัง "นัท เลอทาน่า" โอดถูกฟ้อง 1 ล้านโพสต์คลิปเล่นดนตรีสด)

อย่างไรก็ตามล่าสุดดูเหมือนเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ เสียแล้วเมื่อทาง "ไบรท์ วรวิทย์ นิมมานศิริกุล" ได้มีการโพสต์ข้อความร่ายยาวผ่านเฟซบุ๊กไล่ไทม์ไลน์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นโดยระบุว่า...

เรียน เพื่อนพี่น้องสื่อมวลชนที่เคารพรักนับถือ เพื่อนพี่น้องในวงการเพลงและทุกๆคน คดีละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ทนได้ทนไป คำร้อง ฉัตรชัย ดุริยประณีต นก เฉลียง ทำนอง พี่ปื๊ด innocent

ไทม์ไลน์ 1.ไบรท์ วรวิทย์ ซึ่งเป็นตัวแทนของพี่ๆ ผู้ประพันธ์เพลง ในการดูแลการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงดังกล่าวอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากที่ทนายได้เรียกให้เข้าไปพบเพื่อตรวจสอบดูหลักฐานการละเมิดลิขสิทธิ์ ที่ทนายได้พบ ผมจึงทำการตรวจสอบและสอบถามไปยังผู้ประพันธ์เพลงท่านต่างๆ พบว่า ผู้ประพันธ์เพลงไม่เคยได้รับการติดต่อขออนุญาตใช้เพลง

ผมจึงเริ่มติดต่อแจ้งกับทางโรงแรม ที่ละเมิดลิขสิทธิ์เพลง วันที่ 4 มกราคม 2567 ถึงการละเมิดลิขสิทธิ์เพลง10เพลง ต่อมาในเดือนเดียวกันระหว่างนั้นมีการเจรจากัน โดยได้มีตัวแทนจากบริษัทที่เป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับช่องออนไลน์การเผยแพร่ให้กับทางโรงแรม มาช่วยเจรจา ขอต่อรองราคา สรุปตัวเลขกันที่ 350,000 บาท ต่อ 10 เพลง เฉลี่ยประมาณเพลงละ 35,000 บาท ผมจึงได้ไปแจ้งขออนุมัติจากผู้ประพันธ์

ผู้ประพันธ์ บอกว่า โดยปรกติ การขออนุญาต ทำซ้ำดัดแปลง หนึ่งต้นแบบ จะคิดราคาประมาณ 4-5หมื่นบาท ราคา เฉลี่ย 35,000 บาท ต่อเพลงนั้น นับว่าต่ำกว่าราคา ขอซื้อลิขสิทธิ์เพลงโดยปรกติอีก แต่ก็ให้สิทธิ์ พิจารณาตามที่ไบรท์ เห็นสมควร ผมจึงนำราคาที่ได้ช่วยขออนุมัติ ในราคาที่ต่ำกว่าการซื้อลิขสิทธิ์เพลงปรกติ รวมสิบเพลง 350,000 บาท ไปแจ้งให้กับทางทีมโรงแรม ว่าเหมาราคาสิบเพลงตามตกลงร่วมกัน แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับจากทางโรงแรมแต่อย่างใด


2.จากนั้นทนายจึงส่งโนติสแจ้งให้ชำระค่าละเมิดลิขสิทธิ์ในเพลง ทนได้ทนไป ครั้งที่ 1 วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ไปที่บ้านเจ้าของโรงแรม แต่เขาก็เพิกเฉย ไม่มีการติดต่อกลับใดๆ

