xs
xsm
sm
md
lg

“วู้ดดี้” ดี๊ด๊า “สมรสเท่าเทียม” ผ่าน แพลนวิวาห์อลังการ 7 วัน 7 คืน ไม่สนงบ 100 ล้าน เฝ้าที่เขต-จดทะเบียนคู่แรก (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“วู้ดดี้” ผลักดัน 10 ปี “สมรสเท่าเทียม” อึ้ง 1 วิ ผ่านแล้วจริงๆ ใช่ไหม เชื่อมั่นกฎหมายต้องผ่าน โทร.จองโรงแรม คุยเจ้าของห้างเตรียมแต่ง “โอ๊ต” บอกตั้งแต่ออกประกาศ ทุกโรงแรมเกย์จองแต่งงานหมดแล้ว อยากจัด 7 วัน 7 คืนไม่เหมือนใคร เทเงินเก็บ 20 ปีแต่งให้เป็นงานสุดยิ่งใหญ่ อาจทำเป็นมิวสิคัล หรือหนัง “ไบร์ท-วิน” แสดง อุบตอบทุ่ม 100 ล้าน ไม่พูดเรื่องตัวเลข ลุ้นจดทะเบียนคู่แรก



เป็นคนที่คอยอยู่เบื้องหลังและผลักดันให้กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านและได้รับการรับรองจากรัฐบาลมากว่า 10 ปี สำหรับพิธีกรคนดัง “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” ซึ่งล่าสุดวันนี้ความฝันของเหล่า LGBTQ+ ทุกคนในประเทศไทยก็สมหวังแล้ว งานนี้วู้ดดี้ได้เผยถึงความรู้สึกในเรื่องนี้ในงาน Dragonfly Summit 2024: H.E.A.L Summit: Transforming Lives with Harmony, Empathy, Acceptance & Love ณ โรงแรม เดอะฟิก ล็อบบี้ แบงค็อก บอกว่าปลุกปั้นและรอมากว่า 10 ปี ในที่สุดก็มีวันนี้

รอคอยมา 10 ปี ก็คอยนับถอยหลัง รู้สึกว่ามันมีหลายครั้งที่เราอยู่เบื้องหลัง และเราก็ไม่ได้มีโอกาสเล่าให้คนฟัง เพราะมันไม่ได้เป็นสิ่งที่เหมาะสมมาก แต่หลายๆ ครั้งที่ผู้ใหญ่เขาเรียกเข้าไป และถามว่าต้องการกฎหมายนี้จริงเหรอ มันจะช่วยเหลืออะไรบ้าง LGBTQ ต้องการกฎหมายนี้เพื่ออะไรก็ต้องไปอธิบายให้ผู้ใหญ่เขาฟังว่ามันเป็นยังไง ก็คือทุกสมัยที่ผ่านมาเหมือนกับเขามองว่าในวงการเราเป็น LGBTQ เขาก็เรียกเราไปอธิบาย ก็นึกภาพว่า 10 ปีที่ผ่านมาทุกภาคส่วนช่วยเหลือกันมากเลย เพื่อจะให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เราเห็นว่ามีหลายพรรค มีรัฐมนตรี มีนายกฯ หลายคนก็จะผลักดัน แต่ก็ตกทุกครั้ง แต่ว่า 3 ปีที่ผ่านมาผมและเพื่อนๆ ก็เฝ้าดูลูกของเรา คือเราเลี้ยงมาค่อยๆ ประคับประคองและศึกษาเรื่อยๆ ว่ามันติดตรงไหนอะไรยังไง

