“ชาล็อต” ถูกเรียกเข้าห้องดำ เคลียร์ทะเลาะ “อิงฟ้า” รับไม่มีความเป็นมืออาชีพ ไม่กล้ามีแฟน แม้ “ณวัฒน์” อนุญาต

“ชาล็อต” ถูกเรียกเข้าห้องดำ เคลียร์ทะเลาะ “อิงฟ้า” รับไม่มีความเป็นมืออาชีพ แต่ตอนนี้เข้าใจกันดีแล้ว ไม่กดดันแฟนๆ จับจิ้น บอกถึงแม้ “บอสณวัฒน์” จะประกาศให้เด็กๆ ในสังกัดมีแฟนได้แล้ว แต่ขอทำงานเก็บเงินดีกว่า ย้ำโสดสนิท วอนแฟนคลับอย่าทำให้ตนเดือดร้อน อย่าไปยุ่งเรื่องคนอื่น ขอดูภายนอกเหมือนชาวบ้านทั่วไปดีกว่า

ทำเอาแฟนคลับคู่จิ้น “อิงฟ้า วราหะ” และ “ชาล็อต ออสติน” ใจหายใจคว่ำ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีปัญหากัน ทะเลาะและหมางเมินใส่กัน ไลฟ์งานด้วยกันแต่ไม่มองหน้า ทำเอฟซีหวั่นเรือล่ม ล่าสุดได้เจอตัวชาล็อต เจ้าตัวก็ยอมรับว่าถูกเรียกเข้าห้องดำเคลียร์ปัญหากับอิงฟ้าต่อหน้าผู้ใหญ่ ตอนนี้ก็ปรับความเข้าใจ และจะทำงานกันอย่างมืออาชีพ

“จริงๆ มันคือเรื่องเดิมๆ แหละค่ะที่ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้สื่อสารกัน และถ้าพูดตรงๆ คือไม่มีความเป็นมืออาชีพในตอนนั้น ซึ่งพอได้คุยเราเลยพอเข้าใจได้ว่ามันคือเรื่องที่ถูกสะสมมาของแต่ละคน แล้วไม่มีโอกาสได้พูดกันเอง หรือพูดกับทางผู้ใหญ่ ซึ่งวันนั้นก็ได้มีการเข้าห้องดำกับทางผู้ใหญ่ด้วย และได้มีการเคลียร์กัน คุยกันเรียบร้อยค่ะ ก็ดีขึ้น ซึ่งเราสองคนก็ต้องปรับ เพราะว่าต้องทำงานกันไปอีกยาว จะมีซีรีส์อีก และยังต้องอยู่ในองค์กรอีก เพราะฉะนั้นอยู่ให้เป็นมวลความสุขดีกว่าความอึดอัดค่ะ

ก็เคลียร์กันในห้องดำวันนั้นเลยค่ะ และหลังจากวันนั้นสัก 2-3 วันก็ได้มีคุยในไลน์ด้วย แต่ไม่ได้คุยเรื่องนี้นะคะ คุยเรื่องจิปาถะทั่วไป เหมือนยกภูเขาออกจากอกหมดค่ะ ทั้งสองคนได้พูดหมดเลยว่ารู้สึกอะไรบ้างที่ทำให้เราเจอหน้ากันแล้วไม่คุยกัน แต่ทำไมคนอื่นเจอกันแล้วคุยได้ ทุกอย่างเหมือนได้ระบายทั้งคู่โดยที่เราก็ให้มันเก็บไว้ในห้องนี้ ไม่มีการเอาไปโกรธหรือนอยด์ต่อ

ทางผู้ใหญ่ก็ได้เห็นและรับรู้ด้วย และช่วยกันแก้ปัญหาด้วย คือจริงๆ ก็ไม่คิดว่ามันจะใหญ่ขนาดนี้ (หัวเราะ) พอได้พูดแล้วก็สบายใจค่ะ ทำให้เราสองคนได้ย้อนกลับไปเห็นภาพด้วยว่าจริงๆ แล้วเป็นแบบที่หลายคนพูดจริงๆ ว่ามันไม่มีความเป็นมืออาชีพในการออกงานคู่กันเลย อะไรที่มันหนักก็วางเอาไว้ แต่พออยู่หน้ากล้องมันคือการทำงานอย่างมืออาชีพ”

ไม่กดดันที่แฟนๆ คาดหวังความเป็น “อิงล็อต” ปล่อยไปตามธรรมชาติ
“ไม่กดดันแล้วค่ะ ปล่อยตามธรรมชาติเลย อยู่กันเป็นอิงล็อตที่ทำให้ทุกคนมีความสุขแล้วกัน เพราะว่าที่ผ่านมาก็ผ่านอะไรที่ไม่ดีมาเยอะ จริงๆ เราสองคนพูดตลอดว่าเราคือพี่น้องกันนะ ก็จะมีลิ้นกับฟันบ้าง บางทีก็ไม่ใช่ว่าโผงผางเข้าไปกอด เข้าไปเล่นเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ถ้าถามคือเป็นอิงล็อตที่เคยมีความรู้สึกมาก่อน ก็เลยไม่แปลกที่จะนอยด์ ก็จะมีบ้างในบางครั้ง แต่เราก็เข้าใจว่าหลังจากนั้นมันคือการทำงาน มันคือชีวิตจริงที่เราต้องโฟกัสงานและทำงานต่อไปในพาร์ตของอิงล็อตค่ะ

