“ต้อม รชนีกร” ร่ำไห้ เผยหลังศัลยกรรม หน้าพิการผิดรูป กรามพังข้าวเหนียวยังเคี้ยวไม่ได้ เสี่ยงกรามหัก และเสี่ยงมะเร็ง ต้องทำผมปิดหน้า ฟ้องสถาบันความงาม 50 ล้านผู้เสียหายโผล่เพิ่ม
เป็นประเด็นกันมายาวสำหรับ “ต้อม รชนีกร พันธุ์มณี”กับสถาบันความงามแห่งหนึ่ง ที่ทำศัลยกรรมให้กับเจ้าตัว และได้มีการเผยแพร่ภาพของต้อมขณะอยู่ในห้องผ่าตัด นอนสลบใส่ท่อช่วยหายใจราวกับคนตาย ส่งผลให้ต้อมไม่พอใจ อ้างไม่เป็นไปตามข้อตกลง เพราะภาพทุกอย่างต้องได้รับอนุญาตจากตนก่อนเผยแพร่
ล่าสุดวันนี้ (1 ก.ค.67) ต้อม รชนีกร พร้อมที่ปรึกษากฎหมาย น.ส.กันต์กนิษฐ์ โอฬาฬาร เลยได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ฟ้องสถาบันความและแพทย์ 50 ล้าน โดยได้เปิดใจว่า “ในการเผยแพร่ภาพ ตามที่ตกลงกันคือต้องรอให้สวยก่อนค่อยทำข่าว แต่ที่ยอมให้ถ่ายคลิปวันเกิด คือเขาเอาเค้กมาเบิร์ธเดย์ ฉลองวันเกิด เราให้ถ่ายเพราะคิดว่าเขาคงเอาไปใช้รวมตอนสวยแล้ว แต่เขาเอาไปออกเลย ไม่เป็นไปตามข้อตกลง
และตอนนั้นมีกระแสว่าหน้าหมือน แอนนา ทีวีพูล เขาก็มีการพูดว่า ต้อมใช้ชีวิตลำบากมาก ไม่งั้นจะให้ผ่าหน้าเหรอ ต้องมีการติดสติกเกอร์ จากนั้นเราก็รอว่าเมื่อไหร่เขามาคุย แต่เขาก็ไม่ได้มาคุยอะไรเลย มีการโทร.หาครั้งเดียว วันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งไม่ได้คุยกับเราด้วย คุยกับแฟนเรา พอวันที่ 4 มกราคม จะต้องมีการเช็กอัปกับคุณหมอ แต่เพราะเขาเอาภาพไปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต เราก็เลยเขียนจดหมาย ขอให้บรรเทาเรื่องรูปตกแต่งบิดเบือนจากความเป็นจริง”
จากนั้นก็ได้มีการเปิดคลิปสนทนาระหว่างสถาบันความงามกับแฟนของต้อม เรื่องการแต่งภาพสิวฝ้า ทำให้เสียงานสินค้าด้านสกินที่รับไว้ ก่อนเจ้าตัวจะเผยต่อทั้งน้ำตาว่า “รู้สึกรับไม่ได้เลย กับการเผยแพร่ภาพในห้องผ่าตัด (เปิดภาพนอนต่อท่ออ๊อกซิเจน) แบบนี้รับไม่ได้ (ร้องไห้) ก่อนหน้านี้คิดว่าจะไม่เอาภาพพวกนี้ออก เพราะรับมันไม่ได้”
ทนาย : “ภาพนี้ออกไม่ได้ผิดกฎหมาย PDPA ผิด กฎหมายละเมิดสิทธิผู้ป่วย”
ต้อม : “หลังผ่าตัด หน้าพิการผิดรูป ต้องทำผมปิดตลอด กรามพังเคี้ยวอาหารแรงๆ ไม่ได้ตลอดชีวิต หากกระทบกระเทือนนิดเดียวมีสิทธิ์กรามหัก และเสี่ยงมะเร็งมีการเจ็บป่วยแผลทางด้านร่างกายที่ทุกคนไม่ได้เห็น ทำแล้วฟันเราล้ม ซึ่งหมอฟันบอกว่าอันตรายนะ คุณมีฟันกราม ฟันคุดอยู่ข้างใน นอนอยู่ ทำไมถึงไม่ถอนฟันคุดซีกนั้นออกก่อน เพราะในอนาคตอาจจะเกิดมะเร็งได้ และในส่วนของกรามที่ตัดออกไป มันเหลืออยู่น้อยมาก อยู่ในจุดอันตราย ถ้าเข้าฉากตบ แล้วตบพลาด สามารถกรามหักได้เลย
ถ้าอนาคตข้างหน้าฟันซีกนี้เป็นมะเร็ง ก็ต้องเอาออก และถ้าได้หมอไม่เก่ง กรามอาจจะร้าวหรือแตกได้ นี่คือหมอบอกมา ตอนนี้ข้าวเหนียวกินไม่ได้ กระดูกอ่อนแทะเอ็นก็กินไม่ได้ แต่เขาไปพูดสนุกปากว่าอาหารคนมีเยอะแยะ คือเห็นความเจ็บป่วยของคนสนุกอย่างไร คนธรรมดากินข้าวกัดโดนกรวดแค่เจ็บ แต่สำหรับต้อมสามารถหักได้ ไปปรึกษาคุณหมอ เขาก็บอกว่าการเคี้ยวข้าวจะไม่กลับมาเป็นปกติตลอดชีวิต