ก็โชคดีมากเลยว่าเมื่อตอนได้มีโอกาสสัมภาษณ์นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ก่อนที่ท่านจะได้รับตำแหน่ง ก็ท้าเลยว่าถ้าได้เป็นนายกฯ ขึ้นมา เรื่องสมรสเท่าเทียม จะให้ผ่านไหม ท่านก็อึ้งไปนิดนึงนะ แล้วก็บอกว่าโอเค จะทำไปช่วงแรกๆ เลย ก็ปรากฎว่าทำจริง และมันเกิดขึ้นจริงเมื่อวาน ก็รู้สึกดีใจมากที่ทุกคน ทุกฝ่าย ทุกพรรค เพราะมีความเกี่ยวข้องหมดเลย นี่ไม่ใช่เป็นกฎหมายของคนๆ เดียวที่ทำให้มันเกิดขึ้น แต่เป็นของทุกคนที่รวมพลังกันมา 10 กว่าปี ที่ผลักดันให้มันมีกฎหมายฉบับนี้ และเมื่อวานที่เขาประกาศ พอ สว.เขาโหวตปุ๊บ ผมเปิดดูเราก็นั่งอึ้งไปประมาณ 1 นาที มันผ่านแล้วเหรอ เสร็จแล้วเหรอ เพราะก่อนหน้านี้จะผ่านแล้วก็ตกตลอด แต่ครั้งนี้มันผ่านจริงๆ แล้วใช่ไหม มันจบแล้วใช่ไหม เพราะหลังจากสว. คือในหลวงท่านก็จะทรงลงพระปรมาภิไธย หลังจากนั้นอีกกี่เดือนก็ว่ากันไป มันก็จะกลายเป็นกฎหมาย

เราก็รู้สึกว่าแต่งงานได้แล้วนี่ ก็รู้สึกดีใจมาก แต่ก่อนหน้านี้ก็ยอมรับตรงๆ ว่าเชื่อมั่นในกฎหมายว่าจะผ่าน ก็เลยโทร.ไปจองโรงแรม จองฮอลล์ แล้วเราก็คุยกับเจ้าของห้างต่างๆ ว่างานเราจะจัดยังไงดี เราก็เลยมีงานสองแบบในหัว แบบแรกก็จะแบบใส่สูทเลยแต่จะรับได้แค่ 200 คน จะจัดที่โรงแรงที่วู้ดดี้กับโอ๊ตเคยเจอกันครับ ที่โรงแรมโอเรียลเต็ล ก็เลยจะไปจัดที่นั่น ส่วนอีกวันนึงจะเป็นที่พารากอนฮอลล์ ซึ่งตื่นเต้นมาก เพราะที่มันใหญ่มาก ไม่รู้ว่าจะชวนกี่คน แต่เราอยากได้พื้นที่ไว้ก่อน เราอยากให้งานแต่งของเราไม่เหมือนใคร ยังคิดเลยว่าจะให้จ่ายค่าบัตรค่าเข้าดีไหม หรือเราจะชวนดีเจระดับโลกมา แล้วให้ทุกคนจ่าย 3-4 พันบาท ก็ยังคิดอยู่ (หัวเราะ) แต่ทุกคนบอกว่าหรือจะจัดทั้งเดือนเลยก็ได้ เฉลิมฉลองงานแต่งวู้ดดี้กับโอ๊ต ธีมโน่นนี่นั่น ตอนนี้แค่คิดเล่นๆ ก็สนุกแล้วครับ”

บอก “โอ๊ต” แฟนหนุ่มไม่มีความคิดเห็นเรื่องนี้เลย ถ้าถึงเวลาจริงๆ ห้ามแก้อะไรเด็ดขาด
“แพลนเรื่อยๆ เลย แต่แฟนผมจะไม่คุยเลยเรื่องนี้ ผมก็จะบอกว่ามันยังไม่ผ่าน อย่าเพิ่งคุย เขาก็บอกว่าที่รัก ไออยากแต่งแล้ว เพราะว่าเมื่อปี 2014 เราแต่งกันลับๆ กาละแมร์ (พัชรศรี เบญจมาศ) เป็นพิธีกรตอนนั้นเราเก็บเป็นข่าวเงียบ ไม่เผยแพร่ภาพ จนกระทั่งภาพหลุด ก็เลยต้องเปิดข่าว ทุกคนจะถามว่างานแต่งงานในฝันเป็นแบบไหน ซึ่งมันเกิดขึ้นแล้วเมื่อ 2014 ที่ภูเก็ตมันจบไปแล้ว แต่ครั้งนี้เราจะแต่งเพื่อทุกคนในสังคม เราจะแต่งเพื่อให้เห็นว่าเราก็เป็นเหมือนทุกคนนะ

