กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก สำหรับคิวงานของ “ลำไย ไหทองคำ” หรือ “สุพรรณษา เวชกามา” นักร้องอินดี้อันดับหนึ่งในตอนนี้ โดย 1 เดือนมี 30 วัน แต่ลำไยมีงานจองตัวถึง 53 งาน!
กว่าชีวิตของลำไย ไหทองคำ จะติดลมบนได้ถึงทุกวันนี้ เส้นทางชีวิตก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ 9 ปีที่ผ่านมา ลำไยเคารพในอาชีพและไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง
จากนักร้องลานเบียร์ ค่าตัว 2 พัน สู่ค่าตัว 2 แสน
“ลำไย ไหทองคำ” ชื่อเดิมคือ “อ้าย สุพรรณษา เวชกามา” เริ่มงานในวงการ จากการเห็นแววโดย “ประจักษ์ชัย ไหทองคำ” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของลำไย เจ้าตัวเจอลำไยตอนเป็นนักร้องลานเบียร์ ในวัย 17 ปี ตอนที่เจอครั้งแรก ลำไยไม่ได้สวยเด่นเหมือนทุกวันนี้ ร้องเพลงไม่เก่ง แต่ประจักษ์ชัยเห็นความหน่วยก้านดี เป็นสายเอ็นเตอร์เทน จึงชวนมาเซ็นสัญญา เสนอชื่อใหม่ว่า สำเพ็ง เด้งดี และ ลำไย ไหทองคำ ซึ่งลำไย ได้เลือกชื่อหลัง จนประจักษ์ชัยนำไหทองคำมาตั้งเป็นชื่อค่าย ช่วงแรกๆ เดินสายได้ค่าตัวเพียง 2,000 บาทเท่านั้น
“ผู้สาวขาเลาะ” เพลงพลิกชีวิต
ความสำเร็จไม่ได้มาง่ายๆ ลำไย เป็นนักร้องปิดงานอยู่ 3 ปี ไม่มีเพลงของตัวเอง จนกระทั่งได้ร้องเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ซึ่งเป็นเพลงที่พลิกชีวิตลอดกาล เป็นเพลงแจ้งเกิด ทำให้ประสบความสำเร็จในฐานะนักร้องอาชีพ ประจักษ์ชัยในตอนนั้น ก่อนเจอลำไย ได้แต่งเพลงให้ “ลำยอง หนองหินห่าว” และ “เมรี หนองฮีใหญ่” แต่ชื่อเสียงมาโด่งดังหลังจากที่ “อาม ชุติมา” แต่งเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ให้ลำไยเป็นผู้ถ่ายทอด ส่งผลให้ลำไยดังเป็นพลุแตก ยอดวิวพุ่งหลายร้อยล้าน ก่อนเกิดดรามาไหแตก อาม ชุติมา ขอแยกทางจากประจักษ์ชัย
ได้ “ลำไย” เป็นนักร้องในค่ายคนเดียวก็รวยไม่รู้เรื่อง คิวงานไหลไปถึง ปี 70
ประจักษ์ชัย ไม่ได้หวังไกล คิดแค่ว่าตัวเองอยากมีนักร้องสักคนคู่บารมี หากลำไยมีบุญวาสนา ได้เข้าค่ายใหญ่ ขอแค่ตัวเองได้ติดสอยห้อยตาม เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จก็พอใจแล้ว แต่ชีวิตกลับพลิกเพราะลำไย กลายเป็นทั้งคู่จับมือ “เติบโตไปด้วยกัน” ทุกวันนี้ไปไหนมาไหนคนเรียกนายห้าง ถึงขั้นประจักษ์ชัยก็ยังคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะมาไกลถึงจุดนี้
ตอนนี้ลำไย กลายเป็นนักร้องคิวงานชุกหนักจนน่าอิจฉา 1 เดือนมี 30 วัน แต่มีงานจ้างถึง 53 งานต่อเดือน คิวงานจองตัวไหลยาวไปถึงก.ค. ปี 68 ส่วนเทศกาลต่างๆ อย่าง ลอยกระทง วันสงกรานต์ และเคาท์ดาวน์ จองคิวยาวไปถึงปี 70 ช่วงพีกเคยรับงาน 1 วัน ถึง 6 คิว ลำไยร้องเพลงจนเสียงหายไปเลยก็มี
