“ธัญญ่า อาร์สยาม” เผยตำรวจรู้ตัวคนทำแล้ว หลังถูกป่วนถึงบ้าน สั่งของมาเก็บเงินปลายทาง และเรียกรถฉุกเฉินหลอกว่ามีคนเจ็บ รับเป็นแพนิค นอนผวาหวั่นไม่ปลอดภัย อยากถามทำไปเพื่ออะไร ทั้งที่ไม่รู้จักกัน อัปเดตอุ้มท้อง 7 เดือน เตรียมคลอดสิงหาคมนี้
ทำเอานักร้องสาวว่าที่คุณแม่ป้ายแดง อย่าง “ธัญญ่า อาร์สยาม” ถึงกับทนไม่ไหว ออกมาโพสต์คลิปหลังถูกมือดีป่วนหนัก โทร.สั่งของให้มาเก็บเงินปลายทางหลายครั้ง ก่อนเมื่อวานนี้ (23 มิ.ย.67) จะโทร.เรียกรถฉุกเฉินและตำรวจ บอกว่ามีคนล้มหมดสติในห้องน้ำ จนต้องตัดสินใจไปแจ้งความดำเนินคดี ล่าสุดวันนี้ (24 มิ.ย.67) สาวธัญญ่าก็ได้เปิดใจกับสื่อ บอกว่ารู้สึกกลัวและระแวงมาก เพราะส่วนตัวเป็นคนแพนิกและคิดมาก แต่ตอนนี้ก็สบายใจขึ้นมาบ้าง เพราะทางตำรวจเผยว่ารู้ตัวคนทำเรียบร้อยแล้ว
“วันนี้เรียกมารับทราบเฉยๆ ค่ะ แต่หมายหนูไม่แน่ใจว่าอีกกี่วัน รู้ตัวคนทำแล้วค่ะ รู้ชื่อแล้ว แต่ว่าทำตามขั้นตอน ก็เป็นคนเดียวกันหมด ยังไม่มีโอกาสได้คุยเลยค่ะ ว่าทำไปเพื่ออะไร เพราะไม่รู้จัก เป็นบุคคลที่ไม่คุ้นหน้า แต่ถามว่าแปลกไหม ที่เขารู้ที่อยู่เรา ส่วนตัวหนูว่าไม่ใช่เรื่องยาก เพราะในกรุ๊ปแฟนคลับมีการส่งของกินมาให้อยู่แล้ว ถ้าจะหาไม่ยาก (ไม่ใช่คู่อริ คนในบ้าน?) ไม่ใช่ค่ะ”
อยากเจอหน้า อยากถามว่าทำไปเพื่ออะไร
“ต้องถามค่ะ ต้องเจอ เพราะอย่างน้อยๆ ตอนนี้เราไม่รู้ว่าเป็นใคร มาทำอะไรหรือเปล่า อย่างน้อยถ้ารู้ว่าเป็นใคร ทำเพื่ออะไร ก็จะได้รับรู้ไว้ จะได้พูดคุยตักเตือน”
วันนี้ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเพิ่ม เพราะรปภ.ตรวจเข้มงวดมาก แต่ยังกังวลและผวาอยู่
“วันนี้เงียบมาก ทาง รปภ. กับนิติฯ จะค่อนข้างเข้มงวด ถ้าบอกว่ามาบ้านเลขที่หนู เพราะเขารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ทางครอบครัวก็มีเพิ่มความปลอดภัย มีใส่ถ่านประตูบ้าน สแกนลายนิ้วมือ ปิดประตูให้มิดชิดมากขึ้น เพราะเมื่อคืน (23 มิ.ย.67) หนูก็กังวล เหตุการณ์มันเพิ่งเกิดขึ้น ตี 2 ตี 3 หนูได้ยินเสียงอะไรนิดหน่อย ก็ลุกขึ้นมาเปิดกล้องทั้งคืน รู้สึกผวา ถามว่ากระทบจิตใจแค่ไหน คือถ้าเป็นตัวคนเดียวก็ไม่เท่าไหร่ แต่พอมีลูกในท้อง ก็รู้สึกว่าต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ทั้งความคิดจินตนาการไปเอง ปกติเป็นอยู่แล้ว พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็คิดไปก่อนเยอะ อันนี้หรือเปล่า อันนั้นหรือเปล่า เป็นกังวล”
ระแวงและกลัวไปหมด เวลาออกนอกบ้าน
