ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ของวง “บอดี้สแลม” THE CONCERT APPLICATION PRESENTS EVERYBODYSLAM 2024 THE SUNNY SIDE UP LIVE @IMPACT ARENA ที่งานนี้ก็สร้างความประทับใจกับเหล่าแฟนคลับที่ไปชมคอนเสิร์ตเป็นอย่างมาก เพราะสนุกจัดเต็มทั้งแสงสีเสียง ตลอดแขกรับเชิญที่มีเพิ่มความปัง
แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังกว่าจะมาถึงคอนเสิร์ตวันนี้ได้ตัวพ่ออย่าง “ตูน บอดี้สแลม” ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นก่อนหน้านั้น ด้วยการเข้ารับการผ่าตัดหน้าลำคอเพื่อเปลี่ยนหมอนหมอนรองกระดูกและใส่หมอนรองกระดูกเทียม ซึ่ง “ตูน” ก็ได้ออกมาโพสต์ภาพร่ายยาวให้ฟังว่าหากมีอาการแทรกซ้อน เส้นเสียงอาจเกิดปัญหาได้ในระยะยาวหรือถาวร
"ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้หยุดพักจากการทัวร์คอนเสิร์ตเพื่อซ้อมและเตรียมตัวเตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุดสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ ซึ่งเป็นการหยุดพักที่เกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้วของพวกเราก่อนการขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ในทุกๆครั้งตลอดการเดินทาง22ปีของบอดี้สแลม
แต่นอกจากการหยุดเพื่อพักและซักซ้อมเตรียมตัวเพื่อโชว์ที่เราอยากทำออกมาให้ดีที่สุดแล้วนั้น ส่วนตัวผมเองก็ถือโอกาสในการ "ซ่อม" ร่างกายที่ใช้มาอย่างหนักหน่วงตลอดเวลาอันยาวนาน
หลายคนที่ไปดูคอนเสิร์ตใหญ่คงสังเกตเห็นรอยแผลที่บริเวณคอด้านหน้าของผมที่เป็นรอยยาวสักประมาณนิ้วครึ่ง ใช่ครับ ผมเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง
แต่ในครั้งนี้เป็นการผ่าตัดจากทางด้านหน้าลำคอเพื่อเปลี่ยนหมอนรองกระดูกทั้งสองข้อที่มีปัญหาออกแล้วแทนที่ด้วยหมอนรองกระดูกเทียม แล้วยึดติดกระดูกทั้งสามข้อที่เกี่ยวข้องให้เป็นเหมือนกระดูกข้อเดียว ที่อาจมีการจำกัดองศาของการก้มและเงยของคอเมื่อผ่าตัดเสร็จ
สำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ต้องเปลี่ยนหมอนรองกระดูกแบบผม คงไม่คิดว่ามันเป็นการผ่าตัดที่ใหญ่และเสี่ยงอะไรมากมาย แต่สำหรับผมที่ชอบร้องเพลงและยังคงร้องเพลงเพื่อความสุขอยู่ในทุกเมื่อเชื่อวัน
การผ่าตัดลักษณะนี้จะมีความเสี่ยงกับเส้นเสียงบ้างไม่มากก็น้อย ที่อาจทำให้เกิดเสียงเปลี่ยนหรือเสียงแหบทั้งชั่วคราวและแบบถาวร ซึ่งเราก็ได้แต่หวังใจว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดคงจะไม่เกิดขึ้นกับเรา
แต่สุดท้ายต้องขอบพระคุณคุณหมอและแพทย์ผู้ช่วย และพยาบาลทุกๆท่าน ที่ช่วยทำให้การผ่าตัดครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีและไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนใดๆ ที่ทำให้ผมได้พร้อมที่สุดสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ที่จะเกิดขึ้นหลังจากผ่าตัดเสร็จประมาณเกือบสองเดือน
ตลอดเวลาการพักฟื้นและเตรียมตัว สิ่งที่ผมทำได้ก็คือการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตและเริ่มทำให้ตัวเองคุ้นชินกับการร้องเพลง กับอวัยวะเทียมที่อยู่ในลำคอ ที่ไม่มากก็น้อยในความรู้สึกของผมมันก็คือการ "ฝึก" การใช้เสียงและการร้องเพลงใหม่นั่นเอง
ทุกครั้งที่เปล่งเสียงออกมา ผมจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในลำคอของผม ที่ไม่เหมือนเดิมที่เคยใช้เสียงมาตลอดหลายปี
ในใจก็คิดกังวลต่างๆนานากลัวว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองได้ไม่ดีในคอนเสิร์ตใหญ่ที่จะถึง ที่มีคนตั้งใจมาเชียร์หลายหมื่นคนตลอดทั้งสามรอบ แต่อีกใจก็ "สู้" และมั่นใจว่าตัวเองจะหายเป็นปกติและทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดอีกครั้ง
ฉากจบของเรื่องราวนี้ หลายๆคนคงได้อยู่เป็นประจักษ์กับสายตาตัวเองเมื่อเกือบสิบวันที่ผ่านมา บนเวที ผ่านทางคอนเสิร์ตใหญ่ของพวกเราทั้งสามรอบ"
ขอบคุณทุกๆคนอีกครั้ง ที่ยังคงมาให้กำลังใจกันในทุกๆครั้งที่เรามีคอนเสิร์ตใหญ่ มาร่วมเขียนประสบการณ์พิเศษๆให้เกิดขึ้นและจดจำในหัวใจไปพร้อมๆกัน หวังว่าครั้งนี้ทุกๆคนคงจะพกความสุข พกรอยยิ้มและแรงบันดาลใจดีๆกลับบ้านไปได้บ้างไม่มากก็น้อย
และส่วนตัวต้องขอบคุณสำหรับโอกาสที่ทุกคนมอบให้ผม ให้ได้ทำหน้าที่ “ร้องเพลง” บนเวทีตรงนั้นอีกครั้ง เพราะข้างบนนั้นมันคือที่ๆผมมี “ความสุข” และมี “ความหมาย” ที่สุด ขอบคุณอีกครั้งที่ให้เกียรตินี้กับผมตลอดมานะครับ
จนกว่าจะพบกันใหม่ ใช้ชีวิตให้สนุกนะครับ ด้วยรัก , ตูน ( 2 ก.ค.2567 ) ปล.สามารถติดตามไดอารี่เบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องราวนี้ได้ทางช่อง Youtube ของครอบครัวของเราที่ช่อง “KTTV Journey” เวลา 6โมงเย็นวันนี้ พร้อมๆกันนะครับ"