เป็นที่รู้กันดีว่ากว่าที่นักร้องสาวไทยอย่าง "ลิซ่า" จะได้รับการยอมรับในฐานะสมาชิกวงแบล็กพิ้งค์และก้าวขึ้นไปเป็นซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งของโลกนั้นตัวเธอเองต้องถูกด้อยค่าอย่างหนัก
โดยเฉพาะจากบรรดาคนเกาหลีเองที่มองว่าเธอเป็นคนไทย ถึงขนาดที่พากันส่งเสียงกดดันไปยังต้นสังกัดให้ไม่ยอมรับเธอซึ่งตอนนั้นมีสถานะเป็นเด็กฝึกมาเป็นส่วนหนึ่งของวงเสียด้วยซ้ำไป
เรื่องนี้ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะสังคมเกาหลีในอดีตต่างก็มองว่าคนประเทศอื่นๆ ยิ่งมาจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยแล้วยิ่งถูกเหยียดทั้งเรื่องของถึงความเป็นประเทศไม่พัฒนา หน้าตาผิวพรรณไม่ดี แม้แต่ศิลปินในบ้านตัวเองหากใครไม่หล่อ ไม่สวยก็ยากที่จะได้รับการยอมรับ ดังนั้นเราจึงเห็นคนที่หล่อสวยเพราะการทำศัลยกรรมเต็มไปหมด
การเป็นคนไทยเพียงหนึ่งเดียวในบรรดาสมาชิกเกาหลีอีก 3 คนจึงทำให้ลิซ่าต้องถูกกดดันอย่างหนักพร้อมกับข่าวคราวถึงความเป็นธรรมที่เธอไม่ได้รับออกมาอยู่บ่อยครั้ง ทั้งเรื่องมูลค่าสัญญา, ค่าตัว หรือแม้กระทั่งการไปออกรายการทีวีรับงานพรีเซ็นเตอร์ที่สมาชิกคนอื่นๆ ได้แต่รายการใหญ่ๆ แบรนด์ดีๆ ส่วนสาวไทยหนึ่งเดียวของเรามีแต่รายการเล็กๆ โหดๆ
แม้กระทั่งในช่วงที่แบล็กพิ้งค์เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา แต่แฟนคลับเกาหลีเองก็ยังคงไม่พยายามที่จะยอมรับตัวนักร้องสาวไทยคนนี้แต่อย่างใด
กลายเป็นว่ายิ่งดังในตลาดต่างประเทศมากเท่าไหร่ นักร้องสาวไทยก็ถูกจับผิดเพื่อด้อยค่ามากขึ้นเท่านั้น โดยครั้งหนึ่งเธอถูกแอนตี้แฟนพูดว่า "Lisa, can you teach me Japanese?" (ลิซ่า..สอนฉันพูดญี่ปุ่นหน่อย) ซึ่งฟังดูอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่แท้จริงแล้วมันซ่อนความเย้ยหยันเธออยู่
เนื่องจากในตอนนั้นที่ญี่ปุ่นเองนักร้องนักแต่งเพลงที่ชื่อว่า "โอริเบะ ริซะ" ที่ใช้ชื่อในวงการลิซ่าเหมือนกัน ประโยคดังกล่าวจึงเป็นการสื่อความหมายที่ว่าลิซ่าไทยไม่ได้เด่นดังอะไรมากมายถึงขนาดที่แฟนคลับเองยังจำสับสนกับลิซ่าที่เป็นชาวญี่ปุ่น ทั้งๆ ที่คนที่พูดนั้นต่างก็รู้ดีว่าเธอเป็นคนไทย
แน่นอนว่าประโยคดังกล่าวจึงถูกใส่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ROCKSTAR ซิงเกิ้ลแรกของเธอที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าทุกอย่างที่ปรากฏออกมานั้นนักร้องสาวไทยตั้งใจเพื่อที่จะลบตัวตนเดิมๆ โดยทำทุกอย่างที่บรรดาแอนตี้แฟนไม่ชอบ ไม่อยากเห็น ไม่ว่าจะเป็นคาแรกเตอร์ความเป็นสาวผิวสีแทนที่เปรี้ยวจี๊ด เนื้อหาของบทเพลง ภาพทั้งหลายในมิวสิควิดีโอ ที่ราวกับเป็นการประกาศให้บรรดาแฟนคลับที่เคยแอนตี้เธอได้เห็นว่านี่แหละคือตัวตนที่แท้จริงของฉัน ใครจะทำไม
ที่สำคัญจากนี้ไปเธอคือ "ลิซ่า ลลิษา" นักร้องสาวไทยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องมีนามสกุลเกาหลีอย่าง "แบล็กพิ้งค์" ห้อยท้ายอีกต่อไปแล้ว