ตั้งแต่เขามีการปรับเปลี่ยนรัฐบาลก็ได้สัญญามาว่ากฎหมายนี้น่าจะถูกดันให้ผ่าน เราก็เลยคิดเลยว่าเดี๋ยวจะฮันนีมูนที่ไหน คิดไปไกลมากเลย แต่ก็คิดไว้แล้วว่าแต่งแบบไหน คอนเซ็ปต์เป็นยังไง ชุดจะเป็นยังไง ผมคิดเองหมดเลย เวดดิ้งแพลนเนอร์เอง ส่วนโอ๊ตไม่ทำอะไรเลย ไม่ดู ไม่สนใจแต่ก็มาถามว่าแล้วไม่ถามเขาเลยเหรอว่าเขาจะเอาหรือไม่เอา เราก็บอกว่าก็ยูไม่พูดนี่ ยูก็ไม่มีสิทธิจะมานั่งเถียงแล้ว ก็เอาตามนี้ไปแล้วกัน ผมพูดผ่านสื่อเลยนะว่างานนี้เขาไม่มีสิทธิแก้ เพราะเป็นตามที่ผมกำหนดแล้ว

แต่ถ้าขอเพิ่มได้ ผมไม่ติด เพิ่มคน เพิ่มอาหารได้หมด แต่อย่ามาแก้ มันมีหลายอย่างที่เรารู้สึกว่าเวลาไปงานแต่งงานทำไมมันต้องมี อย่างเช่นเข้าคิวถ่ายรูป มันรอนานมาก เราก็เลยคิดว่าจะไม่มี แต่ทีมงานบอกว่าไม่ได้นะ เพราะว่าคนมาก็อยากถ่ายรูป ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงให้ประสบการณ์ที่ทุกคนมารวมกัน ไหนๆ ก็เป็นชายกับชายแต่งด้วยกันแล้ว มันก็ไม่ควรจะเหมือนเดิม”

บอกงานแต่งรับรองว่าอลังการ มีหลายอย่างมากที่คิดไว้ในหัว ไอเดียเป็นมิวสิคัลหรือหนัง ดึง “ไบร์ท-วิน” มาเล่น
“ผมคิดว่าตัวโชว์ งานมันคงจะมีโชว์ เราสายโชว์เนอะ ส่วนวิดีโองานแต่งงานผมว่ามันน่าจะเป็นหนัง หรือเป็นมิวสิคัล ก็กลัวจะไม่เป็นอย่างที่พูดเหมือนกันนะ (หัวเราะ) แต่มันมีหลายไอเดียมาก อาจจะเป็นมิวสิคัล หรือจะเป็นหนัง ก็อาจจะให้พระเอกในยุคนี้มาเล่น เช่น ไบร์ท-วิน อะไรอย่างนี้ เดี๋ยวต้องอัปเดตกันเรื่อยๆ

คาดว่าจะได้มีโอกาสจดทะเบียน น่าจะเป็นช่วงคริสต์มาส ก็เป็นสิ่งที่ล่าสุดอัปเดตมา ถ้าจดคริสต์มาสก็แปลว่าจากเดิมที่ตั้งไว้ว่าจะแต่งสิ้นเดือนพฤศจิกายน เพราะเป็นเดือนเกิด ก็เลยจะมูฟไปเป็นต้นปีหน้า นี่ยังไม่ได้บอกโอ๊ตด้วยนะ รู้สึกวันศุกร์-เสาร์จะเป็นวันที่ 10 มกราคมถ้าจำไม่ผิดนะ แต่ว่าโรงแรมสถานที่เราล็อกไว้แล้ว ก็ไม่ห่วงแล้ว รู้ไหมว่าตั้งแต่เขาประกาศออก ทุกโรงแรมเกย์จองแต่งกันทั้งนั้นเลยนะจ๊ะ ซึ่งเราเป็นคู่ที่ 25 มีชายชาย หญิงหญิง ชายหญิง เยอะมาก ตกใจมากกว่ากฎหมายนี้ออกมาแล้วจะมีคนออกมาแต่งงานเยอะมากๆ และเราก็รู้สึกว่าโชคดีที่เราจองก่อน ไม่งั้นเราจะไม่ทันแน่นอน”

