“อาย วราไพรินทร์” หลุดพ้นข้อหาฉ้อโกง จัดการคอร์สอบรมและชักชวนทำธุรกิจส่งออก มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ด้าน “จ่าคิงส์” ยกมือไหว้ขอโทษจากใจอย่างลูกผู้ชาย ลั่นอีกฝ่ายบริสุทธิ์ รับผิดไม่ได้ดูหลักฐานจากทั้งสองฝ่ายให้ดี ยกเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ อายเสียใจถูกตราหน้ามิจฉาชีพ โกงเงิน ชื่อเสียงป่นปี้ไม่สามารถเรียกกลับคืนได้ แต่ต้องมูฟออน สงวนสิทธิ์ตอบจะฟ้องหรือไม่ฟ้องคนทำให้เสื่อมเสีย
จากกรณีข่าวใหญ่ “จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่”พาผู้เสียหายกว่า 20 คนเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 66 และวันที่ 12 ก.พ. 67 แจ้งความดำเนินคดีกับดาราสาว “อาย วนาไพรินทร์ ธนวริสพร” ข้อหาฉ้อโกงประชาชนด้วยการจัดคอร์สอบรม และชักชวนทำธุรกิจส่งสินค้าอุปโภคบริโภคไปวางจำหน่ายในห้างดังที่ดูไบ และประเทศบาห์เรน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ล่าสุดวันนี้ (26 มิ.ย.67) “จ่าคิงส์” ได้ออกมาแถลงข่าวพร้อมยกมือไหว้ขอโทษดาราสาว “อาย วราไพรินทร์” ณ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร รับผิดที่รับข้อมูลฝ่ายเดียว โดยไม่ได้ดูรายละเอียดของฝั่งดาราสาวอย่างถี่ถ้วน ทำให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้น ตนพร้อมขอโทษและยอมรับผิด และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
จ่าคิงส์ : “ก็มีคนมาร้องผม 3 ครั้ง ก็พาเขามาร้องที่กองปราบครับในเรื่องของน้องอาย แต่ผมก็ดูพยานหลักฐาน น้องอายก็ยังไม่ได้ออกมา แต่ตอนนี้ปรากฎว่ามันชัดเจนเลยครับ ผมก็พูดตรงๆ ว่างานนี้ทางน้องอายก็เอาเอกสารมาขอความเป็นธรรมด้วย ที่ว่าครั้งที่แล้วที่ผมดูมันไม่มี แต่ครั้งนี้น้องอายมาขอความเป็นธรรม ผมก็ได้ดูแล้วตามเอกสาร ก็มีการหักล้างครับ น้องอายได้มีการจ่ายเงินกับผู้เสียหายจริงครับ”
อาย : “จ่ายก่อนหน้านี้ค่ะ”
จ่าคิงส์ : “จ่ายก่อนหน้านี้นะ แต่ผมไม่รู้มาก่อน เพราะเขาไม่ได้บอกผม ตอนนี้น้องอายก็ทยอยจ่าย จนกว่าจะครบ แต่ที่ผมออกมาครั้งนี้ผมก็ยอมรับ ผมก็เป็นลูกผู้ชาย มาขอความเป็นธรรมก็สองด้านนะครับ แต่จากใจจริงของผม ผมก็ขอกราบขอโทษน้องอาย (ยกมือไหว้อาย) ครั้งที่แล้วไม่ได้ดูแลเอกสารครบ และตอนนี้เอกสารก็ครบแล้ว ทางกองปราบปรามเขาก็ยกฟ้องคดีน้องอาย จากใจจริงเลยผมก็ขอโทษน้องอายด้วย ครั้งที่แล้วพยานหลักฐานอาจจะไม่ครบ แล้วน้องอายก็ขอความเป็นธรรม ผมก็ดูหลักฐานพยานแล้วเป็นไปตามเอกสารนะครับ มีการผ่อนก่อนหน้านี้ไปเป็นบางส่วนแล้วครับ หลายคนแล้ว ผมขอยืนยันครับ