ถามว่าที่แฟนคลับคาดหวังว่าอิงล็อตต้องเป็นคู่กัน หนูไม่กดดันกับการที่คนจะคาดหวังว่าจะต้องเป็นอะไรกัน แต่หนูแค่อยากทำงานในพาร์ตคู่ออกมาให้ได้ดี และให้ทุกคนรู้สึกว่ามันคืออิงล็อตที่สมูทแล้ว ที่ไม่ใช่ว่าตึงใส่กัน หลังจากที่ได้เคลียร์วันนั้นเราก็เล่น แต่บางทีอยู่หลังกล้อง กล้องก็ไม่ได้เห็นว่าเราเล่นหรือพูดคุยอะไรบ้าง”

บอกที่ “บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ประกาศว่ามีแฟนได้ เท่ากับไม่อยากให้มี และตนขอทำงานเก็บเงินดีกว่า
“(หันไปมองบอส) ไม่มีค่ะ โสดสนิทค่ะ จริงๆ พี่ณวัฒน์ก็ไม่ได้มีกฎว่าห้ามมีแฟน แต่ให้ดูที่ ดูเวลา ดูความเหมาะสมว่ามันควรมีไหม ถ้ามีมันควรอยู่จุดไหน เขาไม่ได้ห้ามค่ะ อยู่ที่ตัวเด็กมากกว่า แต่หนูโสดนะคะ ส่วนที่คนมาโฟกัสที่หนู หนูว่าแล้ว (หัวเราะ) ไม่มีๆ นานแล้วค่ะ ใครจะมีก็มี แต่หนูไม่มี คือพ่อก็อยากให้เราทำงาน เราก็ทำงานดีกว่า รู้สึกว่าเงินสำคัญกว่า (หัวเราะ)

ถามว่ากลัวกระทบเรื่องชีวิตส่วนตัวไหม หนูกลัวว่ามันจะกระทบวงกว้างมากกว่า คือถ้าคนว่าหนู หนูโอเค ไม่ได้ชิลมาก แต่ก็ชิลได้ แต่ถ้าไปว่าองค์กร ว่าบอส ว่าคนนั้นคนนี้ หนูรู้สึกว่าเหมือนเราเป็นตัวปัญหา เราไม่อยากรู้สึกแบบนั้น เพราะฉะนั้นเราไม่อยากเอาใครมาเกี่ยวแล้ว หมายถึงอยู่คนเดียวทำงานก็ได้ ก็มีเพื่อนอยู่ด้วย ก็สบายใจ แต่ถามว่าเหงาไหม มันก็มีบ้าง ก็ต้องอยู่ให้ได้ พ่อไม่ให้มี (หัวเราะ) คือที่เขาบอกว่าให้มีเท่ากับ… (หัวเราะ) ไม่หรอก เราทำงานดีกว่าค่ะ ถ้าจะมีก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า ไม่รีบค่ะ ต้องผ่านด่านพ่อก่อน ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”

บอกแฟนคลับจะทำอะไรอย่าให้เดือดร้อนมาถึงตน
“ด้วยความที่เมื่อก่อนมันเคยมีเหตุการณ์ที่แฟนคลับไม่พอใจ เขาก็จะใส่กันยับเลย แต่พอเวลาผ่านไปหนูก็จะพูดกับแฟนคลับว่า ถ้าเป็นแฟนคลับหนู ทำอะไรก็ทำได้เลย อย่างเดียวคืออย่าทำให้หนูเดือดร้อน ที่สำคัญคือให้เกียรติกัน ถ้าเห็นว่าคนนี้ว่าเราไม่ดีก็ไม่ต้องไปสนใจ ถ้าไม่อยากให้หนูสนใจในสิ่งที่ไม่ดี ทุกคนก็ต้องทำเหมือนกัน เหมือนรักษาหน้าเมนตัวเองด้วย (หัวเราะ) อะไรที่มันไม่ดีก็อย่าไปยุ่ง อย่าไปใส่ไฟ ให้อยู่ที่ของเราอย่างมีความสุขดีกว่า อยู่ด้วยกันอย่างนี้แหละ ใครเขาจะมีปัญหาอะไรกันก็ปล่อยเขาไป เราอย่าไปผสมโรง เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะเดือดร้อนก็คือคนที่เขารักก็คือเรานั่นแหละ พอเขารู้เขาก็จะเพลาๆ ลง

จริงๆ หนูไม่ค่อยได้เล่นโซเชียลมากขนาดนั้นเลยไม่รู้ว่าตอนนี้ปัญหามันคืออะไรและใหญ่ขนาดไหน แต่ถ้าพูดถึงแฟนคลับกับองค์กร แฟนคลับเขาก็ซัปพอร์ตองค์กรมาตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี บางคนนานกว่านั้นด้วย อยากให้เกียรติกันและกันทั้งคำพูดหรืออะไรก็แล้วแต่ ตัวเราเองก็ให้เกียรติแฟนคลับ แฟนคลับก็ให้เกียรติเรา ก็ถือว่าอยู่กันแบบสบายใจ น่าจะเป็นสิ่งที่สงบที่สุดสำหรับหนู (หัวเราะ)”