ส่วนผลกระทบด้านงานแสดง คือความพิการของหน้า ส่งผลคือทำงานไม่ได้ ละครจอใหญ่แล้วหน้าด้านข้างเราไม่สมมาตร มันพิการ หน้าผิดรูป ไม่สมประกอบ ออกรายการต้องทำผมปิดไว้ แล้วเราเป็นนางรำก็รวบผมไม่ได้ถ้ารำต้องเอาอะไรมาปิด ซึ่งในการเล่นละคร จะทำผมทรงนี้ตลอดไม่ไดั ละครมันเลือกไม่ได้ จะบอกใครว่าพิการได้เหรอ ตอนนี้เราสวยด้านหน้า แต่ด้านข้างมีความโค้งพิการ ไปปรึกษาหมอด้านกรามกะโหลก เขาก็ดูว่าจะเสริมกรามเพิ่ม แต่จะปกติไหมไม่แน่ใจ ก็เป็นความพิการที่เกิดขึ้น
ในส่วนของสัญญาทนายได้กล่าวว่า : “ก่อนเอารูปอะไรไปลง ต้องเอามาให้ต้อมดูก่อน ไม่ใช่อยากเอารูปอะไรไปลงก็ลงได้เลย ในส่วนของความผิดพลาดทางการศัลยกรรม เราฟ้องเป็นคดีละเมิด แผนกคดีผู้บริโภค จำนวนทุนทรัพย์ 50 ล้านบาท ฟ้องทั้งโรงพยาบาลและคุณหมอที่เป็นคนผ่าตัด และเรื่องรูปในห้องผ่าตัด จะมาอ้างสัญญารีวิวไม่ได้ การที่คลินิกจะเอารูปไปโฆษณา ต้องมีการขออนุญาตขอโฆษณาก่อน ตอนนี้เดินหน้าฟ้องคดี 50 ล้านไปแล้ว ส่วนการเอารูปขณะผ่าตัดมาเผยแพร่กำลังดำเนินการ แต่ยังไม่คอนเฟิร์มว่าจะฟ้องแค่ 2 ข้อนี้ มีมากกว่านั้น แต่ขอเฉลยแค่นี้ศาลนัดแรก 19 สิงหาคมนี้ ที่ศาลนนทบุรี ซึ่งเขาก็แจ้งว่าเขาได้รับหมายแล้ว”
ทางโรงพยาบาลคู่กรณีออกมาเคลื่อนไหว บอกมีตังค์จ่าย 50 ล้าน แต่ถ้าฟ้องบ้าง “ต้อม” มีไหม
ต้อม : “ได้เห็นค่ะ ไม่รู้จะพูดยังไง เราอาจจะไม่มีเงินแต่เรามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความจริง ความจริงพูดกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิม ความจริงที่คุณกระทำ ทำให้มันเกิดปัญหากับชีวิตเรา ถ้าตอนนั้นมีการเจรจากันด้วยดี ก็คงไม่มีวันนี้ สิ่งที่เขาพูดมันจริงแค่ 10-20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด คนมีเงินเท่านั้นเหรอจะชนะ ความยุติธรรมต้องเกิด เราไม่ได้หิวเงินหิวแสง อยู่มา 33 ปี ไม่จำเป็นต้องอยากได้แสง และถึงไม่ได้รวยมากมาย แต่เกิดมาไม่เคยลำบาก แต่เขามาพูดตีค่าให้ดูต่ำขนาดนั้น จากนี้ไปคงไม่น่าจะยอมได้แล้ว จากนี้ก็เจอกันที่ศาลค่ะ ไม่กังวล หลักฐานเราก็มีตามที่เรามี การใช้ชีวิตลำบากยังไงบ้าง”
และงานนี้ขณะที่กำลังถ่ายรูปหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่เข้ามากลางวงสื่อ พร้อมเผยว่าตนเป็นเหยื่ออีกรายของสถาบันความงามแห่งนี้ วันนี้ได้เห็นไลฟ์ของ ต้อม รชนีกร เลยอยากมาขอความช่วยเหลือบ้าง เพราะแจ้งความไปแล้วแต่เรื่องไม่คืบ โดยตนได้ศัลยกรรมหน้าอกไปเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 62 แล้วรู้สึกว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น เลยสอบถามไปทางสถาบันความงาม ซึ่งได้คำตอบว่าต้องรอให้เข้าที่ก่อน 1 ปี แต่พอครบ 1 ปีตามที่อ้าง ก็ยังมีความผิดปกติเกิดขึ้นอยู่ พอติดต่อไปก็ไม่มีการรับผิดชอบ เลยไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ในปี 64 จนวันนี้ก็ยังไม่ได้รับการเยียวยา