ตอนนี้ก็เป็นบทเรียนของผมครับ ผมก็จะดูแลเคสน้องอายเป็นตัวอย่างให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ผมก็จะเอาเคสนี้มาศึกษาและมาเป็นบรรทัดฐานต่อไปครับ เพื่อที่ผมจะได้อยู่ได้ จะได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมที่มายื่นที่กองปราบต่อไปครับ สำหรับผู้เสียหายผมก็พามาร้องที่กองปราบ แต่เรื่องจะเอาผิดอะไรก็อยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจครับ ผมเพียงแต่นำส่งครับ แต่ตอนนี้ผลชัดเจนออกมาแล้ว ทางกองปราบก็ได้ออกมาว่าคดีนี้ไม่มีมูลหรือหลักฐานไม่ครบ ตอนนี้ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าน้องอายเป็นผู้บริสุทธิ์ครับ
ก็ไม่ได้มีชดเชยอะไรครับ เพียงแต่มีคำขอโทษจากลูกผู้ชายจากใจจริงครับ ผมยอมรับผิดครับ ผมผิดพลาดผมก็ต้องยอมรับผิด น้องก็จะได้ทำมาหากินหรือเดินต่อ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ได้เห็นวันนี้ ผมก็ยืนยันว่าน้องอายบริสุทธิ์แล้วครับ ผมก็กราบและขอโทษน้องเขาสำหรับผู้เสียหายผมก็ถามแล้วว่าทำไมถึงเอาข้อมูลมาให้ไม่ครบ เขาก็บอกว่าเอามาครบแล้ว ผมก็ไม่รู้ล่วงหน้านะ ผมก็มองตามหลักฐาน ผมขออนุญาตมอบดอกไม้ให้น้องอายครับ (เอาดอกไม้มาให้เพื่อเป็นการขอโทษ)”
ด้าน “อาย” เผยตนเสียหายหลายอย่าง ดำเนินชีวิตตามปกติแทบจะไม่ได้เลย
อาย : “จริงๆ แล้วสิ่งที่มันเกิดขึ้นอายได้รับผลกระทบหนักอยู่แล้ว เพราะมันมีการออกสื่อถึง 3 ครั้ง ความเสียหายไม่ใช่แค่เรื่องของธุรกิจ มันมีเรื่องของชื่อเสียง การงาน เรื่องความน่าเชื่อถือ อายกลายเป็นคนที่มีคำนำหน้าว่าดาราโกง ดาราตุ๋น มิจฉาชีพ ลูกค้าบล็อก ลูกค้ายังไม่จ่ายเงิน มีผลกระทบต่อพาร์ตเนอร์ในธุรกิจอื่นๆ ที่ร่วมงานกับอาย ขออนุญาตไม่ใช้รูปร่วมกับอายแล้ว ขอให้อายมาเคลียร์ตรงนี้ให้เรียบร้อย ถึงจะสามารถใช้รูปกับเขาได้ มีผลต่อที่อายไม่กล้าออกไปเจอเพื่อน ไม่กล้าออกไปเจอสังคม เพราะอายก็ไม่รู้ว่าถ้าออกไปมีภาพกับเขา เขาจะโอเคจริงๆ ไหม หรือมันจะมีกระแสไหนไปทำอะไรเขาไหม เพราะที่ผ่านมาอายรับพรีเซ็นเตอร์เซรั่มไปหนึ่งแบรนด์ ก็มีคนไปคอมเมนต์ด่าว่าทำไมเอามิจฉาชีพไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ อายก็รู้นึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ในวันนี้อายก็ได้เห็นความตั้งใจของพี่คิงส์ที่เขาก็มีเจตนาที่ดีในการอยากจะช่วยคน และอายก็เชื่อว่ามันน่าจะต้องเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ ถ้าเขาจะช่วยคน เขาก็อาจจะต้องเตรียมข้อมูลทั้งสองฝ่าย