จากนักร้องลานเบียร์ ค่าตัววันละ 250 บาท สู่วันนี้ ที่ไต่ระดับความดัง ได้ค่าตัว 2 แสนหากจ้างครบทีม และ 1 อีเวนต์แสดงแค่ 45 นาที หรือ 1 ชม. ค่าตัวอยู่ที่ 1.4 แสน - 1.5 แสน ประจักษ์ชัยเคยเป็นโบรกเกอร์มาก่อน จึงมองเกมขาด ไม่รู้วันข้างหน้ากระแสลำไยจะเป็นเช่นนี้อีกหรือเปล่า ฉะนั้น “น้ำขึ้นต้องรีบตัก” นอกจากนี้ลำไยยังมีความกตัญญูรู้คุณ ที่ผ่านมาดังแค่ไหน ไม่เคยขอขึ้นค่าตัว ช่วงใกล้หมดสัญญา มีค่ายใหญ่ โปรดิวเซอร์มาพูดคุยกับลำไย หวังดึงไปร่วมงาน แต่ลำไยก็เลือกที่จะอยู่เคียงข้างกับประจักษ์ชัย สิ่งนี้สร้างความซาบซึ้งให้กับประจักษ์ชัยอยู่ไม่น้อย
9 ปีไม่เคยแผ่ว ร้องเพลงเร็วนันสต็อป ลงจากเวทีลมแทบจับ
ลำไยทุ่มเทกับการทำงานของตัวเองอย่างมืออาชีพ ทำการบ้านก่อนขึ้นเวที ถามเจ้าภาพถึงธีมงาน หาเพลงที่อยู่ในกระแสมาร้องสร้างความสนุกสนาน ชุดคอสตูมสวยไม่ซ้ำ เซ็กซี่ ขี้เล่น ในแต่ละโชว์ ทำแฟนๆ ฟังเพลงอย่างเพลิดเพลิน ตื่นตาตื่นใจไปกับโชว์ และความสวย หนึ่งงานเจ้าตัวร้องไปถึง 17-20 เพลง บางงานแทบไม่ร้องเพลงช้าเลย ลงจากเวทีลมแทบจับ เป็น 9 ปีที่ไม่เคยแผ่ว รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองหน้าเวทีได้อย่างดีเยี่ยม
สุดยอดไอเดีย “แดนเซอร์ชาย” เพิ่มอรรถรสโชว์
เพราะไม่หยุดพัฒนา ลำไยจึงสร้างความฮือฮาให้วงการเพลง ประกาศรับสมัครแดนเซอร์ชายแท้ร่วมทีม การันตีด้วยเงินเดือน 6 หมื่นอัป เปิดตัว “พี พีรชา” หนุ่มหล่อกล้ามแน่น เคยเดินแบบ เป็นครูสอนเต้น และ “เจอาร์” แดนเซอร์ที่เคยทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ก่อนมาทำงานภัตตาคาร เมื่อได้รับการชักชวนจากลำไย จึงลาออกจากงาน ทั้งคู่ทำสาวๆ ติดหนึบหน้าเวที มีฐานแฟนคลับไม่แพ้ลำไย แม้แต่แดนเซอร์หญิงของลำไยก็มีชื่อเสียงโด่งดังในโซเชียล ทำงานกับลำไยแค่เพียง 4 ปี สามารถซื้อบ้านหลักล้านได้ถึง 2 คน แดนเซอร์กลายเป็นอรรถรสใหม่ของโชว์ลำไย
สร้างมูลค่าให้ “ไหทองคำ” 100 ล้าน เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์
ประจักษ์ชัยยอมรับว่าตอนนี้ค่ายไหทองคำมีมูลค่า 100 ล้าน ผลจากการทำงานหนักมาตลอดหลายปี เป็นค่ายเพลงที่มีแบรนเนอร์แข็งแรง ลำไยมีฐานแฟนคลับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กอนุบาลยันคนชรา จากค่ายต้นทุนต่ำ แต่ไม่เกิน 5 ปี ค่ายไหทองคำมีศักยภาพพร้อมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติประวัติแก่วงการเพลงและวงศ์ตระกูลให้ประจักษ์ชัย
นักร้องอินดี้ที่มาแรงที่สุด
ลำไย นอกจากสวย รวยอารมณ์ขัน ยังเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ตัวยง รับมือกับปัญหาหน้าเวทีได้เป็นอย่างดี เป็นนักร้องที่ร้องได้ทั้งลูกทุ่ง สตริง เพลงสากล ซึ่งภายหลัง ไปเล่นคอนเสิร์ต “แคท เรดิโอ” ก็สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับคนรุ่นใหม่ ชื่อของลำไยตอบโจทย์ แมสกว่าเดิม เรียกร้องให้ยกระดับโชว์ จนประจักษ์ชัยกำลังพิจารณาว่าจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี และอาจใหญ่ไปถึงจัดคอนเสิร์ตที่ราชมังฯ ที่ที่นักร้องทุกคนใฝ่ฝันอยากได้ขึ้นเวทีสักครั้งหนึ่งในชีวิต