3.ทนายจึงส่งโนติสแจ้งให้ชำระค่าละเมิดลิขสิทธิ์ในเพลงทนได้ทนไป และอีก9เพลง รวมเป็น10เพลง โดยส่งวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 รอบนี้ส่งไปที่บ้านของเจ้าของโรงแรม และส่งไปที่บริษัทของโรงแรมด้วย จากนั้นเจ้าของโรงแรม ได้ให้ตัวแทนฝ่ายกฎหมาย ติดต่อกลับมาทางทนายของพี่นก ในวันที่ 19-23 กุมภาพันธ์ 2567 ทนายของพี่นกแจ้งตัวเลขตามเดิม คือ 350,000 บาท ต่อ 10 เพลง ทางตัวแทนฝ่ายกฎหมายของโรงแรม ได้ขอเวลาไปแจ้งกับเจ้าของโรงแรม จนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ติดต่อไปอีกครั้ง แต่ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด

4.ทางทนาย จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ วันที่ 5 มีนาคม 2567 โดยแจ้งความเพียงแค่เพลง ทนได้ทนไปก่อน(เพราะหวังจะให้โอกาสเจ้าของโรงแรม ได้ติดต่อมาคุยกันให้จบ ถ้าหลังออกหมายเรียกแล้วคุยกับเจ้าของโรงแรม ไม่ได้ หรือไม่ชำระ จึงจะไปแจ้งความเพลงที่เหลือ 9 เพลงตามไป)

5.ถัดมาเพียง1-2วันตำรวจได้ออกหมายเรียก นัดเจ้าของโรงแรม มาพบตำรวจ

6.ในวันนัด เจ้าของโรงแรม ได้ไปพบตำรวจเพื่อทราบข้อกล่าวหา และตำรวจได้บอกว่าให้ติดต่อกลับไปยังตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อชำระค่าละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย เพราะหลักฐานพยานที่ตำรวจตรวจสอบข้อมูลแล้ว มีการละเมิดลิขสิทธิ์จริงๆ

7.ต่อมาหลังจากได้เข้าพบตำรวจแล้ว คนของเจ้าของโรงแรม ได้โทรมาในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงอีกครั้ง ระหว่างคุยสักพักก็เปลี่ยนเป็นเจ้าของโรงแรมเข้ามาคุยสายแทน พูดประมาณว่า ผมไม่ได้บอกว่าผมจะจ่าย 350,000บาท ผมจะคุยเป็นครั้งสุดท้าย ผมจ่ายไหวที่เพลงละหนึ่งหมื่นบาท 10 เพลง 1 แสนบาท จึงตกลงกันไม่ได้ เพราะเป็นราคาที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเป็นกรณีละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ไม่ใช่การขออนุญาตใช้เพลง จึงแจ้งกับเจ้าของโรงแรมว่า อย่างนั้นคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการดำเนินการทางกฏหมายขั้นต่อไปนะครับ


8.หลังจากนั้น ทนายยังคงไปตรวจพบเจอคลิปเพลงบางเพลงใน10เพลงดังกล่าวที่ได้แจ้งไป ยังคงค้างอยู่บ้างในบางแพลตฟอร์ม เพราะทางโรงแรม ลงหลายแพลตฟอร์ม จึงไม่ได้ลบทั้งหมดอย่างที่ได้พูดไว้ในคลิปหลายๆคลิปที่ออกมาพูดเรื่องคดี ทนได้ทนไป เพราะทนายตรวจเจออยู่จริงๆ ในบางเพลง

และที่แน่ๆคือคลิปสตรีมไลฟ์สดร้องเพลงที่เผยแพร่ในยูทูป เกือบทุก EP จะมีโลโก้ เครื่องหมายการค้า ของโรงแรม เท่าที่ตรวจดู เจ้าของโรงแรม แทบไม่ได้ลบเลย ซึ่งคลิปเหล่านี้ได้สร้างผลประโยชน์รอบด้านให้กับโรงแรม เจ้าของโรงแรม อาจจะเข้าใจว่าทางเราไม่ได้มาดูตรงนี้ เพราะมันเป็นคลิปเพลงรวม คลิปยาวเป็นชั่วโมงและเยอะมาก เลยอาจจะนึกไม่ถึงว่าเราจะตรวจตรงนี้ด้วย ระหว่างที่ตรวจดู ทนายก็เจอเพิ่มขึ้นๆ จึงทยอยเก็บไปด้วยตามที่เจอ