เพื่อในครั้งต่อไปจะทำให้เขาสามารถช่วยคนแล้วเติบโตได้ดีกว่านี้ในทางของเขา อายก็ไม่ติดใจอะไรในส่วนของพี่คิงส์ และอายก็เชื่อว่ามีลูกค้าอายหลายรายที่เข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ ก็คงได้รับข้อมูลด้านเดียวเช่นกัน เพราะหลายๆ คนก็ไม่ได้สื่อสารกับอายโดยตรง ก็อาจจะเป็นเรื่องของการที่ไม่เข้าใจมากกว่า และมีคนที่ตั้งใจจะก่อกวน
อายต้องยอมรับว่าคดีของอายมีคนตั้งใจแน่นอน เป็นคนที่ตั้งใจตั้งแต่เริ่ม มีการข่มขู่แล้วว่าจะทำให้เราเสียชื่อเสียง จะทำโน่นนั่นนี่ และมีการไปดิสเครดิตอายที่หน่วยงานภาครัฐของฝั่งต่างประเทศทั้งดูไบและบาห์เรน รวมถึงในประเทศไทย ไปหาที่ช่องอาย เพื่อไม่ให้อายได้รับงานอะไรแล้ว ซึ่งคนๆ นี้ได้เอาคอนแท็กโพสต์ไว้ในหลายช่องทาง ทำแอ็กเคานต์ส่วนตัว เพื่อที่จะมายำอายอย่างเดียวเลย อายเลยมองว่านี่ไม่ใช่ในฐานะผู้เสียหาย นี่คือคนที่ทำเพื่อความสะใจ และเอาคนอื่นมาเสียหายร่วมด้วย กลายเป็นว่าบริษัทอายที่อายเคยเป็นอดีตผู้บริหารหรือก่อตั้ง ไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้เหมือนเดิม แทนที่เราจะมีเงินไปจ่ายผู้เสียหายท่านอื่น หรือคนที่เขายังรอเงินมัดจำ เช่น เขาเข้าประเทศไม่ได้ เพราะว่าอย.ไม่ผ่าน หรือเขาเข้าห้างไม่ได้ เพราะห้างไม่อนุมัติ ดังนั้นเขาสมควรได้รับการคืนเงิน แต่กลายเป็นว่ามาติดตรงที่โจมตีกันด้วยการใช้อายเป็นสื่อในการทำลายชื่อเสียงตรงนี้ อายเลยไม่ค่อยเห็นด้วย”
บอกยังไม่คิดว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้องกับคนที่ทำให้ตนเสียหาย
“ถึงวันนี้อายออกมาแก้ข่าว มันก็ไม่ได้ทำให้ชื่อเสียงอายกลับมาเหมือนเดิม ไม่ได้ทำให้ความน่าเชื่อถือของอายเทียบเท่าเดิม แต่อายก็ยินดีที่จะเรียนรู้และเติบโตไปกับมัน และในก้าวต่อๆ ไป ที่เหลือก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมค่ะจะขอสงวนสิทธิในการฟ้องหรือไม่ฟ้อง เพราะอายไม่ได้มีแพลนว่าจะต้องยังไงต่อในสิ่งนี้ แต่อายคิดว่ากระบวนการยุติธรรมน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด และพิสูจน์ได้ด้วยว่าในข้อเท็จจริงเป็นยังไง
กับผู้เสียหายที่มากับจ่าคิงส์ จริงๆ เราได้มีการสื่อสารพูดคุยตั้งแต่ครั้งแรกแล้วค่ะ แต่หลายคนเขาก็บอกว่าเขาจะเข้ามารับเงินนะคะ บางคนเขาก็บอกว่าไม่ว่าง ไม่สะดวก แต่เขาไปออกหลายๆ รายการ อายก็เลยไม่แน่ใจว่าเจตนาเขาอยากได้เงินคืนจริงๆ หรือเขาเอ็นจอยกับการที่ทำแบบนี้แล้ว อายก็เลยไม่ค่อยเข้าใจในรอบ 2-3 ก็เลยออกมาในความไม่เข้าใจ วันนี้อายก็เลยแยกคนออกมาเป็น 2 ประเภท ก็คือประเภทคนที่เขาเสียหาย