หนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากเกี่ยวกับภาพยนตร์ “Blade” ของ Marvel ก็คือ การที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีแนวโน้มที่จะได้รับเรต R ทำให้เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองของ Marvel Studios ที่ได้รับเรต R หลังจาก “Deadpool 3”
การตัดสินใจนี้มีผลกระทบที่สำคัญและสะท้อนถึงทิศทางใหม่ของ Marvel Studios ในการนำเสนอเนื้อหาที่มีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้นสำหรับผู้ชมที่เป็นผู้ใหญ่
อย่างไรก็ตามอนาคตของ Blade กลับเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และโปรเจ็คก็ดูไม่คืบหน้าเลย
เมื่อเกือบห้าปีที่แล้วในงานคอมิกคอน ซานดิเอโก 2019, เควิน ไฟกี้ ประธานใหญ่ของ Marvel Studios ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ ด้วยการประกาศการสร้างภาพยนตร์ "Blade" โดยมี มาเฮอร์ชาลา อาลี
มารับบทบาทเป็นนักล่าแวมไพร์ชื่อดัง การประกาศนี้ทำให้เกิดความคาดหวังอย่างสูง เนื่องจาก “Blade” ภาพยนตร์ปี 1998 ที่นำแสดงโดย เวสลีย์ สไนป์ส ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่บุกเบิกแนวซูเปอร์ฮีโร่สมัยใหม่
ในปี 2021, บาสซัม ทาริก ซึ่งมีผลงานกำกับอย่าง “Mogul Mowgli” ได้รับการประกาศว่าจะมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์นี้ ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้ด้วยดี โดยมีการเปิดเผยเสียงของ มาเฮอร์ชาลา อาลี
ในบท “เบลด” ในฉากหลังเครดิตของภาพยนตร์ “Eternals” ซึ่งเขาถาม เดน วิตแมน ว่าพร้อมแล้วหรือยังที่จะหยิบดาบเอโบนีขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าอย่างรวดเร็วกลับถูกหยุดชะงักเมื่อทาริกถอนตัวจากโปรเจ็คในเดือนกันยายน 2022 ตามมาด้วยการเลือก ยาน เดมังจ์ ผู้กำกับจาก “Lovecraft Country” มาทำหน้าที่แทนในอีกหนึ่งเดือนต่อมา
ถึงแม้จะมีการคัดเลือกผู้กำกับคนใหม่ แต่โครงการ “Blade” กลับไม่ได้เดินหน้าอย่างที่ควรจะเป็น ล่าสุด มีรายงานว่า เดมังจ์ ได้ถอนตัวออกจากโปรเจ็คนี้ไปอีกคนแล้ว และข่าวยังบอกว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับโปรเจ็คนี้มาพักใหญ่แล้ว
นอกจากปัญหาผู้กำกับแล้ว โครงการยังมีการเปลี่ยนแปลงนักเขียนบทหลายคน โดยปัจจุบัน อีริก เพียร์สัน นักเขียนบทผู้มีประสบการณ์ใน MCU เช่น “The Fantastic Four”, “Black Widow” และ “Thor: Ragnarok” ได้เข้ามารับหน้าที่นี้
นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า มาเฮอร์ชาลา อาลี กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อแสดงในภาพยนตร์ “Jurassic World” ภาคใหม่ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าโครงการ “Blade” อาจจะต้องล่าช้าออกไปอีก
แม้จะมีปัญหาและความล่าช้า แต่ “Blade” ยังคงมีกำหนดฉายในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2025 อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน โอกาสที่ภาพยนตร์จะเสร็จทันตามกำหนดดังกล่าวดูจะลดน้อยลงไปทุกที
“Blade” เป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1998 โดยนำแสดงโดย เวสลีย์ สไนป์ส ภาพยนตร์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์ที่มีภาคต่ออีกสองเรื่อง คือ “Blade II” (2002) กำกับโดย กีแลโม เดลโทโร และ “Blade: Trinity” (2004) กำกับโดย เดวิด เอส. โกเยอร์ Dผู้เขียนบทภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ชื่อดังหลายเรื่อง
โดยภาคแรกได้รับคำชมในเรื่องการนำเสนอใหม่ของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ผสมผสานระหว่างแอ็กชันและสยองขวัญ ซึ่งช่วยเพิ่มความนิยมให้กับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ในช่วงปลายยุค 90s แต่ภาคที่สามกลับไม่ประสบความสำเร็จทางการเงินและวิจารณ์ จนทำให้ซีรีส์นี้ต้องหยุดไป
ปัจจุบัน เวสลีย์ สไนป์ส แม้ว่าจะอายุ 61 ปีแล้ว แต่ก็ยังยอมรับว่า มาเฮอร์ชาลา อาลี เป็นตัวเลือกที่ดีในการรับบท Blade และยังให้คำแนะนำในการเตรียมความพร้อมทางร่างกายให้ดีในระดับนักกีฬาอาชีพ นอกจากนี้ สไนป์ส ยังไม่ปิดโอกาสที่จะกลับมารับบท Blade อีกครั้งในยุคของ Multiverse ที่อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้
หลังจากผลงานบางเรื่องใน MCU ไม่ค่อยประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง เช่น "Eternals" และ "The Marvels" ที่ทำเงินน้อยกว่าที่คาด และไม่ได้เป็นที่นิยมในหมู่แฟน ๆ ส่วนใหญ่ ทำให้มีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของสตูดิโอนี้ โดยเฉพาะเมื่อความหวังในการต่อยอดจาก "Avengers: Endgame" ยังคงสูงมาก หลายคนสงสัยว่า MCU จะสามารถคงความนิยมและสามารถสร้างผลงานที่มีคุณภาพได้ต่อไปหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการนำเสนอตัวละครใหม่ ที่อาจจะไม่ได้รับการยอมรับจากแฟนคลับเช่นกัน จึงคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ Marvel อยากจะพิถิพิถันกับโปรเจ็คอย่าง Blade มากกว่านี้ซักหน่อย