9.ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ทนายได้ยื่นฟ้องในเพลงทนได้ทนไป 1 เพลงก่อน เพราะถ้ายื่นฟ้องพร้อมกันหมดทุกคดี ทุกเพลง อาจจะสร้างความวุ่นวายให้ทุกฝ่ายได้ อีกทั้งจะโดนมองว่าตั้งใจมาค้าความ เลยยื่นฟ้องแค่1เพลงและการกระทำความผิดน้อยกรรมก่อน เพราะยังมีความคิดว่า การยื่นฟ้องรอบนี้จะเป็นการทำให้เจ้าของโรงแรม ได้มาคุยกับทางเรา เพราะก่อนหน้านั้นทางผมพยามติดต่ออย่างเต็มที่แต่ติดต่อไม่ได้ โดนบล็อค ไม่รับสาย ให้ทางทนายติดต่อก็ไม่สำเร็จ ติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง มีบางครั้งที่ทนายติดต่อไป แต่ก็ยังคงไม่ได้คำตอบอีกเช่นเคย เลยคิดว่าการฟ้องร้องครั้งนี้ หมายศาลจะทำให้เจ้าของโรงแรม ได้เข้ามาเจรจาให้เรียบร้อย

ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี เป็นเพียงการปกป้องสิทธิ์ของผู้ประพันธ์เพลงเท่านั้น เพราะถ้าหากตั้งใจดำเนินคดีอย่างจริงจัง สามารถฟ้องทีเดียวครบ10เพลงได้เลย แถมเพลงที่เหลือกรรมความผิดเยอะมากๆด้วย แต่เราไม่ทำเช่นนั้น เพราะหวังว่าถ้ามาคุยเพลงที่ฟ้องไปก่อน1เพลงได้จบ ก็จะได้เจรจาจ่ายในเพลงที่เหลือให้จบทั้งหมด ทางผมคิดแบบนี้ ไม่งั้นคงไม่พยายามติดตามเจรจามาอย่างยาวนานตั้ง 5 เดือนกว่า

แต่ตอนนี้ทางเจ้าของโรงแรม มีการอัดคลิปพูดถึงคดี เพลง ทนได้ทนไป และเพลงอื่นๆ ทำให้ผู้ประพันธ์เพลงและผมผู้รับมอบอำนาจ ถูกว่ากล่าวเสียๆหายๆไปในวงกว้างมากๆ 


ในเวลานี้ การจะคิดราคาเท่าที่ยอมกันในตอนแรกเป็นการไม่สมควรแล้ว เพราะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นในขั้นตอนต่างๆมากมาย ค่าทนาย ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินงานไปมากพอสมควร


อีกทั้งการอัดคลิปพูดจาบิดเบือนไม่พูดความจริงทั้งหมด ให้ครบถ้วน การพูดสร้างกระแสของเจ้าของโรงแรม ทำให้คนในสังคมวงกว้าง มีความรู้สึกดูหมิ่น เกลียดชัง ผู้ประพันธ์เพลงและผู้รับมอบอำนาจ รวมถึงในคลิปของเจ้าของโรงแรม ได้มีการนำสำเนาคำฟ้องมาแสดงเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลผู้เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง

ทางทีมผู้ประพันธ์เพลง จึงจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ์และศักดิ์ศรีของทุกคนในคดี ทนได้ทนไป ที่ถูกกล่าวถึงครับ

สำหรับ "ไบรท์ วรวิทย์" โปรดิวเซอร์ นักร้อง นักแต่งเพลง เคยชนะคดีความฟ้องร้องกับ "เบิร์ดกะฮาร์ท" กรณีละเมิดลิขสิทธิ์เพลง "ถอนตัว" ที่เจ้าตัวเป็นเจ้าของสิทธิ์มาแล้ว





กำลังโหลดความคิดเห็น