เผยรับบทชาวบ้าน คอยดูเฉยๆ ไม่เข้าไปยุ่งจะดีที่สุด
“เคยบอกกับแฟนคลับเมื่อนานมากๆ แล้วค่ะ จะมีช่วงที่แฟนคลับเขาคอยบอกว่าหนูต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ก็เลยรู้สึกว่าให้เกียรติกันนิดนึงในเรื่องของพาร์ตส่วนตัวหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เราจะทำนะ แต่ว่าใจเย็นๆ ก็ให้รอ และให้เกียรติ คือหนูบอกตลอดว่าถ้าเป็นแฟนคลับหนูก็ให้เกียรติคนรอบข้างหนูด้วย ให้เกียรติหนู ให้เกียรติองค์กร ให้เกียรติหลายๆ คนที่เขาอยู่รอบข้าง เพราะเราเองก็ให้เกียรติทุกคนเท่าเทียมกันหมดเลย

3 ปีที่ผ่านมาก็คือมีคนที่เขาพร้อมจะซัปพอร์ตเราจริงๆ ซึ่งพอคนเข้ามาใหม่ๆ เขาก็จะรู้สึกว่าหนูเป็นคนที่นิ่งขึ้น และโตขึ้นจากหลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา รู้สึกว่าเราไม่ได้เอาตัวเองเข้าไปในกองไฟแล้ว เราอยู่เฉยๆ เราแค่ดูลาดเลาเฉยๆ ส่วนเรื่องอะไรก็แค่รับรู้ก็เพียงพอแล้ว เป็นชาวบ้านดีกว่าค่ะ (หัวเราะ)”

บอกไม่กล้าออกมาพูดอะไรมาก เพราะกลัวจะยิ่งบานปลาย
“เอาจริงๆ ส่วนตัวหนูไม่รู้หรอกว่าควรออกมาตอนไหน หรือว่าควรออกมาไหม คือเราอยู่ในที่ของเราดีกว่า รอดูและรอฟังเหตุการณ์ต่างๆ ที่มันจะมาดีกว่า ซึ่งเราเองก็มีผลงานและโปรเจกต์หลายๆ อย่างที่ต้องโฟกัสเหมือนกัน แต่ถ้าสมมติบอสบอกว่าถ้าจะระบายกับหนูก็คือได้ เพราะปกติเขาก็จะโทรมาระบายทั่วไปอยู่แล้ว

จริงๆ บอสบอกว่าให้อยู่นิ่งๆ (หัวเราะ) เดี๋ยวจะบานปลาย ให้เราอยู่นิ่งๆ ดีกว่า อย่าแอ็กชั่นเยอะเดี๋ยวจะโดนไปด้วย หนูกลัวบอสนะพูดตรงๆ หนูก็เลยไม่ค่อยกล้าอะไรมาก แต่อันไหนที่หนูสามารถพูดได้ หนูก็จะพูดด้วยเหตุผลให้เขาเข้าใจ (หันไปมองบอสแล้วหัวเราะ) หนูจะบอกว่า 3 วันที่ผ่านมาไม่มีงาน หนูก็ไปซุ่มทำโปรเจกต์คอนเสิร์ตหนูอยู่ ก็เลยไม่รู้เรื่องราวว่าต้นสายปลายเหตุมันเป็นมายังไง แต่เมื่อกี้ก็แอบถามมาบ้างแล้ว อย่างที่บอกว่าเป็นชาวบ้านมันสนุกกว่า (หัวเราะ)

คอนเสิร์ตนี้ร้อง 20 กว่าเพลงค่ะ คอนเสิร์ต 17 สิงหาคมนะคะ ยังไม่บอกหรอกว่าคอนเสิร์ตเป็นรูปแบบไหน แต่เป็นการเล่าสตอรี่ระหว่างช่วงชีวิตของเราที่เป็นโมเมนต์สุดพิเศษ ก็อยากจะให้รอติดตาม และไม่ได้มีแค่ร้องเพลงอย่างเดียวนะคะ มีเต้นด้วย มีหลายๆ อย่างที่เข้ามามากขึ้น ก็เป็นคอนเสิร์ตเหมือนรอบก่อน แต่รอบก่อนสำหรับหนูพอย้อนกลับไปดูมันเหมือนเป็นการลองเชิงคอนเสิร์ตว่ามันเป็นยังไง แต่รอบนี้ลงดีเทลเองทุกอย่าง มีแขกรับเชิญนอกค่ายด้วย ก็ให้รอติดตามค่ะ จะเปิดขายบัตรเร็วๆ นี้ค่ะ ผังก็ใกล้ออกแล้ว ธีมต่างๆ ทุกคนก็น่าจะเห็นกันบ้างแล้ว เดี๋ยวรอปล่อยรูปทีเดียวค่ะ”