“กลัวค่ะ เมื่อคืนนี้แค่มีคนทักหน้าโรงพักก็กลัวแล้วค่ะ จะรู้สึกว่าใช่คนนี้หรือเปล่า จะระแวงคน”
ไปแจ้งความเป็นคดี ไม่ใช่แค่ลงบันทึกประจำวัน
“ถ้ามีหมายเรียกแล้ว ก็น่าจะต้องดำเนินคดี”
จะเอาเรื่องถึงที่สุดไหม ก็ต้องขอคุยก่อน
“เดี๋ยวดูก่อน เจอก่อน หนูก็อยากรู้ว่าเขาทำไปเพื่ออะไร แต่ว่าถ้าเกิดมีมาอีกรอบนึง ก็ต้องแล้ว”
เผยตอนแรกตำรวจไม่เชื่อ คิดว่ามีเหตุจริงแต่ไม่ยอมบอก
“ในส่วนของรถโรงพยาบาล หนูไม่อยู่บ้าน เป็นพี่แม่บ้านคุย แล้วเอาโทรศัพท์ให้เพื่อนคุยอีกทีหนึ่ง เขาก็รู้แล้วว่าเป็นบ้านนักร้อง ก็เลยสงสัยว่าโดนแกล้ง เขาอยู่ประมาณ 4-5 นาที แต่หนูตัดคลิปลงสั้นๆ แต่ในส่วนของตำรวจหนูอยู่บ้าน พี่เจ้าหน้าที่เขาคงคิดว่าเราทะเลาะกันในบ้านจริงๆ แล้วไม่บอกหรือเปล่า หนูก็บอกว่าโดนแกล้งจริงๆ เมื่อตอนกลางวันรถโรงพยาบาลก็มา หนูก็บอกว่าไปว่าเดี๋ยวหนูจะไปแจ้งความ เราก็ไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรอีก”
โชคดีช่วงนี้ไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน
“ตอนนี้ก็ไลฟ์ขายของอยู่บ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ไม่ได้อยู่คนเดียว อยู่หลายคน”
ตำรวจไม่ได้มาช่วยสอดส่องให้ เพราะยังไม่ได้รับความเสียหาย และมีรปภ.หมู่บ้านอยู่แล้ว
“ไม่มีค่ะ เพราะว่าหนูก็ยังไม่ได้รับความเสียหายร้ายแรง ยังระวังตัวได้ แล้วพี่ รปภ. กับบ้านหนูก็อยู่ติดกับนิติฯ ก็ค่อนข้างปลอดภัย”
เชื่อคนทำรู้ตัวแล้ว แต่เหมือนตั้งใจแกล้ง
“คิดว่ารู้แล้ว เขาน่าจะดูไลฟ์สดหนูตลอด เขาเหมือนตั้งใจแกล้ง ส่วนเรื่องสืบประวัติ เดี๋ยวจะคุยกับพี่ร้อยเวรอีกทีหนึ่ง เดี๋ยวโทร.ตามเรื่อง วันนี้ก็ติดต่อไปเครือข่ายโทรศัพท์เบอร์นั้นแล้ว ให้ออกใบยืนยันชื่อให้ค่ะ”
ไม่รู้เข้าข่ายแจ้งความเท็จไหม
“นั่นนะสิ หนูก็ต้องสอบถามเจ้าหน้าที่อีกทีหนึ่ง ว่าต้องเป็นข้อหาอะไรค่ะ เพราะหนึ่งเสียเวลาเจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจและรถโรงพยาบาล แต่ว่าเซเว่นนี่หนูโดนประมาณ 3 รอบแล้ว คือสั่งมาแล้วก็มาเก็บเงินปลายทาง เราก็ไม่เอาตลอด”
นอกจากเหตุการณ์นี้ ยังมีสั่งขอเก็บเงินปลายทางแต่ไม่รับ ไม่รู้เป็นคนเดียวกันไหม
“ถ้าเหตุการณ์อื่นก็จะเป็นเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ แต่เดี๋ยวหนูจะต้องไปเช็กอีกที ว่าคนเดียวกันไหม เพราะมันจะมีกรณีที่สั่งของแกล้งซ้ำๆ สั่งของทางติ๊กต๊อกหนู เก็บเงินปลายทางแล้วก็ไม่รับของ แล้วหนูก็ต้องเสียค่าส่งเอง”
ฝากบอกอย่ามาแกล้งกัน ไม่ใช่แค่ตัวเองที่ได้รับความเสียหาย