ต้องการได้รับอะไรตอบแทนไป กับอีกคนที่เขามีเจตนาต้องการที่จะทำลายดิสเครดิตเรา อันนี้ก็ไม่ค่อยแฟร์ เพราะสิ่งที่เขาทำมันสร้างความเดือดร้อนให้ทั้งพี่คิงส์ สร้างความเดือดร้อนให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสื่อมวลชน หลายๆ สื่ออายต้องไปขออนุญาตให้เขาลบข่าวของอาย เพราะอายก็ไม่สามารถดำรงชีวิตได้เหมือนคนปกติมา 6 เดือน ก็อยากให้สื่อเข้าใจด้วยค่ะ”
บอกรู้ตัวหัวโจกคนที่อยู่เบื้องหลัง
“อายทราบค่ะว่าใครเป็นหัวโจกในเรื่องนี้ จุดเริ่มต้นวันนั้นเขาเอาสินค้าเข้าห้าง และของเขาอาจจะขายไม่ดี เพราะแบรนด์ที่ขายดีคือแบรนด์ที่ยิงแอดทำการตลาด ซึ่งจริงๆ ของเขาใช้ได้ค่ะ แต่พอเขาเข้าห้างแล้วขายได้ไม่เหมือนเดิม ขายไม่ดี ก็มีการขอเงินคืน แต่จริงๆ ต้องเป็นเขาต้องจ่ายเงินอีกครึ่งนึงเพราะเมื่อไหร่ที่ของเข้าห้างได้ต้องมัดจำ 50% อีก 50% ก็ต้องจ่ายใช่ไหมคะ อายก็ทำงานให้เขาเสร็จหมดแล้ว แต่เขามาขอเงินคืน อายก็บอกว่าไม่สามารถคืนได้ เท่านั้นแหละค่ะเป็นจุดเริ่มต้นที่มีการข่มขู่นั่นนี่ ก็เป็นคดีความอยู่ค่ะ แต่เขาก็ยังไม่จบในคดีแรก ก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมในต่อๆ ไปกับคนๆ นี้ค่ะ
ถามว่าที่ออกมาวันนี้ฉายาดาราโกงอะไรต่างๆ จะหายไปไหม อายคิดว่าไม่มีอะไรกลับมาเหมือนเดิม แต่เราแค่ต้องมูฟออนกับมัน เพราะทุกบทเรียนมันมีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ แต่สุดท้ายเราเข้าใจที่จะไปข้างหน้าและเติบโตต่อไป เพราะอายเชื่อว่าอย่างพี่คิงส์เองเขาเจอตั้งแต่วันที่เขาเริ่มทำ CSR มันดีกว่าไปเจอในวันที่เขาไปเสียหายหลายเคส พี่คิงส์ก็จะเจออะไรที่หนักขึ้นเรื่อยๆ แต่วันนี้พอพี่คิงส์ได้บทเรียนนี้ไป และเขาไม่พลาดอีก ก็จะไม่มีปัญหา หลังจากนี้เขาก็ช่วยคนได้เต็มที่”
เผยตอนนี้ไม่ได้เป็นผู้บริหารบริษัท ไทยวรา แล้ว เป็นเพียงแค่ที่ปรึกษาเท่านั้น
“จริงๆ แล้วอายก่อตั้งไทยวรามาตั้งแต่ปี 62-63 ตอนนั้นเป็นช่วงโควิด การระบายของไม่ว่าจะเป็นหลักหมื่น หลักแสนชิ้นเราทำได้หมด เนื่องจากวันนั้นจีนปิดประเทศ ประเทศไทยไม่มีเงิน ไม่มีใครที่จะมามองการซื้อของหรอก แต่วันนั้นเราแทบจะเป็นบริษัทเดียวที่พาคนส่งออกไปได้ และนั่นคือความตั้งใจแรกของเรา หลังจากนั้นเราทำงานกับหลายประเทศ ก็ต้องเข้าใจว่าเราไม่ได้อยู่บริหารทั้งสองประเทศ ฝั่งโน้นก็จะมีคู่ค้าที่เขาบริหาร ในส่วนของเราก็เซ็ตอัปทุกอย่างไว้ หลังจากนั้นก็มีการส่งออกมีรายละเอียดเยอะมาก ก็เข้าใจได้ว่าลูกค้าอาจจะไม่เข้าใจทั้งหมด อาจจะตีความผิดเช่นทำไมของไปแล้วส่งกลับไม่ได้ จริงๆ ของส่งกลับได้ แต่ลูกค้าต้องเป็นคนจ่ายค่าใช้จ่ายเอง และไม่เคยบอกให้ลูกค้าเอาของไปเยอะ เอาไปแต่พอดีค่ะ