ข้อดีของลำไย ซึ่งเป็นเสน่ห์และจุดเด่นคือ เจ้าตัวมีความตั้งใจ ไม่ขายดรามา พิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน การที่ลำไยดังเป็นไวรัล ก็มาจากการพูดปากต่อปาก ว่าไปดูคอนเสิร์ตลำไยแล้วคุ้มค่า มีการถ่ายคลิปจนกลายเป็นไวรัล ที่ผ่านมาลำไยเป็นนักร้องที่ถ่อมตน ไม่ถือตัว เข้าถึงง่าย ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จนเจ้าภาพทุกรายปลื้มปริ่ม
กราฟชีวิตพุ่งสุดขีด
ถึงแม้กราฟชีวิตลำไยพุ่งสุดขีดในตอนนี้ แต่ไม่แน่ว่าอาจไม่ใช่จุดสูงสุด อาจเป็นแค่ “จุดเริ่มต้น” เพราะตอนนี้ลำไยคว้าใจแฟนต่างชาติได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวบราซิล หลายครั้งที่แฟนต่างชาติบินตรงมาดูคอนเสิร์ตลำไย ส่วนแผนโกอินเตอร์เชื่อว่าต้องมีอยู่ในความคิดประจักษ์ชัย เพียงแต่ตอนนี้งานในเมืองไทยยังแน่นเหลือเกิน ต้องกอบโกยทางนี้ไปก่อน
ความรักที่ลงตัว จากถูกตราหน้าไม่เหมาะสม วันนี้ “เลือกถูกคนแล้ว”
นอกจากงานจะปัง รักของสาวลำไยก็เริ่ดไม่น้อย แม้คนทั่วไปจะมองว่า “ปุ้ย L.ก.ฮ.” ไม่หล่อเหมาะสมกับลำไย แต่เบื้องหลังปุ้ยคือคนที่คอยสนับสนุนและซัปพอร์ตลำไย ก่อนดังปุ้ยก็เผชิญความยากลำบากไม่ต่างกัน เป็นนักร้องที่แทบไม่มีใครเอา ต้องโกหกพ่อแม่ว่ามีงาน แต่ไปเรี่ยไรข้าวสารจากเพื่อนให้ได้ 5 กิโล เพื่อไปหลอกแม่ว่าซื้อมาฝาก เสื้อผ้า-รองเท้า ต้องรอส่งต่อจากพ่อ
ภายหลังมีคนช่วยผลักดันให้เป็นนักร้องมีชื่อเสียง ปุ้ย ก็ได้เจอกับลำไย ซึ่งตอนนั้นลำไยยังไม่ดังอย่างทุกวันนี้ ที่ผ่านมาปุ้ยมีแต่ความหวังดีให้ลำไย เสมอต้นเสมอปลาย สุภาพ ไม่ถือตัว คบกัน 8 ปี ระหว่างทางเจอเรื่องราวมากมาย วันที่ความดังและคนหล่อรายล้อมลำไย แต่ลำไยก็ยังมีความรักที่มั่นคง จากตอนแรกคนตราหน้าปุ้ยว่าไม่เหมาะสมกับลำไย แต่ถึงตอนนี้แฟนๆ ที่ได้รู้จักตัวตน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ลำไยเลือกถูกคนแล้วจริงๆ”
ความสำเร็จของลำไยในวันนี้ มาจากทั้งพรสวรรค์และพรแสวง ความอดทน มืออาชีพ ขึ้นเวทีมีแต่มอบความสนุกและความสุข ไม่ด่า ไม่ดรามา ไม่โชว์หยาบคาย อาจมีสองแง่สองงามตามสไตล์ แต่อยู่ในจุดที่พอดี ตอนนี้ลำไยกลายเป็นไอดอลให้ศิลปินรุ่นใหม่ๆ และเป็นแรงผลักดันให้ศิลปินรุ่นเก่าๆ มีไฟอยากลุกขึ้นมาทำโชว์ให้สนุก
“ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” เพราะลำไยให้คุณค่ากับอาชีพที่ทำ จึงทำให้ลำไยมีวันนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าความดังของลำไยในวันนี้จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน...