“อยากบอกว่ามันไม่ได้รับความเสียหายเฉพาะตัวหนู แต่มัน 3 หน่วยงานที่เขาต้องเสียเวลามา เป็นอะไรที่ค่อยๆ ตั้งสติดีกว่า ในการที่จะทำอะไรแต่ละอย่าง เพราะหนูก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้ใคร หนูก็นั่งขายของอยู่บ้านตามประสา ไม่อยากให้มาแกล้งกันค่ะ”
“อาโล่” สามีไม่อยากให้ยอมความ
“เขาก็ไม่อยากให้ยอมความ (หัวเราะ) อยากให้ถึงที่สุด เพราะว่าด้วยหนูมีน้องอยู่ด้วย แล้วหนูเป็นแพนิกอยู่แล้วด้วย พอมาทำแบบนี้ก็รู้สึกหวาดกลัวและระแวง นอนไม่ได้เลยเมื่อคืน เขาก็เลยอยากให้รับรู้ ว่าอันนี้เป็นสิ่งที่จะต้องได้รับกลับการกระทำของตัวเองนะ”
สบายใจขึ้น หลังพอทราบตัวคนทำแล้ว
“ก็สบายใจมากขึ้นค่ะ แต่ก็อยากให้รู้ตัวเร็วๆ อยากเจอเร็วๆ ตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นผู้หญิงค่ะ อยากรู้ว่าทำทำไม เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ทำได้มากแค่ไหน จะเกิดเหตุอะไรขึ้นอีกไหม ถ้าเรารู้เร็วมันก็ปลอดภัยค่ะ”
ไม่คิดแก้ปัญหาด้วยการย้ายบ้าน
“ไม่ค่ะ ย้ายยากนิดหนึ่ง แต่ก็กำชับรปภ.เอาไว้ เขาก็จะโทรถามตลอดว่าใช่ไหม ได้สั่งไหม ได้เรียกมาไหม เพราะวันนี้ขนาดแท็กซี่จะมาบ้านเขาก็ไม่ให้เข้า ต้องโทร.ก่อน”
อัปเดตอุ้มลูกชายท้อง 7 เดือน แข็งแรงดี ดิ้นเก่ง สิงหาคมนี้จะได้เจอกันแล้ว
“7 เดือนกว่าแล้วค่ะ ไปหาคุณหมอน้องก็แข็งแรงดี ดิ้นเก่งมาก เดือนสิงหาคมนี้น่าจะได้เจอกัน ตอนนี้ของเยอะแล้วค่ะ เตรียมห้องไว้แล้ว แล้วก็ทานบำรุงเยอะๆ เพราะหนูกินแล้วก็ยังอ้วกอยู่ น่าจะเป็นเรื่องของกรดไหลย้อน เหมือนบีบมดลูกขึ้นมาสูง กินแล้วไม่ลง มันก็เลยดันขึ้นตลอด เวลานอนก็ยากมาก กว่าจะหลับก็คะแคงพลิกไปพลิกมา”
อยากคลอดธรรมชาติ แต่ต้องรอดูว่าตัวเล็กหรือตัวใหญ่
“กังวลเรื่องคลอด มันมีหลายสิ่งให้กังวลมากเลย ยิ่งเราดูโซเชียล มันก็มีเด็กเป็นโน่นนี่ เราก็พยายามปล่อยวาง ทำใจสบายๆ ก็ตัดสินใจอยู่ จริงๆ อยากคลอดเอง แต่ก็ต้องรอดูอีกทีหนึ่ง ว่าน้องตัวใหญ่หรือเล็ก คลอดได้หรือเปล่า เรื่องงานตอนนี้ก็เบรกไปเลยค่ะ เพราะเดินทางยากแล้ว”
ของรับขวัญลูกยังไม่มีแต่คิดไว้แล้ว ชื่อเล่นน้อง “คาร์โล” แต่ชื่อจริงรอฤกษ์ตอนคลอดก่อน
“ยังไม่มีเลยค่ะ แต่คิดไว้อยู่ค่ะ ฤกษ์ก็ดูไว้แล้ว ส่วนเรื่องการตั้งชื่อ สมมติว่าจะคลอดเอง ก็ต้องรอเขาคลอดก่อน เพื่อเอาเวลา วันเดือนปีเกิด หนูจะซีเรียสกับชื่อมาก ต้องเป็นพระ เป็นอาจารย์ตั้งให้ ดูตามฤกษ์เกิด แต่ชื่อเล่นมีแล้ว ชื่อน้องคาร์โล คุณพ่อเขาตั้งเอง เป็นชื่อการ์ตูน (หัวเราะ) ส่วนนามสกุลที่บอกว่าจะตั้งใหม่ ก็เดี๋ยวต้องดูอีกทีหนึ่งค่ะ เดี๋ยวไม่ลงตัว”