อายเป็นผู้ฝากขาย อายไม่ได้เป็นผู้ซื้อสินค้า เพราะฉะนั้นการไปต้องทำการตลาดร่วมกันแน่นอน ก็จะไม่ได้โชคดีทุกแบรนด์ อายเก็บเงินเริ่มต้นปีละ 2 หมื่นกว่าบาท เพราะฉะนั้นคนละเรื่องเลยกับที่ออกสื่อมา โจมตีว่าเราวางแผนจะฉ้อโกง หลอกลวงประชาชน อายทำธุรกิจสุจริต อายทำด้วยความเต็มที่จริงๆ ถ้าเกิดมันมีอะไรที่ไม่เข้าใจ หรือเป็นเรื่องของการสื่อสาร อายว่าก็แค่เข้ามาสื่อสาร และการที่บอกว่าเราติดต่อไม่ได้หรืออะไร ไม่เป็นความจริงนะคะ เราติดต่อได้ แต่อาจจะช้าสำหรับลูกค้า คืออาจจะไม่ได้ตอบทันทีหรือเร็วทันใจ บางอย่างมันต้องมีกระบวนการในการประกอบการหาข้อมูลทั้งสองประเทศ
อายเชื่อว่าวันนี้น่าจะมีคนที่เข้าใจในข้อมูลด้านเดียวมาตลอดแต่ได้เห็นภาพชัดขึ้น เพราะคนที่อยู่ในกลุ่มไม่ใช่คนที่มีปัญหาจริงๆ แต่เป็นคนที่ตกใจ คือพอเป็นลูกค้าไทยวราก็ขอเข้าไปรู้เห็น ขอเข้าไปทำความเข้าใจหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น คือเขาเริ่มต้นจากอายด้วยความมั่นใจ ถ้าวันนี้ผลมันออกมาแบบนี้แล้วว่าอายไม่ได้ผิด อายก็เชื่อว่าทุกคนก็จะเข้าใจอายในมุมที่เขาเคยเข้าใจอายนั่นแหละ แต่เรื่องราวในระหว่างทางมันอาจจะมีอะไรหลายอย่างที่เขาเล่นใหญ่ เขาเล่นสื่อใหญ่ เขาเล่นคำว่าดาราดัง ซึ่งวันนั้นยังไม่ได้เปิดหน้าว่าเป็นใคร เขาเล่นกองปราบ เพราะฉะนั้นหัวคอมเทนต์แบบนี้มันไม่สามารถทำให้อายดำรงชีวิตได้อย่างคนปกติอยู่แล้ว
ในวันนี้อายก็บอกได้เลยว่าอายไม่ได้เป็นผู้บริหารไทยวราแล้ว แต่อายเป็นผู้ก่อตั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลังจากนี้ถ้ามีอะไรอายยินดีที่จะเป็นที่ปรึกษาเหมือนเดิม เพราะอายยังเป็นวิทยากรในเรื่องการให้ความรู้เรื่องของการส่งออกอยู่ และอายก็ยังคงอยู่กับธุรกิจอื่นๆ ที่ยังคงเกี่ยวข้องกับลูกค้า ยังคงช่วยเหลือลูกค้า หลายๆ ท่านอยากจะเอาคลินิกไปเปิดที่อาหรับ เพื่อที่จะให้ธุรกิจเติบโต อายก็ยังเป็นที่ปรึกษาได้เหมือนเดิม แต่อายขอที่จะสงวนรับงานในส่วนของฝากขาย และเชื่อว่าไทยวราก็คงไม่อยากไปต่อกับธุรกิจฝากขาย เพราะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ก็คงจะเป็นบทเรียนแล้วว่าไม่ใช่ลูกค้าทุกคนที่เข้าใจในเหตุและผลในการทำงานของเรา เพราะฉะนั้นหลังจากนี้จะเป็นเรื่องของลูกค้ากับบริษัทไทยวรา และอายไม่ได้เป็นผู้บริหารแล้ว ดังนั้นไม่อยากให้เอาอายมาโจมตี ไม่อยากให้เอาชื่อเสียงตรงนี้มาทำลายอะไรกันอีกแล้ว เพราะไม่งั้นก็จะไม่จบ”