พร้อมทุ่มงบเงินเก็บหมดตัว ปัดตอบ 100 ล้าน
“ไม่อยากจะบอกว่าเป็นงานแห่งปี มันจะดูเป็นการโบลตัวเอง แต่งานผมก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แต่ผมไม่อยากให้เว่อร์ อยากให้ทุกคนประทับใจ เรามีเพื่อนในวงการเยอะ อยากให้ทุกคนมาร่วมงานมีความสุข อาหารต้องอร่อย เอ็นเตอร์เทนให้ถึง ปาร์ตี้ถึงเช้า เรื่องงบก็เอาเงินที่เก็บในรอบ 20 ปีเทหมดเลย เรามีบัญชีสำรองที่ชอบเก็บเงินไว้ คิดว่าจะเอามาใช้หมดเลย

เกิน 100 ล้านไหม ทำไมถึงพูดตัวเลขนั้น ไปคุยกับใครมา ไม่ขอคุยตัวเลขดีกว่า ขอเป็นประสบการณ์ที่ทุกคนจะได้มีโอกาสสัมผัสอย่างแฮปปี้แน่นอน ไม่อยากให้มองเป็นตัวเลขว่าลงทุนเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเราทุ่มจริงๆ มันคุ้มนะทำให้ทุกคนมีความสุข เราเป็นคู่ชีวิตแล้ว แต่ถามว่าทำยังไงให้คนในงานเห็นเราเป็นเหมือนตัวแทน LGBTQ มากกว่า อยากให้ทุกคนเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา ผ่านทางโชว์ที่เราจะจัด นี่คือภาพที่เราอยากจะนำเสนอออกไป เป็นเหมือนงานศิลปะชิ้นนึง ก็ต้องใช้เงินพอสมควร”

บอกอยากผลักดันให้กฎหมายยกระดับขึ้นไปอีก เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่ควรทำ
“อยากเห็นความก้าวหน้ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคำนำหน้า คงจะมีอีกหลายๆ กฎหมายที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องบอกว่าท่านนายกฯ เองก็อยากจะผลักดันเรื่องนี้ เป็นนายกฯ ที่ผมสัมภาษณ์แล้วงงๆ เหมือนกันว่า นโยบายอะไรที่เป็น LGBTQ ผลักดันเยอะมากเลยพอมารู้ทีหลังว่าภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเขาอยากจะให้เราจัด world pride ซึ่งการจัดจะมีกฎเกณฑ์ต่างๆ ของประเทศที่จะต้องมีกฎหมายรองรับ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมรสเท่าเทียม คำนำหน้า ฯลฯ ก็ต้องผ่านหมดทุกอย่าง คิดว่าคงจะมีกฎหมายเหล่านี้ที่มันจะตามมาอีกเยอะพอสมควร รวมไปถึงอุ้มบุญ ชาย-ชาย มีลูก มันคงเกิดขึ้นในยุคเรานี่แหละ แต่อาจจะต้องรออีกนิดนึง ก็คงจะมีอีกหลายกฎหมายตามมาด้วยต่อไป

แต่ตอนนี้ก็พอใจมากครับ คิดว่านี่คงสุดแล้ว คงไม่กล้าสามารถที่จะกลิ้งไปกว่านี้ได้ เพราะก็เท่าเทียมกับคู่ชาย-หญิงทั่วไปแล้ว ก็พอใจอย่างมาก ถ้าจดทะเบียนสมรสอนุมัติ ก็จะไปที่เขต ไม่รู้คนแรกหรือเปล่า แต่อยากจดมากเลย รอมานาน อาจจะไปตั้งเต็นท์รอที่เขต เดี๋ยวต้องเซอร์เวย์ก่อน ทีมงานก็คิดว่าอยากให้แตกต่าง แต่ผมคิดว่าคงแต่งตัวไปเรียบง่าย แต่งานแต่งก็คงมีประมาณ 10 ชุด ผมบอกแค่ 2 วัน แต่จริงๆ จะจัด 7 วัน ทุกคนบอกว่าให้ทำเหมือนอินเดียเลย แต่ 7 วันจะเป็น 7 ธีม แต่คิดว่าจะเป็น 2 งานใหญ่ที่ออกสื่อ ก็คิดมาปีนึงแล้ว แล้วก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในหัว ตอนนี้ภาพมันค่อนข้างชัดแล้วว่าจะมีงานแต่ง จดทะเบียน อันอื่นจะเติมทีหลัง









กำลังโหลดความคิดเห็น