ฟาก “ทนาย” เผยจากนี้ “อาย” จะฟ้องหรือไม่ฟ้องก็เป็นสิทธิที่ทำได้
ทนาย : ”ในเคสที่พี่คิงส์พาผู้เสียหายเข้ามาร้อง ตอนนี้ได้เอกสารจากฝั่งกองปราบปราม มีเอกสารออกมาแจ้งว่าคดีนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจของกองปราบปราม ก็คือกองปราบปรามก็ไม่ได้รับแจ้งความ จริงๆ มันเป็นคดีแพ่ง ก็อาจจะต้องไปฟ้องร้องกันตามเอกสารแพ่งต่อไปครับ ไม่ได้เข้าเกณฑ์ที่เป็นฉ้อโกงที่กองปราบปราม หรือก่อนหน้านี้ที่เคยมาแถลงข่าวไว้
ในส่วนของผู้เสียหายที่เคยเข้ามาร้องและทำให้คุณอายเสียหาย ก็ต้องอยู่ที่คุณอายเพราะตอนนี้คุณอายเป็นผู้เสียหาย คุณอายมีสิทธิที่จะดำเนินทางคดีแพ่งและอาญานะครับ อาจจะเป็นการฟ้องหมิ่นประมาท หรือหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หรือพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ต่างๆ ก็เป็นสิทธิทางคุณอายว่าจะดำเนินการต่อไปยังไงส่วนคนเบื้องหลังที่อยู่เรื่องนี้ ส่วนตัวผมยังไม่เห็นหลักฐานนะครับ แต่คุณอายแจ้งว่ามีข้อมูล ก็จะส่งให้ผมดูต่อไป”
อาย : “อายคิดว่าอาจจะขอสงวนสิทธิในการฟ้อง ณ ตอนนี้ เพราะว่าอยากจะมูฟออน แต่ในเรื่องที่จะฟ้องหรือไม่ฟ้องนั้นขอเป็นเรื่องของทางทีมทนายอีกหลายคนที่อยู่ร่วมกัน เพราะเราก็ต้องมามองด้วยว่าเขามีการเข้าใจหรือยัง เพราะเราไม่ได้มีเจตนามาฟ้องใคร แต่แค่ไม่รู้จะหยุดเหตุการณ์ครั้งนี้ยังไง ในการที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจ เพราะว่าก่อนหน้านี้คำพูดของอายมันไม่มีน้ำหนักอะไรเลย แต่ ณ วันนี้พออายมาเจอกับสิ่งนี้อายก็ต้องตั้งรับ และเป็นบทเรียนของอายเหมือนกัน อายก็ไม่ได้ติดใจกับคนที่เขาไม่รู้เรื่อง ที่เหลือก็ขอดูหลักฐานทั้งหมดก่อนค่ะ
อายมองว่าอยากให้คนที่กำลังตั้งใจที่จะทำลายชื่อเสียง หรือทำให้เกิดความปั่นป่วน วันนี้คุณทำสำเร็จแล้วนะ ชื่อเสียงอายไม่ดี และไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว คนในสังคม คนรอบข้างออกจากอายไป 80% แต่สุดท้ายมันก็เป็นบทเรียนที่สอนอายเหมือนกันว่าคนที่รักอายใน 20% ที่เหลือนี่แหละจะเป็นคนที่อยู่กับอายในอนาคต และคนที่อยู่กับอายเพียงเพราะผลประโยชน์ ชื่อเสียง เงินทอง เขาก็ออกไปจากชีวิตอายหมดแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นอายก็คงไม่ให้สิ่งไม่ดีที่เขาตั้งใจจะสาดโคลนใส่อาย มาเป็นอายในเวอร์ชั่นที่ไม่น่ารักอีกแล้ว อายจะเป็นอายคนเดิม ต่อให้เจอเขา อายก็คงจะตั้งใจทำงานเต็มที่และสู้กับทุกความไม่ยุติธรรมเต็มที่เหมือนเดิม และจะยังคงทำงานเพื่อประโยชน์ของสังคมต่อไปค่ะ”
